แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 23
บทที่ 23 คนที่โกหกผม ตอนต่อไปก็น่าอนาถกันทั้งนั้น
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะเสียงต่ำออกมา
ผู้หญิงอย่างแอนนานี่น่าสนใจจริงๆ
เขาสั่งให้หลี่อานไปสืบประวัติของแอนนา แม้ว่าอดีตของเธอจะถูกลบไปทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ก็ได้รู้ว่ารายได้ของเธอสูงมาก ตอนที่อยู่ต่างประเทศเธอเองก็มีคฤหาสน์เป็นของตัวเองเหมือนกัน
ตระกูลร่ำรวยที่ติดต่อเธอไปปรุงน้ำหอมให้ก็มีมาไม่ขาดสาย
เธอขาดเงินเหรอ? ไม่น่าจะใช่
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนหน้าเงิน พอเรียกให้มาทำโอทีที่บริษัท สิ่งแรกที่เธอพูดถึงก็คือมีค่าโอทีให้ไหม
ลี่ถิงเซิ่งขยับริมฝีปากพูดว่า “ผมให้ค่าโอทีคุณห้าเท่า”
“ไม่มีปัญหาค่ะประธานลี่!ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย!หนึ่งชั่วโมงต้องถึงใช่ไหม? คุณวางใจได้ ฉันไปถึงทันเวลาแน่นอน”
พูดจบ สวี่รั่วฉิงก็วางสายทันที แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อประทินผิวและแต่งหน้า
เรื่องเงินน่ะเธอไม่เคยอิดออดเลยสักนิด
การที่ลี่ซื่อกรุ๊ปให้เงินเดือนมาค่อนข้างสูง เธอพอใจมาก แน่นอนว่าค่าโอทีห้าเท่าก็จะบวกเพิ่มโบนัสตามฐานเงินเดือน แค่ต้องแลกมากับการสูญเสียเวลาแต่งสวยก็เท่านั้น!
ลี่ถิงเซิ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานที่ยังเปิดไฟสว่าง เขามองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไป พร้อมกับกระตุกริมฝีปากเซ็กซี่เล็กน้อย
สักพัก เขาก็ส่งข้อความไปหาหญิงสาว
“ขับรถระวังด้วย”
หลังจากที่นิ้วเรียวยาวกดส่งข้อความ ก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ
ในตอนนี้เองที่หลี่อานถือแก้วกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จเข้ามา “ประธานลี่ กาแฟที่สั่งได้แล้วครับ”
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้า “วางไว้บนโต๊ะ”
สักพัก เขาก็เงยหน้าขึ้น เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าเมื่อสักครู่สวี่รั่วฉิงบอกว่าเธอใช้เวลาขับรถจากที่บ้านมาบริษัทหนึ่งชั่วโมง
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว หรือว่าเมื่อกี้เขาไม่ควรบอกเธอมาถึงภายในหนึ่งชั่วโมง?
ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นขับรถเก่งแค่ไหน ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง…….
ใบหน้าหล่อเหลาของลี่ถิงเซิ่งเปลี่ยนเป็นอึมครึม “คอนโดของผู้ช่วยแอนอยู่ไกลจากบริษัทแค่ไหน?”
หลี่อานชะงักไปเล็กน้อย
ประธานลี่ถามอะไรแปลกๆเนี่ย?
ติดตามประธานลี่มาหลายปี เขาไม่เคยเห็นประธานลี่จะใส่ใจชีวิตส่วนตัวของลูกน้องคนไหนเลยสักครั้ง
หลี่อานค่อนแขวะในใจ ทว่าปากก็ยังพูดออกไปตรงๆว่า “คอนโดของผู้ช่วยแอนไม่ค่อยไกลจากบริษัทนะครับ ขับรถมาใช้เวลาประมาณสี่สิบนาทีได้”
“ดีมาก” ลี่ถิงเซิ่งพูดออกมาเสียงเย็น
เมื่อกี้เขาอุตส่าห์เป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นเหรอ
ที่แท้เธอก็หลอกเขามาตั้งแต่แรกนี่เอง!
ขณะเดียวกัน ภายในคอนโดของสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงมองตัวเองในกระจก ริมฝีปากของเธอสีแดง ใบหน้าขาวใส ขนตาหนางอน และแก้มอมชมพูระเรื่อ
เป็นผลพวงมาจากที่เธอมาสก์หน้าเมื่อสักครู่ ผิวของเธอจึงดีมาก ไม่จำเป็นต้องใช้คอนซีลเลอร์เลยด้วยซ้ำ
ผมของเธอเปียกนิดๆเพราะเพิ่งอาบน้ำมา ถ้าให้เป่าตอนนี้ต้องไม่ทันแน่ๆ จึงทำได้แค่ม้วนเอาไว้ด้านหลังลวกๆ
เธอกลับเข้ามาในห้อง สวมใส่ชุดสุภาพลายตัดขาวดำ จากนั้นก็หยิบกระเป๋า แล้วเปิดประตูเข้ามาในห้องที่อยู่ข้างๆเบาๆ
สวี่อี้ฝานยังไม่นอน เขางับโน๊ตบุ๊คลง แล้วเงยหน้าขึ้นไปถามอย่างนิ่งๆว่า “แม่ครับ พ่อเรียกไปบริษัทเหรอ?”
สวี่รั่วฉิง “…….ต่อไปห้ามแอบฟังแม่คุยโทรศัพท์อีกนะ!”
สวี่อี้ฝานยักไหล่ “ผมไม่ได้แอบฟังแม่ซะหน่อย ผมแอบฟังพ่อต่างหาก เผื่อเขาทำเรื่องอะไรไม่ดีกับแม่”
สวี่รั่วฉิงกระตุกมุมปากเล็กน้อย
เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับลี่ถิงเซิ่งสักนิด เมื่อก่อนไม่เกี่ยวข้องกันยังไง อนาคตก็จะไม่เกี่ยวข้องกันอย่างนั้น
แต่ดูเหมือนสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานจะสนับสนุนให้เธอกลับไปคืนดีกับพ่อของพวกเขา
“เอาล่ะ แม่ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง ผมไม่บอกอี้หานหรอก ผมก็จะนอนแล้วเหมือนกัน พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียน งั้นราตรีสวัสดิ์ครับแม่”
สวี่อี้ฝานพูดจบ ก็ปิดไฟแล้วกลับไปมุดตัวอยู่ในผ้าห่ม
สวี่รั่วฉิงปิดประตูลงเบาๆ
บางครั้งการที่ลูกฉลาดเกินไปก็ทำให้เธอเป็นทุกข์เหมือนกัน
การกลับมาที่เมืองหลินชวน จุดประสงค์ของเธอคือสร้างความร้าวฉานให้ลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยี
เพราะเหตุนี้เธอถึงได้จงใจซื้อคอนโดที่อยู่ใกล้ๆบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปยังไงล่ะ
จากคอนโดถึงบริษัท ใช้เวลาขับรถแค่สามสิบนาที
ในตอนที่เธอจอดรถและมาถึงห้องทำงาน ก็ยังไม่ถึงหกทุ่มครึ่งเลยด้วยซ้ำ ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจากที่ลี่ถิงเซิ่งให้เดดไลน์มา
สวี่รั่วฉิงถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อมาถึงห้องประชุม กลับไม่เจอลี่ถิงเซิ่ง มากไปกว่านั้นคือไม่เจอใครเลย
หลี่อานเห็นไฟในห้องประชุมเปิดอยู่ ก็คิดว่ามีคนลืมเปิดไฟ จึงเดินมาดู แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอผู้ช่วยแอน
เขาตกใจเป็นอย่างมาก “ผู้ช่วยแอน ดึกขนาดนี้คุณมาทำอะไรครับ?”
สวี่รั่วฉิงกะพริบตาปริบๆ “ประธานลี่เรียกฉันมาประชุมไม่ใช่เหรอคะ?”
หลี่อาน “…………”
เจ้านายเขาเล่นอะไรอีกเนี่ย
“ประธานลี่อยู่ในห้องทำงาน ผู้ช่วยแอนลองไปถามประธานลี่ที่ห้องดูไหมครับ?”
สวี่รั่วฉิงหยิบกระเป๋า เมื่อเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา ก็เห็นผู้ชายที่บอกให้เธอรีบมาที่บริษัท กำลังเอนพิงโซฟาอย่างสบายๆ ในมือถือเอกสารเอาไว้ฉบับหนึ่ง
เมื่อเห็นเธอเปิดประตูเข้ามา ลี่ถิงเซิ่งก็ยกคิ้วขึ้น สายตาทอดมองสวี่รั่วฉิงเพียงเสี้ยววิ แล้วมองเลยไปยังหลี่อานที่ตามเธอมาข้างหลัง
“ผู้ช่วยแอน เชิญเข้ามาได้” ลี่ถิงเซิ่งเอ่ยพูดนิ่งๆ
หลี่อานรู้ตัวในทันที ว่าเขาคือกว้างขวางคอ
จึงพูดออกมาอย่างรู้งานว่า “ประธานลี่ งั้นผมขอตัวไปทำธุระก่อนนะครับ”
พูดจบ หลี่อานก็ปิดประตูลง แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
สวี่รั่วฉิงมองชายหนุ่มที่ทอดกายอยู่บนโซฟาอย่างระแวง
เขาถอดเสื้อสูทออก พร้อมกับแกะกระดุมบนเสื้อออกสองเม็ด เผยให้เห็นผิวกายภายใต้แสงไฟสว่าง จนต้องจ้องตาเป็นมัน
ตอนอยู่ต่างประเทศสวี่รั่วฉิงเจอผู้ชายหล่อๆมามากมาย บางคนเป็นดารา บางคนเป็นนายแบบ
แต่ไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้เธอหัวใจเต้นรัวจนแทบหยุดหายใจ
สวี่รั่วฉิงกลืนน้ำลายลงคออย่างแนบเนียน
ไม่อยากแพ้ให้กับความดูดีของลี่ถิงเซิ่งเลย
“ประธานลี่ คุณเรียกฉันมาดึกดื่นขนาดนี้ ไม่ใช่ว่ามีประชุมเหรอ?”
เธอเหลือบมองลี่ถิงเซิ่งที่มีเสน่ห์ไร้ขีดจำกัด จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงลากยาวอ้อนๆว่า “ประชุมในห้องคุณหรอกเหรอ? แล้วค่าโอทีห้าเท่ายังมีอยู่ไหม?”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้ามองสวี่รั่วฉิงอย่างเหนื่อยหน่าย
เขามองแค่แวบเดียวก็ดูออกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้รีบมาแค่ไหน
แม้ว่าจะแต่งหน้ามาสวยไม่มีที่ติ
แต่ผมก็ยังเปียกหมาดๆ แล้วไหนจะกลิ่นอ่อนๆหลังอาบน้ำนั่นอีก เดาได้ไม่ยากเลยว่าเธอเพิ่งอาบน้ำมา
ลี่ถิงเซิ่งอมยิ้มอย่างมีความหมาย
จากนั้นริมฝีปากบางของเขาก็ขยับพูดถ้อยคำที่ทำให้หญิงสาวเดือดพล่านเป็นไฟ
“ค่าโอทีห้าเท่าคงไม่มีแล้ว ให้ได้แค่สามเท่า”
“ประธานลี่ คุณมันไม่มีสัจจะ!” สวี่รั่วฉิงเอาเหตุผลเข้าสู้ “ฉันมาถึงบริษัทภายในหนึ่งชั่วโมงตามที่คุณบอกเลยนะ!”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้าเล็กน้อย จากนั้นประสานมือทั้งสองข้างไว้บนหัวเข่าอย่างสบายๆ
“ใช่ คุณตรงต่อเวลามาก แต่ตอนคุยโทรศัพท์คุณโกหกผม”
สวี่รั่วฉิงชะงักนิ่ง
ดวงตาสีดำของลี่ถิงเซิ่งหรี่ลง พินิจมองผู้หญิงที่กำลังพยายามทำเป็นใจเย็นตรงหน้า หัวเราะเสียงต่ำแล้วพูดว่า “คนที่โกหกผม ส่วนใหญ่แล้วตอนต่อไปก็น่าอนาถกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงคุณด้วย”