แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 24
บทที่ 24 เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ในใจของสวี่รั่วฉิงรู้ดี ว่าลี่ถิงเซิ่งหมายถึงเรื่องที่เธอโกหกเขาเมื่อสักครู่ตอนคุยโทรศัพท์
ทว่าท่าทางอมยิ้มรวมไปเสียงทุ้มลึกของชายหนุ่ม พลันทำให้เอคิดว่าลี่ถิงเซิ่งรับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว
ขาเรียวที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ เริ่มสั่นเล็กน้อย
โชคดีที่เธอเคยผ่านมาหลายสถานการณ์ เธอจึงกลับมามีท่าทีสงบได้ในเวลาอันรวดเร็ว เธอทิ้งกระเป๋าลงบนโซฟา จากนั้นก็นั่งลงตรงข้ามลี่ถิงเซิ่งด้วยท่วงท่าที่สง่างาม
มุมปากยังคงมีรอยยิ้มบางๆประดับเอาไว้ จากนั้นเสียงไพเราะก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ประธานลี่ คุณพูดถูก แต่เรากลับมาเข้าประเด็นกันดีกว่า การที่ประธานลี่เรียกฉันมาที่บริษัทดึกดื่นขนาดนี้ คงไม่ใช่เพราะอยากทดสอบว่าฉันโกหกคุณหรือเปล่าหรอกใช่ไหมคะ?”
สวี่รั่วฉิงกลับมามีท่าทีสงบนิ่ง ดวงตาใสแจ๋วมองมาทางลี่ถิงเซิ่งพร้อมกับกะพริบปริบๆราวกับพูดได้
“ให้ฉันเดา ที่ประธานลี่เรียกฉันมาที่บริษัทดึกขนาดนี้ เพราะเกี่ยวกับสามีภรรยาฮิลล์หรือเปล่า? หรือว่าประธานลี่นัดเวลาพบปะกับสามีภรรยาฮิลล์ได้แล้ว?”
หลังจากที่ได้ยินที่สวี่รั่วฉิงพูด ท่าทางสบายๆเป็นกันเองเมื่อสักครู่ของลี่ถิงเซิ่งก็พลันหายไป
นัยน์ตาลึกล้ำอ่านยาก มองสำรวจผู้หญิงขี้เล่นตรงหน้า
“ฉลาดดีนี่” หลังจากเงียบไปนาน ลี่ถิงเซิ่งก็เอ่ยปากพูด “แต่บางครั้ง ฉลาดเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีนะ ระวังฉลาดมากเกินจนเสียรู้ด้วยล่ะ”
คำเตือนในน้ำเสียงของชายหนุ่ม ทำให้แผนหลังของสวี่รั่วฉิงเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมา
ลี่ถิงเซิ่งแลตามองเธอ จากนั้นก็หยิบกาแฟขึ้นมาจิบให้ชุ่มคอ
“ผมนัดหมายกับสามีภรรยาฮิลล์ไว้วันเสาร์หน้า ถึงเวลานั้นคุณต้องไปกับผม ในฐานะผู้ช่วยและคู่ควงของผม”
“เดี๋ยวนะประธานลี่” สวี่รั่วรีบจับประเด็น “คู่ควง? คุณไม่พาคู่หมั้นคุณไปด้วยล่ะ?”
จริงอยู่ที่เธออยากสร้างความร้าวฉานให้ลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยี
แต่เธอก็ไม่ได้โง่ เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยีเป็นคู่หมั้นกัน ผู้ชายคนนี้เลยคิดจะใช้เธอเป็นไม้กันหมาหักหน้าสวี่รั่วยี
ดวงตาดำใสของสวี่รั่วฉิงจดจ้องลี่ถิงเซิ่งอย่างจริงจัง “ประธานลี่ เรามาเปิดอกคุยกันดีกว่า ไม่ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับคุณสวี่จะเป็นยังไง ในฐานะที่ฉันเป็นลูกน้อง ฉันไม่กล้าไปแสดงความคิดเห็นอะไรหรอกนะ แต่การที่คุณจะให้ฉันออกงานกับคุณในฐานะคู่ควง ฉันคงรับปากไม่ได้ ฉันควรจะไปในฐานะลูกน้อง ผู้ช่วยของคุณ หรือไม่ก็นักปรุงน้ำหอมของบริษัทต่างหากถึงจะถูกต้อง”
สวี่รั่วฉิงพูดออกมาอย่างชัดเจนและมีเหตุผล
เธอพูดจบ ก็รอคำตอบของลี่ถิงเซิ่งเงียบๆ
หัวใจเต้นเร็วมาก ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองประหม่าเป็นอย่างมาก
ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเผชิญหน้ากับสวี่รั่วยีอยู่แล้ว แต่วว่าตอนนี้เธออยู่ที่เมืองหลินชวน ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมา ซูจิ่วเอ๋อร์กับตระกูลซูคงไม่สามารถช่วยเธอได้ในทันที ที่สามารถพึ่งพาได้ก็มีแค่ตัวเธอคนเดียว
การไปออกงานกับลี่ถิงเซิ่งในฐานะคู่ควง ค่อนข้างเป็นการก่อสงครามซึ่งๆหน้าเลยทีเดียว
“ผู้ช่วยแอน คุณรู้ไหมว่าที่คุณพูดมา มันหมายความว่ายังไง?”
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ลี่ถิงเซิ่งเอาแต่มองสวี่รั่วฉิงที่กำลังประหม่าอย่างคาดเดาได้ยาก จากนั้นก็เอ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจเดาอารมณ์ได้
สวี่รั่วฉิงยืดตัวตรง “ประธานลี่ ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันก็ยังจะยืนยันอย่างนั้น หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ”
ลี่ถิงเซิ่งเอนพิงโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ยกมือข้างหนึ่งพาดไว้บนโซฟา แล้วเลิกคิ้วขึ้น
“บอกเหตุผลผมมา”
“เพราะเงื่อนไขในความเป็นมืออาชีพไงไม่ว่าจะไปปรากฏตัวที่ไหน อันดับแรกฉันคือนักปรุงน้ำหอม รองลงมาค่อยถือเป็นผู้หญิง สำหรับฉันแล้วสถานะสำคัญกว่าเพศมาก”
ดวงตาของสวี่รั่วฉิง ทอประกายน่าดึงดูด
หลังจากที่เธอพูดจบ ก็มองมาที่ลี่ถิงเซิ่งนิ่งๆ
เธอเดิมพันเลย ชายหนุ่มต้องตอบตกลงเธอแน่
“คุณชนะแล้ว” ลี่ถิงเซิ่งส่ายหัว แล้วหัวเราะเสียงทุ้มลึก
เขาไม่คเยเห็นผู้หญิงอย่างแอนนามาก่อน
เขาวางเอกสารกองหนาปึกเอาไว้บนโต๊ะ “นี่คือความชอบของสามีภรรยาฮิลล์ คุณจะอ่านอยู่นี่ทั้งคืน หรือจะเอากลับไปอ่านที่บ้านก็ได้ และแน่นอน หลังจากนี้คุณสามารถใช้ห้องปรุงน้ำหอมในบริษัทได้ตามสบาย ส่วนนี่คีย์การ์ด”
เมื่อลี่ถิงเซิ่งพูดจบ คีย์การ์ดสีดำก็ถูกวางลงบนโต๊ะ
“ผมมอบสิทธิ์ใช้คีย์การ์ดใบนี้ให้คุณ คุณอยากไปไหนก็ได้ทั้งนั้น”
สวี่รั่วฉิงนิ่งไปสักพัก จากนั้นก็หยิบคีย์การ์ดขึ้นมา “ประธานลี่ คุณจะไม่เสียใจภายหลังแน่นะ? ถ้าหากฉันเป็นสายลับที่บริษัทอื่นส่งมาล่ะ ข้อมูลสำคัญภายในลี่ซื่อกรุ๊ปอาจจะถูกฉันโจรกรรมไปหมดเลยก็ได้นะ”
เขาเชื่อใจเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?
ลี่ถิงเซิ่งลุกขึ้น เดินมาที่โต๊ะทำงาน
เมื่อได้ยินที่สวี่รั่วฉิงเอ่ยถาม ลี่ถิงเซิ่งก็เงยหน้ามอง ด้วยแววตานิ่งๆ “แล้วคุณใช่สายลับของบริษัทอื่นไหมล่ะ?”
สวี่รั่วฉิงสะดุดกึก “ไม่ใช่”
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้พูดอะไรต่อ นัยน์ตาดุดันกำลังมองหน้าจอคอมพิวเตอร์
สักพัก เขาก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับเหลือบมองสวี่รั่วฉิงที่กำลังหอบเอกสารกลับที่นั่งของตัวเอง
จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มศึกษาความชอบของสามีภรรยาฮิลล์อย่างตั้งใจ
สมกับเป็นลี่ซื่อกรุ๊ป ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้ครบถ้วนกว่าที่ซูจิ่วเอ๋อหามาได้ซะอีก
“สามารถปรุงน้ำหอมที่สามีภรรยาฮิลล์ชอบภายในหนึ่งอาทิตย์ได้ไหม?”
ลี่ถิงเซิ่ง เอ่ยถามเสียงเย็น
สวี่รั่วฉิงจมอยู่กับงาน เอ่ยตอบทั้งๆที่ไม่เงยหน้าขึ้นมา “ประธานลี่ ไม่ต้องห่วงค่ะ ถ้าฉันไม่สามารถปรุงน้ำหอมกลิ่นที่ทำให้สามีภรรยาฮิลล์ พอใจออกมาได้ ฉันจะถวายตัวอยู่เป็นเพื่อนตอนคุณพักกลางวันทุกวันจนกว่าจะเกษียณเลย”
ลี่ถิงเซิ่งกระตุกมุมปากเล็กน้อย “ไม่จำเป็นต้องสาบานฮาร์ดคอขนาดนี้ก็ได้”
……
ลี่ถิงเซิ่งชินกับการทำงานติดต่อกันข้ามคืนจนไม่ได้พักผ่อน
หลังจากที่เขาตรวจสอบและอนุมัติแผนงานประจำไตรมาสเสร็จ ก็ใช้นิ้วมือนวดหัวคิ้ว “หลี่อาน ไปชงกาแฟมา……..”
พูดยังไม่ทันจบ จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าในห้องยังมีใครอีกคนอยู่
เขาช้อนดวงตาเหนื่อยล้าขึ้นไปมองทางผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่รู้ตัว
จึงพบว่าสวี่รั่วฉิงนอนหลับคากองเอกสารไปแล้ว
เมื่อนึกไปถึงความทะเยอทะยานและคำพูดปฏิญาณของหญิงสาวเมื่อคืน ลี่ถิงเซิ่งก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
เมื่อหลี่อานเปิดประตูเข้ามา สิ่งแรกที่เห็นคือสวี่รั่วฉิงที่กำลังนอนหลับ เขาจึงอดตกใจไม่ได้
เมื่อคืนผู้ช่วยแอนไม่ได้กลับบ้านเหรอ?
“ประธานลี่ กาแฟได้แล้วครับ” หลี่อานวางกาแฟไว้บนโต๊ะของลี่ถิงเซิ่ง
“นายไปบ้านแอนนา พาลูกของเธอ ไม่สิพาลูกของญาติเธอไปส่งที่โรงเรียนด้วย” ลี่ถิงเซิ่งจิบกาแฟ เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็เอ่ยสั่งขึ้นมา
หลี่อานนิ่งไปเล็กน้อย ทำไมประธานลี่รู้เรื่องที่แอนนามีลูกแล้วล่ะ?
อีกอย่างยังพูดว่าเป็นลูกของญาติแอนนาอีก?
เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่……..
หลี่อานเริ่มจินตนาการออกมาเป็นฉากๆ
“ได้ยินที่พูดไหม” เมื่อลี่ถิงเซิ่งเห็นผู้ช่วยสติล่องลอย จึงเอ่ยเตือนออกมาเสียงเย็น
“ครับ!”
หลังจากที่หลี่อานออกไป ลี่ถิงเซิ่งก็ลุกขึ้น เดินมาหยุดอยู่ข้างๆสวี่รั่วฉิง
เพราะอดนอนทั้งคืน หน้าของหญิงสาวจึงซีดเซียว และเริ่มหมองคล้ำจางๆ
ลี่ถิงเซิ่งขบเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็ก้มหน้าลงจูบหน้าผากของหญิงสาวไปโดยไม่รู้ตัว
วินาทีต่อมา เขาก็เหยียดตัวตรง แล้วอุ้มผู้หญิงที่กำลังหลับใหลเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของเขา
……
หลี่อานเคาะประตูห้องของสวี่รั่วฉิงเบาๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงเรียบนิ่งก็ดังขึ้นมาว่า
“คุณเป็นใคร?”