แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1044 ประธานเชี่ยนดื่มด่ำกับวันหยุดที่มาช้า
“ครับ…พวกเราติดต่อศูนย์ตรวจดีเอ็นเอที่อยู่ใกล้เมืองหลินที่สุดแล้ว แต่ไม่มีชื่อเด็กคนนี้เลยครับ”
มันเกิดการผิดพลาดที่ขั้นตอนไหนกันแน่…คงต้องร้องถามสวรรค์
ชีอวี่เซวียนงง แบบนี้เรียกอะไร? คนกำหนดหรือจะสู้ฟ้าลิขิต?
งั้นผลตรวจนี้ก็…?!
มีความเป็นไปได้สองอย่าง
หนึ่งคือ เสี่ยวเชี่ยนส่งไปตรวจที่อื่นที่เหนือขอบเขตพื้นที่ที่อิทธิพลของเขาจะครอบคลุมไปถึง และบางทีพ่านพ่านอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคนนั้นทางสายเลือดจริงๆ
สองคือ เสี่ยวเชี่ยนใช้ชื่ออื่นตรวจดีเอ็นเอให้พ่านพ่าน จากนั้นก็ฉีกผลตรวจฉบับจริงทิ้งแล้วทำของปลอมขึ้นมาใหม่ จริงๆแล้วพ่านพ่านก็คือลูกของคนๆนั้น
ความจริงเป็นอย่างไรเกรงว่ามีแค่เสี่ยวเชี่ยนเท่านั้นที่รู้
พอได้รับบทสรุปแบบนี้ชีอวี่เซวียนก็อึ้งก่อน จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
อืม ใช้ได้
ความสามารถของเบบี๋เชี่ยนสร้างเซอไพร้ส์ให้เขาได้เยอะจริงๆ เธอไม่รู้ว่าเขาเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ เธอทำมาถึงขั้นนี้จนเขาถึงกับงง แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของเธอ
เธอเชื่อว่าไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกของคนๆนั้นหรือเปล่า เธอก็มีความสามารถที่จะจับตาดูพฤติกรรมของพ่านพ่านในอนาคตข้างหน้าอีกหลายปีได้อยู่ดี เธอรับมือได้
มันช่างน่าตกใจจริงๆ
เด็กคนนี้เหมือนขุมทรัพย์ที่ขุดเท่าไรก็ไม่หมด ทำไมต้องทำให้ชอบมากขึ้นเรื่อยๆด้วยนะ
พอออกจากบ้านแม่ อวี๋หมิงหลางก็มองเสี่ยวเชี่ยนที่นั่งหลับตาอยู่ตรงเบาะข้างคนขับ ดูไม่ออกว่าสีหน้าของเธอในตอนนี้นั้นสุขหรือทุกข์ เขาไม่ถามกวนใจ รอให้เธอพูดเอง
หลังออกจากเมืองQอยู่ๆเสี่ยวเชี่ยนก็ลืมตาขึ้นแล้วหันไปมองต้นไม้ต้นหนึ่งข้างทาง
ต้นไม้ต้นนั้นเคยถูกฟ้าผ่าครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้วตอนขับผ่านดูเหมือนจะตายแล้ว แต่ปีนี้กลับแตกใบอ่อน สิ่งมีชีวิตมักเป็นสิ่งที่มองทะลุปรุโปร่งได้ยาก
“ฉันในวัยเท่านี้ นับวันจะยิ่งเข้าใจความหมายของคำพูดที่ว่าฝนตกฟ้าร้องฟ้าผ่าก็คือความเมตตาของสวรรค์” เธอมองต้นไม้ต้นนั้นพลางพูด ผลตรวจดีเอ็นเอที่อยู่ในมือถูกฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆแล้ว
“นั่นสิ การชีวิตมักมีความหมายเสมอ” อวี๋หมิงหลางเหมือนเข้าใจอะไรขึ้นมา เขาสบตากับเสี่ยวเชี่ยน จากนั้นทั้งสองคนก็ยิ้มให้กัน
วินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้ นี่ก็คือความท้าทายของชีวิตกับความหมายที่ซ่อนอยู่ และนี่ก็คือชีวิตคนเรา
ผู้ต้องหาคนนั้นต้องถูกตัดสินโทษตายอย่างแน่นอน หลักฐานมัดตัวแน่นมาก แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลอวี๋แล้ว
เสี่ยวเชี่ยนจบงานผู้ช่วยชั่วคราว นอกจากความรู้และประสบการณ์ต่างๆที่ได้ทิ้งไว้ให้คนในทีมจิตวิทยาแล้ว เธอยังได้จัดการกับอันตรายที่แฝงอยู่ในตระกูลอวี๋ ชีวิตเธอกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง เธอเริ่มใช้เวลาพักร้อน
ปฏิเสธงานทั้งหมด ใช้ข้ออ้างพักร้อนแต่งงานแอบอู้อย่างสบายใจ วันๆออกไปเที่ยวกับสืออวี้ ปีนเขา เล่นน้ำทะเล หรือไม่ก็ตากแอร์กินแตงโมอยู่ในบ้าน เพียงช่วงเวลาแค่เดือนกว่าๆน้ำหนักเธอขึ้นมาสองโล แต่อย่างไรเสียอ้างว่าเพราะเพิ่งแต่งงานทุกอย่างก็โอเค
กลับชาติมาเกิดตั้งหลายปียังไม่เคยใช้ชีวิตสบายแบบนี้ เธอได้ดื่มด่ำกับชีวิตแล้ว
สืออวี้ยังดูเป็นการเป็นงานมากกว่าเสี่ยวเชี่ยน วิกฤติของบ้านเธอได้ผ่านไปแล้วด้วยดี หลังจากที่กลับไปเป็นคุณหนูมีเงินใช้อย่างสุขสบายอีกครั้งเธอก็เริ่มตระหนักได้ว่าต้องเริ่มช่วยกิจการของที่บ้าน พ่อสือยกตลาดยาเมืองหลินให้ลูกสาวได้ลองฝึกดูแล ช่วงกลางวันนอกจากสืออวี้จะออกไปเที่ยวกับเสี่ยวเชี่ยนแล้วก็ตั้งใจเรียนรู้งานด้วย
ก่อนที่เฉียวเจิ้นจะอายุงานครบจนสามารถเปลี่ยนงานได้ เธอต้องช่วยพ่อแบ่งเบาภาระบ้าง วิกฤติการเงินคราวก่อนเหมือนเป็นการจำลองสถานการณ์ที่สมจริงมาก แต่ครั้งหน้าไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะโชคดีแบบนั้นอีก เธอเริ่มตระหนักได้ถึงหน้าที่ของตัวเอง ประธานเชี่ยนพูดถูก เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมหนึ่งถ้าตัวเองไม่แบกรับหน้าที่ คนในครอบครัวก็คงลำบากแย่
ตอนนี้เธอมาอาศัยอยู่ชั้นล่างตึกเดียวกับเสี่ยวเชี่ยน
เฉียวเจิ้นถูกย้ายมาแล้ว นี่ก็คือเซอร์ไพร้ส์ที่เฉียวเจิ้นเคยบอกสืออวี้ไว้
ก่อนหน้านี้สืออวี้ร้องไห้อย่างหนักเพราะต้องแยกจากเสี่ยวเชี่ยน นึกไม่ถึงว่าเฉียวเจิ้นอ้อมไปอ้อมมาจะถูกย้ายมาเป็นลูกน้องของอวี๋หมิงหลางอีก สืออวี้เองก็จะได้อยู่กับเสี่ยวเชี่ยนแล้ว ดังนั้นถึงได้เอาของขวัญแต่งงานมาวางหน้าบ้านเสี่ยวเชี่ยนได้ ถือเป็นการสร้างเซอร์ไพร้ส์ให้เสี่ยวเชี่ยนด้วย ดังนั้นตอนนั้นที่อวี๋หมิงหลางเห็นว่าของขวัญมาจากสืออวี้เขาจึงไม่ตกใจอะไร เขาเองก็อยากเซอร์ไพร้ส์ลูกเชี่ยน
วันนี้พวกเสี่ยวเชี่ยนไปทะเลกันอีกแล้ว
คนที่บ้านอยู่ใกล้ทะเลถ้าหน้าร้อนไม่หอบเอาแตงโมกับเบียร์ไปกินลมชมวิวพร้อมเล่นน้ำทะเล ชีวิตก็คงไม่สมบูรณ์
วันนี้ฉิวฉิวกับไป๋จิ่นก็มา รวมกับเสี่ยวเชี่ยน สืออวี้ ก็เป็นสี่คน พอไปถึงทะเลฉิวฉิวก็แบกร่มกันแดดคันใหญ่ไปที่ชายหาด ไป๋จิ่นหิ้วเบียร์เดินตามหลัง
“เดี๋ยวฉันช่วยกาง!” หลังจากที่ไปร่วมงานแต่งเสี่ยวเชี่ยนด้วยกันมา สายตาที่ไป๋จิ่นมองฉิวฉิวก็เปลี่ยนไป
“มันหนัก คุณทำไม่ไหวหรอก ผมทำเอง” สายตาที่ฉิวฉิวมองกลับหวานเป็นสองเท่าของที่ไป๋จิ่นมองเขา
สืออวี้ที่อุ้มแตงโมกับเสี่ยวเชี่ยนที่หิ้วน้ำอยู่ด้านหลังมองหน้ากัน
“ถ้าบอกว่าสองคนนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่เดี๋ยวฉันจะกินแตงโมทั้งเปลือกให้ดูเลย” สืออวี้มองคู่ที่เดินนำอยู่ข้างหน้า นี่ถ้าเป็นในการ์ตูนของเธอล่ะก็ มีหัวใจเต็มรอบตัวสองคนนั้นแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนเอียงคอถือเป็นการเห็นด้วยกับคำพูดของสืออวี้
สืออวี้กระซิบด้วยน้ำเสียงเหมือนคนอยากเม้าท์ “ได้ยินว่าตอนเธอแต่งงานสองคนนั้นพักอยู่ด้วยกันเหรอ เธอว่ามันจะมีสปาร์คกันบ้างไหม จากนั้นก็…ฮี่ๆๆ?”
“ลามกจริงๆ จะเป็นไปได้ไง?”
เสี่ยวเชี่ยนเชื่อว่าอยู่ด้วยกันขนาดนั้นสองคนนี้ต้องรู้สึกดีๆต่อกันบ้างล่ะ แต่ถ้าจะบอกว่ามีความผูกพันทางกายคงเป็นไปไม่ได้
ฉิวฉิวเป็นคนที่ความคิดเปิดกว้างก็จริง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่คนมักง่าย ถ้าเขาไม่ได้ชัดเจนเรื่องความสัมพันธ์กับใครไม่มีทางลงมือแน่นอน ยิ่งเป็นคนที่ดูเหมือนเปิดกว้างในใจยิ่งยึดติด เห็นสองคนนี้มองกันหยาดเยิ้มก็คงรอแค่วันที่จะสารภาพรักกันแล้ว
หลังสารภาพกันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่รู้แล้ว อย่างไรเสียสถานะในตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องอย่างว่าขึ้น
สืออวี้ไม่เชื่อ “มาพนันกันดีไหม? กระเป๋าหนึ่งใบ สองคนนี้มีอะไรกันแล้วแน่นอน ดูสายตาที่ฉิวฉิวมองไป๋จิ่นสิ โอ๊ย พี่ยังไม่เคยมองฉันแบบนี้เลย!”
“งั้นกระเป๋าใบนี้คงต้องให้ฉันแล้วล่ะ ไม่เชื่อแอบไปถามฉิวฉิวดูนะ—สืออวี้ ช่วงนี้ฉันแทบไม่มีที่วางกระเป๋าแล้ว เธอก็รู้ว่าบ้านที่พวกเราอยู่ตอนนี้มันแคบ ห้องเล็กๆต้องจัดสรรออกมาไว้เก็บเสื้อผ้า กระป๋า รองเท้า ของอัดแน่นเต็มไปหมด เธอยังจะกล้าให้กระเป๋าฉันอีกมันเหมาะแล้วเหรอ?”
สืออวี้ถูกทิ่มแทงหัวใจ
เธอไม่ยอม ฉวยโอกาสตอนที่ไป๋จิ่นไปว่ายน้ำเข้าไปกระซิบพูดบางอย่างข้างหูฉิวฉิว จากนั้นก็ถูกฉิวฉิวถีบตกทะเล
ท้องฟ้าสีครามสดใส สืออวี้สำลักน้ำทะเลเข้าไปเต็มๆ ต่อไปเธอไม่กล้าท้าทายความสามารถของประธานเชี่ยนอีกแล้ว เสียกระเป๋าไปฟรีๆเลย!
ดูไม่ออกเลยจริงๆ ฉิวฉิวที่ดูห้าวเป้งจะอ่อนขนาดนี้ สารภาพรักยังเหอะ?
“ประธานเชี่ยน ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย” ฉิวฉิวที่ถีบสืออวี้ตกทะเลไปแล้วยื่นเบียร์ให้เสี่ยวเชี่ยนที่นอนอาบแดดอยู่ ใบหน้าเหมือนมีข้อความเขียนไว้ว่า
มีเรื่องอยากขอร้อง!