แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 167
หลี่ถิงเซิ่ง “…”
นอกจากฟัวกราส์ เขาแทบจะไม่กินเครื่องในสัตว์เลย
เมื่อได้ยินสวี่รั่วฉิงสั่งเมนูอาหารกับเถ้าแก่ เดิมเขาที่เข้าก็ขมวดคิ้วไม่มีวี่แววที่จะคลายออกเลย
สวี่รั่วฉิงพูดต่อว่า “ยังมีเนื้อแกะ 20 ไม้ เห็ดหอม 10 ไม้ เบียร์หนึ่งขวด…”
ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่ จู่ๆเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และเงยหน้าขึ้นมอง ลี่ถิงเซิ่งที่สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก “ประธานลี่ คุณกินเครื่องในได้ไหม? ถ้ากินไม่ได้ ฉันจะสั่งอย่างอื่นอีก”
หลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วและมองอาจารย์ที่ร้านบาร์บีคิวย่างจานที่แขกสั่งโดยใช้เตาถ่าน โรครักความสะอาดทำให้เขาไม่ได้ยินคำถามของสวี่รั่วฉิงด้วยซ้ำ
สวี่รั่วฉิงเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของเขาโดยไม่รู้ตัว “ประธานลี่?”
จากนั้นลี่ถิงเซิ่งถึงจะได้สติอย่างช้าๆ เขากำลังคิดที่จะพูดอะไร ก็ได้ยินผู้หญิงถอนหายใจ แล้วสั่งเมนูบาร์บีคิวตามปกติ
เธอถือแก้วในมือซ้าย และในมือขวาถือขวดเบียร์สดหนึ่งขวด แล้ววางลงบนโต๊ะ
หลังจากเปิดด้วยไขควงอย่างชำนาญ เทเต็มแก้ว
สวี่รั่วฉิงดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ประธานลี่ คุณกินบาร์บีคิวต้องการดื่มเบียร์สดไหม? แต่คุณคงดื่มไม่ชินที่จะดื่มเบียร์สดแบบนี้มั้ง…”
ลี่ถิงเซิ่งยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย “อ๋อ? เวลานี้ถึงรู้ว่าผมจะไม่มากินข้าวในที่แบบนี้?”
เขามองไปที่ผู้หญิงที่หัวเราะคิกๆ จากนั้นก้มศีรษะดื่มเบียร์สดอึกใหญ่
คิ้วของลี่ถิงเซิ่งที่เพิ่งคลายก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง เขากำลังเตรียมตัวจะหยุด ในเมื่อชื่อเสียงการดื่มเบียร์ก็ไม่ได้ดีมาก ถ้าหากให้เธอดื่มตามความพอใจ สุดท้ายเกรงว่าเขาก็ต้องให้คนพาไปส่งบ้าน
“ลืมไปเลยว่าประธานลี่จะไม่มาทานอาหารในสถานที่แบบนี้” สวี่รั่วฉิงจิบเบียร์สดเย็นๆหนึ่งอึก และรู้สึกสดชื่นทั่วร่างกายของเธอ เธอพูดด้วยน้ำเสียงบริสุทธิ์ “บรรดาชนชั้นสูงในย่านการเงิน ก็จะมาที่นี่หลังเลิกงาน ก็มาลิ้มรสอาหารดีๆที่นี่ มาเข้าในตลาดของชาวบ้านดูก็ไม่เลวนะ”
แป๊บเดียวสวี่รั่วฉิงก็ดื่มเบียร์สดหนึ่งแก้วลงในท้องหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเทอีกแก้วหนึ่ง
ลมยามเย็นพัดมา และผมข้างหูหญิงสาวก็ถูกพัดยุ่งเหยิง
บนแก้มสีขาวค่อยๆถูกย้อมแดงด้วยแสงสาดส่องลงมา
เธอยกแก้วขึ้น มองไปยังชายหน้าบึ้งไม่กินอาหารบนโลกมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเธอ ความโค้งของริมฝีปากของเธอสูงขึ้นและสูงขึ้น “คุณดูขัดแย้งกับสถานที่นี้ แต่จริงๆนั่งอยู่ตรงนี้ ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นคุณหรอก”
สวี่รั่วฉิงดื่มอีกอึก เลียริมฝีปากของเธอโดยไม่รู้ตัว
ลี่ถิงเซิ่ง “…”
นี่คือดื่มจนเมาอีกแล้ว?
สวี่รั่วฉิงดูเหมือนจะเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ยังไม่เมานะ กลับไปยังต้องไปดูเอกสารกองนั้น”
พูดถึงตรงนี้ เสียงของสวี่รั่วฉิงก็ดูไม่มีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย
เธอถอนหายใจ ค่อยๆมองลี่ถิงเซิ่ง และกระซิบเบาๆและบ่นนิดๆว่า “ประธานลี่ ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นนักปรุงน้ำหอมที่หลายคนต้องการ แต่คุณไม่สามารถปฏิบัติกับฉันในฐานะเสมียนนะ? เอกสารมากมายขนาดนั้นฉันดูจนหัวโตแล้ว ไม่รู้จริงๆว่าหลี่อานจำได้ยังไง ยังไงก็ตามครั้งนี้พวกเราต้องตกลงให้ดี ถ้าฉันจำมันทั้งหมดได้และไม่ได้ทำให้งานท่านล่าช้า ก็ควรขึ้นเงินเดือนให้ฉัน”
สวี่รั่วฉิงพูด วางแก้วเบียร์ในมือลง ดวงตาที่โปร่งแสงและกรึ่มๆเล็กน้อยจ้องมองลี่ถิงเซิ่งไม่ขยับ
เมื่อเขาไม่ตอบ เธอก็เอาแต่จ้องเขม็ง
ลี่ถิงเซิ่งปวดศีรษะจนต้องนวดระหว่างหัวคิ้ว เดิมเอกสารพวกนั้น ก็ไม่ได้ขอร้องให้เธอจำทั้งหมด
เพียงแค่จำประเด็นหลักที่อภิปรายในฟอรั่มเศรษฐกิจทุกวันได้ก็พอ
ใครจะรู้ว่าเธอดื้อรั้น และสิ่งที่หลี่อานจำได้ เธอก็จะต้องทำได้อย่างแน่นอน
นับถือตนเองจนมาถึงขั้นนี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี
ลี่ถิงเซิ่งถอนหายใจ มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่กรึ่มๆ ใบหน้ารูปไข่โทรมเล็กน้อย ริมฝีปากบางของเธอเปิดขึ้นเล็กน้อย และสุ่มถามเธอเกี่ยวกับเนื้อหาของแฟ้ม
สวี่รั่วฉิงถึงกับตอบได้
บางทีอาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ สวี่รั่วฉิงมองบนใส่เขา “ประธานลี่ คุณดูถูกฉันเกินไปหรือเปล่า ฉันบอกแล้ว ขอเพียงฉันใช้ใจจำ จะต้องจำได้แน่นอน”
“ลูกค้า บาร์บีคิวที่คุณสั่งมาครบหมดแล้ว” พนักงานเสิร์ฟบาร์บีคิวจานใหญ่มาที่โต๊ะ
ดวงตาของสวี่รั่วฉิงเป็นประกายขึ้นมา เธอวางแก้วเบียร์ลงทันที หยิบตะเกียบขึ้นและเริ่มคีบรสชาติที่น่าหลงใหล มาวางลงบนจาน
กัดหนึ่งคำ ที่สดใหม่และชุ่มฉ่ำ ไม่แปลกที่เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดในซอยถนนย่านการเงินมาหลายปี
สวี่รั่วฉิงกำลังกินอยู่ ทันใดนั้นก็พบว่ามีเพียงตัวเองที่กินอยู่คนเดียว
เธอวางจานลง และมองไปยังผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้าม
แน่นอนว่า ลี่ถิงเซิ่งไม่ขยับ เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกที่แผงขายอาหารประเภทนี้
คิ้วขมวดจนเหมือนกับว่าขอเพียงแค่เธอกินบาร์บีคิวจานนี้หมด วันรุ่งขึ้นต้องป่วยและนอนโรงพยาบาล
ลี่ถิงเซิ่งก็พูดอย่างนั้นจริงๆ
เขามองดูสวี่รั่วฉิงอย่างเงียบๆ ซึ่งกำลังทานอาหารอยู่ พูดเบาๆว่า “เลือกอาหารไม่ดีมาย่างบาร์บีคิว ยิ่งเป็นมะเร็งได้ง่าย
สวี่รั่วฉิง “…”
เธอเงียบ หยิบตะเกียบสะอาดขึ้นมาคู่หนึ่ง วางเนื้อแกะเสียบไม้บนจาน จากนั้นเอนตัวเล็กน้อย คีบเนื้อแกะหอมยั่วยวน แล้วยัดเข้าไปในปากของชายคนนั้น
คราวนี้ถึงคราวของลี่ถิงเซิ่งเงียบ
รูม่านตาสีดำของชายผู้นั้นเล็กลงทันใด
เขาเกือบจะกัดเนื้อแกะบนตะเกียบเข้าปาก แล้วกลืนเข้าไป
สวี่รั่วฉิงมองไปทางเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ “เป็นอย่างไรบ้าง?”
หนึ่งนาทีต่อมา ในที่สุดลี่ถิงเซิ่งก็คายประโยคอู้อี้ออกจากปากของเขา “…ก็ไม่เลว”
สวี่รั่วฉิงเกือบจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา
ใครจะคิดว่าปกติที่ไม่เคยพูดเล่น แต่พอเข้าร้านลี่ถิงเซิ่งก็จชมเชยแผงขายบาร์บีคิวริมถนนเป็นด้วย
สุดท้ายลี่ถิงเซิ่งก็ยังไม่แตะต้องเครื่องใน
สวี่รั่วฉิงยิ้มคิกๆและมองไปที่ตะเกียบเหล็กของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้แตะต้อง
ตอนแรกบอกว่ากินไม่เป็น แต่สุดท้ายกินไม่น้อยนะ แถมยังเติมอีกไม่น้อย
สวี่รั่วฉิงโบกมือเรียก และขอให้พนักงานเสิร์ฟหยิบเบียร์สดเย็นหนึ่งขวด
“ยังจะดื่ม?” ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว
แสงสีแดงบนใบหน้าของสวี่รั่วฉิงยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ และเห็นได้ชัดว่าเธอใกล้จะเมาแล้ว
“อีกสักพักคุณยังกลับได้เหรอ?” เขาถาม
สวี่รั่วฉิงกระพริบตา โบกมือไปทางเขาอย่างงุนงง “ไม่เป็นไร ประธานลี่คุณไม่ต้องกังวล ฉันคุ้นเคยกับละแวกนี้มาก ไม่มีทางหลงทาง”
ลี่ถิงเซิ่งเงียบ
เห็นได้ชัดว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเมาแล้วจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นาน สวี่รั่วฉิงที่ยืนยันว่าตัวเองไม่เป็นไรก็ฟุบหลับไปบนโต๊ะ
ลี่ถิงเซิ่ง “…”
เขาถอนหายใจอย่างจนปัญญา ส่ายศีรษะ เรียกพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ข้างๆมาเก็บเงิน
“คุณผู้ชายทั้งหมดสองร้อยเจ็ดสิบเก้า ท่านจะจ่ายเงินสดหรือสแกนครับ”
ตลอดเวลาที่ผ่านมาลี่ถิงเซิ่งผู้ที่ไม่เคยจ่ายเงินเม้มฝีปากเป็นเส้นตรง
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ถามว่า “รูดบัตรได้ไหม?”
พนักงานเสิร์ฟ “ท่านครับอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราเป็นแผงเล็กๆ ไหนจะมีเครื่อง Pose”
ลี่ถิงเซิ่งกวาดสายตามองสวี่รั่วฉิงซึ่งเมาหลับไม่ตื่น เงียบไปครู่หนึ่ง และพูดกับพนักงานเสิร์ฟว่า “รอสักครู่”
ไม่กี่นาทีต่อมา หลี่อานที่อยู่เมืองข้างๆก็ได้มาจ่ายเงินให้ทั้งสองคน