แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 956 สมดุลทั้งสองฝ่าย
“แกก็น่าจะรู้สถานการณ์ของน้องชายแกดี ถึงจะสอบได้สามร้อยกว่าคะแนนก็อาจเป็นเพราะอาจารย์คุมสอบไข้ขึ้นไม่สบาย หรือคนตรวจอาจมือลั่นให้คะแนนพลาด แต่มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับบ้านเรา เพียงแต่เรื่องจัดงานฉลองฉันยังลังเลอยู่ว่าจะจัดดีไหม ว่าจะปรึกษาทุกคนอยู่พอดี เชี่ยนเอ๋อกับฟู่กุ้ยเพิ่งจะแต่งงาน ถ้าจัดงานฉลองให้ต้าหลงอีกมันเหมือนกับว่าพวกเราอยากได้ซอง จัดงานฉลองถี่ๆดูไม่ค่อยดีเท่าไร…”
เจี่ยซิ่วฟางยังคงค่อนข้างคิดเยอะ เรื่องอื่นเอามาจัดรวมกันได้ แต่เรื่องงานแต่งไม่ได้เด็ดขาด นี่เป็นเรื่องใหญ่ของลูกสาวกับลูกเลี้ยง แต่ลูกชายที่ไม่เอาไหนมาตลอดกลับสอบได้ดีเกินคาด สามารถเข้ามหาวิทยาลัยอันดับล่างๆได้ เหนือความคาดหมายไปมาก ถ้าจะไม่จัดงานฉลองให้ก็ไม่เหมาะเท่าไร
“งานไหนต้องจัดให้ลูกก็จัดไปเถอะ ครั้งนี้ต้าหลงทำได้ดีจริงๆ” พ่อเลี่ยวพูดอย่างใจดี
“เชี่ยนเอ๋อแต่งงาน ตามมาด้วยฟู่กุ้ย ถ้าจัดงานฉลองให้ต้าหลงอีก บ้านเราจะไม่ดู…นั่นไปหน่อยเหรอ” คนอื่นฟังเข้าอาจมองว่าบ้านนี้วุ่นวายเสียจริง
แต่วันแต่งงานของเสี่ยวเชี่ยนถูกกำหนดไว้นานแล้ว ตระกูลอวี๋ค่อนข้างมีฐานะ เรื่องใหญ่แบบนี้จะต้องมีการเตรียมการไว้ก่อนนานมาก หน้าที่การงานของอวี๋หมิงหลางเองก็มีความพิเศษ กว่าจะหาเวลาว่างมาจัดงานได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ส่วนทางด้านฟู่กุ้ยถึงจะเพิ่งคบกันได้ไม่นาน แต่เด็กสองคนนี้กลับรีบจะแต่งงานกันให้ได้ เป็นพวกใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริงไม่เชื่องมงาย แต่กลับเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต เรื่องแต่งงานยอมแต่งไวดีกว่าแต่งช้า
แต่ต้าหลงผู้ไม่เอาไหนมาตลอดกลับทำคะแนนได้ดีขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะไม่จัดงานอะไรให้เลยก็ดูไม่เหมาะ ที่นี่มีธรรมเนียมอยู่ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ต้องจัดงานเลี้ยงฉลองให้ ถึงคะแนนของต้าหลงจะสู้ฟู่กุ้ย พี่สาว กับพี่เขยไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเหนือความคาดหมายไปมากทีเดียว เจี่ยซิ่วฟางเริ่มลำบากใจ
“เรื่องประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน แถมที่นี่ยังมีธรรมเนียมแบบนี้อีก พวกญาติๆคงเข้าใจแหละ” พ่อเลี่ยวไม่ได้คิดมากเท่าเจี่ยซิ่วฟาง
เขาเองก็คงไม่เชิญคนนอกอยู่แล้ว เอาแค่ญาติสนิทที่ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ด้วยสถานะของเขาถ้าจะให้เชิญคนรู้จักมาหมดก็คงเยอะมาก งานแต่งลูกชายของเขาคงไม่ทำถึงขนาดนั้น เอาเรียบๆง่ายๆ แม่เสี่ยวเชี่ยนก็คงเข้าใจเขา
“อะแฮ่ม!” ต้าหลงแกล้งไอ พยายามแสดงตัวตน เป็นลูกชายที่ใช้ไม่ได้ในสายตาแม่มาหลายปี นี่ถือเป็นโอกาสจะได้รับคำชมบ้างแล้ว
“แม่ อันที่จริงไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก เพราะผมไม่คิดจะเรียนอยู่แล้ว”
“แกว่า…ไงนะ?!” น้ำเสียงเจี่ยซิ่วฟางเปลี่ยนไป
“มหาลัยอันดับล่างๆเรียนไปจะมีความหมายอะไร? ค่าใช้จ่ายสูง ค่าเทอมก็แพง คะแนนผมก็เลือกสาขาที่จะเรียนไม่ได้มากด้วย หางานก็ใช่ว่าจะง่าย…โอ๊ย! แม่ ตีผมทำไมเนี่ย!” ต้าหลงถึงกับวางแผนคิดคำพูดนี้อยู่นานเพื่อให้ตัวเองดูเท่ห์ในสายตาของคนในครอบครัวบ้าง หลังจากที่พ่ายแพ้ให้พี่สาวมาตลอด
ปรากฏว่าพอเอ่ยปากพูด ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ผลตามที่คาดการณ์ไว้ ยังถูกแม่ตบด้วยรองเท้าแตะอีกต่างหาก
“แม่! ตีผมทำไม!” ต้าหลงรีบมุดไปหลบอยู่ข้างหลังพี่เขย เขามองออก ในบ้านนี้แม่เขาเกรงใจพี่เขยที่สุด พี่สาวเขาก็ยังสู้ไม่ได้
“แม่ครับ ใจเย็นก่อนครับ อย่าเพิ่งตีน้อง อีกอย่างน้องก็โตแล้วนะครับ” อวี๋หมิงหลางออกโรงปกป้องตามคาด ไม่ให้แม่ยายตีน้องเมีย
“หมิงหลางหลบไปนะ! ฟังดูสิว่าเด็กคนนี้มันพูดอะไร! ไอ้ลูกไม่รักดีอย่าไปหลบอยู่หลังพี่เขยนะ ออกมาเดี๋ยวนี้! ฉันจะตีแกให้ตายเลย!” เจี่ยซิ่วฟางชี้หน้าด่าลูกชาย พ่อเลี่ยวรีบเข้าไปห้าม
“คุณเป็นความดันอยู่อย่าโมโหไปเลยนะ นั่งลงค่อยๆคุยกันดีกว่า”
“เหล่าเลี่ยว! แบบนี้มันอยู่กันไม่ได้แล้ว!” เจี่ยซิ่วฟางตบขาฉาดใหญ่ วินาทีถัดมาจากแม่ที่โมโหร้ายกลายเป็นป้าวัยทองเจ้าน้ำตา น้ำตาร่วงเผาะๆ
“ฉันตัวคนเดียวเลี้ยงลูกสองคนยากลำบากขนาดไหน? แน่นอน ความยากลำบากทั้งหลายมาจากลูกชายที่ไม่เอาไหนทั้งนั้น เชี่ยนเอ๋อไม่เคยสร้างเรื่องให้ฉันปวดหัวเลยตั้งแต่เล็กๆ มีตอนไหนบ้างที่ฉันต้องกลุ้มใจเพราะเชี่ยนเอ๋อ? ไม่ว่าจะเรื่องเรียนเรื่องหาคู่ ไม่มีสักเรื่องที่ฉันต้องหนักใจ แต่ดูไอ้ลูกคนเล็กนี่สิ! พี่สาวมันเรียนอยู่ต่างเมือง มันกลับทำตัวเอาแต่ใจอยู่ที่บ้าน นี่ไม่กินนั่นก็ไม่เอา วันๆฉันต้องเหน็ดเหนื่อยคอยปรนนิบัติหาของดีๆให้กิน แถมยังได้พี่ชายดีๆอย่างฟู่กุ้ยที่ช่วยเคี่ยวเข็ญจนสอบเข้ามหาลัยได้ แต่คุณดูมันสิ มันบอกว่าจะไม่เรียนแล้ว!”
ขอเตือนเลยว่าห้ามปล่อยให้ผู้หญิงวัยทองได้มีโอกาสบ่นเป็นอันขาด พอได้เริ่มเท่านั้นแหละ หยุดไม่ได้ เจี่ยซิ่วฟางเริ่มขุดความลำบากในอดีตขึ้นมารำพึงรำพัน น้ำมูกน้ำตาไหลไม่หยุด ต้าหลงเห็นตัวเองไปแหย่รังแตนเข้าแล้วจึงรีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากพี่สาว
เสี่ยวเชี่ยนคิดไว้แล้วว่าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จึงสั่งให้เสี่ยวเฉียงไปทำอาหาร ส่วนเธอพาแม่เข้าห้อง สองแม่ลูกปิดประตูคุยกัน
พ่อเลี่ยวตามเสี่ยวเฉียงเข้าไปเตรียมอาหาร บ้านนี้ผู้ชายเป็นรองผู้หญิงเสมอ แต่ก็ไม่มีใครคัดค้านอะไร กว่าครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย การได้มีกิจกรรมทำร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดี
“มีลูกสาวก็ดีนะ เอาใจใส่ดี” พ่อเลี่ยวมองไปทางสองแม่ลูกที่ปิดประตูคุยกันพลางพูด
“ตอนนี้เชี่ยนเอ๋อก็เหมือนเป็นลูกสาวคุณอาไม่ใช่เหรอครับ? ต่อไปผมจะให้เขากลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยๆ” เสี่ยวเฉียงไม่เพียงแต่จะเอาใจแม่ยายเก่ง แม้แต่กับพ่อตาเขาก็ประจบเก่งไม่แพ้กัน ทั้งสองคนพูดคุยพลางทำกับข้าว
“เชี่ยนเอ๋อ แกไม่น่าให้หมิงหลางขวางแม่เลย น้องแกมันสมควรโดน!” เจี่ยซิ่วฟางยังโมโหลูกชายที่ไม่เอาไหนไม่หาย
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มให้
“หนูกลับคิดว่าครั้งนี้ต้าหลงเลือกถูกแล้ว แม่ควรจะดีใจถึงจะถูก”
“อะไรนะ?”
ต้าหลงรออยู่ข้างในด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆ เขามองอวี๋หมิงหลางกับพ่อเลี่ยวที่วุ่นอยู่ในครัว แล้วมองประตูห้องที่พี่สาวกับแม่อยู่ข้างใน ดูอยู่สักพักก็เซ็งจึงเอาเครื่องเกมมาเล่น
ขณะที่เสี่ยวเฉียงกำลังทำอาหารสายตาก็เหลือบมองน้องเมียไปด้วย จากนั้นก็ส่ายหน้า
มิน่าเมียเขาถึงได้กลุ้มใจ ท่าทางดูไม่มีอนาคตแบบนี้ควรจับไปฝึก คนแบบนี้เข้าไปอยู่ในค่ายทหารต้องเจอความลำบากไม่น้อยแน่
“เชี่ยนเอ๋อ มันถึงขนาดไม่ยอมเรียนหนังสือต่อเลยนะ! แกกลับบอกว่ามันเลือกถูก แกเลอะเลือนไปแล้วเหรอ ถ้าแกเสียสติไปอีกคนแล้วฉันจะทำไง?” เจี่ยซิ่วฟางปาดน้ำตาพลางรำพึงรำพันกับลูกสาว
เสี่ยวเชี่ยนไม่รีบร้อนตอบคำถาม แต่หันไปเปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเองแล้วหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้แม่กับพ่อเลี่ยวออกมา
“หนูเอาเครื่องสำอางมาให้แม่ ต้องใช้ตามเวลา แล้วก็ซื้อกระเป๋าให้ด้วย หนูว่าสีนี้มันดูสุขุมดี แม่เอาไว้ใช้เวลาออกไปงานเลี้ยงกับอาเลี่ยวก็ได้ หนูยังจองชุดกี่เพ้าไว้ให้แม่ด้วย เอาไว้ใส่ตอนงานแต่งหนูก็ได้ อาเลี่ยวไม่ชอบดื่มเหล้า แต่บางครั้งมีคนมาบ้านก็ต้องมีดื่มบ้าง เสี่ยวเฉียงเลยจัดเหล้าเหมาไถของราวๆปีแปดศูนย์มาให้สองสามขวด”
ของพวกนี้มีเงินก็ยังหาซื้อได้ยาก ถ้าไม่มีเส้นสายก็ไม่มีทางซื้อได้
เสี่ยวเชี่ยนดีกับแม่ตัวเองนั้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จึงดีกับพ่อเลี้ยงไปด้วย เธอกลับมาบ้านไม่บ่อย ตราบใดที่พ่อเลี่ยวดีกับแม่ของเธอ เรื่องพวกนี้เธอก็ควรทำอยู่แล้ว
“แกจะซื้อของพวกนี้มาให้ฉันบ่อยๆทำไม มันเปลืองเงิน คราวก่อนที่ซื้อให้ก็ยังใช้ไม่หมด”
“เครื่องประทินผิวจะใช้ซ้ำแบบเดิมไปตลอดไม่ได้ หนูเห็นผิวแม่ช่วงนี้ดีขึ้นมากแล้ว ลองเปลี่ยนไปใช้แบบนี้ดู หนูต่อบัตรสมาชิกสถานเสริมความงามให้แม่แล้วด้วย ที่นี่ทำดีแม่ก็ไปทำต่อเถอะ”
“เห้อ…หรือสวรรค์เห็นแกกตัญญูเกินไปเลยส่งน้องชายแบบนี้มาถ่วงความสมดุลกันนะ ชีวิตฉันจะได้ไม่สบายเกินไป?”