แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1066 พี่สะใภ้ใหญ่จะตัดตรงไหน
“ที่รัก?!”
พี่ใหญ่ไม่คิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะมาหา
วันนี้มีผ่าตัดไม่ใช่เหรอ?
พี่สะใภ้ใหญ่สะพายกระเป๋าเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย เธอเหลือบมองอวี๋หมิงหลางที่นั่งแทะลูกท้ออยู่บนโต๊ะ อวี๋หมิงหลางกลืนลูกท้ออย่างยากลำบากเกือบสำลัก
“เอ่อพี่สะใภ้ใหญ่ ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระขอตัวก่อนนะครับ”
หันตัวเดินหนี—เรื่องนี้ทำกันอย่างลับๆพี่สะใภ้ใหญ่มาได้ไงเนี่ย?!
“ออกไปแล้วต่อไปถ้าเจอพี่ไม่ต้องเรียกพี่สะใภ้ใหญ่นะ”
อวี๋หมิงหลางรีบยืนตัวตรงทันที
พี่สะใภ้ใหญ่ชี้หน้าเขา “นายรวมหัวกับพี่ใหญ่ปิดบังพี่เหรอ?”
“เจาเจา ฟังผมก่อน—” พี่ใหญ่รีบอธิบาย แต่ถูกพี่สะใภ้ใหญ่ถลึงตาใส่จึงไม่กล้าพูดต่อ
“หุบปากไปเลยนะ! เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องของคุณ! น้องเล็ก พี่คิดมาตลอดว่าเราเป็นคนที่รู้จักคิดมากที่สุด ปรากฏว่าพวกนายสองพี่น้องมานั่งดูเรื่องสนุกด้วยกัน เห็นพี่เป็นคนนอก ตอนนั้นที่นายไปมีเรื่องพี่ก็เป็นคนช่วย แล้วตอนนี้นายรวมหัวกับพี่ใหญ่ทำกับพี่แบบนี้เหรอ? หัวใจคนเรามีเลือดมีเนื้อ พี่เห็นเราเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆแต่ตอนนี้นายกับเขาทำเหมือนพี่เป็นคนนอก?”
หยูเจาเจาน้ำตาคลอเบ้า ความรู้สึกของเธอในตอนนี้คือเหมือนสูญเสียทั้งความรักและความผูกพัน เกิดเรื่องขนาดนี้กลับปิดบังเธอไว้ เห็นเธอเป็นคนนอก
“เจาเจามันไม่ใช่อย่างนั้น ฟังผมอธิบายนะ—” พี่ใหญ่ร้อนใจ แต่ถูกพี่สะใภ้ใหญ่ชี้หน้า
“หุบปาก! ฉันถามคุณหรือยัง?!”
พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ใช่คนไม่รู้จักหนักเบา สาเหตุที่เธอไม่คุยกับพี่ใหญ่แต่ชี้หน้าว่าอวี๋หมิงหลางก่อน อันที่จริงเพราะต้องการโยนหินถามทาง และที่มากกว่านั้นก็คือตอนนี้เธอยังรับไม่ได้ที่พี่ใหญ่นอกใจ ถ้าให้เขาเป็นคนพูดเองเธออาจล้มทั้งยืน
พี่ใหญ่เงียบแต่ในใจร้อนเป็นไฟ แย่แล้วๆๆ จบเห่แน่
อวี๋หมิงหลางที่ปกติชอบทำหน้าทะเล้น เวลานี้เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“พี่สะใภ้ใหญ่ครับ ไม่ใช่เพราะผมเห็นพี่เป็นคนนอกเลยปิดบัง แต่เพราะพี่สำคัญกับพี่ใหญ่มาก สำคัญกับครอบครัวของเรามากก็เลยไม่ได้บอกพี่ครับ”
สมองของอวี๋หมิงหลางประมวลความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ปากก็ยังไม่อยู่เฉย
“อันที่จริงพวกเราอยากรอจัดการเรื่องให้เสร็จก่อนแล้วค่อยบอกพี่ ไม่เชื่อพี่ลองดูเมียผมที่ออกหน้าจัดการให้ด้วยตัวเองสิครับ พี่ไม่เชื่อคนแซ่อวี๋อย่างพวกเราแล้วไม่เชื่อเสี่ยวเชี่ยนด้วยเหรอครับ?”
อวี๋หมิงหลางเอียงตัวให้พี่สะใภ้ใหญ่ดูกล้องวงจรปิด พี่ใหญ่มัวแต่เช็ดเหงื่อ ตอนนี้เขาตัวชาไปหมดแล้ว
ในจอทีวีเสี่ยวเชี่ยนเริ่มใช้วิธีพูดโน้มน้าวจิตใจ ค่อยๆทำให้เฝิงม่านม่านระบายความในใจออกมา
“ภรรยาของท่านประธานเป็นอะไรกับคุณเหรอคะ?”
“เขาเป็นน้าของฉัน”
“งั้นท่านประธานก็มีศักดิ์เป็นน้าเขยคุณสิคะ?”
สามารถถามได้ถึงระดับนี้ก็แสดงว่าสนทนาไปได้ลึกในระดับหนึ่งแล้ว พูดเพื่อให้อีกฝ่ายไว้ใจได้มากพอแล้ว ถ้าเมื่อกี้เสี่ยวเชี่ยนปูทางมาไม่ดีคงไม่สามารถดึงดูดความสนใจไว้ได้ขนาดนี้
“ใช่ ถ้าตามลำดับญาติเขาเป็นน้าเขยของฉัน” เฝิงม่านม่านตอบอย่างไม่ได้ระแวงอะไร
การโน้มน้าวเมื่อครู่ที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจของเสี่ยวเชี่ยนได้ผลแล้ว ตอนนี้บทสนทนาของทั้งคู่เข้าสู่ขั้นตอนการบำบัดจิต เพียงแต่เฝิงม่านม่านไม่รู้ตัว เธอคิดแค่ว่าตัวเองกำลังระบายความอัดอั้นตันใจออกมาส่วนหนึ่ง
“มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้าเขยตัวเองไม่รู้สึกกดดันเหรอคะ?”
“กดดันอะไร? โลกนี้น่ะใครปรับตัวได้ดีก็อยู่รอด ถึงผู้หญิงคนนั้นจะเป็นน้าฉัน แต่ไม่เคยมาให้ฉันกินให้ฉันใช้ ตัวเองรวยแล้วก็ไม่สนคนอื่น แล้วทำไมฉันต้องสนเขาด้วย?”
คำพูดนี้เข้าหูคนที่ดูผ่านหน้าจออย่างชัดเจน พี่สะใภ้ใหญ่โกรธจัด
พี่ใหญ่ทุบโต๊ะ “ไม่ต้องถามแล้ว ไม่ว่าเด็กในท้องจะลูกคนลูกผีก็ลากไปทำแท้งซะ จากนั้นก็ลากตัวไปทิ้งในภูเขา ไม่ต้องให้กลับมาอีก”
พี่ใหญ่ยังจำตอนที่ภรรยาเขาพาผู้หญิงคนนี้มาแนะนำให้รู้จักได้ บอกว่าตอนที่เด็กคนนี้เพิ่งคลอดเธอเคยอุ้มเองกับมือ อายุไม่กี่ขวบก็พาไปดูหนัง แถมเด็กคนนี้ยังฉี่รดกระโปรงเธอด้วย มีความทรงจำดีๆร่วมกันมากมาย
แต่ไม่เคยคิดเลยว่าในสายตาของผู้หญิงคนนี้ภรรยาเขาจะเป็นศัตรูที่ ‘ไม่สน’ คนอื่น ไม่น่ามองเป็นญาติอีกต่อไป
“ไม่ได้” อวี๋หมิงหลางกับพี่สะใภ้ใหญ่พูดพร้อมกัน เสี่ยวเฉียงมองพี่สะใภ้ใหญ่ สีหน้าของเธอดูแย่มาก แต่ก็ยังควบคุมอารมณ์ได้
“ทำไมลูกเชี่ยนของผมถึงได้เสนอตัวลงมือเอง? นั่นก็เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มีตระกูลอื่นอยู่เบื้องหลังหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าพี่ใช้วิธีรุนแรงทำผิดกฎหมาย เกิดคนที่อยู่เบื้องหลังจับจุดอ่อนได้ ไม่เท่ากับเข้าทางคนพวกนั้นเหรอ? ถ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของพี่ พี่ทำแบบนั้นไปไม่เท่ากับเป็นการยอมรับเหรอว่านั่นลูกของพี่?”
คำพูดของเสี่ยวเฉียงทำให้พี่ใหญ่อารมณ์เย็นลง สีหน้าพี่สะใภ้ใหญ่ก็ผ่อนคลายลง
เวลานี้เธอยอมเชื่อคำพูดของอวี๋หมิงหลางมากกว่าเผชิญหน้ากับความจริง
หลายปีมานี้พี่ใหญ่เจอเรื่องต่างๆมาสารพัด แผนระดับนี้ไม่เท่าไรหรอกสำหรับเขา แต่อาจเป็นเพราะครั้งนี้พี่สะใภ้ใหญ่อยู่ข้างกายด้วยทำให้เขาสติหลุด ถึงได้พูดอะไรที่ขาดการยั้งคิดแบบนั้นออกไป
“น้องเล็กพูดถูก ห้ามบุ่มบ่าม มันจะทำให้ฝ่ายนั้นได้ใจ” พี่สะใภ้ใหญ่พูด พี่ใหญ่มองหน้าภรรยาตัวเองด้วยสีหน้าตกใจ
“มีคนส่งข้อความภาพมา ฉันถึงได้มาที่นี่ คุณเอาไปสืบจากเบอร์ได้” พี่สะใภ้ใหญ่ยื่นโทรศัพท์มือถือให้
พี่ใหญ่รับมาดู มีคนส่งรูปถ่ายผลตรวจตั้งครรภ์ของเฝิงม่านม่านเป็นข้อความภาพให้พี่สะใภ้ใหญ่!
ระยำจริงๆ!
อยากให้ครอบครัวเขาลุกเป็นไฟใช่ไหม?
“ดูเหมือนคนพวกนี้จะส่งไปให้พ่อแม่พวกเราด้วย ฉันอยู่บ้านพอดี เห็นพ่อกับแม่ปลูกดอกไม้อยู่นอกบ้าน วางโทรศัพท์ไว้ในบ้านฉันเลยลบทิ้งหมด”
โทรศัพท์สามเครื่องดังพร้อมกัน พอพี่สะใภ้ใหญ่ดูโทรศัพท์ของตัวเองเสร็จก็รีบไปดูของพ่อแม่สามี ตามคาด ได้รับข้อความเหมือนกัน เธอลบเสร็จก็รีบมุ่งตรงมาหาสามี
ต่อให้สามีนอกใจเธอก็ต้องมาถามด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้คนอื่นมาเสี้ยม
“ที่รักคุณฉลาดมาก!” พี่ใหญ่ซึ้งใจสุดๆ พอเกิดเรื่องภรรยาสิถึงเป็นคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างแท้จริง!
“ยังไม่ต้องรีบขอบคุณฉัน ฉันก็แค่ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ในสายตาฉันคุณยังไม่พ้นผิด ถ้าเสี่ยวเชี่ยนพิสูจน์ออกมาได้ว่าเป็นตัวคุณเองที่ไม่ควบคุมอวัยวะท่อนล่างให้ดี—” พี่สะใภ้ใหญ่หยิบของบางอย่างออกมาวางบนโต๊ะ
พี่ใหญ่ถึงกับขนลุก
“ที่รักจ๊ะ นี่มันกรรไกรที่คุณไว้ใช้ผ่าตัดไม่ใช่เหรอ? คุณเอามาทำอะไรที่นี่”
พี่สะใภ้ใหญ่หยิบกรรไกรชี้ไปที่พี่ใหญ่ “ถ้าหักหลังคู่ชีวิตจริง ลูกเป็นของฉัน ทรัพย์สมบัติแบ่งให้ลูกทั้งสองคน ฉันจะไม่เอาเงินของคุณสักบาท แต่ของที่เคยเป็นของฉัน ฉันจะตัดเอามันไปด้วย! ความผูกพันของสามีภรรยาที่มีมาหลายปีฉันจะตัดให้ขาดสะบั้น ฉันเสียสละให้คุณตั้งเท่าไร ตัดให้ขาดทีเดียวจบ ไม่ต้องติดค้างกันอีก!”
พี่ใหญ่ตกใจรีบหุบขาลงอัตโนมัติ ที่รักคุณจะตัดตรงไหน!!!
“อุ๊บ!” มันควรเป็นช่วงเวลาตึงเครียด แต่อวี๋หมิงหลางกลับหลุดขำ
พี่สะใภ้ใหญ่จะจับพี่ใหญ่ตอนเป็นขันทีเหรอ?
หยูเจาเจาถลึงตาใส่อวี๋หมิงหลาง อวี๋หมิงหลางรีบกลั้นหัวเราะแล้วทำหน้าเครียดเปลี่ยนเรื่องคุย