แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 139
ดูเหมือนว่ารอยสีแดงที่ติดอยู่ริมฝีปากของชายคนนี้กำลังบ่งบอกว่า เมื่อสักครู่นี้เขาทำอะไรกับผู้หญิงคนนี้ไป
สวี่รั่วฉิงจ้องมองไปที่รอยลิปสีแดงที่มุมริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่ง เธอขยับริมฝีปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จากนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน
หลี่อานเงียบไปสองวินาที มองดูเขาสองคนที่ยังอยู่ใกล้กันอย่างมาก และเขาก็ปิดประตูอีกครั้ง
เขามาผิดเวลาจริงๆ
เมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม? ริมฝีปากของประธานหลี่มีสีแดงติดอยู่เล็กน้อย
นั่นเป็นลิปสติกของแอนนาเหรอ?
หลี่อานยืนอยู่หน้าห้องทำงานอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นเขาก็เริ่มกังวลว่าเขาจะถูกไล่ออกเพราะเห็นเจ้านายจูบกับแอนนาอย่างไม่ได้ตั้งใจหรือไม่?
หลี่อานลังเลอยู่หน้าประตู เพื่อร่วมงานที่เดินผ่านมาก็ตบไหล่หลี่อานขณะที่เดินผ่านมา ” ผู้ช่วยหลี่ครับ ประธานลี่อยู่ข้าในไหมครับ? นี่คือรายงานของเดือนนี้…”
เขายังพูดไม่จบ หลี่อานก็หยุดเขาไว้ทันที
หลี่อานเหลือบมองที่ประตูอย่างกังวล แล้วส่ายหัวอย่างเร่งรีบ และรีบดึงเพื่อนร่วมงานไปด้านข้าง เหลือบมองเขาแล้วเตือน “ประธานลี่ไม่ว่าง ถ้าคุณไปรบกวนประธานลี่ ผมเกรงว่าคุณมีโอกาสตกงาน”
เพื่อนร่วมงานทำสีหน้ามึนงง จากนั้นก็ทำเสียงพึมพำแล้วเดินจากไป
หลี่อานมองไปที่ประตูห้องทำงานที่ปิดอยู่ และคิดในใจอย่างเงียบๆว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าประธานลี่กับผู้ช่วยแอนนาพัฒนากันไปถึงขั้นไหนแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งปล่อยมือที่โอบสวี่รั่วฉิงออก การเข้ามาอย่างกะทันหันของหลี่อานทำลายบรรยากาศที่อ่อนโยนของทั้งคู่ไป
สวี่รั่วฉิงขยับริมฝีปากและเตือนเขาว่า ” ประธานลี่คะ ลิปสติกของฉันติดอยู่ริมฝีปากของคุณค่ะ”
ชายคนนั้นมองไปที่ริมฝีปากของผู้หญิงที่เขาจูบจนแดงราวกับเชอร์รี่ เสียงของเขาแหบเล็กน้อย และเขาก็เอามือแตะริมฝีปากของหญิงสาวโดยไม่รู้ตัว
สวี่รั่วฉิงตกตะลึงชั่วครู่
“เดี๋ยวก่อน ประธานลี่ คุณ…. หลี่อานยังอยู่ข้างนอกนะคะ”
ถ้าหลี่อานเห็นว่าทั้งสองจูบกัน เช่นนั้นเธอคงไม่กล้าไปพบใครแล้ว
ริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่งกระตุกเล็กน้อย และเขาเหลือบมองสวี่รั่วฉิงที่คุยในเรื่องที่ไม่ควรพูด และพูดด้วยเสียงแหบแห้ง “เขาไม่กล้าเข้ามาหรอก”
คำพูดของลี่ถิงเซิ่งเป็นความจริง
หลี่อานที่ประตูนั้นกังวลใจอย่างมาก เขาจะกล้าหาญที่จะเข้ามาได้อย่างไร?
สวี่รั่วฉิงตอบกลับว่า อ๋อ แววตาของเธอเหม่อลอย เธอมองไปที่นาฬิกาในห้องทำงาน จากนั้นเธอก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเตือนลี่ถิงเซิ่งอย่างเคร่งขรึม ” แต่ว่าประธานลี่คะ อีกสิบห้านาที คุณต้องไปพบประธานหวังแล้วใช่ไหมคะ?”
ลี่ถิงเซิ่ง: “……….”
หากว่าแววตานั้นสามารถฆ่าคนได้ ตอนนี้สวี่รั่วฉิงคงตายไปหลายครั้งแล้ว
เขาไม่เคยพบผู้หญิงที่ไม่รู้จักดูสถานการณ์เท่าเธอมาก่อน
ลี่ถิงเซิ่งเช็ดลิปสติกออกจากริมฝีปากด้วยทิชชูเปียก และมองดูสีแดงบนทิชชูเปียกสีขาว ดวงตาของเขามืดลง
จากนั้นเขาก็เตือนสวี่รั่วฉิงว่า “อย่าลืมเติมลิปสติก”
หลังจากพูดเสร็จลี่ถิงเซิ่งก็จัดเนคไทของเขาให้เรียบร้อย แล้วหยิบเอกสารบนโต๊ะและออกจากห้องไป
เหลือแต่สวี่รั่วฉิงที่งงกับสถานการณ์เล็กน้อย เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบกระจกมาดู
หน้าแดงที่แดงอยู่แล้วก็แดงขึ้นกว่าเดิม
ลิปสติกบนริมฝีปากของเธอไม่เพียงแต่ถูกผู้ชายกินเข้าไปอย่างหมดจดเท่านั้น อีกทั้งยังมีรอยถูกกัดอีกด้วย
ถ้าออกไปข้างนอก ทุกคนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นปากเธอ
สวี่รั่วฉิงรีบหยิบลิปสติกออกมา และเติมแต่งเพิ่มเติม
ด้านนอกนั้น หลี่อานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทำไมคุณประธานลี่ถึงออกมาเร็วขนาดนี้? เขากำลังเตรียมขอโทษประธานหวัง โดยบอกว่ามีประธานลี่มีเรื่องด่วน
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองหลี่อาน นำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย ” นายมัวแต่ทำอะไรอยู่ เอกสารเตรียมพร้อมหรือยัง?”
หลี่อานรีบเดินตามลี่ถิงเซิ่งไปอย่างรวดเร็ว เขาพยักหน้าและพูดว่า “พร้อมแล้วครับ”
เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟต์ หลี่อานอดไม่ได้ และสุดท้ายเขาก็ถามออกมาว่า “ประธานลี่ครับ ผู้ช่วยแอนและประธาน….”
ลี่ถิงเซิ่งเอามือข้างหนึ่งล้วงเข้ากระเป๋า ริมฝีปากที่บางๆของเขาขยับ “อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ”
หลี่อาน ตะลึง
อย่างที่ตนเห็นนั้นหมายความว่าอย่างไร!
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เห็นอะไรเลย!
เห็นแค่ประธานลี่กอดแอนนาไว้ และริมฝีปากของประธานลี่มีรอยลิปสติกของแอนนาติดอยู่…
หรือว่าพวกเขาจูบกันจริงๆ?
ต่อไปแอนนาคงจะไม่มาเป็นภรรยาท่านประธานของเขาหรอกมั้ง?
…….
สวี่รั่วฉิงไม่มีเวลามากพอที่จะไปคิดว่าทำไมลี่ถิงเซิ่งถึงจูบเธออย่างกะทันหัน
อาจเป็นเพราะเกิดอยากจะจูบ หรืออาจเป็นเพราะเขาสนใจในตัวเธอ
แต่สิ่งที่ยุ่งกว่าในตอนนี้คือการเปิดตัวน้ำหอมใหม่ในตลาดของลี่ซื่อกรุ๊ป
โฆษณาที่สวี่รั่วฉิงและนายแบบถ่ายด้วยกันออกอากาศแล้ว น้ำหอมในธีมรักแรกพบก็ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง
น้ำหอมยังไม่ได้เข้าในตลาด ก็มีคนอย่างมากบนโลกออนไลน์พูดถึงน้ำหอมที่มีชื่อว่าเมลิโลตัสแล้ว
“ฉันเห็นโฆษณานั้นแล้ว ฉันก็สนใจน้ำหอมนี้มากขึ้น วันที่ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการฉันจะไปลองดูที่ห้างสรรพสินค้า ถ้าทดลองใช้แล้วดีฉันก็จะซื้อหนึ่งขวด!
“ว่ากันว่านี่เป็นน้ำหอมตัวแรกที่แอนนาทำที่หลังจากมาที่ลี่ซื่อกรุ๊ปเชียวนะ แน่นอนว่าต้องใช้เป็นผลิตภัณฑ์หลักอยู่แล้ว คงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใช่ไหม?”
“หึหึ ฉันว่าไม่แน่นอนหรอก ผู้หญิงที่หน้าเหมือนดารา นอนเฉยๆแล้วได้เงินไม่ดีเหรอ ทำไมต้องพยายามทำอย่างอื่นเพื่อหาเงิน? แค่การติดอันดับค้นหาสองสามครั้งนี้ ก็ไม่รู้ว่าเสียเงินการตลาดไปเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าต้องขายน้ำหอมกี่ขวดถึงจะได้ทุนคืนมา?”
“พูดยากนะ แต่ถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเธอ ไม่ว่าค่าการตลาดเท่าไหร่ก็ยอมจ่าย แล้วเราจะไปยุ่งกับเขาได้อย่างไร?”
ความมีชื่อเสียงนั้นมีทั้งด้านดีและด้านเสีย
ในวันที่น้ำหอมออกวางจำหน่าย ห้างสรรพสินค้าใหญ่ในเมืองหลินชวนก็เต็มไปด้วยผู้คน
แม้ว่าน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นจะเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ แต่ด้วยเหตุที่สวี่รั่วฉิงได้รับรางวัลนักปรุงน้ำหอมอันดับ 1 ติดต่อกันหลายปี จึงส่งผลให้ตระกูลสวี่นั้นมีชื่อเสียงมากกว่าลี่ซื่อเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าน้ำหอมของแอนนาสามารถช่วยให้สถานการณ์ของลี่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้ให้ดีขึ้นหรือไม่
น้ำหอมบรรจุขวดสีขาววางอยู่บนเคาน์เตอร์ของห้างสรรพสินค้า
การออกแบบบรรจุภัณฑ์นั้นเรียบง่ายมาก ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามหรูหราของน้ำหอมหลักของลี่ซื่อกรุ๊ปที่เป็นในอดีตเป็นอย่างมาก
บนกล่องนั้นได้พิมพ์รูปเมลิโลตัสสีเหลืองอ่อนๆ ซึ่งแสดงถึงความรักครั้งแรกและความไร้เดียงสา
ลูกค้าผู้หญิงที่เข้าแถวมาเป็นเวลานานหยิบตัวอย่างขึ้นมาแล้วฉีดพ่นอย่างอ่อนโยน
กลิ่นลิลลี่จางๆ ผสมกับกลิ่นของดอกติงเซียงและเมลิโลตัส ทำให้คนรู้สึกหลงใหลในทันที
ดูเหมือนว่าหัวเชื้อที่ใช้นั้นไม่ใช่แบบสังเคราะห์ แต่เป็นน้ำหอมที่มาจากธรรมชาติ
แววตาของลูกค้าหญิงเกิดเป็นประกายขึ้นมา และเธอก็พูดกับพนักงานว่า “ฉันต้องการซื้อน้ำหอมรุ่นนี้ห้าขวด!”
พนักงานช้อปปิ้งนั้นเหลือเชื่อเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยมีคนตุนน้ำหอม น้ำหอมไม่เหมือนเครื่องสำอางอื่นๆ แม้ว่าจะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน แต่ก็ระเหยง่าย
พนักงานช้อปปิ้งบรรจุน้ำหอมเรียบร้อย จากนั้นก็ต้อนรับลูกค้าคนต่อไป
เวลาแค่ครึ่งเช้า น้ำหอมในสต๊อกที่จัดเตรียมไว้ในห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลินชวนนั้น ขายจนหมดเกลี้ยงอย่างเหลือเชื่อ
ลูกค้าที่ต้องการซื้อมากแค่ไหน ก็ต้องต่อแถวกรอกบัตรพรีเซลล์จึงจะมีสิทธิ์ซื้อได้
ไม่มีใครคาดคิดว่า นักปรุงน้ำหอมที่ไม่มีชื่อเสียงในหลินชวนจะสามารถปรุงน้ำหอมที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงเช่นนี้ออกมา อีกทั้งขายหมดในวันแรกทันที
แม้ว่าสวี่รั่วหานจะมั่นใจในน้ำหอมของเธออย่างมาก แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้!