แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1091 โต้กลับอย่างสบายๆ
“พูดจาเพ้อเจ้อ! ฉันไม่ได้ป่วย!” สีหน้าของหลิวเหมียวเหมือนเจอผี
“อืม ถ้าไม่ยอมรับว่าป่วยก็แสดงว่าอาการของคุณหนักแล้ว เห็นแก่ที่เราเคยร่วมงานกันฉันจะลดให้หน่อยก็แล้วกัน”
“ฉันไม่ได้โทรหาเธอเพราะเรื่องนี้! ฉันโทรมาเพื่อขอให้เธอไปช่วยเจรจากับคนร้าย ถ้าเธอยังมีจรรยาบรรณในอาชีพเหลืออยู่บ้างก็ควรรีบมา”
“ถ้าคุณยังมีอีคิวเหลืออยู่บ้างคงจะไม่พูดจาด้วยน้ำเสียงอวดดีสร้างความอึดอัดให้อีกฝ่ายแบบนี้ การศึกษาของคุณบวกกับนิสัยแบบนี้มันจะทำให้ชีวิตคู่ของคุณในอนาคตมีปัญหา เว้นเสียแต่คุณจะหาคนที่ทนมือทนเท้ามาเป็นสามีได้ ดังนั้นรุ่นพี่คะ ถ้าว่างถึงขนาดเอาเรื่องจรรยาบรรณมาข่มขู่ให้ฉันทำในสิ่งที่ไม่อยากทำได้ ไม่สู้ไปนั่งหาวิธีปรับปรุงนิสัยจะดีกว่านะคะ” เสี่ยวเชี่ยนโต้กลับอย่างสบายๆ
มีลูกน้องอวี๋หมิงหลางแอบยกนิ้วโป้งให้
นี่สิพี่สะใภ้ตัวจริง พูดจาเมตตากว่าหัวหน้าปากร้ายของพวกเขาอีก
“คนอย่างเธอมาเป็นหมอได้ไง? ในใจไม่มีจรรยาบรรณแพทย์หลงเหลืออยู่เลยเหรอ? ความเย็นชาของเธอในตอนนี้เห็นคนเดือดร้อนแล้วไม่ช่วย ถ้าวันหน้าเธอซวยเจอกับเรื่องไม่ดีเข้า ยังจะมีคนยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอหรือเปล่า?” หลิวเหมียวเถียงสู้เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ ทำได้แค่โจมตีจากทางอื่น
“ข้อแรก คุณกำลังออกนอกประเด็น ฉันมีสิทธิ์เป็นหมอหรือไม่นั้นมันเป็นเรื่องของแพทยสภาที่เขาออกใบรับรองให้ฉัน คำพูดของคุณไม่มีประโยชน์ ข้อสอง เรื่องไม่ดีที่คุณพูดถึง ผู้ชายของฉันไม่มีทางปล่อยให้ฉันตกอยู่ในอันตรายหรอกค่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนไม่เคยเถียงแพ้ใคร
ขี้เกียจจะเสวนากับหลิวเหมียวต่อ ฟังจากเสียงเสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าอีกฝ่ายเปิดลำโพง จึงเรียกคนสวยเข้ามา
“มานี่คนสวย ทักทายเพื่อนๆหน่อยเร็ว”
คนสวยยังไว้หน้าเสี่ยวเชี่ยน มันเห่าใส่โทรศัพท์
เดิมอวี๋หมิงหลางมีสีหน้าเคร่งเครียด พอได้ยินเสียงคนสวยก็ผ่อนคลายลง
ท่าทางเมียเขาจะเข้ากันได้ดีกับคนสวย
“เรียกหมามาเห่าคิดจะดูถูกฉันเหรอ?” หลิวเหมียวไม่เข้าใจสถานการณ์จึงคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนจงใจหักหน้าเธอ
“การศึกษาสูงไม่ได้หมายความว่าจะมีความสามารถ หวังว่าต่อไปคุณจะตั้งใจพัฒนาตัวเองในเรื่องงาน ไม่ใช่เอาแต่จ้องจะจับผู้ชายของคนอื่น เอาล่ะ คุณผู้หญิงที่สร้าง ‘พลังบวก’ ช่วยกอบกู้โลก สู้ต่อไปนะคะ บาย”
คำพูดทิ้งทวนของเสี่ยวเชี่ยนทำให้อวี๋หมิงหลางรวมถึงทหารคนอื่นต่างอึ้งตามๆกัน
นอกจากอวี๋หมิงหลางแล้ว คนอื่นๆต่างคิดได้คำเดียว โวะ!
เทพชัดๆ พี่สะใภ้เป็นเทพชัดๆ!
สามารถวิเคราะห์คนได้อย่างแม่นยำจากคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค แถมยังตอบโต้ได้อย่างไม่เหนื่อย!
นักวิจัยจบสูงเมื่อมาเจอเธอก็กลายเป็นเพียงแค่เด็กประถม
หลิวเหมียวที่ถูกวางสายใส่โกรธหน้าเขียว คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนเหมือนสะกิดจุดประสงค์แอบแฝงของเธอ ทำให้เธอเสียหน้าแทบอยากปาโทรศัพท์ทิ้ง แต่ถูกทหารของอวี๋หมิงหลางแย่งกลับไปก่อน
“นี่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของหัวหน้าครับ”
“ผู้หญิงที่ไม่รู้จักกาลเทศะคนนี้ก็แค่มีคนใหญ่โตคอยหนุนหลังไม่ใช่เหรอ การที่เขาพูดจากับฉันแบบนี้ล้วนเป็นเพราะจิตใจที่อิจฉาริษยา ในมุมมองทางจิตวิทยา เขาจะต้องอิจฉาในความสำเร็จของฉันอย่างแน่นอน เพราะในทางทฤษฎี ความอิจฉามีสาเหตุมาจากการแข่งขันในแวดวงเดียวกัน ข้อได้เปรียบของเขาถูกฉันทำลายก็เลยมีสภาพจิตใจแบบราชันย์วานร คิดจะล้างแค้นฉัน”
หลิวเหมียวจงใจพูดให้ซับซ้อน อีกทั้งยังใช้คำเฉพาะอย่าง ‘จิตใจราชันย์วานร’[1] ก็เพื่ออยากให้ดูเหมือนเสี่ยวเชี่ยนอิจฉาเธอ
ตามคาด อวี๋หมิงหลางที่ก้มหน้าอยู่เงยหน้ามองเธอแล้ว แต่ไม่ใช่สายตาชื่นชม เป็นสายตาดูถูก
“เขาอิจฉาคุณ? หึหึ นี่เป็นเรื่องน่าขำที่สุดที่ผมได้ยินมาในปีนี้เลยนะ”
เมียของเขาบุคลิกดี การงานเด่น อีกทั้งยังมีสามีดีๆที่รักเธอมาก พาออกไปไหนก็ไม่มีใครเทียบได้ ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าจริงๆที่พูดจาแบบนี้ออกมา
“ก็ใช่น่ะสิ รู้ไหมว่าจิตใจราชันต์วานรคืออะไร?”
หลิวเหมียวไม่ยอมแพ้
“ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร แต่ผมยอมรับอยู่หลักการเดียว คนที่เก่งในสายงานจริงๆมีแต่จะพูดเรื่องที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่ายๆ ต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงฟังก็ยังเข้าใจ เฉินเสี่ยวเชี่ยนเป็นคนแบบนั้น และก็มีแค่คนที่ไร้ความสามารถเท่านั้น ที่ชอบพูดศัพท์ยากๆ ใช้ทฤษฎีที่ซับซ้อนอธิบายเรื่องง่ายๆ”
“คุณ…” หลิวเหมียวถูกอวี๋หมิงหลางตอกกลับจนพูดไม่ออก เธอไม่เคยถูกหักหน้าแบบนี้
อวี๋หมิงหลางขี้เกียจสนใจเธอ กวักมือเรียกลูกน้อง “บอกทางศูนย์วิจัยว่าขอเปลี่ยนคน อย่าเอาคนที่เป็นตัวถ่วงมาทำเราเสียเวลา”
นี่มันหน่วยงานเฮงซวยอะไรกัน ปัญญาชนการศึกษาสูงแต่กลับถูกผู้ต้องหาปั่นหัวทำอะไรไม่ได้ หนีไปต่อหน้าต่อตา จากนั้นยังส่งใครก็ไม่รู้บอกว่าจะมาช่วย ช่วยทำให้พินาศมากกว่า!
“มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันเป็นตัวถ่วง? เฉินเสี่ยวเชี่ยนต่างหากที่ไม่ยอมมาช่วย! คนที่เป็นตัวถ่วงคือเขา!”
เอ๊ะ ทำไมเธอลอยได้?
กว่าหลิวเหมียวจะรู้สึกตัวก็พบว่าตัวเองถูกอวี๋หมิงหลางลากคอออกไปแล้ว!
“ผมยินดีให้คุณไปตรวจสอบ นั่นภรรยาผม เราเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย มีปัญหาไหม?!”
ประตูถูกปิดใส่หน้าหลิวเหมียว ดังสะเทือนแก้วหู
ในหูหลิวเหมียวคล้ายกับมีเสียงของอวี๋หมิงหลางก้องอยู่
สามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย มีปัญหาไหม…
เขาก็ยังคงเข้าข้างเฉินเสี่ยวเชี่ยน…ทันใดนั้นหลิวเหมียวก็ได้สติ เธอเอาแต่แดกดันเสี่ยวเชี่ยนว่ามีคนคอยหนุนหลัง ก็เท่ากับแดกดันอวี๋หมิงหลางไม่ใช่เหรอ เธอนี่มันอีคิวต่ำจริงๆ ล่วงเกินอวี๋หมิงหลางโดยไม่รู้ตัว
ถึงจะมีนักวิจัยคนนี้เป็นตัวถ่วง แต่อวี๋หมิงหลางก็ไม่ได้มัวเสียเวลา ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นเอาตัวไปให้เสี่ยวเชี่ยนทรมานเอง เขาก็ได้วางแผนงานเรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวพวกเราแบ่งเป็นสามทาง หากสถานการณ์จำเป็น พบว่าตัวประกันตกอยู่ในอันตรายก็วิสามัญคนร้ายได้เลย”
ความผิดที่คนร้ายคนนี้ได้ก่อ ยิงทิ้งสิบครั้งก็ยังน้อยเกินไป
“ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆนะครับหัวหน้าใหญ่ จากมุมที่คนร้ายอยู่ไม่เป็นประโยชน์กับพวกเรา หากวิสามัญก็อาจทำให้ตัวประกันตายไปด้วย ถ้าพี่สะใภ้ช่วยมาเบี่ยงเบนความสนใจของคนร้ายก็คงดีนะครับ”
อวี๋หมิงหลางมองแผนที่เงียบๆ เขารู้ว่าทหารคนนี้พูดถูก
คู่ต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่คนธรรมดา สติปัญญาดีจนน่าตกใจ เขาเลือกทำเลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่ออีกฝ่ายไว้แล้วอย่างดี หากคิดจะจัดการคนๆนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
“เคารพการตัดสินใจของหมอเฉิน” อวี๋หมิงหลางยังคงเลือกที่จะแบกรับความกดดันแทนเสี่ยวเชี่ยน
เขาปิดเครื่อง ใส่อุปกรณ์สื่อสาร นี่คือการเตรียมพร้อมที่จะลงมือ
ทันใดนั้นรองหัวหน้าก็ถือโทรศัพท์ภายในมาให้
“หัวหน้าใหญ่ สายของหัวหน้าครับ”
“Oneพูดครับ”
“หัวหน้าOne ดิฉันเฉินเสี่ยวเชี่ยนค่ะ”
เมียจ๋า?!
ทำไมเมียเขาโทรเข้าหน่วยล่ะ แถมยังพูดอย่างเป็นทางการด้วย?
[1] หมายถึงคนที่ชอบเรียกร้องความสนใจ อยากให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ