แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 96
บทที่ 96 ฉันเลือกลาออก ประธานลี่
สวี่รั่วยีไม่ใช่ถูกยั่วยุจนคลั่งไปแล้วนะ
หลี่อานฟังคำพูดของสวี่รั่วยีจบแล้ว ด้านหลังรู้สึกมีเหงื่อเย็นผุดขึ้น
ลี่ถิงเซิ่งสายตามีประกายหมดความอดทน ไม่โกรธกลับยิ้ม “สวี่รั่วยี ใครทำให้คุณรู้สึกว่าแอนนาสำคัญกับผมมาก”
ปกติแล้วลี่ถิงเซิ่งเกลียดการถูกคนอื่นข่มขู่เป็นที่สุด
ไม่ว่าใช้อะไรข่มขู่ ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในกำมือคนอื่น
สวี่รั่วยีอึ้งไปครู่หนึ่ง “เซนส์ เซนส์ของผู้หญิง ถิงเซิ่ง สายตาที่คุณมองเธอไม่เหมือนเวลามองผู้หญิงคนอื่น!”
สวี่รั่วยีมั่นใจในเซนส์ของตัวเองมาก
ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นแอนนา เธอก็รู้สึกได้ หากมีคนแย่งลี่ถิงเซิ่งไปจากเธอได้ จะต้องเป็นแอนนาแน่นอน ไม่มีทางเป็นคนอื่น
“เซนส์งั้นหรือ” ลี่ถิงเซิ่งยิ้ม “เซนส์คุณพลาดแล้ว แอนนาสำหรับผมแล้ว เป็นแค่ลูกน้องธรรมดาเท่านั้น”
“อย่างนั้นหรือ” สวี่รั่วยีไม่รีบร้อน หยิบมือถือออกมา กดเบอร์หนึ่ง แต่ยังไม่โทรออก
เธอมองลี่ถิงเซิ่ง พูดเรียบๆ “ถิงเซิ่ง ฉันคิดว่าคุณรู้ดีกว่าใคร วิธีจัดการของแม่คุณ ถ้าฉันบอกเรื่องวันนี้ ต่อให้แอนนาไม่ตาย ก็คงจะถูกทรมานจนสาหัสแน่”
เสียงสวี่รั่วยียังหวาน แต่หลี่อานฟังคำพูดของเธอแล้ว ทำให้ในใจหลี่อานยิ่งกังวลมากขึ้น
เขาจำวิธีการของคุณนายลี่ได้แม่นยำ
ประธานลี่เพิ่งจะเป็นประธานของลี่ซื่อกรุ๊ปไม่นาน ในบริษัทมีคนไม่ยอมรับเคารพเขา อ้างเหตุผลเป็นคนเก่าคนแก่ตำแหน่งสูง คิดอยากจะครอบครองทรัพย์สินตระกูลลี่
หลังจากคุณนายลี่ทราบเรื่อง ก็ไล่คนนั้นออกทันที และไม่รู้ใช้วิธีอะไร จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าจ้างเขาอีก ผู้อาวุโสในโลกธุรกิจอยู่ดีๆ กลายเป็นตัวตลก แม้แต่คนในครอบครัวก็อยู่ในเมืองหลินชวนต่อไปไม่ได้…
หากคุณนายลี่เชื่อคำพูดสวี่รั่วยี แอนนาถูกมองว่ามีเสี่ยเลี้ยง เป็นผู้หญิงที่อยากจะยั่วยวนประธานลี่ คุณนายจะต้องใช้ทุกวิถีทาง ให้เธอหายตัวไปจากเมืองหลินชวน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าหลี่อานก็ซีดเผือด
ลี่ถิงเซิ่งเงียบขรึม ไม่พูดอะไร
สายตาคู่นั้นจ้องมองสวี่รั่วยี
สวี่รั่วยีกำมือถือในมือแน่น เธอมั่นใจมาก เมื่อเธอเล่าเรื่องวันนี้ให้คุณนายลี่ทราบ คุณนายลี่จะต้องอยู่ข้างเธอโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตะเพิดแอนนาออกจากลี่ซื่อกรุ๊ป
เธอต้องระบายแค้นครั้งนี้ให้จงได้
……
ทันใดนั้นมือถือของสวี่รั่วฉิงสั่น
ซูจิ่วเอ๋อร์กวาดตามอง หน้าจอแสดงชื่อลี่ถิงเซิ่ง
“รั่วฉิง โทรศัพท์ของลี่ถิงเซิ่ง เขาคงไม่ได้โทรมาวันเสาร์ให้เธอไปทำโอทีนะ” ซูจิ่วเอ๋อร์รู้สึกช่วยไม่ได้ สมกับที่เป็น คนบ้างานจริงๆ วันเสาร์ยังใช้งาน!
สวี่รั่วฉิงเช็ดมือให้สะอาด เดินกลับมาที่ห้องรับแขก รับมือถือที่ซูจิ่วเอ๋อร์ส่งให้ ถือแนบหู
ครู่ใหญ่ เธอขมวดคิ้ว เก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋า “ฉันจะไปบริษัทหน่อย”
“ทำโอทีหรือ” ซูจิ่วเอ๋อร์ถาม
สวี่รั่วฉิงก็แปลกใจ แม้จะเป็นเบอร์ของลี่ถิงเซิ่ง แต่ปลายสายกลับเป็นหลี่อาน
น้ำเสียงของหลี่อานก็แปลกๆ เพียงแต่เรียกให้เธอไปบริษัท บอกมีธุระ
แต่ไม่ได้พูดเป็นเรื่องอะไรกันแน่
สวี่รั่วฉิงเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าแคสชวล ใส่รองเท้าส้นสูงออกจากอพาร์ทเมนท์
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอผลักประตูห้องทำงานลี่ถิงเซิ่ง เห็นสวี่รั่วยีนั่งเล่นมือถือที่โซฟา แวบเดียวก็เข้าใจได้คือเรื่องอะไร
สวี่รั่วฉิงชำเลืองมองสวี่รั่วยี ดึงสายตากลับมา มองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน
สวี่รั่วฉิงมองลี่ถิงเซิ่ง ในใจสับสน
ใครจะไปคิดคนที่เธอเคยช่วยชีวิตเมื่อในคืนฝนตกเมื่อหกปีก่อน เหลือเชื่อว่าจะเป็นลี่ถิงเซิ่ง
หกปีก่อนเธอเคยรู้สึกหวั่นไหวกับเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือน…ยังคงชอบเขามาก
แต่เห็นได้ชัด สวี่รั่วยีไม่อยากให้เธอได้มีเวลาคิดเรื่องนี้
“แอนนา ฉันบอกเธอแต่แรกแล้ว วันนี้ตอนเช้าเธอทำกับฉันยังไง ไม่ช้าก็เร็วต้องชดใช้”
สวี่รั่วยีเงยหน้า ทิ้งมือถือไปข้างๆ หมดความสนใจ มุมปากมีรอยยิ้มได้ใจ
“ตอนตบฉันเมื่อเช้า คงจะไม่คิดว่าจะมีวันนี้สินะ”
สวี่รั่วฉิงชำเลืองมองสวี่รั่วยีมาดนิ่งสุขุม ยิ้มนิดๆ แล้วละสายตาจากตรงนั้น “ประธานลี่ บอกมาเถอะค่ะ ต้องการให้ฉันทำยังไง”
หลี่อานลูบหน้าหมดแรง
แอนนาคนนี้ ทำไมโง่ขนาดนี้!
ปกติเป็นคนฉลาดมากไม่ใช่หรือ ตอนนี้ทำไมไม่ใช่ล่ะ!
ผู้หญิงก็อย่างนี้ อ่อนข้อหน่อยก็ดีแล้ว! ทำไมต้องงัดข้อให้จงได้!
ลี่ถิงเซิ่งวางปากกาในมือ หมุนปลอกปากกาไม่เร็วไม่ช้า วางลงบนโต๊ะ
เขาดูเหมือนไม่สนใจคำตอบของสวี่รั่วฉิง
ผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยยอมงอในเรื่องที่ควรงอ
อยู่ในสภาพปกป้องตัวเองทุกที่ทุกเวลา
สวี่รั่วฉิงยืนอยู่ตรงนั้น หลังตรง เหมือนนางแบบยืนบนเวทีเดินแบบ
เธอเพียงแต่ยืนตรงนั้น ก็ดึงดูสายตาได้
ไม่ยโสโอหังและไม่น้อยเนื้อต่ำใจ เหมือนต้นสนยืนตระหง่าน
สวี่รั่วฉิงประสานสายตากับลี่ถิงเซิ่ง ในใจลึกๆ รู้สึกตลกมาก
วันนี้เธอเพิ่งรู้ว่าลี่ถิงเซิ่งก็คือผู้ชายคนนั้นที่ตัวเองช่วยชีวิตเมื่อหกปีก่อน แต่ตอนนี้เพราะเรื่องของสวี่รั่วยี เขาอาจจะไล่เธอออก หรือบางที…อาจจะมีวิธีลงโทษอย่างอื่น
สวี่รั่วฉิงนิ่งสงบ เผยรอยยิ้ม
เธอเอ่ย “ประธานลี่ ฉันรู้เจตนาที่คุณเรียกฉันมา วันนี้ฉันตบคุณสวี่รั่วยีคู่หมั้นของคุณ แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองทำผิดอะไร”
“เธอ!” สวี่รั่วยีเห็นปากแข็งสวี่รั่วฉิง ลุกพรวดขึ้นจากโซฟา “เธอตบฉัน ยังมีหน้าพูดว่าไม่ผิดอะไร อยากลองให้ฉันตบสักฉาดมั้ย”
“คุณสวี่ สาเหตุที่ฉันตบคุณ คุณก็รู้ดี ไม่ใช่หรือคะ”
สวี่รั่วยีชะงัก ไม่พูดอะไร
ในห้างมีกล้องวงจรปิด ถ้าหากบันทึกเธอด่าคน ทั้งหมดก็ชัดแล้ว
เธอไม่อยากขายหน้า
ตระกูลสวี่ก็ไม่อยากขายหน้า
สวี่รั่วฉิงพูดจบ ก็มองลี่ถิงเซิ่งอีกครั้ง
ดวงตาลึกลับมีความหมายลึกๆ ที่เธออ่านไม่ออก
ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์เดาความคิดของลี่ถิงเซิ่ง
“ประธานลี่ ถ้าคุณอยากไล่ฉันออก ฉันยอมรับค่ะ” สวี่รั่วฉิงพยายามทำให้เสียงของตัวเองมั่นคง “ในเมื่อคุณสวี่เป็นคู่หมั้นของคุณ ฉันเป็นผู้ช่วย ฉันไม่สงสัยการตัดสินใจของคุณ”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้า มองสวี่รั่วฉิงนิ่ง
เขาอยากจะมองทะลุผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า แต่เหมือนเธอยืนอยู่ในหมอก ทำให้เขาไม่มีหนทางมองเห็นได้ชัดเจน
“ขอโทษ” ลี่ถิงเซิ่งพูดเรียบๆ “ขอโทษสวี่รั่วยี แล้วเรื่องนี้จบแค่นี้”
ความดีใจลิงโลดบนใบหน้าสวี่รั่วยีหายวับไป
เทียบกับให้ผู้หญิงคนนี้ขอโทษ เธอหวังอยากจะให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปให้พ้นจากลี่ซื่อกรุ๊ปต่างหาก ไม่โผล่มาให้เธอเห็นหน้าอีก
สวี่รั่วฉิงดวงตาเป็นประกาย สายตาไม่มองที่อื่น
ครู่ใหญ่เธอพูดขึ้น “ฉันเลือกลาออกค่ะ ประธานลี่”