แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่ 185 ต้องโทษที่พระจันทร์คืนนี้สวยเกินไป จู่ๆทำให้เธอหวั่นไหว
- Home
- แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ
- บทที่ 185 ต้องโทษที่พระจันทร์คืนนี้สวยเกินไป จู่ๆทำให้เธอหวั่นไหว
“แม่ง…”ผู้ชายที่เมื่อกี้ยังพูดเข้าข้างสวี่รั่วฉิง นอกจากคำนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว!
หน้าตาสวี่รั่วฉิงที่ดื่มเครื่องดื่มเมื่อกี้ ดูไม่ออกเลยสักนิดว่าจะเป็นนักแข่งฝีมือดี!ทั้งๆที่ดูเป็นผู้หญิงสวยที่ไร้สมองและเย่อหยิ่งคนนึง!จู่ๆ ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นผู้หญิงเก่งจนน่าตกใจแบบนี้!
ดวงตาที่ใสสะอาดของสวี่รั่วฉิง เผยให้เห็นแสงสว่างของความมั่นใจ
มุมปากของลี่ถิงเซิ่งมีรอยยิ้มบางๆ สายตาที่เขามองเธอนอกจากมีความชื่นชมแล้วยังมีความลึกซึ้งแอบแฝงอยู่ด้วย
ผู้หญิงแค่นั่งอยู่ในรถ ก็ทำให้คนละสายตาไม่ได้
เธอกลับไม่รู้ว่าสายตาของคนข้างๆที่มองเธอแอบแฝงอะไรมากกว่านั้น
ทักษะการขับรถของสวี่รั่วฉิงดีกว่าผู้ชายหลายคนจริง
ตอนที่การแข่งขันเริ่ม นอกจากไม่กี่คนที่นำเธออยู่ คนส่วนใหญ่ตามหลังเธอหมด
ตลอดจนวิ่งผ่านเส้นชัย เธอก็ยังใจสงบนิ่งมาก
แต่ว่าเธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับผลงานนี้ เดิมที คิดว่านอกจากลี่ถิงเซิ่งแล้ว มากสุดก็แค่คนสองคนที่จะขับดีกว่าเธอ ไม่นึกว่าจะเกินมาอีกสองคน
สวี่รั่วฉิงปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วลงจากรถ
นั่งเฉียงอยู่ในรถสปอร์ตคันแดงของตัวเอง ขาเรียวยาวขาวเนียนวางซ้อนกัน
“ประธานลี่คะ ฉันชนะแล้วนะ”แววตาเธอดูร้อนแรงเหมือนเคย ราวกับเปลวไฟ
ลี่ถิงเซิ่งยกมือแกะกระดุมเสื้อpoloที่หน้าอกออกสองเม็ด เผยไหปลาร้าออกมาให้เห็น
ตอนเย็นในฤดูร้อน ถึงจะมีลมทะเลแต่ก็ยังคงร้อนอยู่ดี
หน้าผากมีหยดเหงื่อที่เห็นไม่ค่อยชัดอยู่หลายหยด
น้ำเสียงของผู้ชายฟังดูอารมณ์ดีกว่าปกติที่ไม่เคยมีมาก่อน:“อืม คุณชนะแล้ว”
สายตาของลี่ถิงเซิ่งหยุดลงที่ใบหน้าแดงของสวี่รั่วฉิงที่แดงจากการซิ่งรถ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศร้อนหรือเป็นเพราะความตื่นเต้นจากการแข่งรถ
ต่างจากหน้าแดงปกติของเธอนิดๆ
รถของเพื่อนลี่ถิงเซิ่งทยอยขับผ่านเส้นชัยทีละคันๆ
พวกเขาไม่มีใครนึกมาก่อนว่าทักษะการขับรถของสวี่รั่วฉิงผู้หญิงคนนึง จะดีกว่าพวกเขา
ต่างก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วชมเธออย่างอดใจไม่ไหว:“น้องสาวเก่งดีนะเรา ฝีมือไม่เลวจริงๆ สนใจจะเข้าร่วมทีมรถของเรามั้ย?”
สวี่รั่วฉิงยักไหล่:“คุณน่าจะลองถามเจ้านายฉันก่อนนะ?”
ทุกคนต่างก็หุบปากทันที
ถ้าพวกเขายังมองไม่ออกว่าลี่ถิงเซิ่งคิดยังไงกับสวี่รั่วฉิงละก็ พวกเขาคงตาบอดไปแล้ว!
แทนที่จะบอกว่าพาสวี่รั่วฉิงออกมาผ่อนคลายอารมณ์ สู้พูดว่ามาแสดงความรักต่อหน้าพวกเขาให้อิจฉาจะดีกว่า
แต่ว่า ลี่ถิงเซิ่งเหมือนจะไม่ได้พูดว่าสาวสวยคนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาจริง ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้พูด เรียกแต่เขาว่าประธานลี่
แม่ง นี่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับนายจ้างก็แปลกแล้ว!
ถึงลี่ถิงเซิ่งจะชอบรถ และฝีมือการขับรถของสวี่รั่วฉิงจะดีแค่ไหน เขาก็คงไม่ถึงขั้นว่า ผู้หญิงชนะแล้วเลือกรถได้ตามสบายชอบ!
ใครบ้างที่ไม่รู้ว่ารถสปอร์ตในโกดังเก็บรถของลี่ถิงเซิ่งมีครบกว่ามอเตอร์โชว์อีก?มีรถสปอร์ตไม่น้อย ถึงมีเงินก็ยังซื้อไม่ได้!พวกเขาที่เป็นเพื่อน นานๆที ถึงจะยืมไปขับเล่นได้คันนึง!แต่ลี่ถิงเซิ่งกลับดี คำเดียวให้ไปง่ายๆเลย
สวี่รั่วฉิงพิงพักผ่อนในรถพักนึง
ลมทะเลอุ่นๆพัดผ่านหน้าของเธอ รู้สึกคันๆ
ยังมีเวลาก่อนฟ้ามืด หลังจากสวี่รั่วฉิงเปิดน้ำขวดนึงมาดื่มเพื่อชดเฉยน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป แล้วเปิดประตูใหม่อีกครั้งและรัดเข็มขัดนิรภัย
มือข้างนึงของเธอดันไว้ที่ประตูรถ แล้วยิ้มขึ้นมา ดวงตาที่ใสสะอาดมีแสงระยิบระยับ ทำให้คนยากที่จะมองข้าม
“ประธานลี่คะ ยังเช้าอยู่เลย ขึ้นรถ เราไปขับรถเล่นกัน?”
ตาเข้มของลี่ถิงเซิ่งหดนิดๆ จากนั้นก็ยิ้มทีนึง แล้วเดินไปทางรถสปอร์ตแดงที่ทำให้คนรู้สึกเลือดในร่างกายสูบฉีดขึ้นหัวเหมือนกับสวี่รั่วฉิงนั่นไป
ดูรถสปอร์ตสีแดงที่ค่อยๆไกลออกไป พวกคุณชายต่างก็เงียบลงทันที
“แม่ง……นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ฉันเห็นลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ปฏิเสธการชักชวนของผู้หญิง”
“อย่าว่าแต่นายครั้งแรกเลยนะ ฉันก็ครั้งแรกเหมือนกัน……”
“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนมีทักษะการขับรถที่เยี่ยมขนาดนี้มาก่อน แต่เสียดายที่เป็นผู้หญิงของถิงเซิ่ง ฉันเลยอดเลย เฮ้อ ทำไมสาวสวยถึงโดนเขาตัดหน้าแย่งไปหมดเลย?”
“……พี่ลี่แค่ตัดหน้าคนนี้คนเดียวเองได้มั้ย นายคงไม่คิดว่าเขาจะชอบสวี่รั่วยีคนนั้นจริงหรอกนะ”
“มันก็ใช่”
ในรถสปอร์ตสีแดง สวี่รั่วฉิงจับพวงมาลัยไว้ รถวิ่งไม่เร็ว ขับไปข้างหน้าอย่างนิ่งๆ
ยามค่ำคืน พระจันทร์ดูสวยมาก ประกอบกับแสงพระจันทร์แล้ว วิวทะเลยิ่งดูสวยเป็นพิเศษ
“ประธานลี่คะ”จู่ๆสวี่รั่วฉิงก็เรียกเขา
ดวงตาเข้มของลี่ถิงเซิ่งหรี่ตาเล็กน้อยทีนึง เขาก็พูดอย่างเรียบเฉย:“หืม?”
สวี่รั่วฉิงคิดๆแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการซิ่งรถก่อนหน้านี้ หรือว่าเป็นเพราะพระจันทร์คืนนี้ดูสวยเป็นพิเศษ สมองได้เบลอไปหมด จู่ๆเธอก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา
เธอเม้มปาก ชายตามองลี่ถิงเซิ่งทีนึงแล้วดึงสายตากลับไปใหม่
เธอรู้สึกหัวใจเต้นแรงมาก
ไม่ใช่ความรู้สึกที่เกิดจากหัวใจเต้นเร็วเพราะความตื่นเต้นหลังจากการซิ่งรถเมื่อกี้ แต่เป็นเพราะผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอ
บนตัวของผู้ชายมีกลิ่นไอเฉพาะตัวที่เป็นกลิ่นไอออ่อนๆของผู้ชาย ภายใต้แสงจันทร์โรแมนติก กระตุ้นต่อมประสาทของเธออยู่
“ฉันรู้สึกว่าฉันอาจจะชอบคุณ”สวี่รั่วฉิงพูด
หลังจากเธอพูดจบ เหมือนได้ปล่อยวางภาระที่หนักอกได้สักที
ราวกับได้พูดสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจออกมาในที่สุด
เธอมองทางข้างหน้า กะพริบตาทีนึง จากนั้นส่ายหัวแล้วพูดต่อ:“ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่าฉันชอบคุณ”
พูดจบ จู่ๆ เธอก็เบรคกะทันหันจอดรถสปอร์ตลงข้างทาง
บนถนนชายหาดในยามกลางคืน ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปมา
ถึงมีรถวิ่งผ่าน ก็ไม่มีใครสังเกตรถสปอร์ตสีแดงที่จอดอยู่ข้างทาง ผู้หญิงคุกเข่าอยู่บนเบาะที่นั่ง วางมือไว้บนไหล่ของผู้ชายด้วยท่าทางที่เป็นฝ่ายเหนือกว่า
เธอจูบผู้ชายเบาๆทีนึงและทิ้งรอยลิปสติกสีแดงไว้ที่มุมริมฝีปากของเขา
“คุณจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงคนนึงที่อยากจะยั่วผู้ชาย หรือไม่ก็คิดว่าฉันเป็นพนักงานที่อยากจะยั่วเจ้านายก็ได้นะคะ”เสียงของสวี่รั่วฉิงฟังดูแหบเล็กน้อย หลังจากที่เธอพูดจบ เธอคิดว่าตัวเองคงบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่ตอนนี้เธอคิดแบบนั้นจริง
เธอเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นออกไป
เพราะฉะนั้นเธอเลยจูบเขา
อาจเป็นเพราะแสงจันทร์เย้ายวนเกินไป หรืออาจเพราะที่นี่มันมืด
สวี่รั่วฉิงมองไม่เห็นดวตาคมเข้มของลี่ถิงเซิ่งได้ดุเดือดเร่าร้อนขนาดไหน
เหมือนเขาจะไม่ยอมทนต่อไปอีก
เสียงทุ้มต่ำและแหบของผู้ชายทำให้หัวใจของสวี่รั่วฉิงเต้นแรงขึ้นอีก
“ยังจูบไม่เป็นละสิ?”
มือของผู้ชายวางที่คอของเธอ มือที่ร้อนระอุค่อยๆลูบไล้จากนั้นผู้ชายก็จูบลงที่ริมฝีปากของเธอ
ในปากยังมีกลิ่นกาแฟหลงเหลืออยู่
แต่นอกจากกลิ่นกาแฟแล้วยังมีกลิ่นเฉพาะสำหรับเขา
แค่ได้ลิ้มลองคำนึงก็ยากที่จะหักห้ามความรู้สึกในใจได้อีก
จูบของเขา เป็นสไตล์เดียวกับที่เขาทำธุรกิจ
ตรงและไม่เคยอ้อมค้อม
จู่โจมทันที ทำให้คนยากจะขัดขืนได้
สวี่รั่วฉิงรู้สึกว่าปอดตัวเองเหมือนใกล้จะสูญสิ้นออกซิเจน แต่คนที่จูบเธอกลับไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ
เธอถึงขั้นรู้สึกเป็นแบบนี้ก็ไม่เลว ถึงออกซิเจนในร่างกายจะสูญสิ้นจนหมด เธอก็อยากจะดื่มด่ำกับการจูบนี้