แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1089 ไม่ได้จิตใจสูงส่งอย่างที่คิด
ประธานเชี่ยนยอมรับว่าตัวเองคิดอะไรแบบเด็กๆ แต่ด้วยนิสัยมันก็เลยกลายเป็นแบบนี้
เธอเกลียดเจ้าโฮ่งชาเขียวตัวนี้มันก็คืออารมณ์ส่วนตัว แต่พอเห็นหมาทึ่มของตัวเองถูกรังแกมันก็อีกอารมณ์หนึ่ง
ไม่ว่าเสี่ยวเชี่ยนจะยุให้คนสวยเอาคืนยังไง คนสวยก็ทำตัวนิ่งไม่ขยับ แสร้งทำเป็นหมาเชื่องไม่หือไม่อือ
ส่วนเจ้าเปี๊ยกก็เหมือนจะรู้สึกได้ถึงความหงอของคนสวย เห่าใหญ่เหมือนได้ใจ แทบอยากจะกระโจนเข้าไปกัด คนสวยยืนอยู่ด้านหลังเสี่ยวเชี่ยนทำตัวเป็นอากาศ
เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองรอบๆ เห็นเจ้าของหมายังไม่กลับมา ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวชี้หน้าดุลูกหมาตัวนั้น
“หุบปากไปเลยนะไอ้เปี๊ยก!”
พวกสัตว์ล้วนมีสัญชาตญาณในการแยกแยะอารมณ์ของคน โดยเฉพาะพวกสุนัข หมามักจะสังเกตอารมณ์ของมนุษย์เป็น มันเห็นคนสวยทำตัวอ่อนแอก็เลยรังแกใหญ่ แต่พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนเอาจริงก็หงอทันที
เสี่ยวเชี่ยนชี้หน้าลูกหมาพร้อมพูดด้วยความโมโห “ถ้าแกยังกล้ารังแกหมาฉัน ฉันจะจับแกไปทำต้มยำเข้าใจไหม?!”
เจ้าของลูกหมาเดินกลับมาพร้อมถุงพลาสติคในมือ เห็นลูกหมาของตัวเองยืนเชื่องอยู่ตรงเสาไฟ
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มหวานให้
“พี่สะใภ้ขอบคุณมากนะคะที่ดูมารวยให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องแค่นี้เอง”
สะใภ้ทหารคนนั้นปล่อยหมาตัวเองให้เดินอย่างอิสระ “มารวย กลับบ้านกันเถอะ~”
ลูกหมาตัวนั้นวิ่งหน้าตั้งไม่หันกลับมามองอีก ถ้ารักชีวิตก็อยู่ให้ไกลจากคนใจร้ายซะนะ
เจ๊เชี่ยนผู้ทรงอิทธิพลถ้าโมโหขึ้นมาแม้แต่สัตว์ก็ไม่ปล่อยไปง่ายๆ
พอกลับถึงบ้านปิดประตูเรื่องแรกที่เสี่ยวเชี่ยนทำคือดุคนสวย เธอชี้หน้ามันด้วยความโมโห “ตัวก็โตทำไมถึงได้ขี้กลัวแบบนี้? ลูกหมาตัวกะเปี๊ยกแค่นั้นกล้าให้มันมาหยาม ฟันน่ะมีไว้ทำไร?! ขู่มันกลับไปไม่เป็นเหรอ?!”
คนสวยมีท่าทีดีต่อเสี่ยวเชี่ยนมากกว่าเมื่อก่อน พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนโมโหมันจึงแลบลิ้นจะเลียมือเสี่ยวเชี่ยน แต่ถูกเสี่ยวเชี่ยนดันหัวออกด้วยความรังเกียจ
“อย่ามาทำตีสนิท! ใครไม่ทำฉันฉันก็ไม่ทำใคร หมาก็เหมือนกัน! มันดีกับแก แกจะดีกับมันกลับก็ได้ แต่นี่มันแยกเขี้ยวเห่าใส่ แกก็ควรขู่มันกลับไป!”
ท่าทางของเสี่ยวเชี่ยนเหมือนกับผู้ปกครองที่ลูกตัวเองถูกรังแกเลยเรียกมาปิดประตูสั่งสอน
คนสวยหมอบฟัง เอาหัวแนบพื้น
“เห็นแกเป็นแบบนี้แล้วฉันโมโห!”
เดี๋ยวนะ ทำไมภาพเหตุการณ์นี้มันคุ้นๆ?
เสี่ยวเชี่ยนลองนึก ทันใดนั้นก็นึกอะไรออก
ดูเหมือนเมื่อชาติก่อนเธอก็ดุเสี่ยวเหวยแบบนี้ แต่ลูกสาวเธอไม่ใช่คนที่จะยอมปล่อยให้ใครมารังแกง่ายๆ เด็กคนนั้นโหดมาก เอาชนะศัตรูได้จนในโรงเรียนไม่มีใครกล้ามาหาเรื่อง ใครกล้าล้อว่าไม่มีพ่อเธอก็กล้าตบให้หน้าหัน เสี่ยวเชี่ยนจึงโดนครูที่ปรึกษาของลูกสาวเรียกไปพบด้วยเรื่องแบบนี้บ่อย
ตอนนั้นเธอก็ชี้หน้าดุลูกสาว แต่การดุด่าก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
แต่เวลานี้ในบ้านมีสมาชิกที่ถูกรังแกเพิ่มเข้ามา เสี่ยวเชี่ยนจึงนึกถึงลูกสาวที่ไม่ยอมถูกใครเอาเปรียบ
“ถ้าแกเอาอย่างพี่เหวยของแกได้สักเสี้ยวนึงชีวิตก็ไม่น่าสงสารขนาดนี้หรอก หมาโง่ อยู่ข้างนอกอย่าปล่อยให้ใครเอาเปรียบ ใครรังแกก็เล่นงานมันกลับเข้าใจไหม?!
“โฮ่ง…”
ไม่รู้ว่าคนสวยพูดอะไร แต่เสียงของมันต่างจากเมื่อก่อน เสี่ยวเชี่ยนยื่นมือไปจะลูบหัวมัน ช่วงสองวันมานี้มันไม่ยอมให้เธอลูบ เธอคิดว่าครั้งนี้มันก็จะหลบอีก แต่เปล่าเลย มันยอมให้เธอลูบแต่โดยดี
วันนี้คนสวยกินอาหารได้ค่อนข้างเยอะ คล้ายกับเปิดใจยอมให้เสี่ยวเชี่ยนให้อาหารแล้ว ส่วนเพราะอะไรเสี่ยวเชี่ยนเองก็ไม่รู้
จากเรื่องนี้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนพบว่าคนสวยขี้ขลาด
ออกไปข้างนอกถูกลูกหมารังแกยังไม่เท่าไร แต่ถูกแมววิ่งไล่เสี่ยวเชี่ยนทนไม่ได้
เธออยากถามอวี๋หมิงหลางจริงๆว่านี่ใช่สุนัขทหารที่เคยมีผลงานช่วยตรวจจับยาเสพติดจริงเหรอ ทำไมถึงได้ซื่อบื้อแบบนี้
แต่ประเด็นคือเธอต้องติดต่ออวี๋หมิงหลางให้ได้ก่อน
นี่เขาก็ไปได้ห้าวันแล้ว
นอกจากที่โทรมาครั้งนั้นแล้วเขาก็ไม่มีข่าวคราวอีก
ช่วงสองวันมานี้เสี่ยวเชี่ยนเคราะห์ร้าย ถึงคนสวยจะไม่ดื้อกับเธอแล้ว แต่เท้าเธอได้รับบาดเจ็บ ถูกรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่งปั่นจักรยานมาชนเธอตกร่องน้ำ ทำให้ข้อเท้าแพลง
รุ่นน้องคนนั้นพอเห็นว่าตัวเองชนจอมเทพของมหาวิทยาลัยก็ช็อคมากพูดอะไรไม่ออก กลายเป็นเสี่ยวเชี่ยนต้องมาปลอบว่าอย่าคิดมาก
เสี่ยวเชี่ยนเดินกระโผลกกระเผลกกลับบ้าน เท้าบวมเป็นลูกหมั่นโถว
เรื่องซวยยังไม่หมด พอเธอกลับถึงบ้านนั่งดื่มน้ำไปได้อึกหนึ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ลูกเชี่ยน”
น้ำเสียงของอวี๋หมิงหลางดูขรึมกว่าปกติมาก ไม่เจอกันหลายวันเสี่ยวเชี่ยนไม่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเขา เธอพูดด้วยความดีใจ
“กลับเมื่อไร?”
ช่วงหลายวันมานี้คดีไม่มีความคืบหน้า หรือเขาจะจับตัวคนร้ายได้แล้ว?
“ผมมีเรื่องจะบอกคุณ ผมมาขอร้องคุณในฐานะเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง คุณจะตอบตกลงหรือปฏิเสธก็ได้”
พอได้ยินเขาพูดจริงจังแบบนี้ เสี่ยวเชี่ยนก็เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี
“ว่ามา”
“พวกเราตามรอยผู้ต้องหาคนนั้นเจอแล้ว แต่มันจับหวางเสี่ยวหงเป็นตัวประกัน”
“จับ…ใครนะ?!”
เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าตัวเองฟังผิด
หวางเสี่ยวหงไม่ได้ถูกพี่ใหญ่ส่งไปที่อื่นแล้วเหรอ?
ครอบครัวนั้นสมรู้ร่วมคิดกับคนนอกวางแผนทำลายพี่ใหญ่ หลังจากถูกพี่ใหญ่กับเสี่ยวเชี่ยนรู้ก็โดนเล่นงานกลับจนไม่เหลือชิ้นดี พี่ใหญ่ยังเหลือพื้นที่ให้ครอบครัวหวางได้หายใจ แต่เงื่อนไขคือห้ามเหยียบเข้ามาในมณฑลนี้อีก หวางเสี่ยวหงห้ามมาเจอพ่านพ่านอีก
คนที่ออกไปจากชีวิตแล้วทำไมอยู่ๆถึงกลายเป็นตัวประกันของผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ได้ล่ะ?
แล้วอวี๋หมิงหลางโทรมาในเวลานี้บอกว่ามีเรื่องขอร้องในฐานะเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง มันคือเรื่องอะไรกัน?
“ผู้ต้องหารายนี้หัวหมอกว่าที่เราคิด ผมตามสืบร่องรอยของมันได้แล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะจับหวางเสี่ยวหงเป็นตัวประกัน แถมยังมีเงื่อนไขต่อรอง”
อวี๋หมิงหลางเคยเจอคนร้ายที่เลวสุดๆมามาก แต่คนนี้ร้ายสุด ฉลาดสุด สติปัญญาสูง แถมยังรู้จักต่อรอง
“เงื่อนไขที่มันต้องการเกี่ยวข้องกับฉันเหรอ?”
“ใช่ มันอยากคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ถ้าคุณไม่ปรากฏตัวในเวลาที่กำหนดมันจะฆ่าหวางเสี่ยวหง เรื่องนี้ผมไม่บังคับคุณ คุณจะมาหรือไม่มาก็ได้”
อวี๋หมิงหลางมั่นใจกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าช่วยคุ้มครองความปลอดภัยให้เสี่ยวเชี่ยนได้ แต่เขาไม่อยากเรียกร้องอะไรจากเธอ
ก็เหมือนกับที่เขาแอบเลี้ยงคนสวยลับหลังเธอ เขาทำเรื่องที่ตัวเองคิดว่าถูก แต่กลับไม่เอามาตรฐานของตัวเองไปบังคับเสี่ยวเชี่ยน ซึ่งนี่ก็เป็นจุดที่เสี่ยวเชี่ยนชื่นชมและชอบเขามากที่สุด
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนควรปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน แต่อวี๋หมิงหลางก็ยังคงให้อิสระในการตัดสินใจแก่เสี่ยวเชี่ยนอย่างเต็มที่ เขาไม่มีทางบังคับให้เสี่ยวเชี่ยนเสียสละเพียงเพราะเธอเป็นภรรยาของเขา และก็ไม่มีทางให้เธอทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
“ฉันไม่ไป”
เสี่ยวเชี่ยนปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เธอไม่ใช่คนใจกว้างดั่งแม่น้ำ จะหาว่าเธอเห็นแก่ตัวก็ตามสบาย
หวางเสี่ยวหงเคยทำร้ายคนในครอบครัวเธอตั้งเท่าไร ตอนนี้จะให้เธอไปช่วยผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ได้จิตใจสูงส่งขนาดนั้น