แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 880 อ้อมไปอ้อมมากลับเป็นเขาอีกแล้ว
แม่อวี๋ลุกขึ้นแล้ว กำลังนั่งรอเสี่ยวเชี่ยนกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนเดินมาจึงเปิดฝาชีออก
“เจ้าเล็กนี่นะ พอมีเมียก็กลายเป็นพ่อบ้านขึ้นมาทันที ตอนอยู่บ้านทำตัวเป็นคุณชายเต็มที่ คนอื่นๆต้องคอยดูแล มาอยู่นี่แม่ต้องอาศัยวาสนาหนูเลยนะถึงจะได้มีบุญกินอาหารฝีมือเจ้าเล็ก”
เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าแม่อวี๋ไม่ได้ประชด ก็แค่พูดล้อเล่น
เรื่องหน้าไม่อายต่างๆที่อวี๋หมิงหลางเคยทำไว้ในครอบครัวล้วนทำให้คนในบ้านเกิดอาการหมั่นไส้ อยากรู้ว่าเขาแต่งงานแล้วจะเป็นไง คนเป็นแม่จึงอดไม่ได้ที่จะแซะลูกชายตัวเอง
“ถ้าแม่ไม่รังเกียจ มาอยู่นี่ให้เขาทำให้กินทุกวันก็ได้นะคะ” เสี่ยวเชี่ยนรู้จักพูดเอาใจ
แม่อวี๋อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
เธอจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ก็แค่พูดไปอย่างนั้น อยู่กับเด็กอย่างเสี่ยวเชี่ยนแล้วสบายใจดี
พอเสี่ยวเชี่ยนเอาใจแม่สามีเสร็จก้มมองอาหารก็ถึงกับมุมปากกระตุก นี่ นี่มันอะไรกัน?
“เอ๋? ลูกคนนี้ทำตัวเหมือนพ่อเขาสมัยหนุ่มๆไม่มีผิด แม่คิดว่ามีแค่พ่อเขาที่มีนิสัยชอบเขียนข้อความบนอาหารเสียอีก”
วันนี้อาหารที่เตรียมไว้ให้แม่อวี๋กับเสี่ยวเชี่ยนนั้นเหมือนกัน เป็นเบคอนกับไข่ทอด
สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ บนไข่ดาวของเสี่ยวเชี่ยนมีการใช้ซอสพริกไทยดำวาดเป็นรูปนาฬิกา ใช้แครอททำเป็นเข็มนาฬิกา
“อีกสิบนาทีเที่ยง หมายความว่าไง อีกสิบนาทีเที่ยงเขาจะมารับพวกเราเหรอ?” แม่อวี๋กำลังเดาปริศนา
เสี่ยวเชี่ยนหน้าแดงขึ้นมาทันที
ไอ้ คน หน้า ไม่ อาย
แม่ผัวยังอยู่นะ แม่ผัวยังอยู่
ทำไมเขาถึงได้กล้าทำแบบนี้?
รอตอนเย็นก่อนเถอะเธอจะหยิกให้ตานี่เป็นหกนาฬิกา เอาให้หกนาฬิกาไปตลอดชีวิต ทำเป็นได้ใจนัก
ดีที่แม่สามีไม่เข้าใจความหมายแฝงของพวกเธอ เสี่ยวเชี่ยนกลัวว่าแม่อวี๋จะพูดเรื่องนี้ต่อจึงรีบหยิบแครอทบนนั้นมาเคี้ยวหนุบหนับ พลางคิดว่ามันเป็นเสี่ยวเฉียง บดขยี้ให้แหลก
การแข่งขันรอบสุดท้ายในวันนี้บรรยากาศดูร้อนแรงยิ่งกว่าสองวันก่อนหน้า
การแข่งรอบสุดท้ายไม่ได้จัดในห้องออกอากาศสด ผู้เข้าแข่งขันต้องจับฉลากว่าคนไข้สมมติของตัวเองจะเป็นใคร เสี่ยวเชี่ยนมองหน้าจอพร้อมๆกับผู้เข้ารอบสุดท้ายคนอื่นๆ บนนั้นมีแปดหมายเลข ซึ่งด้านหลังแต่ละเลขนั้นจะมีข้อมูลของคนไข้สมมติอยู่
ชื่อ เพศ อายุ อาชีพ
แน่นอนว่าข้อมูลพวกนี้อาจเป็นสิ่งสมมติขึ้นมาเพื่อใช้จำลองการรักษา
เสี่ยวเชี่ยนเลือกเบอร์หกอันเนื่องมาจากกิจกรรมเมื่อคืน พอรูปของคนไข้เบอร์หกปรากฏขึ้นมาเสี่ยวเชี่ยนก็ถึงกับตะลึง
เอ๋ เป็นเขา?
ยังมีเวลาอีกสิบนาทีกว่าจะเริ่มจำลองการรักษา ในขณะที่ผู้เข้าแข่งขันกำลังรออยู่นั้น คนไข้สมมติก็กำลังเตรียมตัว
ภายในห้องน้ำที่ใช้สำหรับการแข่งโดยเฉพาะ มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์
“ผมเอง”
“พร้อมไหม?”
“ครับ ผมจะทำตามที่คุณบอกครับ แต่ค่าแรงโอนเข้าบัญชีผมเลยได้ไหมครับ บ้านผมร้อนเงิน ลูกสาวผมป่วย…”
“คงโอนให้ได้แค่ครึ่งนึงก่อน ส่วนที่เหลือต้องรอแข่งเสร็จ ถ้านายทำได้อย่างที่เราต้องการเราก็จะโอนให้ จำไว้นะ เดี๋ยวผู้เข้าแข่งขันคนที่แกจะไปเจอชื่อเฉินเสี่ยวเชี่ยน ไม่ว่ามันจะรักษาหรือหลอกล่อแกยังไง แกก็ต้องให้มันศูนย์คะแนน เข้าใจไหม?”
“ได้ครับ งั้นเงิน…” ตอนนี้เขาจำเป็นต้องใช้เงินอย่างด่วน
“เลิกพูดมาก เดี๋ยวโอนให้”
อีกฝ่ายวางสาย
ผู้ชายคนนั้นมองตัวเองผ่านกระจกอย่างเงียบๆ ในใจของเขารู้สึกสับสน
ผู้ชายคนนี้เป็นพวกนักเลง ปกติทำเรื่องชั่วจนกลายเป็นนิสัย งานในวันนี้สำหรับเขาแล้วก็แค่เรื่องเล็กน้อยในบรรดาเรื่องไม่ดีที่เขาเคยทำ
แต่กลับรู้สึกไม่สบายใจ ลูกสาวเขายังอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากที่ลูกสาวของเขาเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเขาก็เริ่มคิดได้ หรือจะเป็นเพราะปกติเขาทำเรื่องเลวๆมากเกินไปลูกสาวเขาเลยต้องมารับเคราะห์แทน?
ไม่มีเวลาให้คิดเยอะแล้ว ลูกสาวเขารักษาตัวต้องใช้เงิน เพื่อเงินจำนวนนี้เขายอมทำเรื่องเลวอีกครั้ง
อย่างไรเสียก็ทำเรื่องเลวๆมานับครั้งไม่ถ้วน ทำอีกสักเรื่องจะเป็นอะไรไป?
ก็แค่ต้องทำผิดต่อผู้เข้าแข่งขันที่ชื่อเฉินเสี่ยวเชี่ยนนั่น แต่ใครใช้ให้เธอมีมูลค่าถึงสองพันหยวนล่ะ
ผู้ชายคนนั้นเอาน้ำเย็นล้างหน้าแล้วเดินเข้าสู่สนามแข่ง
จ้าวต้าเผ้าที่อยู่อีกด้านก็กำลังโทรหาลูกน้องตัวเอง
“คนของเรามาถึงหรือยัง?”
“วางใจได้ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
“เมื่อวานเฉินเสี่ยวเชี่ยนมันดันพลิกกลับมาชนะได้ ฉันล่ะนึกไม่ถึงจริงๆ โทรทัศน์รายงานข่าวเรื่องที่มันช่วยคนไว้ ไม่รู้ว่าวันนี้พวกเราทำเรื่องแบบนี้จะยังมีประโยชน์อยู่หรือเปล่า”
“ผลที่ได้อาจไม่ถึงขนาดที่พวกเราเคยคาดการไว้ แต่จะมากจะน้อยก็คงมีบ้าง พวกเราไม่มีทางปล่อยมัน”
จ้าวต้าเผ้าก็ยังไม่วางใจ จึงถามขึ้นอีก
“นักเลงที่แกหามาไว้ใจได้เหรอ? มันจะปิดปากสนิทหรือเปล่า?”
“วางใจได้ครับ คนๆนี้เป็นนักเลงอยู่ในเมืองหลิน ถึงจะไม่เคยทำเรื่องดีๆอะไร แต่ก็ซื่อสัตย์พอ หากมันรับเงินของเราไปแล้วก็ไม่มีทางที่จะไม่ทำงานให้เราครับ”
บทสนทนาของทั้งสองคนไม่ได้ส่งผลต่อเสี่ยวเชี่ยนเลยแม้แต่น้อย
เสี่ยวเชี่ยนกำลังหลับตาทำสมาธิ ปากก็เคี้ยวหมากฝรั่ง ดูไม่แตกต่างอะไรกับตอนปกติ
ต้าอีเดินไปเดินมาอยู่ในห้องพักผู้เข้าแข่งขัน เธอดูกังวลยิ่งกว่าเสี่ยวเชี่ยน
“ต้าอี เธอไม่ร้อนเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนลืมตาแล้วหยิบหมากฝรั่งส่งให้ต้าอี
“ฉันไม่เป็นไร” ต้าอีไม่กล้าบอกว่าตัวเองกังวล เธอกลัวจะกระทบต่อเสี่ยวเชี่ยน
“เธอกังวลเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนถามขึ้นมาแทน
“เอ ก็นิดหน่อย ประธานเชี่ยน ทำไมเธอถึงทำใจเย็นได้ในเวลาแข่งแบบนี้ล่ะ?”
“ตอนที่ฉันอายุเท่าเธอฉันก็กังวล ตอนยืนอยู่บนเวทีแข่งขันครั้งแรกขาฉันสั่นมาก โชคดีที่ตอนนั้นฉันใส่กระโปรงยาวก็เลยไม่มีใครมองออก”
ต้าอีไม่เข้าใจ ตอนนี้ประธานเชี่ยนก็อายุเท่าเธอไม่ใช่เหรอ? ไม่ค่อยเห็นประธานเชี่ยนใส่กระโปรงยาวด้วย
เสี่ยวเชี่ยนหมายถึงเมื่อชาติก่อน
เธอไม่ได้เกิดมาเป็นบอสที่ไร้ศัตรูเลย เธอเองก็มีช่วงเวลาวัยรุ่น ตอนที่อายุพอๆกับต้าอีในตอนนี้เธอยังสุขุมได้ไม่เท่าต้าอีเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งต้าอียังโชคดีกว่าเธอด้วย ต้าอีมีเธอคอยชี้แนะตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ประธานเชี่ยนเมื่อชาติก่อนกว่าจะได้เจออาจารย์ที่ปรึกษาดีๆอย่างหลิวหลินหลินก็ตอนเรียนปริญญาเอกแล้ว
วงการนี้ต้องมีอาจารย์คอยชี้แนะทุกขั้นตอน ถึงจะก้าวหน้าได้อย่างราบรื่น
“คนนอกมองพวกเราดูลึกลับ อันที่จริงพวกเราก็แค่สั่งสมประสบการณ์จากเคสคนไข้ทีละนิด พอเข้าแข่งขันบ่อยๆ ได้รักษาคนไข้มากขึ้น ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว เธอคิดแบบนี้ก็แล้วกัน แม้แต่สงครามจิตวิทยากับคนร้ายชนิดตาต่อตาพวกเราก็เคยเจอมาแล้ว นี่แค่คนไข้สมมติ ไม่ได้ป่วยจริง แล้วมีอะไรต้องกลัว?”
หากมาถึงช่วงวัยที่อายุจิตใจเหมือนเสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้ ไม่ใจเย็นคงยาก เจอเรื่องราวต่างๆมาตั้งมากมาย รู้ถึงความสามารถของตัวเองก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว
“พูดถึงคนร้าย ประธานเชี่ยน เมื่อวานเธอไม่กลัวเลยจริงๆเหรอ? ดูเธอไม่ตกใจหรือลนลานอะไรเลยนะ ใจเย็นมาก” เมื่อวานต้าอีเห็นข่าวแล้ว เนื้อข่าวเขียนถึงประธานเชี่ยนเอาไว้ว่าประธานเชี่ยนเท่ห์มาก