แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1049 หัวใจแคบเกินไปใส่หลุมศพไม่ได้
ไปร้านชาบูไม่สั่งชาบู กินแต่เหล้าเบียร์ นอกจากเพื่อนของเถ้าแก่แล้วคงมีไม่กี่คนที่จะทำแบบนี้
ไห่เจารับสายจากอวี๋หมิงหลางจึงรู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนจะมา ไม่เพียงแต่เตรียมห้องที่ดีที่สุดไว้ให้ แม้แต่เหล้าเบียร์ก็เอาของส่วนตัวออกมาให้พวกเสี่ยวเชี่ยนด้วยตัวเอง
รินเหล้าเต็มแก้ว จากนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็เปิดประเด็นทันที
“ฉันส่งไป๋จิ่นไปเมืองนอกแล้ว นายวางใจได้ ลิลลี่ดอกนี้นอกจากนายแล้ว จะไม่มีใครเด็ดไปได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น”
ฉิวฉิวเงยหน้าขึ้นอย่างงงๆ เขามองเสี่ยวเชี่ยน จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
“อย่าทำเขาเสียเวลาเลย ฉันยังไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลากี่ปี ปล่อยเขาไปมีชีวิตของตัวเองเถอะ”
เขารู้ความสามารถของประธานเชี่ยน
ถ้าประธานเชี่ยนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ไป๋จิ่นย่อมทำได้ แต่เขาจะเห็นแก่ตัวแบบนั้นได้อย่างไร
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ฉิวฉิวกระดกเหล้าลงคอ “วันมะรืนพ่อจะผ่าตัด ระยะสุดท้ายแล้ว”
เวลาที่คนอารมณ์ไม่ดี กินเหล้าก็มีแต่รสขม
“ยืนยันแล้วเหรอ?”
“อืม ตรวจยืนยันตั้งแต่ตอนที่เขาจะเอาเครื่องช็อตไฟฟ้ามาช็อตตั้งแต่คราวก่อนแล้ว รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลดังของที่นี่ ประธานเชี่ยน เธอว่าเมื่อชาติก่อนฉันติดค้างตาแก่นี่ไว้ไหม? เมื่อก่อนเขาทรมานฉันจนสภาพกลายเป็นชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงแบบนี้ กว่าฉันจะปรับตัวเองได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เขาดันมาป่วยหนัก เธอว่าฉันจะอึดอัดไหมล่ะ?”
ฉิวฉิวกระดกเหล้าหมดแก้ว เหล้าที่ไห่เจาเอามาให้เป็นเหล้าแรงทั้งนั้น ฉิวฉิวกินเหมือนเป็นน้ำเปล่า
“ฉันบำบัดจิตใจก่อนเขาไปให้ได้นะ ราคาก็ตามมาตรฐานของฉัน ชั่วโมงละสองพัน บ้านนายน่าจะไหวอยู่แล้ว”
สำหรับตาแก่ที่ทำเพื่อนเธอจนกลายเป็นแบบนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากลดราคาให้
“มีประโยชน์เหรอ?” ฉิวฉิวมองเสี่ยวเชี่ยนอย่างคนหมดหนทาง
“มากน้อยก็มีบ้างแหละ อาจทำให้อยู่ได้อีกหลายเดือน ประกอบกับการรักษา ถ้ามองในแง่ดีหน่อยก็อาจอยู่ได้หลายปี”
ไม่ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ชีวิตของพ่อฉิวฉิวก็เริ่มนับถอยหลังแล้ว
นี่คือความจริงที่ใครก็เปลี่ยนไม่ได้ พอนึกว่าพ่อตัวเองจะต้องเหลือแค่ขี้เถ้าฝังลงในดิน แบบนี้ความแค้นที่สั่งสมมาของฉิวฉิวก็ไม่มีที่ให้ระบาย เขารู้สึกเหมือนมีไฟสุมอยู่ในอก
“ก่อนหน้านี้ฉันอยากสารภาพกับไป๋จิ่นแล้วคบกับเขา จากนั้นเราสองคนก็จะไปจดทะเบียนกันที่เมืองนอก วันข้างหน้าก็จะใช้ชีวิตด้วยกัน เธอก็รู้ว่าคนที่เป็นแบบพวกเราอยากจะหาคนรู้ใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันกลับมารู้ว่าตาแก่นี่กำลังจะตายในเวลาแบบนี้ ถ้าฉันทำแบบนั้นขึ้นมาเกิดตาแก่นี่โมโหขาดใจตาย ฉันกับไป๋จิ่นไม่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดนี้ไปตลอดชีวิตเลยเหรอ? เมื่อชาติก่อนฉันติดหนี้ตาแก่นี่เท่าไรกันนะ?”
มาถึงขั้นนี้แล้วฉิวฉิวก็บอกไม่ถูกว่าตัวเองเกลียดพ่อหรือโลกใบนี้มากกว่ากัน เขาอยากปล่อยวางทุกสิ่ง แต่ปล่อยไม่ได้สักสิ่ง พ่อเขามาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตแล้ว จะมาพูดเรื่องเกลียดไม่เกลียดก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป เขาคงทำได้แค่ทำให้พ่อจากโลกนี้ไปอย่างหมดห่วง แม้ต้องทำให้ความรักของตัวเองต้องพังทลายลงก็ตาม
ผู้ชายถือที่สุดก็คือเรื่องความไม่รับผิดชอบ
เขาไม่อาจปล่อยให้พ่อยังมีความกังวลอยู่ในใจก่อนตาย ต่อให้ต้องเป็นการเล่นละครตบตาเขาก็ต้องทำให้พ่อจากไปอย่างสบายใจ
เขาไม่อาจทนเห็นไป๋จิ่นต้องมารู้สึกผิดว่าตัวเองมีส่วนทำให้พ่อเขาตายเพราะโมโหเรื่องเขาคบกับเธอ รักมากแค่ไหนก็แบกรับความรู้สึกที่ทำให้หนึ่งชีวิตต้องตายไปไม่ได้หรอก ถึงตาแก่นั่นจะป่วยเอง แต่ถ้าให้รู้ว่าเขากับไป๋จิ่นยังคบกันอยู่ มีหวังได้โมโหอกแตกตายแน่
ถึงตอนนั้นไป๋จิ่นจะไม่เจ็บปวดไปทั้งชีวิต จะไม่รู้สึกผิดตลอดไปเหรอ?
เสี่ยวเชี่ยนรินเหล้าให้ฉิวฉิวอย่างเงียบๆ ฉิวฉิวกระดกหมดแก้วอีกครั้ง
พอวางแก้ว ดวงตาก็แดงก่ำแล้ว
“ประธานเชี่ยน ทำไมการมีชีวิตอยู่มันถึงได้อึดอัดแบบนี้? เขาทำแบบนี้มันยุติธรรมกับฉันเหรอ? ตอนเด็กๆทุบตีฉัน รังเกียจฉัน ทำฉันกลายเป็นครึ่งชายครึ่งหญิง พอโตมาอยู่ๆก็จะตาย…เธอว่าทำไมคนๆนี้บทจะตายก็ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?”
ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงของฉิวฉิวสั่นเครือ
คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ที่กำลังจะสูญเสียใครไปไม่มีทางเข้าใจความเจ็บปวดนี้
โดยเฉพาะโรคร้ายที่มาอย่างกะทันหันทำให้รับมือไม่ทัน คนที่มีชีวิตอยู่ดีๆบทจะตายก็ตายเฉย ยากจะรับได้
ในสายตาของฉิวฉิว พ่อเป็นคนที่ทุเรศที่สุด เขาอุตส่าห์เตรียมใจไว้แล้วว่าจะทำตัวเป็นศัตรูกับพ่อไปตลอดชีวิต จะแสดงให้พ่อเห็นให้ได้ว่าชีวิตเขามีความสุข
แต่ทำไมอยู่ๆตาแก่คนนี้ก็จะมาด่วนจากไปล่ะ?
มีบางอย่างตกลงไปในแก้วเหล้าทำเหล้ากระเพื่อม
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนยื่นกระดาษทิชชู่ให้เขาถึงได้รู้ว่าตัวเองร้องไห้แล้ว
“ฉันมีแต่ความเกลียดชังให้เขาแล้วทำไมฉันถึงร้องไห้ให้เขาล่ะ?”
“ใครจะไปรู้ สัญชาตญาณของคนบางครั้งก็ทำพวกผู้เชี่ยวชาญไม่เข้าใจเหมือนกัน นายคิดมากไปก็มีแต่จะทำให้เป็นทุกข์ ตอนนี้ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ”
เสี่ยวเชี่ยนเคยรับเคสบำบัดจิตใจก่อนตายมาหลายเคส แต่บางเคสไม่ได้พุ่งเป้าไปที่คนตาย แต่พุ่งเป้าไปที่คนอยู่
หลายคนพอคนใกล้ตัวจากไปนานแล้วก็ยังทำใจไม่ได้ จิตใจจะรู้สึกโหวงๆเป็นเวลานาน เสี่ยวเชี่ยนก็ต้องทำการถมที่ว่างในใจนั้น
ความรักความเกลียดชังทั้งหลายยังอยู่เหนือความเป็นความตายไม่ได้ พอถึงช่วงใกล้ตายกลับเพิ่งพบว่า ทุกอย่างมันไม่สำคัญแล้ว
คืนนี้ฉิวฉิวคุยกับเสี่ยวเชี่ยนมากมาย และก็ดื่มไปมากด้วย คำพูดที่ทำเสี่ยวเชี่ยนเศร้าที่สุดก็คือคำพูดที่ฉิวฉิวพึมพำออกมาตอนเมาแล้ว
“ชีวิตคนเรา มันทั้งสั้นและก็ยาวเกินไป บางครั้งฉันก็อยากให้แค่กระพริบตาเวลาก็ผ่านไปเป็นสิบๆปี ฉันได้จูงมือเดินเล่นกับคนที่ฉันชอบในสวนสาธารณะ แก่ไปพร้อมกัน รำลึกความหลังไปด้วยกัน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเวลาผ่านไปหนึ่งวันแต่ราวกับหนึ่งปี? บางครั้งฉันเกลียดที่เวลาผ่านไปเร็วเกินไป ทำให้ฉันเอาคืนตาแก่ที่ฉันเกลียดนั่นไม่ได้ บางครั้งฉันเกลียดที่เวลาเดินช้าเกินไป ทำให้ฉันต้องสูญเสียคนที่ฉันชอบ ต้องมารับสภาพทั้งหมดนี้ ประธานเชี่ยน ประธานเชี่ยนคนเก่ง บอกฉันทีสิว่าโลกนี้มีวิธีที่ทำให้มันสมดุลไหม มีไหม…”
“มี นายทำตามที่หัวใจนายไม่รู้สึกผิดต่อไป สักวันหนึ่งนายจะเข้าใจว่า คนเรามีชีวิตอยู่ก็แค่การไม่ทำร้ายคนอื่น ขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวเองมีความสุข ก็แค่นั้น”
ฉิวฉิวที่เป็นคนคอแข็งมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขากินจนเมามาย สุดท้ายประธานเชี่ยนก็ให้คนหามเขาไปส่งที่โรงพยาบาล
เสี่ยวเชี่ยนรินเหล้าที่เหลือเต็มแก้ว มองที่นั่งที่ว่างเปล่า แววตาเหมือนกำลังคิดหนัก
“ออกมาเถอะ”
ห้องนี้มีห้องเล็กๆซ่อนอยู่ ประตูถูกล็อคไว้
เสี่ยวเชี่ยนพูดจบประตูก็เปิดออก ไป๋จิ่นเดินออกมาด้วยสภาพน้ำตานองหน้า ประธานเชี่ยนนั่งดื่มกับฉิวฉิวเกือบสี่ชั่วโมง เธอเองก็อยู่ในนั้นเกือบสี่ชั่วโมงเหมือนกัน
“นั่งสิ” เสี่ยวเชี่ยนชี้ไปตรงที่นั่งของฉิวฉิวเมื่อครู่
แก้วเหล้ายังอยู่ที่เดิม ภายในแก้วของฉิวฉิวยังมีเหล้าที่เขากินเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง ไป๋จิ่นไม่พูดอะไรยกแก้วนั้นดื่มจนหมด
คนที่ดื่มเหล้าไม่เป็นฝืนดื่มมันลงไปแล้ว
“ได้ยินหมดแล้วใช่ไหม?”
“อืม ได้ยินแล้ว”
“คิดจะทำไงต่อ?”
“ฉันจะไปประเทศE ตอนนี้เขาไม่อยากเจอฉันแล้ว แต่หากเขายังมีชีวิตอยู่ ฉันยังไม่ตาย สักวันเราก็ต้องได้พบกันอีก”
“อยากให้ฉันไปรักษาพ่อเขาไหม? เธอก็รู้ว่าถ้าฉันเข้าไปแทรกแซง ระยะเวลาที่พวกเธอสองคนจะได้พบกันอีกมันก็จะยืดออกไป”
“รักษาเถอะ ในใจของเขาคงใส่หลุมศพไม่ไหว ฉันก็เหมือนกัน เธอช่วยยืดอายุพ่อเขาหนึ่งปี ฉันรอเขาหนึ่งปี เธอช่วยยืดอายุพ่อเขาได้สิบปี ฉันก็รอเขาสิบปี พ่อเขาจะอยู่อีกกี่สิบปีฉันก็…”