แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 14
บทที่ 14 ก่อนที่น้ำหอมจะใช้หมด ข้าวสารจะต้องเปลี่ยนเป็นข้าวสุก
สวี่รั่วฉิงอยู่กับลี่ถิงเซิ่งมาไม่กี่วัน ก็พบว่าลี่ถิงเซิ่งเป็นคนที่มีประสาทรับกลิ่นละเอียดอ่อนมากเป็นพิเศษคนหนึ่งเลย
ในเมื่อสวี่รั่วยีมาจ้างเธอปรุงน้ำหอมเพื่อลี่ถิงเซิ่ง แน่นอนว่าเธอก็จะต้องให้“น้องสาวที่รัก”ของตัวเอง ได้ลิ้มลองรสชาติยกก้อนหินมาตกใส่เท้าตัวเองว่ามันเป็นยังไงบ้าง!
ในตอนที่สวี่รั่วฉิงปรุงน้ำหอมนั้น ตั้งใจใส่เครื่องหอมสามอย่างที่ปกติจะไม่มีทางใช้เด็ดขาดลงไปด้วย แล้วมีเพียงแต่คนที่มีประสาทรับกลิ่นละเอียดอ่อนเท่านั้นถึงจะได้กลิ่น
และที่สำคัญ ขอแค่คนที่มีประสาทรับกลิ่นละเอียดอ่อนได้ดมกลิ่นเครื่องหอมทั้งสามอย่างนี้ผสมเข้าด้วยกันแล้ว ก็จะรู้สึกเวียนหัวสะอิดสะเอียน และอยากจะอ้วก
ถึงแม้ว่าสวี่รั่วยีจะให้นักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงในเมืองหลินชวนมาตรวจสอบ จากที่ตัวเองรู้จักกับนักปรุงน้ำหอมในเมืองหลินชวนมา ก็ยังไม่มีใครที่ประสาทรับกลิ่นจะสามารถแยกแยะเครื่องหอมที่ตั้งใจใส่ลงไปนี้ออกได้
นี่คงจะเรียกว่าทำชั่วได้ชั่วละมั้ง!
หลายปีก่อนสวี่รั่วยีตั้งใจทำร้ายตัวเอง แล้วแย่งน้ำหอมที่แม่บ้านหวังเหลือทิ้งไว้ไป แล้วตอนนี้ก็มาสะดุดล้มที่น้ำหอมพอดี
สวี่รั่วฉิงบิดขี้เกียจอย่างอารมณ์ดีทีหนึ่ง จากนั้นก็โทรศัพท์อย่างขี้เกียจไปทีหนึ่ง แล้วมาดูละครได้ด้วยและตอบอีเมลของสวี่รั่วยีไปด้วย
“คุณสวี่ น้ำหอมทั้งสามขวดล้วนปรุงตามตัวอย่างที่คุณส่งมาอย่างเคร่งครัด ในเมื่อคุณสงสัยฉัน ก็สามารถเชิญนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงในเมืองหลินชวนมาช่วยคุณตรวจสอบได้ แล้วมาดูซิว่าฉันได้ทำอะไรไม่ดีไปหรือเปล่า ถ้าฉันไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ถึงตอนนั้นก็คงจะต้องขอให้คุณมาขอโทษต่อฉันด้วยนะ!”
สวี่รั่วยียังคิดว่าตัวเองเป็นพี่สาวที่ยอมให้เธอกดขี่ได้ตามใจอย่างเมื่อหลายปีก่อนอีกเหรอ?
ขอโทษด้วยนะ ครั้งนี้ที่กลับประเทศมาก็เพื่อจะให้สวี่รั่วยีเข้าใจว่า ของที่เธอแย่งไปจากตัวเองเมื่อหกปีก่อน จำเป็นจะต้องคืนกลับมาทีละอย่างทีละอย่างให้หมด!
สวี่รั่วฉิงตอบอีเมลเสร็จแล้ว ก็ปิดโน้ตบุ๊คลง แล้ววางลงบนโต๊ะน้ำชา
สำหรับความชอบของสองสามีภรรยาฮิลล์ เธอเข้าใจไม่มาก เพราะฉะนั้นจึงได้แต่ขอร้องให้ซูจิ่วเอ๋อร์ไปช่วยตัวเองสืบค้น
“เฮ้อ……” พอสวี่รั่วฉิงนึกถึงคำพูดกล้าหาญที่เธอได้พูดไว้กับลี่ถิงเซิ่งก่อนหน้านี้แล้วก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเธอจะเชื่อมั่นว่าบนโลกนี้มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่สามารถปรุงน้ำหอมที่สองสามีภรรยาฮิลล์ชอบออกมาได้ แต่กลับไม่รู้ความชอบของสองสามีภรรยาฮิลล์เลย
ถึงแม้ว่าจะปรุงน้ำหอมที่ดีที่สุดในโลกออกมาได้ แต่ว่าถ้าตัวบุคคลไม่ชอบ อย่างงั้นก็ไม่มีความหมายอะไร!
โทรศัพท์บนโต๊ะน้ำชาสั่นขึ้นเล็กน้อย
สวี่รั่วฉิงถือโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความเคยชิน นึกว่าลูกค้าคนไหนจะมาจ้างให้ตัวเองปรุงน้ำหอมให้ซะอีก
พอเห็นหน้าจอแสดงสายเรียกเข้าแล้ว ความมืดหม่นในใจของสวี่รั่วฉิงก็มลายหายไปจนหมดเลย
“จิ่วเอ๋อร์ ฉันนึกว่าเธอจะลืมฉันไปแล้วซะอีก!”
น้ำเสียงอ่อนหวานของซูจิ่วเอ๋อร์ลอยออกมาจากโทรศัพท์ เสียงเบื้องหลังฟังดูวุ่นวายนิดหน่อย และแฝงได้ด้วยเสียงภาษาฝรั่งเศส “ฉันกำลังดูโชว์แฟชั่นอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสแน่ะ! พอเห็นอีเมลของเธอ ฉันก็รีบให้คนไปสืบค้นความชอบของสองสามีภรรยาฮิลล์เลย คาดว่าพรุ่งนี้เธอก็น่าจะได้รับพัสดุส่งด่วนจากต่างประเทศที่ฉันส่งไปให้เธอแล้ว! อย่างเช่นข้างในนั้นจะมีกลิ่นดอกไม้ที่สองสามีภรรยาฮิลล์ชอบอย่างละเอียด เธอก็ตระเตรียมการทำการใหญ่ของตัวเองให้ดี ๆ ได้แล้ว! ฉันเชื่อว่า นอกจากเธอแล้ว คงจะไม่มีใครที่จะสามารถปรุงน้ำหอมที่ทำให้สองสามีภรรยาฮิลล์ที่จู้จี้จุกจิกพอใจได้อีกแล้ว!”
หกปีก่อน ตระกูลซูได้ช่วยสวี่รั่วฉิงที่โดนสวี่รั่วยีสั่งคนให้เอาตัวไปโยนทิ้งลงทะเลไว้ได้
ตั้งแต่นั้นมาสวี่รั่วฉิงก็ถูกปฏิบัติราวกับเป็นลูกสาวของบ้านตระกูลซู อายุของเธอรุ่นราวคราวเดียวกันกับคุณหนูตระกูลซูซูจิ่วเอ๋อร์พอดี แล้วทั้งสองคนก็ได้กลายเป็นเพื่อนรักกันอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ตระกูลซูพบว่าสวี่รั่วฉิงมีพรสวรรค์ทางด้านปรุงน้ำหอมแล้ว ก็สนับสนุนให้สวี่รั่วฉิงเดินไปในทางหน้าที่การงานที่ตัวเองชอบ
และซูจิ่วเอ๋อร์ที่เป็นเพื่อนรักของสวี่รั่วฉิง และแน่นอนว่าได้กลายเป็นคนทดลองน้ำหอมคนแรกทุกครั้งที่น้ำหอมแบบใหม่ของเธอออกมา
“และแน่นอนว่า น้ำหอมที่เธอปรุงให้กับสองสามีภรรยาฮิลล์ อย่าลืมเอามาให้ฉันทดลองด้วยนะ! ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเธอเลยนะ!”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!” สวี่รั่วฉิงไม่สงสัยในความทุ่มเทของซูจิ่วเอ๋อร์ที่ช่วยตัวเองรวบรวมข้อมูลมาเลยสักนิด “เธอจะได้เป็นคนแรกที่ได้ชื่นชมผลงานทั้งหมดของฉันตลอดกาล!”
แล้วในขณะเดียวกัน สวี่รั่วยีที่ได้รับอีเมลตอบกับของสวี่รั่วฉิง ก็เม้มปากชมพูไว้แน่น
เธอเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรออกไปที่เบอร์เบอร์หนึ่ง หลังจากเสียงสัญญาณผ่านไปแล้ว เธอก็พูดขึ้นเสียงอ่อนว่า “แม่ แม่รู้ไหม อาการนอนไม่หลับของถิงเซิ่งต้องพึ่งพวกน้ำหอมที่นังคนชั้นต่ำสวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้ถึงจะผ่อนคลายลงได้ แล้วตอนนี้น้ำหอมไม่กี่ขวดนั้นก็จะใช้หมดเกลี้ยงแล้ว หนูหานักปรุงน้ำหอมอันดับหนึ่งของโลกอย่างแอนนามาช่วยหนูปรุงน้ำหอมตามที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้ออกมาได้ไม่กี่ขวด แต่ว่าพอถิงเซิ่งได้กลิ่นแล้ว กลับยิ่งเย็นชากับหนูมากขึ้นไปอีก……”
“รั่วยี หนูสงสัยว่าแอนนามีปัญหาเหรอ?” คุณนายสวี่อายุสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ยังคงมีเสน่ห์อยู่ เธอสะบัดมือเล็กน้อยส่งสัญญาณให้คนรับใช้ที่ช่วยนวดให้ตัวเองอยู่ออกไป
สวี่รั่วยีพยักหน้า และพูดอย่างเชื่อมั่นว่า “ใช่ ไม่งั้นที่ผ่านมาถิงเซิ่งยึดติดกับน้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้มากขนาดนั้น แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ใส่อารมณ์กับหนูมากขนาดนี้ได้? แต่ว่าแอนนาก็ยืนยันว่าน้ำหอมของตัวเองไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วเธอยังบอกให้หนูเอาน้ำหอมไปให้นักปรุงน้ำหอมคนอื่นตรวจสอบได้ด้วยอีก!”
คุณนายสวี่หรี่ตาลง ครุ่นคิดไปสักครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “รั่วยี หนูอย่าเพิ่งใจร้อน ใช้น้ำหอมที่ยัยคนชั้นต่ำสวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้มาทำให้ลี่ถิงเซิ่งหยุดนิ่งไว้ก่อน มีแค่หนูที่สามารถทำให้ลี่ถิงเซิ่งนอนหลับดี ๆ ได้ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีใครทำได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นหนูจะต้องได้เป็นคุณนายน้อยลี่ในอนาคตแน่! สำหรับพวกน้ำหอมพวกนั้น แม่จะติดต่อนักปรุงน้ำหอมที่ดีที่สุดในเมืองหลินชวนมาตรวจสอบให้หนู ถ้าแอนนากล้าทำอะไรไม่ดีละก็ ตั้งแต่นี้ไปแม่ก็จะให้ทำให้เธอไม่มีทางมีที่ยืนอยู่ในเมืองหลินชวนอีกแน่”
พอมีคำมั่นสัญญาของคุณนายสวี่แล้ว สวี่รั่วยีถึงจะวางใจลงได้
“แต่ว่าถ้าน้ำหอมใช้หมดแล้วจะทำยังไงคะ?” สวี่รั่วยีมองน้ำหอมที่เหลืออยู่แค่ก้นขวด “ถ้าไม่มีน้ำหอมแล้ว ถิงเซิ่งก็จะต้องไล่หนูออกจากคฤหาสน์แน่”
มุมปากของคุณนายสวี่คลี่ออก แล้วรอยยิ้มเจ้าแผนการก็ปรากฏขึ้นที่ข้างมุมปาก “ก่อนที่น้ำหอมจะใช้หมด ก็ทำข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุกซิ! ขอแค่หนูท้องลูกของลี่ถิงเซิ่งซะ เขายังจะกล้าไม่แต่งงานกับหนูได้เหรอ?”
……
สามวันให้หลัง สวี่รั่วยีได้รับรายงานการตรวจสอบจากนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงอันดับสองในเมืองหลินชวน ที่รองจากตัวเองแล้ว
ในรายงานบอกอย่างชัดเจนว่าน้ำหอมที่แอนนาปรุงกับน้ำหอมของสวี่รั่วยี ได้ใช้เครื่องหอมเหมือนกันเปี๊ยบ!
สวี่รั่วยีเอารายงานการตรวจสอบโยนไว้บนโต๊ะอย่างโมโห น้ำหอมที่เธอจ่ายเงินสั่งทำไปตั้งหลายสิบล้านแต่กลับไม่มีผลต่อลี่ถิงเซิ่งเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าจะเหมือนกันกับน้ำหอมที่สวี่รั่วฉิงเหลือทิ้งไว้ทุกอย่างแล้วมันจะไปมีความหมายอะไร!
และที่สำคัญของล้ำค่าของหรูหรารวมทั้งเสื้อผ้าทั้งหมดของสวี่รั่วยีต่างก็โดนฉีดน้ำหอมที่สั่งทำกับแอนนาไปหมดแล้ว จึงได้แต่ต้องทิ้งทั้งหมดแล้ว
ในนั้นยังมีชุดราตรีหรูที่สั่งทำพิเศษและรุ่นเสื้อผ้าแฟชั่นที่หาซื้อไม่ได้อีกแล้วด้วย!
หัวใจของสวี่รั่วยีราวกับเลือดไหล แต่ว่าลี่ถิงเซิ่งไม่ชอบกลิ่นแบบนี้ เธอจึงได้แต่สั่งให้คนรับใช้เอาเสื้อผ้าทั้งหมดที่อยู่ในตู้เสื้อผ้ารวมทั้งกระเป๋าและรองเท้าทิ้งไปให้หมด!
หลายวันมานี้อารมณ์ของสวี่รั่วฉิงกลับตรงข้ามกับสวี่รั่วยีเลย ทุกวันนอกจากเธอจะทำงาน และตอนเที่ยงต้องพักผ่อนพร้อมกับลี่ถิงเซิ่งแล้ว พอกลับมาถึงบ้าน ก็เริ่มวิจัยและปรุงน้ำหอม ชีวิตไม่มีสีสันเลย
พอลองมานับนิ้วดูแล้ว ก็น่าจะเป็นวันที่สวี่รั่วยีได้รับรายงานการตรวจสอบน้ำหอมแล้ว
แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะต้องเอาคืน เป็นจดหมายของสวี่รั่วฉิง
เธอได้เขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง แล้วกะเวลาให้เรียบร้อยแล้วส่งไปที่คฤหาสน์ของลี่ถิงเซิ่ง
และที่อยู่ผู้ส่งก็คือบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปพอดี ชื่อผู้ส่งก็คือแอนนาเหมือนกัน
วันนี้ พอลี่ถิงเซิ่งขับรถกลับมาถึงคฤหาสน์ พอก้าวเหยียบเข้ามาในคฤหาสน์ พ่อบ้านในบ้านก็เอาจดหมายที่สวี่รั่วฉิงส่งมายื่นไปให้ทั้งสองมือ
“นี่คืออะไร?” ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้รับ แล้วดวงตาที่เย็นชากวาดตามองจดหมายที่อยู่ในมือพ่อบ้านอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง
พ่อบ้านอธิบายขึ้นว่า “คุณชาย ถึงแม้ว่าผู้รับในจดหมายฉบับนี้จะเป็นคุณสวี่ แต่ว่ามันถูกส่งมาจากบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป……” คำพูดของพ่อบ้านหยุดลง