แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1040 นายสิกิน กินมันทั้งครอบครัวเลย
เจิ้งซวี่อยากจะเหยียบคันเร่งออกจากตรงนี้เสียจริงๆ ทิ้งยัยผู้หญิงที่สมองมีแต่น้ำนี่ไว้ข้างหลัง แต่พอนึกถึงท่าทางที่กัดไม่ปล่อยของผู้หญิงคนนี้แล้วก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ฉลาดเท่าไร
ทำไงดีถึงจะทำให้ผู้หญิงบ้านี่ยอมตัดใจ…
ทันใดนั้นสายตาของเจิ้งซวี่ก็เหลือบไปเห็นอาข่ายืนตาแป๋วกินอะไรบางอย่างอยู่ข้างทาง เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วก็คิดไอเดียเจ๋งๆออก
ครั้นแล้วเขาจึงลงจากรถไปยืนประจันหน้ากับผู้หญิงคนนั้น
“อยากรู้ไหมว่าทำไม?”
“ครอบครัวเราสองคนคิดว่าพวกเราคบกันแล้ว ตอนนี้นายมาทำกับฉันแบบนี้เคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม รวมถึงครอบครัวฉันด้วย?” ฝ่ายหญิงร้องไห้คร่ำครวญ
ไอ๊หยา หรือนี่จะเป็นผู้หญิงบ้ารักกับผู้ชายเย็นชาอย่างที่เขาว่ากัน? อาข่ากินไปพลางวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในใจ
ยัยหัวทอง…เจิ้งซวี่โมโหกัดฟันกรอด
ผู้หญิงคนนี้จะต้องมองเขาเป็นเหมือนละครหลังข่าวแน่นอน ดูอย่างสนุกสนาน แถมมีของกินเล่นเพลินๆด้วย?
ดูหุ่นสิผอมกะหร่องแบบนั้นแทบไม่มีเนื้อหนัง แต่กลับกินเก่งเป็นบ้า ชามที่อยู่ในมือใหญ่เกือบเท่าหน้าละ ยัยจอมตะกละ!
เจิ้งซวี่ทำหน้ารังเกียจ ส่วนผู้หญิงที่คิดว่าเขาเป็นแฟนยังคงรำพึงรำพันไม่หยุด
“พ่อฉันชอบนายมาก ครอบครัวเราสองคนฐานะก็เหมาะสมกัน ต่อให้นายไม่ชอบฉันก็ช่วยบอกเหตุผลมาด้วย!”
“อยากได้เหตุผลเหรอ? ได้ ผมจะให้เหตุผลคุณ!” เจิ้งซวี่พูดอย่างเย็นชา
ไอ๊หยา! ละครกำลังดำเนินไปถึงช่วงสำคัญแล้ว ต่อไปนายริดสีดวงหอมจะขับรถหนีไปหรือแม่สาวร้องไห้น้ำตานองหน้าแต่เครื่องสำอางก็ยังไม่เลอะจะวิ่งไล่ตามรถ? อาข่าตื่นเต้นสุดๆ รู้สึกเหมือนตัวเองได้ดูละครในชีวิตจริงๆ!
แต่ว่าบอสหนุ่มจอมเย็นชาแบบในละครทำไมถึงได้เดินมาทางเธอล่ะ? ทีละก้าวๆ เข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ!
กว่าอาข่าจะรู้สึกตัวเจิ้งซวี่ก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว จากนั้นเขาก็เชยคางเธอขึ้น วินาทีนั้นเธอได้กลิ่นมิ้นต์หอมๆโชยมาเตะจมูก
ในฐานะที่เป็นคนคลั่งกลิ่นหอม อาข่าจึงยากที่จะต้านทานพลังของกลิ่นหอมสดชื่นนี้ไหว
ในฐานะที่เป็นสปายเก่า เธอพบเจอคนมาเยอะ ประสาทสัมผัสเธอไวต่อกลิ่นยิ่งกว่ารูปลักษณ์ เธอพบว่าร่างกายของเจิ้งซวี่มักจะมีกลิ่นหอมโชยออกมาเสมอ ไม่ใช่แค่กลิ่นโคโลญจน์ มันยังผสมไปด้วยกลิ่นกายของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกลิ่นน้ำหอมหรือการเลือกกลิ่นน้ำยาบ้วนปากล้วนเลือกได้ดี
โดยเฉพาะกลิ่นน้ำยาบ้วนปากกลิ่นนี้ กลิ่นหอมอ่อนๆประหนึ่งอยู่ท่ามกลางป่าเขา แถมยังอ่อนนุ่มด้วย ทำไมริมฝีปากของผู้ชายถึงได้อ่อนนุ่มแบบนี้ เดี๋ยวนะ มันแปลกๆชอบกลละ?!
อ่อนนุ่ม!!!
กว่าอาข่าจะได้สติเจิ้งซวี่ก็ประทับจูบเบาๆลงบนริมฝีปากเธอแล้ว
จากนั้นก็รีบผละออกอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่วินาทีเดียวก็ทำลายสภาวะทุกอย่าง ก่อให้เกิดอาการตกตะลึง
อาข่ายืนงง เจิ้งซวี่หน้านิ่ว กลิ่นประหลาดๆเมื่อกี้…มันคืออะไร?!
ส่วนผู้หญิงที่มากับเจิ้งซวี่ได้โมโหสุดขีดเหมือนคนบ้า เธอชี้หน้าอาข่า
“เจิ้งซวี่! นังนี่เป็นใคร!”
“เขาเป็นใครยังดูไม่ออกอีกเหรอ?” เจิ้งซวี่ไม่เคยพูดจาไว้หน้าผู้หญิงคนนี้แม้แต่นิดเดียว
“นายทำแบบนี้ได้ไง ทำแบบนี้ได้ไง!!” ผู้หญิงคนนั้นโกรธจนพูดไม่ถูก รู้สึกเหมือนตัวเองถูกตบหน้าอย่างแรง
“คุณอยากได้เหตุผลไม่ใช่เหรอ? ผมก็ให้คุณแล้วนี่ไง ผมไม่ชอบคุณ ผมชอบสาวฝรั่ง ไซส์กำลังพอดี”
ประโยคสุดท้ายพูดได้ตรงมาก ผู้หญิงคนนั้นหน้าแดง ไม่รู้ว่าเพราะโมโหหรือฟังแล้วเขิน สุดท้ายเธอก็กระทืบเท้าตึงตังแล้ววิ่งหายไป
เจิ้งซวี่กำจัดตัวปัญหาไปได้สำเร็จ อารมณ์ดีขึ้นมาทันที แต่พอหันไปก็เห็นอาข่าที่กำลังโกรธจัด
เจิ้งซวี่หุบยิ้ม เช็ดปากอย่างขยะแขยง นี่มันอะไรกัน ทำไมปากรสชาติปะแล่มๆ!
“คุณกินขี้อยู่เหรอ?” เขาถามด้วยสีหน้าเหยียดๆ อยากจะอ้วก แหวะ
“นายสิกินขี้! กินมันทั้งบ้าน! ยังจะมีหน้ามาพูดเรื่องไซส์ฉัน? เคยลองหรือไง?!” เมื่อเทียบกับเรื่องที่ถูกผู้ชายที่ไม่ถือว่ารู้จักกันจูบ อาข่าแคร์เรื่องไซส์ที่เจิ้งซวี่พูดเมื่อกี้มากกว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้หญิง! ไม่แบ่งเป็นในชาติต่างชาติ ผู้หญิงก็คือผู้หญิง มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี!
“แล้วไม่ใช่หรือไง? คุณคงจะไม่ได้คิดจะบอกผมว่าอยากลองกับผมหรอกนะ? ขอโทษที ผมไม่รู้สึกอะไรกับผู้หญิงที่กินของกลิ่นประหลาดพวกนี้หรอก”
เดิมอาข่าคิดจะชูนิ้วกลางให้ แต่คิดๆแล้วก็เอามือลง เปลี่ยนเป็นชูนิ้วก้อยแทน พลางพูดด้วยสีหน้าเหยียดๆ
“ผู้ชายไม้จิ้มฟัน ฉันก็ไม่สนนายหรอก! ถุย ลาแล้วลาลับ!”
พูดจบก็วิ่งหนีไป เจิ้งซวี่คิดจะจับก็จับไม่ได้
พูดตามตรง ถ้าเธอไม่ได้วิ่งไปอีกทางเขาก็คิดจะขับรถไล่ตามยัยหัวทองตัวแสบนี่ไป ผู้ชาย…ไม้จิ้มฟันเหรอ?
แค้นนี้เขาขึ้นบัญชีไว้แล้ว!
ความคิดนี้ได้ปรากฏในสมองของทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน
ห่างออกไปไม่กี่เมือง ศาสตราจารย์ชียืนหลับตาอยู่ริมหน้าต่าง เขากำลังคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนกำลังเจอกับปัญหาอะไรอยู่
ผ่านไปห้านาทีเขาก็ลืมตาขึ้น พอจะนึกออกแล้ว
ช่วงนี้เสี่ยวเชี่ยนวุ่นอยู่กับเรื่องแต่งงาน แทบไม่มีเวลารับคนไข้
ถ้าอย่างนั้นต้นเหตุที่ทำให้เธอกังวลใจก็น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เธอไปเป็นผู้ช่วย ปัญหามันคงจะอยู่ตรงนี้นี่แหละ
ศาสตราจารย์ชีโทรศัพท์ เขาคิดว่าเขารู้แล้วว่าเบบี๋เชี่ยนกลุ้มเรื่องอะไรอยู่
เขาถอนหายใจแล้วเคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงก็พิมพ์เอกสารเสร็จ จากนั้นก็แนบไฟล์ส่งไปให้เสี่ยวเชี่ยน ระหว่างส่งก็พูดไปด้วย
“เคยบอกแล้วว่าเด็กคนนี้ดีทุกอย่าง แต่ติดตรงที่ให้ความสำคัญกับคนรอบตัวมากเกินไป พอว่าเข้าก็ไม่พอใจ ความรักความผูกพันมีแต่จะเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้า เรื่องแค่นี้ก็ยังเก็บเอามากลุ้มได้…บอกให้มาเป็นลูกศิษย์ก็ไม่เอา ดูซิ เกิดเรื่องก็ยังต้องให้ฉันเป็นคนสอน!”
เสี่ยวเชี่ยนหาอยู่นานก็ยังไม่เจอสิ่งที่ตัวเองต้องการ เธอยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่กำลังเซ็งที่ไม่มีใครให้ปรึกษาก็มีเสียงเมลเข้า เธอจึงกดเปิดดูหัวข้อ
พอเธออ่านเนื้อหาจบก็นั่งตัวตรงทันที
นี่มันสิ่งที่เธออยากได้ไม่ใช่เหรอ?
การเรียบเรียงข้อมูลความคิดทำออกมาได้กระชับ ใช้อักษรเพียงไม่กี่ร้อยตัวก็สรุปทฤษฎีออกมาได้อย่างแม่นยำ แถมยังเป็นข้อมูลที่หาไม่ได้ในหนังสือ คล้ายกับว่าได้สรุปจากตำราดังๆมากมายหลายเล่มโดยใช้ภาษาของตัวเองเรียบเรียง
ถ้าให้ตัวเธอเองไปรวบรวมข้อมูลพวกนี้อาจต้องใช้เวลาอ่านและสรุประยะหนึ่ง แต่ในนี้สรุปมาหมดแล้ว
พออ่านจบเธอก็โหลดไฟล์แนบ มันทำให้เธอพอใจยิ่งกว่าเดิม
มีแต่เคสการรักษาทั้งนั้น แถมแต่ละเคสยังละเอียดยิบ!
รวมถึงการติดตามผลการรักษา ขั้นตอนการรักษา จดไว้ละเอียดมาก ของพวกนี้ใช่ว่าจะสามารถแลกมาได้ด้วยเงิน
ไฟล์แนบนี้ได้รวบรวมการวิเคราะห์ของแต่ละเคสมาอย่างน้อยก็ยี่สิบเคส ซึ่งเขียนออกมาอย่างละเอียด
ข้อมูลที่ละเอียดขนาดนี้ไม่มีทางเอาให้คนอื่นดูได้ง่ายๆ เว้นเสียแต่เป็นลูกศิษย์ของตัวเอง นักศึกษาทั่วไปก็ยังไม่ได้
นักศึกษาก็แค่มาเข้าเรียนตามปกติ
แต่ลูกศิษย์สิถึงจะมีความผูกพันกันเป็นพิเศษ เป็นเหมือนกับผู้สืบทอด