แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 895 ตระกูลเร้นลับ บทที่ 896 ถือว่าให้เกียรติหล่อนแล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 895 ตระกูลเร้นลับ บทที่ 896 ถือว่าให้เกียรติหล่อนแล้ว
บทที่ 895 ตระกูลเร้นลับ
คำถามนี้ทำเอาสืออีตะลึงค้างไปนาน
ผ่านไปครู่หนึ่ง สืออีถึงได้สติ รีบพูดว่า “คุณหนูหวันหวั่น จะเป็นไปได้ยังไงครับ ต้องมีใครพูดอะไรไร้สาระอีกแล้วแน่ๆ คุณหนูอย่าไปฟังพวกเขานะครับ พวกเขาแพ้คุณหนูทั้งนั้น ยังมีหน้ามาบอกว่าคุณหนูอ่อนหัดอีก ถ้าอย่างคุณหนูเรียกว่าอ่อนหัด แล้วพวกผมจะเรียกว่าอะไรล่ะครับ?”
สืออีสะกิดเฟิงเสวียนอี้ที่อยู่อีกด้าน “ว่าไหมหัวหน้าเฟิง?”
เฟิงเสวียนอี้พยักหน้าเสริมด้วยความสัตย์จริง “ใช่! อะ…อาจารย์…ยอด…ยอดเยี่ยมที่สุด…”
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ “เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า…”
เยี่ยหวันหวั่นนึกถึงนักฆ่ากลุ่มนั้นที่เคยเจอหลังเพิ่งกลับจากพม่า แล้วยังมีชายผมขาวที่โผล่มาจากไหนไม่รู้คนนั้นอีก…
คืนนั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะชายผมขาวนิรนาม อาศัยแค่เธอคนเดียว ไม่มีทางรับมือนักฆ่าพวกนั้นไหวแน่
เฟิงเสวียนอี้ได้ยิน นัยน์ตาก็พลันวาววับ เขาพูดติดอ่างว่า “ถะ…ถึงอย่างนั้นก็ตาม…แต่ว่า…อาจารย์…เทียบ…กับคนธรรมดา…ถือ…ถือว่าสุดยอดมากแล้ว…”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็หันไปมองเฟิงเสวียนอี้อย่างสนอกสนใจ “คนธรรมดาเหรอ ถ้าอย่างนั้นคนที่ไม่ธรรมดาคือคนแบบไหน”
เฟิงเสวียนอี้ครุ่นคิด “ก็อย่างเช่น…พวกตระกูลเร้นลับ…
เยี่ยหวันหวั่นทวนคำ “ตระกูลเร้นลับ?”
สืออีได้ยิน ก็อธิบายว่า “อย่างเช่นศิลปะการต่อสู้ไงครับ ในยุคสมัยที่อาวุธเย็นมีบทบาทน้อยลง กระแสหลักในตอนนี้คิดกันว่าศิลปะการต่อสู้ก็เสื่อมถอยไปด้วย แต่ความจริงแล้ว…ยังมีตระกูลผู้สืบทอดวิชาต่อสู้โบราณที่มีอำนาจเกินหยั่งรู้มากมายซ่อนตัวอยู่ในทุกมุมโลก
คุณหนูหวันหวั่นดูบอดี้การ์ดลับที่ตระกูลซือฝึกฝนอย่างลับๆ พวกนี้สิครับ ภายนอกอาจดูเก่งกาจ แต่ในสายตาของพวกตระกูลเร้นลับที่แท้จริงกับตระกูลผู้สืบทอดวิชาต่อสู้โบราณ คาดว่าพวกเขาก็คงไม่ต่างจากเด็กเล่นขายของ ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย”
เยี่ยหวันหวั่นฟังอย่างตั้งใจ “พวกตระกูลเร้นลับหรือตระกูลผู้สืบทอดวิชาต่อสู้โบราณอะไรนั่นมีจริงๆ เหรอ”
สืออีบอก “จากที่ผมใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมา ตระกูลเร้นลับพวกนี้มีฝีมือที่น่ากลัวระดับประเทศเลย เพียงแต่เรื่องพวกนี้อยู่เหนือขอบเขตการรับรู้ของคนทั่วไป จึงไม่ค่อยมีคนรู้มากนัก ถึงจะเป็นพวกผม ก็แค่เคยได้ยินต่อๆ กันมาเท่านั้นแหละครับ!”
เฟิงเสวียนอีทอดมองออกไปไกล พูดติดอ่างว่า “คนทั่วไป…โลกใบนี้…ไม่ได้มีแค่ที่คนทั่วไปมองเห็นหรอก…”
เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองเฟิงเสวียนอี้ “อืม มันก็จริง…”
ก็เหมือนกับทหารรับจ้างล่ะมั้ง จีนเป็นสถานที่ต้องห้ามของทหารรับจ้าง ที่นี่ไม่อนุญาตให้ทำอาชีพนี้ คนทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทหารรับจ้างเป็นอาชีพแบบไหน แต่แท้จริงแล้ว ในโลกนี้มีทหารรับจ้างให้เห็นอยู่ไม่น้อยเลย…
หลังคุยกันได้ครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็จบการฝึกของวันนี้ เย็นนี้เธอต้องเข้าเรียนหลักสูตรมารยาทกับซือเยี่ยหานอีก จึงต้องเก็บแรงไว้หน่อย
“ใช่สิ ได้ยินว่าเดือนหน้าตระกูลซือจะไปต้อนรับคุณมู่ เขามีภูมิหลังไม่ธรรมดาเหรอ” จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็นึกขึ้นได้ จึงถามไปตามปาก
สืออีครุ่นคิดพลางตอบ “คุณมู่ภายนอกดูเหมือนเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา แต่ลือกันว่าเป็นคนลึกลับเกินหยั่งถึง ไม่มีใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเขา ตระกูลฉินอยากสร้างเส้นสายกับเขามานานแล้วครับ…”
“อย่างนี้เองเหรอ…” เยี่ยหวันหวั่นลูบคาง พึมพำกับตัวเองว่า “มู่สุยเฟิง…”
ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นหูกับชื่อนี้อย่างพิกล?
เยี่ยหวันหวั่นโยนความคิดสับสนวุ่นวายทิ้ง แล้วไปอาบน้ำ จากนั้นมุ่งหน้าไปยังบริษัท
……………………………………
บทที่ 896 ถือว่าให้เกียรติหล่อนแล้ว
กลางดึก
บนโซฟาหนังแท้ ซือหมิงหลี่กวาดมองลูกน้องคนสนิทอย่างเย็นชา “เตรียมการพร้อมหรือยัง”
“ผู้อาวุโสสบายใจได้ คนที่ผมส่งไปคราวนี้เป็นมือดีค่าตัวสูงทั้งนั้น ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นเก่งแค่ไหน ก็สู้คนหมู่มากไม่ไหวแน่ครับ อีกอย่างพวกนั้นเป็นคนที่ถูกจ้างมา พวกเราไม่ต้องออกหน้าเอง ไม่มีใครสาวมาถึงตัวเราได้ครับ”
ซือหมิงหลี่เอ่ยเสียงขรึม “แน่ใจใช่ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่คนเดียว?”
ลูกน้องคนสนิทกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ผมตรวจสอบหลายครั้งแล้ว ในบ้านที่ผู้หญิงคนนั้นอาศัยอยู่มีคนรับใช้แค่ห้าคน นอกจากยามที่อาจมีศิลปะการต่อสู้ระดับพื้นๆ แล้ว ที่เหลือก็มีแต่พวกคนป่วยแก่อ่อนแอ ไม่มีภัยคุกคามอะไรอยู่แล้วครับ อีกไม่นานซือเยี่ยหานก็จะเดินทางไปคุยธุรกิจกับตระกูลมู่ที่ต่างประเทศ ถือเป็นโอกาสดีที่สุดที่พวกเราจะลงมือ”
สีหน้าซือหมิงหลี่ขรึมลง “อย่าทิ้งร่องรอยไว้เด็ดขาด แล้วก็จำไว้ ฉันต้องการจับเป็น”
“ครับ!”
หลังจากลูกน้องคนสนิทออกไป ซืออี้เชียนที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามเอ่ยปากว่า “พ่อแน่ใจเหรอครับว่าจะจับตัวผู้หญิงคนนั้นมาข่มขู่ซือเยี่ยหาน?”
ซือหมิงหลี่แค่นเสียง พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ครั้งนี้เจ้าเด็กเหลือขอซือเยี่ยหานใช้ไม้แข็งขนาดนี้ ถ้าพวกเรายังไม่โต้กลับอีก มันคงคิดว่าบ้านสี่ของเรารังแกง่าย!
ถึงแม้อี้เจี๋ยจะไม่ได้เรื่องแค่ไหน ถึงยังไงก็เป็นลูกชายของฉันซือหมิงหลี่ ฉันจะไม่ยอมให้เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกับนางแพศยานั่นมาลบหลู่เกียรติของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้ ฉันอยากจะรู้นักว่าซือเยี่ยหานให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนนี้แค่ไหน จะยอมทำเพื่อหล่อนได้ถึงขนาดไหน!”
ซือหมิงหลี่มองลูกชายคนรอง พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า “อี้เชียน ฉันรู้ว่าแกเป็นคนรอบคอบ แต่ว่าครั้งนี้ฉันใช้ทหารรับจ้างเกรด C ขึ้นไปทั้งนั้น ถึงผู้หญิงคนนั้นจะมีปีกก็หนีไปไหนไม่รอด!”
ระดับของทหารรับจ้างแบ่งเป็นเกรด S A B C D E และ F คนที่สามารถเป็นทหารรับจ้างได้ล้วนมีความสามารถเหนือคน เกรด A ซึ่งอยู่เหนือสุดของพีระมิดมีค่าตัวสูงเสียดฟ้าในแต่ละครั้งที่ทำภารกิจ เกรด S ยิ่งหาตัวจับยาก ไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวแล้วจะจ้างได้
ถึงแม้เป็นเกรดต่ำที่สุด ก็ใช่ว่าจะราคาถูก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าครั้งนี้พวกเขาลงทุนควักเงินก้อนใหญ่จ้างเกรด C มาเลย
ใช้ทหารรับจ้างเกรด C สามคนไปจับตัวผู้หญิงคนนั้น ถือว่าให้เกียรติหล่อนมากแล้ว
เมื่อคิดได้อย่างนี้ ซืออี้เชียนก็วางใจ
……
เนื่องจากซือเยี่ยหานจะเดินทางไปคุยธุรกิจที่ต่างประเทศ เยี่ยหวันหวั่นจึงกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์กุหลาบ
กลิ่นหอมของดอกไม้ในเรือนเล็กอบอวล ที่นี่ยังเงียบสงบดังเดิม
เยี่ยหวันหวั่นขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นบนหลังจากกินข้าวเสร็จ
พ่อบ้านเหล่าเจียงกำลังตรวจประตูหน้าต่างด้วยท่าทางขึงขังจริงจัง เจ้าอ้วนไฮดี้เก็บกวาดครัวไปพลางแอบหยิบอาหารกินไปพลาง ชายผมยาวชื่อถางปินกับชายไว้เคราชื่อซ่งเฉียง คนหนึ่งตัดแต่งดอกไม้ คนหนึ่งหาวขณะเดินตรวจตรารอบๆ สาวใช้โลลิชื่อเจียวเจียวกำลังก้มหน้าก้มตาดูละครน้ำเน่าชวนฝันอย่างออกรส…
ณ มุมมืดของลานบ้าน เงาร่างสามร่างค่อยๆ คืบคลานเข้ามาใกล้อย่างเงียบงัน
ทหารรับจ้างที่เป็นหัวหน้าเอ่ย “ในบ้านมีคนแก่หนึ่งคน พ่อครัวหนึ่งคน แล้วก็สาวใช้ตัวเล็กหนึ่งคน ทุกคนไม่มีกำลังต่อสู้ มีแค่คนสวนกับยามที่เป็นชายกลางคนสองคนนั้น จัดการสองคนนั้นก่อนแล้วกัน…”
ทหารรับจ้างชายอีกคนข้างๆ พยักหน้า เป็นเชิงบอกว่าไม่มีปัญหา
“งั้นก็ดี โจ นายขึ้นไปข้างบน แม็ค นายจัดการพ่อครัวนั่น ฉันจะจัดการผู้ชายสองคนนั้นเอง!”
“โอเค!”
ขณะที่ทั้งสามกำลังจะปฏิบัติการ จู่ๆ คนหนึ่งในหมู่พวกเขาก็จ้องผู้ชายสองคนนั้นที่อยู่ไกลๆ แล้วทำหน้าประหลาดใจ “เดี๋ยวก่อน…”
ทำไมเขารู้สึกเหมือนเคยเจอคนสวนกับเจ้ายามไว้หนวดนั่นที่ไหนเลยล่ะ…
“เป็นอะไรไป?” ชายอีกคนถามขึ้น
ทหารรับจ้างคนเดิมส่ายหน้า รีบปฏิเสธความคิดตนเองทันที “ไม่มีอะไร…ทำตามแผนกันเถอะ!”
…………………………..