แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 891 เกิดมาหน้านิ่งทำให้คนเข้าใจผิด
“เมียฉันกำลังจะมีลูกฉันไม่ควรดีใจหรือไง?” อวี๋หมิงอี้ย้อนถาม
ตอนที่เขาได้ยินทุกคนแซวยังไม่ทันได้สติ แต่พอรู้ตัวความดีใจก็โอบล้อมจิตใจเขาแล้ว
ต้าอีอาจจะกำลังตั้งท้องลูกของเขา
แต่พอผ่านพ้นความดีใจไปก็กลายเป็นความหวาดกลัว พูดให้ถูกก็คือ ไม่รู้จะทำตัวยังไง
ถึงแม้พ่านพ่านก็เป็นลูกชายของเขา เขาเองก็ไม่ได้เพิ่งจะเป็นพ่อคนครั้งแรก แต่ตอนที่รับเลี้ยงพ่านพ่านเขาไม่ได้รู้สึกถึงหน้าที่คนเป็นพ่อเท่าไร รู้สึกแค่ว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งเป็นเรื่องที่สบายมาก
จนกระทั่งชีวิตคู่ครั้งก่อนล้มเหลว จิตใจของพ่านพ่านผิดปกติ ต้าอีเข้ามาในชีวิตของเขา ทำให้เขาค่อยๆได้เรียนรู้ถึงหน้าที่ความเป็นพ่อทีละนิด เขาถึงได้รู้ถึงบทบาทของพ่อที่แท้จริง
ตอนนี้กำลังจะมีลูกอีกคนแล้ว เขาทั้งดีใจทั้งหวาดกลัว กลัวตัวเองจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ กลัวจะเป็นเหมือนตอนเลี้ยงพ่านพ่าน ทำให้เด็กคนนี้มีปัญหาทางจิตไปด้วย…
“อยากจะบ้า…” อวี๋หมิงหลางกุมขมับอย่างอ่อนแรง
วุ่นวายกันมาครึ่งวัน ที่แท้พี่รองหน้าตายกลับคิดแบบนี้อยู่
อยากจะบ้า หน้าตาไร้ความรู้สึก มีอะไรก็ไม่พูดออกมา พอถึงเวลาสำคัญมันถึงได้ทำคนเข้าใจผิดแบบนี้นี่ไง
คนๆนี้เวลาดีใจหน้านิ่งหนักยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า เวลาโกรธก็เหมือนกัน ใครมันจะไปตรัสรู้ว่าคิดอะไรอยู่
“ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าต้องทำไง เจ้าเล็ก ฉันควรเตรียมตัวอะไรหรือเปล่า? ต้องซื้อเตียงเด็กอ่อนมาไว้ที่บ้านไหม? หรือซื้อเตียงสองชั้นดี ให้พ่านพ่านนอนห้องเดียวกับน้อง พ่านพ่านจะดีใจหรือเปล่า ฉัน…”
แค่เสี้ยววินาทีก็กลายเป็นคนตั้งคำถามมากมาย
“พี่ชาย คุณพี่ชายบังเกิดเกล้า” อวี๋หมิงหลางยอมใจเลยจริงๆ วุ่นวายกันไปหมด พี่ชายของเขานี่สุดยอดเลยจริงๆ “เมื่อกี้ตอนที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าทำไมพี่ไม่พูดกับต้าอีแบบนี้เล่า?”
“…ฉันไม่อยากแสดงให้เขาเห็นว่าฉันเป็นพวกไม่รู้อะไรเลย”
พี่รองรู้ว่าต้าอีเชื่อใจเขามาก เรียกได้ว่าหลับหูหลับตาศรัทธาในตัวเขาเลยก็ว่าได้ เขาเองก็ไม่ปฏิเสธว่าชอบความรู้สึกนี้ ชอบที่เธอไว้ใจและพึ่งพาเขาหมดใจ
แล้วจะให้ต้าอีเห็นตอนที่เขาเป็นกังวลทำตัวไม่ถูกได้อย่างไร? คนเป็นสามีไม่ควรทำตัวไม่รู้ไม่ใช่เหรอ? ต่อให้มีตอนที่ทำบางอย่างไม่ได้ก็ต้องลากน้องชายที่ดูเหมือนเก่งทุกอย่างออกมาปรึกษาแบบตอนนี้นี่ไง
“พี่ไม่ได้แสดงออกว่าไม่รู้…แต่ท่าทางของพี่เมื่อกี้มันทุเรศมาก” เสี่ยวเฉียงพูดเสริมในใจ นี่ถ้าไม่ใช่พี่ชายแท้ๆนะ เขาจะพูดจาไม่เกรงใจยิ่งกว่านี้ นี่พี่เขาดูไม่ออกจริงเหรอว่าเมื่อกี้ต้าอีมีสีหน้ายังไง?
“งั้นฉันกลับไปอธิบายกับเขาดีไหม?” จากสีหน้าท่าทางของอวี๋หมิงหลางพี่รองพอจะเข้าใจแล้วว่าเมื่อครู่เขาทำตัวไม่เหมาะเท่าไร
“ช่างเถอะ จัดการเรื่องให้เสร็จก่อน กลับไปพี่ค่อยไปอธิบายกับเมียพี่ โอ๋เขาหน่อย ผู้หญิงน่ะต้องโอ๋ลูกเดียว ดูอย่างเมียผมสิ ภายนอกร้ายกาจแค่ไหน พอเอาใจเข้าหน่อยก็หายแล้ว ไม่เป็นไรน่า วางใจเถอะเมียผมอยู่ด้วยทั้งคน ไม่มีอะไรหรอก”
เมื่อกี้เมียเขายังป้อนซุปหอยนางรมให้ฟิตปั๋งอยู่เลย อบอวลไปด้วยความรัก กลับไปต้องพาไปจัดหนักดูใบเมเปิ้ลซะแล้ว
“งั้นตอนนี้ฉันควรเตรียมตัวยังไงดี?” อวี๋หมิงอี้เองก็เชื่อใจเสี่ยวเชี่ยน
“ไปร้านหนังสือก่อน ซื้อหนังสือที่เกี่ยวข้องมาอ่าน แล้วก่อนกลับก็แวะซื้อดอกไม้สักช่อให้เขา ผมจะบอกพี่ให้นะ ซื้อกุหลาบ ห้ามซื้อคาเนชั่นเด็ดขาด” เสี่ยวเฉียงมีประสบการณ์มาก่อน
“ก็ไม่เห็นต่างกัน” สมกับเป็นพี่น้องกัน ความคิดเหมือนกัน
“ผมก็ว่างั้น แต่ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาด นิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้ เอาเป็นว่าพี่ซื้อดอกกุหลาบก็แล้วกัน ไปๆๆ ไปร้านหนังสือก่อน”
อวี๋หมิงหลางที่ไม่เคยเป็นพ่อคนมาก่อนกำลังช่วยพี่ชายเสนอความคิด ส่วนเมียของเขาก็ไม่ได้อยู่เฉย
“ต้าอีเธอนั่งตรงนั้นห้ามขยับ เดี๋ยวฉันช่วยเธอเก็บเอง ชุดนี้เอาไป แล้วก็เสื้อในเอาไปด้วย บัตรโรงพยาบาล บัตรประชาชนเอาไปให้หมด”
เสี่ยวเชี่ยนกำลังจับเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินทาง ส่วนแม่อวี๋พาพ่านพ่านลงไปแสดงบารมีข้างล่าง
นี่เป็นความร่วมมือระหว่างผู้หญิงด้วยกันที่จะพาหนีออกจากบ้าน
“พี่รองกลับมาจะไม่พอใจหรือเปล่า?” ต้าอีถูกประธานเชี่ยนกับแม่อวี๋ชักจูง เธอไม่ค่อยอยากทำร้ายพี่รองเท่าไร
“เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยเขาไป ตอนที่ทำหน้าเย็นชาทำไมไม่คิดบ้างว่าเธอจะไม่พอใจหรือเปล่า?” เสี่ยวเชี่ยนเก็บของเสร็จเรียบร้อย ปิดกระเป๋าอย่างพอใจ
“อันที่จริง…ฉันไม่ได้ไม่พอใจนะ ก็แค่เป็นห่วงพี่รองนิดหน่อย เขาดูเหมือนไม่ค่อยชอบเด็ก”
ต่อให้มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้าอีก็ยังคงทนเห็นพี่รองไม่พอใจไม่ได้
“นี่เธอเป็นโรคสตอคโฮล์มซินโดรมเหรอ? เขาทำถึงขนาดนี้แล้วเธอก็ยังชื่นชอบกับการเป็นแบบนี้?”
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกโมโหจริงๆ ท่าทางของอวี๋หมิงอี้เมื่อกี้ เธอไม่ให้เสี่ยวเฉียงอัดก็นับว่าเกรงใจมากแล้ว
“ฉัน…”
“เสร็จยังจ๊ะ เร็วๆหน่อย เดี๋ยวพวกเขาจะกลับมากันแล้ว” แม่อวี๋ผลักประตูเข้ามาด้วยอาการรีบร้อนเล็กน้อย
แม่สามีช่วยลูกสะใภ้หนีออกจากบ้าน แถมยังจะพาหลานไปด้วย เห็นได้ชัดว่าการกระทำของอวี๋หมิงอี้ในวันนี้ทำให้ทุกคนโมโหแค่ไหน
ด้วยแรงยุของเสี่ยวเชี่ยนกับแรงสนับสนุนของแม่อวี๋ ต้าอีจึงไปกับเสี่ยวเชี่ยน แม้แต่พ่านพ่านก็ถูกหอบหิ้วไปด้วย
อวี๋หมิงอี้กลับถึงบ้านพร้อมช่อดอกไม้ พอเข้าบ้านก็เห็นท่านแม่ของตัวเองนั่งอยู่ที่โซฟา เขามองไปรอบๆ
“ต้าอีล่ะครับ?”
แม่อวี๋กำลังอินกับละคร จึงตอบแบบขอไปที
“ไปแล้ว”
“ไปซื้อกับข้าวเหรอครับ? ไปตลาดไหน เดี๋ยวผมไปรับเขา” ถึงอวี๋หมิงอี้จะยังไม่ได้อ่านหนังสือที่ซื้อมา แต่ก็รู้ว่าคนท้องหิ้วของหนักไม่ได้
“ไปกับเสี่ยวเชี่ยน ไปจากผู้ชายที่จิตใจโหดร้ายคนนี้”
แม่อวี๋ดูละครโบราณ จึงพูดจาเลียนแบบน้ำเสียงในละคร
อวี๋หมิงอี้ยังไม่รู้ตัว เขาคิดว่าต้าอีออกไปเดินเล่นกับเสี่ยวเชี่ยน “งั้นเดี๋ยวผมโทรหาเขา”
ดูว่าจะกลับมาเมื่อไร
“ไม่ต้องโทรหรอก เปลี่ยนเบอร์แล้ว”
อวี๋หมิงอี้หันไป เรื่องอะไรกัน?
“เนื่องจากการกระทำอันโหดร้ายของเราในครั้งนี้ แม่จะเป็นตัวแทนของทั้งครอบครัวลงโทษเรา 1.ให้สำนึกในความผิดของตัวเอง 2.ห้ามเจอต้าอีกับลูกจนกว่าจะสำนึกได้ 3. เรามีสิทธิ์จะนิ่งเงียบไม่พูดอะไร”
อวี๋หมิงอี้ใช้เวลาหลายวินาทีย่อยคำพูดของแม่ตัวเอง สุดท้ายจึงได้ข้อสรุปโดยพูดออกมาตามไรฟัน
“แม่หมายความว่า…เมียเจ้าเล็กพาเมียผมหนีออกจากบ้านเหรอ?”
“ยินดีด้วย ตอบถูกแล้ว…หลบไปอย่ามาบังทีวี” แม่อวี๋พูดอย่างรำคาญ
ผู้ชายแย่ๆที่รังเกียจหลานของเธอแบบนี้ก็ต้องเจอคำพูดเย็นชาแบบนี้นี่แหละ
ตอนนี้สิ่งที่อวี๋หมิงอี้อยากทำมากที่สุดก็คือฆ่าอวี๋หมิงหลาง ลากไอ้หมอนี่มาอัดให้น่วม
ก็มันเป็นคนบอกเองว่าเสี่ยวเชี่ยนจะดูแลต้าอีอย่างดี?
ดูแลดีเกินไปเลยพาหนีไปแล้ว
“ตารอง แม่คิดมาตลอดว่าเราน่ะสุขุมเยือกเย็น แต่ทำไมเรายังไม่รู้จักโตอีก? อายุสามสิบกว่าแล้วนะ ทำไมยังไม่รู้จักแยกแยะ? ต้าอียอมตั้งท้องมีลูกให้แล้วดูเราทำกับเขาสิ? แม่ขอพูดไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าเรากล้าให้เขาไปทำแท้งล่ะก็ ต่อไปก็ไม่ต้องกลับไปบ้านแล้ว แม่จะปิดไม่ให้พ่อรู้ไว้ก่อน แต่ถ้าเรายังไม่ทำตัวให้ดีๆล่ะก็ แม่จะบอกพ่อเราตอนนี้ ให้เขามาจัดการ”