แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 129
สวี่รั่วฉิงปิดใบหน้าตัวเอง เอ่ยปากพูดอย่างซึมเศร้า “ประธานลี่ คุณทำเป็นไม่เห็นแล้วกัน…..”
มุมปากของลี่ถิงเซิ่งโค้งรอยยิ้มขึ้น
หญิงสาวในตอนนี้ดูเหมือนกระรอกน้อยที่ถูกจับได้ว่าขโมยลูกสนกิน อุ้งเท้าเล็กๆสองข้างปิดตาไว้
“กลุ่มคนข้างนอกนั่น ให้เวลาเธอแก้ปัญหาสามวัน ทำได้ไหม?” ริมฝีปากบางของลี่ถิงเซิ่งขยับเล็กน้อย น้ำเสียงต่ำนิ่งไม่แยแสดังเข้าไปในหูของสวี่รั่วฉิง
“วันเดียวก็พอแล้ว”
แต่เดิมคือเพราะชอบเธอ แต่แฟนคลับกลุ่มสนับสนุนพวกนั้นมีผลกระทบต่อชีวิตของสวี่รั่วฉิง
ไม่กี่วันนี้เธอไม่กล้าไปรับสวี่อี้ฝานสวี่อี้หานที่โรงเรียนกลับบ้านอย่างง่ายๆ กลัวว่าจะเปิดเผยโรงเรียนของเด็กทั้งสอง แล้วยังที่อยู่คอนโดของตัวเอง
วันเดียว? คิ้วที่หล่อเหลาของลี่ถิงเซิ่งเลิกขึ้นเล็กน้อย
“แล้วจะรอดู”
……
ในเมื่อลั่นคำพูดออกไป ก็จะต้องดำเนินการให้ได้ ไม่อย่างนั้นลิ้นพิษของลี่ถิงเซิ่ง ไม่รู้ว่าจะทำร้ายเธอยังไง สวี่รั่วฉิงย้ายของขวัญของแฟนคลับลงมาจากรถ วางไว้ในรถเข็น
“ก็โอเว่อร์เกินไปหรือเปล่า……” สวี่อี้ฝานที่ยังคงอยู่ในวันเก่ามองไปที่ของขวัญหนึ่งคันรถ อดไม่ได้ที่จะถถอนหายใจ แฟนคลับพวกนั้นบ้าคลั่งน่ากลัวเกินไปแล้ว
แค่เห็นรูปหม่ามี๊ไม่กี่รูป เกี่ยวกันหรอ?
แม้ว่าหน้าตาของหม่ามี๊ในสายตาเขาคือผู้หญิงที่สวยที่สุดบนโลกนี้
สวี่รั่วฉิงเข็นรถเข็นกลับไปถึงบ้าน วางของขวัญเหล่านั้นไว้ในห้องนั่งเล่นด้วยความปวดหัว หลังจากจัดวางเรียบร้อยแล้ว ก็ถ่ายรูปสองสามรูป
สวี่อี้ฝานไม่เข้าใจ หม่ามี๊จะทำอะไร?
หลังจากสวี่รั่วฉิงถ่ายรูปเสร็จแล้ว ก็ย้ายของขวัญกองเท่าภูเขาไปที่ห้องเก็บของในคอนโดจากนั่งกลับมาที่ห้องนั่งเล่น กดเบอร์โทรศัพท์
“รบกวนนายดึกขนาดนี้ต้องขอโทษด้วย วันนี้ตอนบ่ายฉันสมัครบัญชีไป รบกวนนายช่วยตรวจดูทีว่าที่สมัครไปได้ผลหรือยัง?”
หลี่อานยังอยู่ที่ออฟฟิศ เขาเหลือบมองลี่ถิงเซิ่งที่ยังทำงานอยู่ ก็ออกจากห้องไปอย่างไร้เสียง พูดเสียงต่ำ “มีผลแล้ว บัญชีนั้นเธอใช้ได้เลย”
“พรุ่งนี้เลี้ยงข้าวนาย!”
“อย่าเลยอย่าเลย ถ้าเธอเลี้ยงข้าวฉัน ฉันไม่รู้ประธานลี่จะว่ายังไง” หลี่อาบรีบปฏิเสธ
เขาถือได้ว่าค้นพบแล้ว ว่าหลายครั้งที่ประธานลี่ไม่พอใจล้วนเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยแอน
เพียงแค่มีเพศตรงข้ามมาสัมผัสกับผู้ช่วยแอน กลิ่นเปรี้ยวบนตัวประธานลี่ก็ไม่สามารถปกปิดได้
ถ้าให้ประธานลี่รู้ว่าแอนนาเลี้ยงข้าวเขาคนเดียว เกรงว่าชามข้าวเหล็กของเขาจะไม่มีเข้าจริงๆ!
สวี่รั่วฉิงไม่ได้ดิ้นรน เธอยังมีเรื่องต้องทำ จึงไม่ยืนกรานต่อ “ได้ ถ้าในอนาคตแฟนนายชอบน้ำหอม ฉันจะปรุงให้นายฟรีๆ เป็นไง?”
“อันนี้มีได้” ทั่วทั้งบริษัทต่างรู้ว่าการปรุงน้ำหอมของแอนนาอยู่ในระดับต้นๆ ได้รับน้ำหอมของเธอ หลี่อานก็ทึ่ง
หลี่อานวางสาย กลับเข้าไปในออฟฟิศ
ลี่ถิงเซิ่งวางปากกาในมือลง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “สายของแอนนา?”
หลี่อาน “……”
ประธานลี่คุณคงไม่ได้ติดเครื่องดักฟังไว้บนตัวผมใช่ไหม เดาออกได้ยังไง?
หลี่อานดึงมุมปาก พูดถึงเรื่องที่สวี่รั่วฉิงไหว้วานเขาให้ลี่ถิงเซิ่งฟังหนึ่งรอบ
“อ๋อ? ดังนั้นเธอเลยจะเลี้ยงข้าวนาย?” ลี่ถิงเซิ่งยกมุมปากขึ้น เอ่ยปากถามอย่างไม่แยแส
หลี่อานรีบโบกมือ “ประธานลี่ ผมปฏิเสธไปแล้วครับ!”
เขารู้อยู่แล้วว่าประธานลี่สนใจแอนนา ทำไมจะต้องทำเรื่องที่ทำให้ประธานลี่ไม่มีความสุขด้วยล่ะ!
ใครจะรู้ว่าลี่ถิงเซิ่งจะเหลือบมองเขาอย่างน่าแปลกใจ “ไม่ต้องปฏิเสธ บอกเธอว่านายเปลี่ยนใจแล้ว”
หลี่อาน “???”
นี่มันการกระทำอะไรกัน?
“ประธานลี่ ไม่ใช่หรือเปล่าครับ? ผมปฏิเสธไปแล้ว….อีกอย่างคุณก็รู้ ผมมีแฟนแล้ว ออกไปกินข้าวกับผู้ช่วยแอนสองคน ไม่เหมาะสม….”
สายตาของลี่ถิงเซิ่งตกลงบนตัวของหลี่อาน ไม่นานนัก ริมฝีปากบางก็ขยับ “ใครบอกว่าแค่พวกนายสองคน? ฉันก็ไป”
หลี่อาน “……”
ได้ ถือว่าเขาแพ้!
“เอ่อ ประธานลี่ งั้นผมบอกผู้ช่วยแอน ว่าคุณก็จะไปหรอครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งมองเขาแนวทแยง ไม่ได้พูดอะไร
ไม่เอาน่า ก็ต้องไม่บอกแอนนาสิ! หลี่อานอยู่ข้างกายลี่ถิงเซิ่งมาหลายปี สายตาครั้งเดียวของชายหนุ่มก็อ่านออกได้ทันที
“แอนนา ฉันคิดดูแล้ว เธอปรุงน้ำหอมก็เปลืองแรงเปล่าๆ งานยุ่งทุกวัน รบกวนให้เธอปรุงน้ำหอมอีกก็ไม่สมควร เอาเป็นว่าไปกินข้าวดีกว่า” หลี่อานจิกทึ้งหนังหัวส่งวีแชทไป
ในตอนที่สวี่รั่วฉิงได้รับวีแชทจากหลี่อาน ก็งุนงงเล็กน้อย
เธอมองโทรศัพท์ซักพัก นิ่งเงียบไปหลายวินาที คิดไม่ออกว่าทำไมจู่ๆหลี่อานถึงเปลี่ยนใจ
แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ ก็แค่ข้าวมื้อเดียว
สวี่รั่วฉิงยักไหล่ ตอบกลับไปหนึ่งคำ “โอเค”
จากนั้น เธอก็เปิดเว่ยป๋อ หลังจากเปลี่ยนบัญชีที่ยืนยันตัวตนแล้ว ก็ร่างเว่ยป๋อหนึ่งโพสต์
“ขอบคุณในความรักใคร่ของทุกคนที่มีให้ฉัน ของขวัญของพวกคุณฉันได้รับหมดแล้ว ขอบคุณทุกคนมากที่ให้ความสนใจฉัน ฉันเป็นนักปรุงน้ำหอมคนหนึ่ง ตอนนี้ทำงานให้กับลี่ซื่อกรุ๊ป หวงัว่าทุกคนจะให้ความสนใจกับสินค้าน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่ที่ตัวฉัน หลังจากนี้จะสุ่มเลือกคนในคอมเมนต์มาสามคน ส่งน้ำหอมที่ฉันปรุงขึ้นเองไปให้ หวังว่าทุกคนจะชอบ”
หลังจากร่างเสร็จ ก็แนบรูปของขวัญสองสามรูป กดโพสต์
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โพสต์เว่ยป๋อนี้ก็ถูกชาวเน็ตนำขึ้นเทรนดิ้งอีกครั้ง
“ว้าว ฉันนึกว่าพี่สาวแอนวางแผนที่จะเปิดตัวแล้ว! ผลคือทำโฆษณาให้ลี่ซื่อกรุ๊ปหรอ!”
“ลี่ถิงเซิ่งให้เงินเดือนพี่สาวแอนเท่าไหร่อ่ะ ถึงได้โฆษณาให้ลี่ซื่อกรุ๊ปแม้แต่ในเวลาแบบนี้…..”
“ด้านบนไม่เข้าใจ นั่นคือรักแท้!”
“หลังจากนี้ไม่ต้องไปคุกเข่าที่บริษัทแล้วมั้ง? ถึงยังไงแอนนาก็ไม่ได้วางแผนที่จะพัฒนาไปสู่แวดวงการแสดง จิตใจของเธออยู่กับหน้าที่การงาน ถ้าชื่นชอบเธอ ทำไมเราไม่ให้ความสนใจกับผลงานของเธอล่ะ?”
“งั้นฉันจะสุ่มได้น้ำหอมไหม?”
“ลี่ซื่อกรุ๊ปจะปล่อยน้ำหอมที่แอนนาปรุงออกมาเมื่อไหร่? ฉันอยากลอง?”
หลังจากสวี่รั่วฉิงอ่านคอมเมนต์ดูแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ
ชางเน็ตส่วนมากยังมีเหตุมีผล เทรนดิ้งสักวันก็จะผ่านไป รอเทรนดิ้งหายไป ทุกคนก็จะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
วันรุ่งขึ้น เมื่อสวี่รั่วฉิงมาถึงบริษัท
มองไปรอบด้าน พวกคนที่มารอเมื่อวานนี้ไม่มีแล้วจริงๆ
แล้วพวกนักข่าวจากสื่อก็ไม่เห็นแล้ว หรือโดนไล่ไปแล้ว?
นอกจากลี่ถิงเซิ่งออกคำสั่ง ในลี่ซื่อกรุ๊ปจะมีคนอื่นริเริ่มที่จะไล่นักข่าวสื่อต่างๆไปหรอ? สวี่รั่วฉิงเดินเข้าบริษัทด้วยความแปลกใจ หาหลี่อานเจอ
“หลี่อาน เย็นนี้ฉันจองร้านมิชลินสตาร์สามดาวไว้ นายกินอาหารฝรั่งเศสได้ไหม?”
คำพูดของสวี่รั่วฉิงพึ่งจะสิ้นสุด หลี่อานก็รีบเอ่ยปาก “เรื่องเลี้ยงข้าวหลังจากนี้ค่อยคุย”
จากนั้นเขาก็มองสวี่รั่วฉิงด้วยสีหน้าจริงจัง “เธอรู้ไหม เมื่อวานหลังจากเธอโพสต์เว่ยป๋อแล้ว ก็ขึ้นเทรนดิ้งอีก จากนั้นวันนี้ก็มีผู้กำกับที่มีชื่อเสียงของหลินชวนมาถามหาเธอที่บริษัท ว่าอยากที่จะร่วมถ่ายโฆษณาน้ำหอมไหม”
สวี่รั่วฉิงถลึงตา
เธอทุ่มเทให้กับการวิจัยน้ำหอม ทำไมถึงได้เจอ “พาย” แบบนี้ด้วย
เธอไม่ต้องการ “พาย” แบบนี้!