แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 162
“คุณอาซูงานฉันไม่ยุ่ง ที่สำคัญถึงงานจะยุ่ง ท่านมาถึงที่นี่แล้วฉันจะไปต้อนรับด้วยตนเองเลย ก่อนหน้าเรื่องเครื่องหอมยังต้องรบกวนท่านเลย” สวั่รั่วฉิงยิ้มอ่อนๆ
คุณผู้ชายซูยิ้ม: “หลายปีผ่านไปแล้ว เธอยังเกรงใจเหมือนเดิม”
เขาถือว่าสวี่รั่วฉิงเป็นลูกสาวของตัวเองตลอด ใครจะรู้หกปีผ่านไปแล้ว บางครั้งเจ้าเด็กคนนี้ยังเกรงใจอย่างน่าตกใจอยู่เลย
สวี่รั่วฉิงหัวเราะออกมา
“งั้นผมจะไม่รบกวนเธอแล้ว ยังมีงานที่จะต้องทำใช่มั้ย? รีบไปทำเถอะ”
“ไม่เป็นไร งั้นถึงเวลานั้นที่ท่านถึงท่านก็บอกฉันด้วยนะ” สวี่รั่วฉิงพูดออกมา
เมื่อวางสายสวี่รั่วฉิงกลับไปที่ห้องประชุม เห็นลูกน้องของเธอเองใช้สายตาที่สาระแนมองมาที่เธอ
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย: “ทำไมพวกคุณถึงมีสีหน้าแบบนี้?”
กลุ่มสาระแนที่มีฟ่านเซียวเซียวเป็นหัวหน้าได้พูดออกมาเสียงเดียวกันว่า: “ผู้ดูแลแอน โทรศัพท์มาจากใครหรือ? ประธานลี่หรือ?”
โดยเฉพาะฟ่านเซียวเซียวเธอถึงขั้นที่กะพริบตาเหมือนกำลังสบประมาท
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปพักหนึ่งและตอบทันทีว่า: “ไม่ใช่”
คนที่อยู่ในห้องประชุมงงไปตามๆกัน
กลับไม่ใช่ประธานลี่ที่โทรมา?
แล้วยังมีสายจากใครที่แอนนาถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว?
สวี่รั่วฉิงมองไปที่ลูกน้องของเธอเอง ริมฝีปากที่ค่อยๆอ้าออก: “พอแล้วหยุดทายมั่วๆได้แล้ว รีบประชุม!
หลังจากเลิกงานกลับบ้าน สวี่รั่งฉิงกินข้าวเย็นเสร็จแล้วช่วยสวี่อี้หานทำการบ้าน แล้วไปอาบน้ำ
เธอพึ่งมานั่งที่โซฟา เตรียมที่จะดูซีรี่ย์ความรักและซูจิ่วเอ๋อร์ก็ได้ส่งข้อความทางวีแชทมา
” พ่อฉันบอกเธอหรือยังว่าอาทิตย์หน้าจะไปเมืองหลินชวน”
สวี่รั่วฉิงตอบว่า:” ถ้าเธอจะซื้ออะไรมาฝากก็ส่งมาที่คอนโดฉันเลย จะลำบากให้สังเกตการณ์เอามาทำไม มันยุ่งยากมากนะ”
ซูจิ่วเอ๋อร์:” ถ้าส่งไปจะถูกด่านศุลกากรตรวจยึดได้ง่าย เดียวฉันฝากไปดีแล้ว!”
สวี่รั่วฉิงกุมขมับ:” ตกลงเธอฝากคุณอาเอาอะไรมาให้……”
ก่อนที่คุณผู้ชายซูจะมาถึงที่เมืองหลินชวนหนึ่งวัน สวี่รั่วฉิงรู้ว่าเขานั่ง เที่ยวบินอะไรมา”
พอดีว่าสวี่รั่วฉิงยังมีวันลาพักร้อนโดยไม่ถูกหักเงินเดือนเหลืออยู่หลายวัน เธอก็เลยลางานกับลี่ถิงเซิ่ง
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ถามเหตุผลเธอ ก็แค่ถามเพียงว่า: “ไปรับใคร?”
สวี่รั่วฉิงเงียบไปพักหนึ่งและรู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับความไวของลี่ถิงเซิ่ง
สวี่รั่วฉิงไม่ได้คิดลึกอะไรก็ตอบตามระเบียบปฏิบัติของบริษัทว่า: “ไปรับผู้ใหญ่คนหนึ่ง”
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้าตกลงให้สวี่รั่วฉิงลางาน
ขณะเดียวกันสวี่รั่วยีและเลขาของเธอได้พูดว่า: “คนที่จะมาร่วมงานเวทีการอภิปรายเศรษฐกิจมาถึงเกือบจะหมดแล้ว หลายวันที่ไปสังเกตการณ์ที่สนามบินมีความคืบหน้าอะไรมั้ย?”
เลขาส่ายหัว: “ยังไม่เจอแอนนาและประธานซูเลย”
“สายที่สุดคงเป็นพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ส่งคนไปสังเกตการณ์ที่สนามบินมากขึ้นถ้าเห็นแอนนาและคนของซูซื่อกรุ๊ป ก็รีบถ่ายรูปมา รูปที่ดูใกล้ชิดยิ่งดีเพราะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ถ้าพวกเขาถ่ายมาได้เงินรางวัลไม่ต้องห่วง”
วันต่อมาสวี่รั่วฉิงไม่ได้แต่งหน้าเลยและมัดผมหางม้าแล้วใส่หมวกแก๊ป ใส่ชุดที่เรียบง่ายและขับรถมุ่งหน้าไปที่สนามบินนานาชาติหลินชวน
ถึงเครื่องบินของคุณผู้ชายซูจะเป็นเครื่องบินส่วนตัว แต่เส้นทางการบินก็ยังใช้เส้นทางของสากล ก็เลยต้องจอดที่สนามบินนานาชาติหลินชวน
สวี่รั่วฉิงก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรใส่หูฟังและฟังเพลงของเธอไป
เมื่อเห็นคุณผู้ชายซูที่ใส่ชุดอยู่บ้านที่เรียบง่าย เธอก็ได้ยิ้มออกมาและถอดหูฟังออก
“คุณอาซู โรงแรมที่คุณอาซูจองอยู่ที่ไหน? เดียวฉันส่งอาไป” สวี่รั่วฉิงถามด้วยน้ำเสียงที่ธรรมชาติ
คุณอาซูที่มาเมืองหลินชวนครั้งนี้ นอกจากมีตัวเขาเองแล้วยังมีเลขาเขาอีกคน
เลขาเห็นว่าเป็นสวี่รั่วฉิงที่มารับ เธอก็เลยให้ฝ่ายภาคพื้นดินส่งกระเป๋าของคุณผู้ชายซูไปที่โรงแรมก่อน
คุณผู้ชายซูยิ้มออกมามองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ที่อายุใกล้เคียงกับลูกสาวตัวเอง: “แอน วันนี้เป็นวันทำงานไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงลาอีกแล้ว? ประธานลี่จะไม่ว่าอะไรเธอหรือ?”
สวี่รั่วฉิงเบ้ปาก: “วันลาพักร้อนพร้อมไม่หักเงินเดือนถ้าไม่ใช้ก็เสียเปล่าสิ”
คุณผู้ชายซูส่ายหัว: “เธอนะนิสัยแบนนี้ของเธอเหมือนจิ่วเอ๋อร์ไม่มีผิด ยังเป็นเด็กอยู่”
สวี่รั่วฉิงแลบลิ้น เธอยังไม่เคยมีความรักเลยทำไมจะไม่เหมือนเด็กได้ละ! เธอยังเด็กอยู่!
“ใช่แล้วคุณอาซู อายังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่มั้ย? หนูพาอาไปกินอาหารเช้าชื่อดังในเมืองหลินชวนดีมั้ย?” สวี่รั่วฉิงพูดไปและมองไปที่เลขาของคุณผู้ชายซู: “ไปด้วยกันมั้ย?
เลขาพูดอย่างหมดหนทางว่า: “คุณแอนฉันไม่ไปแล้ว ยังมีงานที่ฉันต้องทำ ฉันไปจัดการดำเนินเรื่องที่โรงแรมให้ประธานซูก่อนนะ”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า
ในมุมที่พวกเขาไม่ได้สนใจ มีคนของสวี่รั่วยีกำลังใช้กล้องแอบถ่ายการเคลื่อนไหวของสวี่รั่วฉิงและคุณผู้ชายซู
สวี่รั่วฉิงก็ถือว่าคุณผู้ชายซูเป็นพ่อของตัวเองอยู่แล้ว สีหน้าที่เธอแสดงออกมาก็สนิทสนมเป็นปกติ
คนที่แอบถ่ายดีใจและในใจของพวกเขาคิดว่าเงินเข้ากระเป๋าเขาแน่ๆ
คุณผู้ชายซูตามสวี่รั่วฉิงมาถึงที่จอดรถ เห็นซูเปอร์คาร์สุดเก๋สีแดงของเธอ เขาหัวเราะอย่างหมดหนทาง: “ยังชอบรถสปอร์ต หรือ? งั้นวันเกิดเธอปีนี้ฉันกับป้าก็ให้ของขวัญเธอเป็นรถรถสปอร์ตดีกว่า”
สวี่รั่วฉิงรัดเข็มขัดเสร็จแล้วเงียบไปสักพัก
“คุณอาซูรถสปอร์ตฉันสามารถซื้อเองได้……”
สวี่รั่วฉิงก็หมดหนทางเพราะเงินทองที่ซูซื่อกรุ๊ปมีชั่งมากมายมาก แต่รายได้ที่เธอมีตอนนี้เธออยากซื้ออะไรก็ซื้อได้อยากเล่นอะไรก็เล่นได้
คุณผู้ชายซูมองไปที่สวี่รั่วฉิงและพูดเบาๆว่า: “วันเกิดของเธอเป็นวันเดียวกับจิ่วเอ๋อร์ ปีนี้จิ่วเอ๋อร์อยากได้งานเเดินแบบแฟชั่นผู้ชายที่เป็นของเธอเอง แล้วเธอละ?”
สวี่รั่วฉิง: “…….ชั่งเหมือนสไตล์ของจิ่วเอ๋อร์จริงๆ”
……
สวี่รั่วฉิงไปท่านอาหารเช้ากับคุณผู้ชายซูที่ร้านกวางตุ้งที่มีชื่อเสียงในเมืองหลินชวน
และส่งคุณผู้ชายซูกลับไปที่โรงแรมเจ็ดดาวที่จองเอาไว้
สวี่รั่วฉิงปิดประตูรถ: “ครั้งนี้คุณอาซูต้องอยู่ที่เมืองหลินชวนถึงวันที่เท่าไหร่? ฉันได้ข่าวมาว่าตารางการเดินทางของงานเวทีการอภิปรายด้านเศรษฐกิจครั้งนี้แน่นมาก”
ตารางการเดินทางของลี่ถิงเซิ่งเธอเป็นคนดูแลจัดการเอง
แผนการตารางเดินทางที่แน่นมากทำให้คนที่เห็นเกือบจะขาดอากาศหายใจ
ที่สำคัญมีงานเลี้ยงดินเนอร์ด้วย
เพียงแค่งานเวทีการอภิปรายด้านเศรษฐกิจทำไมถึงต้องมีงานเลี้ยงดินเนอร์ด้วยชั่งเป็นฟุ่มเฟือยจริงๆ!
“เจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้คือลี่ซื้อกรุ๊ปใช่มั้ย?” คุณผู้ชายซูไม่ได้ตอบคำถามสวี่รั่วฉิง แต่กลับคำถามอื่น
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปและพยักหน้า: “เป็นบริษัทของเราที่เป็นเจ้าภาพ”
แววตาที่คุณผู้ชายซูมองไปที่สวี่รั่วฉิงแฝงไปด้วยความหมดหนทาง
เจ้าเด็กคนนี้เธอไปเรียกลี่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทของเราตั้งแต่เมื่อไหร่
ดูแล้วที่คุณผู้หญิงซูบังคับให้เขามาร่วมงานงานเวทีการอภิปรายด้านเศรษฐกิจนี้เป็นเรื่องที่ถูก
“มีอะไรหรือเปล่า?” สวี่รั่วฉิงสงสัยก็เลยถามไป
คุณผู้ชายซูตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน : “ไม่มีอะไร แต่ครั้งนี้ลี่ซื่อกรุ๊ปเป็นเจ้าภาพ ฉันก็จะดูว่าลี่ถิงเซิ่งเขาเป็นคนแบบไหน”
พูดถึงประโยคนี้น้ำเสียงของคุณผู้ชายซูแฝงไปด้วยความไม่พอใจ
สวี่รั่วฉิง:???
“คุณอาซู ซูซื่อกรุ๊ปกับลี่ซื่อมีความร่วมมือต่อกันหรือ? ไม่งั้นทำไมถึงต้องติดตามลี่ถิงเซิ่งด้วย?
คุณผู้ชายซูมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้อย่างลึกซึ้งและพูดด้วยน้ำเสียงที่ธรรมชาติ: “เพราะต้องดูต้นทางให้ใครบางคน”