แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1030 เรื่องในนิทานหลอกกันทั้งนั้น
ตอนอยู่ข้างนอกสู้คนไม่เกรงกลัวใคร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าในใจเธอไม่โมโหเลย
อวี๋หมิงหลางได้กลิ่นเหม็น
“อ๋า กลิ่นเหม็นจัง”
“เพี้ยนหรือไง?” เธอเพิ่งจะอาบน้ำ มีกลิ่นที่ไหนกัน?
“กลิ่นดินระเบิดโชยเตะจมูกขนาดนี้! ลูกเชี่ยน วันนี้ยังสนุกจากข้างนอกไม่พอเหรอ?”
เรื่องที่เธอไปแสดงฝีมือที่ศูนย์วิจัยในวันนี้อาเพียวกลับมารายงานเขาหมดแล้ว สร้างเกียรติให้หน่วยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะมองในมุมของสามีหรือในฐานะหัวหน้า เขาภูมิใจสุดๆ แต่ทำไมเมียเขาถึงอารมณ์บ่จอย?
“ทำไมฉันจะสนุกไม่พอ? พอแล้ว แต่คงสนุกสู้คนเสน่ห์แรงอย่างนายไม่ได้หรอก จริงสิ ฉันลืมถามไป นายว่างเมื่อไร?”
คำถามที่โพล่งออกมาในเวลานี้ทำให้สัญญาณฉุกเฉินในใจอวี๋หมิงหลางเริ่มทำงาน เขาตอบด้วยความระมัดระวัง
“ตอนนี้ก็ว่างอยู่นะ”
หรืออยากคิดบัญชีกับเขาที่เพิ่งจะแต่งงานวันหยุดที่เคยว่าไว้ก็ไม่มีแล้ว แถมยังไม่ได้ทำการบ้านมาสองวันเลยทำเมียเขาอารมณ์เสียแบบนี้?
“ดี งั้นนายก็ช่วยไปเจอน้องแฟนคลับของนายด้วย”
“อ้อ ได้” เขาพยักหน้า
เสี่ยวเชี่ยนได้ยินคำตอบก็โมโหจนดึงแผ่นมาร์คหน้าออกเตรียมจะปาใส่หน้าเขา หน้าด้านที่สุด ยังจะกล้ารับปากอีก?
“น้องสาว พี่มาแล้วจ้า~” เขาพูดพลางปลดกระดุมเสื้อเสี่ยวเชี่ยน ‘น้องแฟนคลับ’ ของเขาถูกปกปิดอยู่ในร่มผ้าของเธอไง
แต่ในใจกลับคิดว่าเมียเขาต้องฮอร์โมนเปลี่ยนแน่ งานยุ่งสองวันเลยไม่ได้ทำกิจกรรมอย่างว่า อารมณ์เสียขนาดนี้คงไม่พอใจสุดๆ ถึงจะนัดกับพี่รองแล้วก็เถอะ แต่ถ้าเป็นการเอาใจเมียเรื่องนี้เขาคิดว่าบางทีอาจทำแบบฉุกเฉินเร่งด่วนได้?
“ไสหัวไปเลยนะ! ใครเขาหมายถึงน้องนี่!” เสี่ยวเชี่ยนหน้าแดง เอามาร์คหน้าโปะเข้าไปที่หน้าเขา ครั้นแล้วเสี่ยวเฉียงจึงกลายเป็นหนุ่มหน้าดำที่น่าตลก
“ถ้าไม่ใช่น้องนี่แล้วน้องไหน? เมียจ๋าก็มีอยู่น้องเดียวไม่ใช่เหรอ?” ไม่มั้ง หรือวันนี้เมียอยากจัดหนัก?! เสี่ยวเฉียงคิดไปกันใหญ่แล้ว
เสี่ยวเชี่ยนโมโหควันแทบออกจมูก ตาบ้านี่คิดแต่เรื่องลามก!
“ฉันหมายถึงหลิวเหมียว หลิวเหมียว!”
“เขาเป็นใครเหรอ?” เหมียวไร? แมวเหรอ ไม่เคยได้ยิน
“สาวงามแห่งศูนย์วิจัยนั่นไง เขามาถามฉันอยากนัดเจอนาย ถามว่าเมื่อไรนายว่าง อยากจะคุยเป็นการ ‘ส่วนตัว’!” เสี่ยวเชี่ยนเน้นหนักคำท้าย
อวี๋หมิงหลางคิดอยู่สักพักถึงเข้าใจ “อ๋อ หมายถึงยัยป้ามหาภัยนั่นน่ะเหรอ”
“ยัยป้า…มหาภัย?” คำๆนี้ดับไฟหึงของเสี่ยวเชี่ยนได้ราวปาฏิหาริย์
“ผมไม่ได้ตั้งด้วยนะ อาเพียวเรียกก่อน เขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้ชอบทำตัวหยิ่งคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่น เห็นใครก็มองเหยียด ผมว่าเรียกแบบนี้ก็เจ๋งดีนะ เขามาหาคุณทำไม? อยากเจอผม? เจอทำไม?”
“จะไปรู้เหรอ นายลองเจอดูก็รู้เอง”
“สมองผมไม่ได้มีขี้เลื่อยนะจะให้ไปเจอเขา ไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย” อวี๋หมิงหลางรู้แล้วว่าทำไมเมียเขาถึงได้กระฟัดกระเฟียดขนาดนี้ เขาไม่รีบไปอาบน้ำแล้ว แต่เดินเข้าไปทำบางอย่างในครัว
สักพักเขาก็ออกมาพร้อมน้ำสีน้ำตาลอ่อน
“อะ น้ำนี่ผมทำเอง เคยดื่มไหม? จิ๊กโฉ่กับผงฟู เติมน้ำตาลลงไปหน่อย ตอนเด็กๆชอบเอามันมาดื่มแทนน้ำอัดลม”
“เคยสิ อันที่จริงมันเป็นวิธีการทำที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย น้ำกับคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดหลังจากกรดเบสผสมกันทำให้สารอาหารที่เดิมมีอยู่ถูกทำลาย” ตอนเด็กๆไม่มีเงินซื้อน้ำอัดลมกินเลยให้แม่ทำแบบนี้ให้กิน เด็กๆเมืองQส่วนใหญ่ล้วนมีความทรงจำนี้กันทั้งนั้น
“กินอะไรก็ชดเชยสิ่งนั้น วันนี้เมียผมใช้พลังจิ๊กโฉ่[1]ไปเยอะ มาๆ ดื่มชดเชยที่เสียไปหน่อย”
“ไปไกลๆเลย!” กะแล้วเชียวว่าหมอนี่ไม่ได้หวังดีอะไรหรอก!
“ได้ งั้นไปละ” เขาหันตัวเหมือนจะเดินออกไป แต่จังหวะที่เสี่ยวเชี่ยนเผลอนั้นเขาก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วแล้วกระโจนเข้าหาเธอที่โซฟา
“ไม่ได้ ประสบการณ์บอกผมว่า เวลาเมียผมหึงถ้าผมไม่เคลียร์ให้จบคืนนี้อาจได้นอนพื้น เมียจ๋า เวลายังมี สักรอบมะ?” เขาพูดพลางถอดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว แถมยังวาดไม้กางเขนตรงหน้าอกเธอ
“ขอบคุณป้ามหาภัยที่มอบโอกาสนี้ให้ผมได้สวีทกับเมียตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด อามิตตาพุทธ! เมียจ๋าต่อไปถ้าอยากมากก็พูดกันตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมแสร้งทำเป็นหึง จึ๊ๆ!”
“ได้คนหน้าไม่อายที่ไร้ศาสนาแต่เอาพระเจ้ากับพระพุทธเจ้ามารวมกันออกไปให้พ้นเลยนะ!”
เสี่ยวเชี่ยนถีบเขาด้วยความโมโห แต่กลับถูกเขากดไว้ ในขณะที่กำลังจะถูกเขาเผด็จศึกพี่รองก็โทรเข้ามาพอดี
“พี่รองมีอะไรเหรอ?” อวี๋หมิงหลางยังอยู่ในท่านอนทับตัวเสี่ยวเชี่ยน เอาคางกดไหล่เธอไว้ มือข้างหนึ่งรับโทรศัพท์ด้วยความขี้เกียจ ส่วนมืออีกข้างก็ซุกซนไปมาอยู่ตรงหน้าท้องเสี่ยวเชี่ยน ถูกเสี่ยวเชี่ยนจับขึ้นมากัด
“ออกมากินข้าว เร็วๆ” พี่รองยังคงพูดน้อยกระชับเช่นเคย
พี่รองกับต้าอีกำลังอยู่บำรุงครรภ์ที่เมืองQ นักบินวันหยุดเยอะ
“รู้แล้ว ไปเดี๋ยวนี้แหละ” อวี๋หมิงหลางถูกกัดจนเจ็บจนต้องกัดฟันทน จะร้องก็ไม่ได้
“พวกพี่อยู่ร้านปิ้งย่างหน้าบ้านนาย ให้เวลาสิบนาที ชักช้าถ้าต้าอีหิวนายต้องรับผิดชอบ”
อวี๋หมิงหลางวางสาย รู้สึกเหมือนถูกทำเลี่ยนใส่
“ดูพี่รองสิ ตอนนี้ถลำลึกขนาดไหน? กล้าขู่น้องเพราะกลัวเมียหิว?”
ความหมายแฝงคือ โลกนี้จะมีคนรักเมียเอาใจเมียเก่งไปกว่าเขาได้ยังไง พี่ไม่ยอม!
“พอต้าอีท้องพี่รองก็เปลี่ยนไปมาก เอาใจใส่มากกว่าปกติ ถือเป็นเรื่องดี แต่นายเนี่ยนับวันจะยิ่งปัญญาอ่อน หน้าด้านขึ้นทุกวัน! แต่งงานแล้วทำไมยังไม่รู้จักโต!” เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็เห็นอวี๋หมิงหลางทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กไม่ได้กินขนม
“เรื่องในนิทานมันหลอกกันทั้งนั้น!” เขาประท้วง!
เสี่ยวเชี่ยนไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆเขาก็พูดแบบนี้ขึ้นมา
“นายว่าไรนะ?”
“มีคำพูดที่ว่าคนขยันมักได้ดีใช่ไหม?” เสี่ยวเฉียงมองท้องเสี่ยวเชี่ยนด้วยแววตาเศร้าสร้อย
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า “ใช่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับความปัญญาอ่อนของนาย?”
“เราสองคนตกลงเป็นแฟนกันก่อนใครใช่ไหม? แล้วทำไมพวกคู่ที่มาทีหลังเรากลับมีลูกแซงหน้าไปก่อน? พี่ขยันทำการบ้านขนาดนี้ ทำไมฟ้าไม่เมตตา? เมียจ๋าดูสิ พี่รองพอได้เป็นพ่อคนนะก็ทำตัวได้ใจอย่างกับอะไร”
พี่รองดีใจจนแทบเหาะได้ ข่มจอมเผด็จการของบ้านเสียจนไม่เหลืออะไรให้สู้! อ้อ จริงสิ พี่รองเป็นนักบินนี่หว่า ก็เหาะได้นิ
สุ่ยเซียนก็ท้อง
ต้าอีก็ท้อง
เมื่อช่วงบ่ายอวี๋หมิงหลางยังถูกเฉียวเจิ้นแดกดันใส่ เฉียวเจิ้นบอกว่าเดือนนี้สืออวี้ประจำเดือนมาช้าอาจจะท้องก็เป็นได้ แต่ยังไม่มีอาการเท่าไร กะว่าพรุ่งนี้จะไปตรวจ
แต่ละคนนำหน้าเสี่ยวเฉียงกันไปหมด เสี่ยวเฉียงสะเทือนใจจนรู้สึกสงสัยในชีวิตตัวเอง
เขา ‘ขยัน’ จะตาย!
ขอแค่มีโอกาสเขาก็จะทำภารกิจปั๊มลูกกับเมียตลอด!
นี่ก็ผ่านมานานแล้วหลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนบอกว่าอยากมีลูก เขา ‘ขยัน’ มาตลอด!
หยุดมาตรการป้องกันทั้งหลายหมด เมียเขาเองก็เริ่มวางแผนหาของมาบำรุงร่างกาย แต่ทำไมฟ้าถึงยังไม่เมตตาในความขยันของเขา?
[1] สำนวนจีนชือชู่ แปลตรงตัวคือกินจิ๊กโฉ่หรือกินน้ำส้มสายชู หมายถึงหึง