แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1093 เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุด
“ถ้าแกทำไม่ได้ ฉันจะตัดนิ้วนังนี่แล้วส่งให้แก เอาให้แกรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต แกจะต้องฝันร้ายทุกคืน มันจะตอกย้ำถึงความไม่ได้เรื่องของแก ฮ่าๆๆ!”
“มันบ้าไปแล้ว” อวี๋หมิงหลางด่าด้วยความทนไม่ไหว
นี่คือคนผิดปกติ เมื่อคนที่ไอคิวสูงควบคุมตัวเองไม่ได้ ระดับความเป็นภัยต่อสังคมก็ยากที่จะคาดเดา
“เฉินเสี่ยวเชี่ยน แกไม่อยากช่วยพ่านพ่านเหรอ? ฉันให้เวลาแกสิบวิ สิบ เก้า…”
“ใบ้ให้ฉันหน่อย” เวลานี้เสี่ยวเชี่ยนอยู่บนรถที่ทางฝ่ายทหารส่งมารับแล้วกำลังออกจากหมู่บ้าน
“คนในไบเบิล” คนร้ายใบ้ให้เสี่ยวเชี่ยนจริงๆ แต่ก็ยังไม่หยุดนับถอยหลัง
“สาม สอง—”
“คาอิน” เสี่ยวเชี่ยนตอบในวินาทีสุดท้าย
“ถูกต้อง!”
ทุกคนถอนหายใจโล่งอก แต่ก็ยังแอบสงสัยในใจ
เสี่ยวเชี่ยนตอบได้ง่ายๆได้ไง?
“แกรู้ได้ยังไง ฉันแน่ใจแล้วว่าแกคือเฉินเสี่ยวเชี่ยน”
“คาอินฆ่าพี่น้องตัวเอง ทำไมถึงได้ฆ่า? ก็เพราะพฤติกรรมของตัวเองมันเลวร้าย ส่วนพี่น้องเป็นคนดี นี่ก็คือเหตุผลที่แกฆ่าคน”
“ฮ่าๆๆ! สมกับเป็นฉินเสี่ยวเชี่ยน ถูกต้อง แกเดาถูก”
“สัตว์นรก!” มีคนทนฟังไม่ได้ ด่าออกมา
ปีศาจเลือดเย็น ทำร้ายคนบริสุทธิ์ไปตั้งมากมายเพียงเพราะเหตุผลแค่นี้ ปีศาจกลับชาติมาเกิดจริงๆ
“ตอนนี้แกก็เชื่อแล้วว่าฉันคือเฉินเสี่ยวเชี่ยน ให้เวลาฉันหนึ่งชั่วโมงได้ไหม อีกหนึ่งชั่วโมงฉันกับต้าอีจะไปถึง ฉันอยากคุยกับแกต่อหน้า ระหว่างนี้อย่าเพิ่งทำร้ายหวางเสี่ยวหง”
“เอ๊ะ? แกพูดแค่หวางเสี่ยวหง ทำไมไม่พูดถึงพ่านพ่านด้วยล่ะ?”
“แกไม่มีทางทำร้ายเขา เพราะนั่นเป็นความหวังสุดท้ายของแก” เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างมั่นใจ
“ฮ่าๆ! ได้ เพราะแกเป็นเพียงคนเดียวที่รู้ใจฉันเลยนะเนี่ย ฉันจะรอแก”
อวี๋หมิงหลางปิดโทรโข่งแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถามเสี่ยวเชี่ยน
“มันจะเล่นตุกติกหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก เท่าที่ฉันวิเคราะห์นิสัยคนร้าย ถึงคนๆนี้จะเลวระยำ แต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่รอดแน่วันนี้ คำพูดก่อนตายเชื่อได้อยู่”
ดังนั้นหวางเสี่ยวหงจึงอยู่ในความปลอดภัยชั่วคราว
เสี่ยวเชี่ยนไปเจอกับต้าอีครึ่งทาง ต้าอีดวงตาแดงก่ำ อาการน่าเป็นห่วง เธอเป็นแบบนี้ตั้งแต่ลูกหายไป
จนถึงตอนนี้พี่รองยังไม่รู้เรื่องนี้ เพราะพี่รองกำลังมีภารกิจบิน เป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมนิทรรศการการบินนานาชาติ ตอนนี้ขึ้นฟ้าไปแล้ว บอกเรื่องนี้พี่รองไปเกิดเสียสมาธิตอนบินอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
“พ่านพ่านหายไปตั้งแต่เมื่อไร?”
“เมื่อเช้าตรู่ เมื่อคืนพ่านพ่านไข้ขึ้นสูง พวกเราเลยพาไปให้น้ำเกลือ จากนั้นเขาอยากเข้าห้องน้ำฉันก็เลยพาไป ระหว่างที่เข้าห้องน้ำมีหมาตำรวจเดินเข้าไปด้วย รออยู่นานไม่เห็นมีใครออกมาเลยเรียกคนให้เข้าไปดูแล้วก็เจอหมานอนสลบอยู่ ส่วนพ่านพ่านหายไปแล้ว”
เสี่ยวเชี่ยนลองนึกเรื่องราวทั้งหมดอีกรอบ อวี๋หมิงหลางล้อมคนร้ายไว้นานแล้ว ไม่มีทางหนีออกจากห้องปิดตายนี้ได้ งั้นก็แสดงว่าเขามีคนสมรู้ร่วมคิดอยู่อีก ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าคนๆนี้จะอยู่ในโรงพยาบาล
เสี่ยวเชี่ยนรีบรายงานข้อมูลให้อวี๋หมิงหลางรู้ เพื่อให้เขาใช้ช่วงเวลาที่รอนี้ไปสืบดู
“ประธานเชี่ยน ทำไมพ่านพ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ล่ะ ฉันรู้ว่าเธอมีเรื่องปิดบังฉัน แต่ตอนนี้คนที่หายไปคือลูกฉัน พี่รองก็บินอยู่ติดต่อไม่ได้ ฉันเป็นญาติที่ใกล้ชิดที่สุดของพ่านพ่านตอนนี้ เธอช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังเถอะนะ”
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว หากเสี่ยวเชี่ยนคิดจะปิดบังอีกก็เป็นไปไม่ได้
ถึงก่อนหน้านี้เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากในการช่วยต้าอีจัดการเรื่องนี้ ถ้าไม่มีผู้ต้องหาคนนี้โผล่มา ประธานเชี่ยนก็จัดการจบไปแล้ว
แต่ตอนนี้ในเมื่ออีกฝ่ายเอาตัวพ่านพ่านไป ปิดบังต่อไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะเดี๋ยวต้าอีก็ต้องไปถึงพร้อมกัน
“ฉันบอกเธอก็ได้แต่เธอต้องทำใจดีๆนะ เพราะในท้องเธอยังมีอีกหนึ่งชีวิต ถ้าเธอเครียดมากไปจะส่งผลต่อเด็ก”
“ฉันสาบานด้วยเกียรติของหมอ ฉันตั้งสติได้ เล่ามาเถอะ” เวลานี้ต้าอีดูสุขุมมาก อาการไม่มั่นใจกับเขินอายในยามปกติไม่หลงเหลืออยู่แล้ว สถานการณ์บีบบังคับให้คนต้องเติบโต
“เรื่องทั้งหมดต้องเริ่มเล่าจากคนร้ายไอคิวสูงที่มีบุคลิกเป็นพวกต่อต้านสังคม…”
เสี่ยวเชี่ยนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ต้าอีฟังอย่างละเอียด ถึงต้าอีจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็ยังคงตกใจมากถึงกับเอามือปิดปาก
ถ้าเธอไม่กัดมือตัวเองไว้เธออาจช็อคหมดสติไปแล้ว
“หมายความว่า…ลูกฉันอาจมียีนของคนๆนั้นเหรอ?”
“ฉันพาพ่านพ่านไปตรวจดีเอ็นเอมา เธออยากรู้ผลไหม?” เสี่ยวเชี่ยนหน้าเครียด
ต้าอีรีบส่ายหน้า
“ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ และก็ไม่อยากรู้ด้วย ฉันรู้แค่ว่าเขาเป็นลูกชายของฉัน ฉันเลี้ยงเขามากับมือ ทุกอย่างของเขาไม่เกี่ยวกับคนอื่น”
ฉลาด
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า
ต้าอีตัดสินใจได้ฉลาดที่สุด มาสงสัยตอนนี้ว่าพ่านพ่านเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใครก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
“ดังนั้นเดี๋ยวฉันจะเจรจากับคนร้าย ฉันจะทำให้เขายอมส่งตัวพ่านพ่านมาให้ได้ ต้าอี เธอเชื่อฉันนะ ฉันรับปากว่าจะพาพ่านพ่านกลับมาหาเธอให้ได้ เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าทำให้ลูกในท้องเป็นอันตราย ทำได้ไหม?”
“ฉันทำได้ ประธานเชี่ยนวางใจเถอะ ฉันรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร”
ต้าอีหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
เธอต้องทำตัวให้เข้มแข็ง ตอนนี้ลูกชายเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ ในฐานะที่เธอเป็นแม่จะทำตัวอ่อนแอไม่ได้
“ผู้หญิงอ่อนแอโดยสัญชาตญาณ แต่คนเป็นแม่กลับแข็งแกร่ง จำไว้ พ่านพ่านเป็นลูกชายของเธอ เธอต้องทำในสิ่งที่คนเป็นแม่ควรทำ เชื่อฉัน!”
“ฉันเชื่อเธอ!”
ระหว่างทางไม่มีอะไรติดขัด พวกเสี่ยวเชี่ยนไปถึงก่อนเวลาที่อวี๋หมิวหลางคิดไว้นิดหน่อย
พอลงจากรถก็เห็นพื้นที่ถูกล้อมไว้ เสี่ยวเชี่ยนกับต้าอีเดินเข้าไปหาตำรวจที่เฝ้าอยู่แล้วบอกชื่อของตัวเอง ตรงนั้นมีสื่อต่างๆมาออกันมากมาย แค่ถูกตำรวจกันไว้ด้านนอก
เสี่ยวเชี่ยนคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เธอใส่แว่นกันแดดกับผ้าปิดปาก ยื่นบัตรประชาชนให้ตำรวจดู
ตำรวจรีบปล่อยให้เธอกับต้าอีเข้าไป เสี่ยวเชี่ยนเจอทหารหน่วยรบพิเศษที่แต่งตัวเต็มยศอาวุธครบมือตรงทางเข้า เดินเข้าไปแล้วถึงได้พบว่าคือเฉียวเจิ้น
“พี่สะใภ้ หัวหน้าใหญ่รออยู่ข้างบนน่ะ” เขามารับเสี่ยวเชี่ยน
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้าแล้วเดินตามขึ้นไป พนักงานในตึกนี้ถูกกันออกไปหมดแล้ว พอขึ้นไปยังชั้นสองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศมาคุจากเหล่าทหารที่อาวุธครบมือ เหมือนมีกลิ่นดินระเบิดตลบอบอวล
ถึงทุกคนจะแต่งตัวเหมือนกัน เสี่ยวเชี่ยนก็ยังคงหาเขาเจอได้อย่างง่ายดาย อวี๋หมิงหลางอยู่ในชุดที่ใช้ยามออกปฏิบัติภารกิจ ใบหน้าแต่งแต้มอำพรางตัว
อวี๋หมิงหลางเองก็เห็นเสี่ยวเชี่ยนที่เดินกะเผลกเข้ามาแล้ว
“ไปทำอะไรมา?”
“ตกร่องน้ำขาแพลง ไม่ใช่เรื่องใหญ่—คนร้ายยังอยู่ข้างในเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากเล่าละเอียดนักว่าตัวเองถูกจักรยานชนตกร่องน้ำในมหาวิทยาลัย จึงเข้าประเด็นทันที
“ใช่ สถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่”
“เอาโทรโข่งมาฉันคุยเอง”