แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 989 ฉันเป็นของเจ้านาย บทที่ 990 อัดจนฉี่ราดวิ่งหางจุกตูด
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 989 ฉันเป็นของเจ้านาย บทที่ 990 อัดจนฉี่ราดวิ่งหางจุกตูด
บทที่ 989 ฉันเป็นของเจ้านาย
ตั้งแต่ที่เยี่ยหวันหวั่นเริ่มฝึกซ้อมจริงจัง ฟื้นคืนสมรรถภาพร่างกาย ฝีมือของเธอก็ดีวันดีขึ้น ความเร็วในการก้าวหน้าใช้คำว่าหนึ่งวันพันลี้มาอธิบายก็ไม่เกินจริง
แต่พลังต่อสู้ของเธอขึ้นๆ ลงๆ ยังไม่ค่อยมั่นคงนัก…
ภายใต้การสยบของโลลิน้อย จางเวยพาลูกน้องทั้งหมดมากล่าวขอโทษ รับประกันว่าจะไม่มาหาเรื่องอีก จากนั้นก็กะโผลกกะเผลกเก็บกวาดสถานที่ซึ่งกระจัดกระจายทั้งหมดหนึ่งรอบ และสัญญาอย่างนอบน้อมว่าจะชดเชยค่าอุปกรณ์ที่เสียหายทั้งหมด
“ถะ…เถ้าแก่เยี่ย…คุณวางใจได้…ผมรับรองว่าจะชดเชยของทั้งหมด…พะๆๆๆ พรุ่งนี้ผมจะให้คนส่งทั้งหมดมา…ขอแค่เป็นสถานที่ของผม…คะ…คุณสามารถเช่าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย…” จางเวยขอโทษอย่างงตะกุกตะกัก ลูกสมุนทั้งหมดที่ด้านหลังก็ห่อตัวเข้าด้วยกัน
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะ “งั้นก็ขอบคุณมาก”
“มิกล้าๆ! เถ้าแก่เยี่ยเกรงใจไปแล้ว…เกรงใจไปแล้ว…งะ…งั้นพวผมไปได้แล้วใช่ไหมครับ” จางเวยกลืนน้ำลาย
“แน่นอน”
จางเวยถอนหายใจแรง ราวกับได้ชีวิตใหม่ เขาหันมองโลลิน้อยด้วยสีหน้าเปี่ยมความหวาดกลัว “ขอบังอาจถามนามอันเกรียงไกรของผู้อาวุโสท่านนี้ มิทราบท่านมาจากสังกัดไหน”
เบื้องหลังของเด็กสาวคนนี้ ไม่มาจากสถาบันการต่อสู้ระดับต้นๆ ก็มาจากครอบครัวศิลปะการต่อสู้
ดูจากฝีมือโหดเหี้ยมของเธอ กระทั่งว่าอาจเป็นคนของกองกำลังทหารระดับจ้างนานาชาติเลยก็ได้…
คิดจะเชิญคนระดับสูงอย่างนี้มาคุมสถานที่ ไม่เพียงมีเงินก็ทำได้
เจียวเจียวยืนอยู่ข้างกายเยี่ยหวันหวั่น “ฉันไม่ได้มาจากสังกัดไหน ฉันเป็นของเจ้านาย”
“เอ่อ…” จางเวยมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ไม่กล้าถามรายละเอียดลึกลงไปกว่านี้อีก
ในมุมลับ ผู้ช่วยที่ไช่หย่งเซิงส่งไปสังเกตการณ์ หลังเห็นเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว เขามองพวกจางเวยที่วิ่งหนีไป ผ่านไปครึ่งค่อนวันจึงได้สติกลับมา เขารีบเปิดเครื่องยนต์ ขับรถถจากไป…
เหตุการณ์วุ่นวายในที่สุดก็จบลง เจ้าหน้าที่ในสถานที่ก็ทยอยกันจากไป
เยี่ยมู่ฝานเรียกเยี่ยหวันหวั่นมาอีกด้านคนเดียว
“หวันหวั่น ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่” เมื่อครู่นี้คนมากไปเลยไม่สะดวก เวลานี้สุดท้ายเยี่ยมู่ฝานก็ทนไม่ไหวถามออกมา
“อ้อ ความจริงเป็นคนที่แฟนฉันหามาให้น่ะ บอกว่าฝีมือสุดยอดมาก!” เยี่ยหวันหวั่นผลักภาระโดยตรง
เยี่ยมู่ฝานได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อก่อนได้ยินว่าแฟนของเธอทำงานในซือกรุ๊ป อาจเป็นคนที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลซือหน่อย เลยขอร้องให้ตระกูลซือหามาให้?
แต่ฝีมือของหวันหวั่นมันอะไรอีก…
เมื่อครู่หวันหวั่นต้านทานท่าของเด็กหญิงคนนั้นไว้ เขาเห็นเต็มสองตา
“แกฝีมือดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร” เยี่ยมู่ฝานมีสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย
เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่คิดว่ามีอะไรแปลก เธอตอบ “ฝีมือฉันดีมากตั้งแต่แรกแล้วนะ พี่ลืมว่าตอนนั้นคุณพ่อเชิญอาจารย์มาสอนพวกเราเหรอ ฉันเรียนได้เร็วมาก อาจารย์ยังชมฉันว่ามีพรสวรรค์ ก็แค่ตอนนั้นฉันขี้เกียจเคลื่อนไหวน่ะ แต่ ตอนนี้ผ่านมาครึ่งปีกว่าแล้ว ฉันคิดว่าฝีมือป้องกันตัวยังจำเป็นอยู่ เลยฝึกเองมาตลอด!”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินแบบนั้น ดวงตาก็ฉายแววปวดใจ เขาลูบหัวหญิงสาว “เพราะพี่ไม่ได้เรื่อง…”
ถ้าเขาแข็งแกร่งพอจะเป็นที่กำบังลมฝนให้น้องสาวได้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องลำบากพยายามขนาดนี้…
ความจริงเยี่ยมู่ฝานที่เป็นพ่อแม่รวยลูกชายเหลวแหลกในตอนนั้นจนตอนนี้เป็นแบบนี้ได้ ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าสู่ดินแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นอยู่ฝั่งตระกูลซือบ่อยครั้ง แถมยังต้องตั้งใจสอบและทำการบ้านของโรงเรียน ตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัท บริษัทส่วนใหญ่มีเยี่ยมู่ฝานคอยจัดการดูแลประจำวัน ภารกิจยุ่งยากมากมายขนาดนั้น เขาล้วนทำได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
——————————————————————————————
บทที่ 990 อัดจนฉี่ราดวิ่งหางจุกตูด
ประเด็นคือไม่เกี่ยวกับทำอะไรได้ แต่คือใช้ใจทำกี่ส่วน การเปลี่ยนแปลงของเยี่ยมู่ฝาน เธอเห็นด้วยตาทุกอย่าง
เยี่ยมู่ฝานยิ้มน้อยๆ พลางพูด “เปล่าสักหน่อย พี่เป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในโลก!”
“หวันหวั่น…” เยี่ยมู่ฝานสองตาพลันแสบร้อน ในใจแอบสัญญากับตัวเองว่า จะต้องเรียกคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เดิมควรจะเป็นของเขาสุดความสามารถให้จงใด้…
กลางดึก วิลล่าส่วนตัวของไช่หย่งเซิ่ง
ในอ้อมกอดไช่หย่งเซิ่งโอบศิลปินสาวสดใหม่ กำลังรอคอยข่าวดีอย่างตื่นเต้นอิ่มเอมใจ
สุดท้าย โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมา เป็นสายจากผู้ช่วย
ไช่หย่งเซิ่งจิบไวน์แดง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “เป็นยังไงบ้าง เยี่ยไป๋กับกงซี่พวกเด็กบ้านั่น รับรองต้องถูกอัดจนฉี่ราดหางจุกตูดแล้วใช่ไหม!”
ผู้ช่วยที่ปลายสายเงียบไปสักพักแล้วจึงเอ่ยปาก “ผู้อำนวยการไช่ คือว่า…กะ…เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายนิดหน่อยครับ…”
ไช่หย่งเซิ่งเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เหนือความคาดหมาย? อะไรเหนือความคาดหมาย?”
ผู้ช่วยไม่พูดไม่จา
เขาจะตอบยังไงดี…
หรือจะบอกว่าคนที่ถูกอัดจนฉี่ราดหางจุกตูดสุดท้ายแล้วเป็นผู้อาวุโสสามจางกับคนพวกนั้นเหรอ
“ทำไม พูดมาสิ!” ไช่หย่งเซิ่งเร่งอย่างหมดความอดทน
ผู้ช่วยได้แต่ต้องบอกความจริง “เยี่ยไป๋เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว เขาเชิญผู้ช่วยคุมสถานที่ คนของผู้อาวุโสสามจางถูกอัดรวดเดียว…”
ไช่หย่งเซิ่งพลันตกตะลึง “แกว่าไงนะ พี่จางไปด้วยตัวเองเลยนะ!”
“ไปด้วยตัวเองก็จริงครับ…แต่ผู้อาวุโสจางถูกทำแขนขาหัก ถึงขั้นเกือบเสียชีวิตคาที่ ตกใจกลัวจนฉี่รดกางเกง…” ผู้ช่วยตอบ
“เหลวไหล! จะเป็นไปไดัยังไง”
“ตอนนั้นผมอยู่ข้างๆ เห็นด้วยตาตัวเองเลยครับ”
“เยี่ยไป๋เชิญเหลียงซินตง?” ไช่หย่งเซิ่งเผยสีหน้าดุดัน
“มะ…ไม่ใช่เหลียงซินตงครับ…ฝ่ายตรงข้ามที่ลงมือ ตั้งแต่ต้นจนจบเป็นแค่ผู้หญิง…แต่ ผู้หญิงคนนั้นโหดเหี้ยมผิดปกติ คนเดียวก็ล้มพวกของผู้อาวุโสสามจางทุกคน…ผมคิดว่าคงมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา…เห็นได้ชัดว่าเยี่ยไป๋เตรียมพร้อมไว้แล้ว…” ผู้ช่วยเช็ดเหงื่อขณะพูด
เฮ้อ ทั้งที่เขารู้ว่าเยี่ยไป๋คนนี้มีนิสัยโหดเหี้ยมอยู่บ้าง ทำไมเขาถึงย่ามใจนะ รู้อย่างนี้เขาไม่ออกแผนโง่ๆ นี้หรอก…
ไช่หย่งเซิ่งโกรธโยนแก้วไวน์ในมือทิ้ง “บัดซบ! ที่มาที่ไปไม่ธรรมดาอะไร! ผู้ใหญ่กลุ่มใหญ่ถึงกับเอาชนะผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ ฉันว่าผู้อาวุโสสามจางนั่นยิ่งอยู่ชีวิตยิ่งถอยหลังแล้ว!”
ยังไงเสียผู้ช่วยก็ได้เห็นมากับตา จนตอนนี้ยังตกใจไม่หาย เขาอดพูดเกลี้ยกล่อมไม่ได้ “ผู้อำนวยการไช่ ช่างเถอะครับ ไม่ว่าเยี่ยไป๋ใช้วิธีอะไรหาผู้ช่วยมือฉกาจมาได้ แต่ตอนนี้ก็เกรงว่าวิธีนั้นคงใช้ไม่ได้ผลแล้ว…
“ผมว่าเยี่ยไป๋ก็แค่ฉลาดนิดหน่อยเท่านั้น ไม่มีอะไรต้องเก็บมาใส่ใจหรอกครับ ถ้าเขามีความสามารถจริง หลังออกจากโกลบอลแล้ว ทำไมไม่ไปพึ่งพิงภูเขาใหญ่ลูกอื่นๆ ล่ะครับ
หลังออกจากโกลบอลของพวกเรา ถึงจะมีคุณชายใหญ่ที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเยี่ยคนนั้นอยู่ด้วย แต่ใครไม่รู้บ้างว่าตระกูลเยี่ยตอนนี้มีเยี่ยเส่าอันเป็นผู้นำ เยี่ยมู่ฝานคิดจะยืนขึ้นมาได้ก็เป็นแค่คนโง่เพ้อฝัน!
“ผู้อำนวยการไช่ ต่อให้คุณไม่ลงมือ เยี่ยไป๋คนนั้นก็ไม่มีทางได้ดิบได้ดี…”
เรื่องราวไม่เป็นไปตามแผน ไช่หย่งเซิ่งโกรธสุมทรวงอก ได้ยินแบบนี้ เขาก็ยังคงมีสีหน้าน่าเกลียด ฮึ ในเมื่อบู๊ไม่ได้ งั้นก็เปลี่ยนเป็นบุ๋นแล้วกัน!
หานเซี่ยนอวี่กับลั่วเฉินไม่มีจุดอ่อน ใช้ประโยชน์กงซวี่ในฐานะจุดทะลวงก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย!
ไช่หย่งเซิ่งโกรธเหลือแสน “พรุ่งนี้แกไปติดต่อสตูดิโอเล่ยจื่อ เป้าหมายคือบีบกงซวี่ ฉันไม่เชื่อหรอก…”
ผู้ช่วยที่ปลายสายรับคำ “รับทราบครับ ประธานไช่…”
…………………………………………