แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่ 193 คุณฉินที่นิสัยเงียบขรึม
เป็นผู้ชายที่หน้าตาไม่แพ้ดาราคนนึงเลย คิ้วดก ดวงตาคมลึกเผยแสงระยิบระยับที่เหมือนตกตะลึง จมูกโด่งและริมฝีปากบางที่เซ็กซี่
สวี่รั่วฉินอึ้งไปหลายวิ มือที่จับรองเท้าไว้ก็นิ่งไป และคิ้วยกขึ้นมา
ตอนนี้ แค่ซื้อรองเท้าผู้หญิงถึงขั้นต้องแย่งกันซื้อแล้วหรอ?ผู้ชายทั้งคน มาแย่งซื้อรองเท้าส้นสูงกับผู้หญิงทำไมกัน?
ผู้ชายมองหน้าผู้หญิงอย่างประหลาดใจ เหมือนเขาจะไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตัวเองจะเจอสวี่รั่วฉินในเมืองหลินชวนได้
มือเรียวยาวที่กำรองเท้าไว้ค่อยๆคลายออก ริมฝีปากอ่อนๆที่กำลังจะขยับ จู่ๆ พนักงานขายที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูด:“คุณคุณฉินคะ คุณมาแล้วหรอคะ”
คุณคุณฉิน?สวี่รั่วฉินรู้สึกนามสกุลนี้คุ้นๆ
เธอกับผู้ชายคนนั้นค่อยๆปล่อยมือพร้อมกัน
ผู้ชายพยักหน้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย:“ช่วยแนะนำรุ่นที่ออกใหม่ล่าสุดให้ผมรุ่นนึงครับ”
พนักงานขายชี้รุ่นที่เขากับสวี่รั่วฉินเพิ่งหยิบพร้อมกันเมื่อกี้ด้วยรอยยิ้ม:“คุณคุณฉินคะ ครั้งนี้ ก็มาซื้อให้น้องสาวอีกเช่นเคยใช่มั้ยคะ?รุ่นนี้ ก็คือซิกเนเจอร์ของซีซั่นนี้เลยค่ะ ฮอตมากเลยนะคะ ในขณะเดียวกัน สาวๆใส่ได้สบายเลยค่ะ ถ้าเป็นคุณฉินละก็ เธอต้องชอบแน่เลยค่ะ แต่ว่า……มีแค่คู่เดียวแล้วนะคะ”
ระหว่างที่พนักงานขายพูดก็ทำหน้าเสียดาย
เมื่อกี้ เธอเพิ่งเห็นสวี่รั่วฉินกับคุณฉินหยิบรองเท้าคู่นั้นพร้อมกัน
ถ้าหักคุณฉินจะเอาละก็ ทางร้านของพวกเขาก็ต้องเลือกที่จะขายให้กับคุณฉินอยู่แล้ว ยังไงซะ เขาถือว่าเป็นลูกค้าเก่าของที่ร้าน และอีกอย่างตระกูลฉินมีอำนาจในเมืองหลินชวนไม่น้อย ไม่ใช่แค่เป็นตระกูลไฮโซธรรมดา
คุณฉินที่สวี่รั่วฉินไม่รู้จัดคนนี้ ยิ้มอ่อนๆราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ:“ไม่ต้องหรอกครับ คุณผู้หญิงคนนี้เป็นคนเห็นก่อน ผมไม่ชอบแย่งของรักคนอื่น ช่วยแนะนำรุ่นอื่นให้ผมเถอะครับ”
ดวงตาอ่อนโยนของคุณฉินมองสวี่รั่วฉินทีนึง หลังจากยิ้มบางๆให้เธอทีนึง ก็หันมาพูดกับพนักงานขาย
ผู้ชายคนนี้น่าแปลกจัง สวี่รั่วฉินมองเงาหลังของคุณฉินคนนี้ แล้วอดคิดไม่ได้
ถ้าจะว่าหน้าตา ผู้ชายที่แซ่ฉินคนนี้ ไม่แพ้ลี่ถิงเซิ่งเลยแม้แต่นิดเดียว แต่นิสัยเป็นคนเงียบขรึม พยายามปิดบังความคิดความสามารถในตัว
ผู้ชายที่ยิ่งไม่ชอบแสดงความสามารถและความเก่งกาจของตัวเอง สวี่รั่วฉินยิ่งกลัว
ไม่มีใครรู้ว่าคนแบบนี้ แอบซ่อนอะไรไว้อยู่
สวี่รั่วฉินเม้มปากทีนึง แล้วพูดกับพนักงานขายที่อยู่ข้างๆ:“ช่วยฉันห่อนี่หน่อยค่ะ”
เธอไม่แม้แต่ไปลอง ก็รู้ว่ารองเท้าคู่นั้นเหมาะที่เธอจะใส่ไปงานเลี้ยงในคืนวันเสาร์ที่สุด
คุณฉินแอบหรี่ตามองสวี่รั่วฉินเงียบๆ
ผู้หญิงที่ยังมีความเป็นเด็กสาวในความทรงจำของเขา เวลานี้ ได้กลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ไม่นึกไม่ฝันมาก่อน ว่าจะได้พบเธอที่เมืองหลินชวน
“คุณฉิน?คุณฉิน?”พนักงานขายเรียกเขา
คุณฉินได้สติกลับมาแล้วพยักหน้า ภายใต้การแนะนำของพนักงานขาย เขาได้เลือกรองเท้าส้นสูงมาคู่นึงที่ผู้หญิงชอบ แล้วให้พนักงานขายนำไปห่อให้
ก่อนเขาจะออกจากร้าน สวี่รั่วฉินยังไม่ได้จากไป ในมือหิ้วถุงที่มีโลโก้เดินดูอยู่ในร้านต่อ
มุมปากของคุณฉินยกขึ้นนิดๆ เผยรอยยิ้มออกมา
ในเมื่อให้เขาได้พบเธอใหม่ นั้นครั้งนี้ เขาจะไม่ปล่อยมือไปง่ายๆแน่
ผู้ชายออกจากร้าน แล้วได้โทรศัพท์
น้ำเสียงเขาทุ้มต่ำ ฟังดูใจเย็นและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ต่างจากผู้ชายที่อ่อนโยนเมื่อกี้:“แอนนาอยู่ที่เมืองหลินชวน ไปเช็ดดูว่าเธอพักอยู่ที่ไหน และทำงานที่บริษัทไหนมา ให้เวลานาย1ชั่วโมง”
หลังจาก1ชั่วโมง ลูกน้องของเขาก็ได้หาคำตอบที่เขาต้องการมาให้
“ประธานฉินครับ แอนนาได้มาที่เมืองหลินชวนเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนี้ เธอทำงานอยู่ที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปครับ เป็นตำแหน่งหัวหน้านักปรุงน้ำหอม ก่อนหน้านี้ น้ำหอมเมลิโลตัสที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในประเทศก็คือผลงานของคุณแอนนี่แหละครับ ส่วนที่พัก……คอนโดของคุณแอนในตอนนี้ คือคอนโดหรูในย่านเศรษฐกิจที่อยู่ใกล้ตึกสำนักงานใหญ่ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เธอน่าจะซื้อสดครับ”
ริมฝีปากของผู้ชายยิ้มขึ้น
ที่แท้ เธอก็ทำงานอยู่ลี่ซื่อกรุ๊ปนี่เอง
นั้นดูท่าแล้ว พวกเขาก็จะได้พบกันอีกครั้งในไม่นาน
ไม่รู้ว่าเธอจะยังจำเขาได้หรือเปล่านะ?
……
สวี่รั่วฉินกลับถึงบ้าน ก็เปลี่ยนรองเท้าส้นสูงออก เอาของที่ซื้อกลับมาวางบนตู้รองเท้า
“หม่ามี๊คะ หม่ามี๊กลับมาแล้ว!”
“หม่ามี๊ครับ!ในที่สุดหม่ามี๊ก็กลับมาแล้ว!”
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานพูดขึ้นพร้อมกัน สวี่อี้หานจ้องถุงช๊อปในมือของสวี่รั่วฉินไม่กะพริบตา:“หม่ามี๊คะ!มีขนมมั้ยคะ!”
สวี่รั่วฉินก้มลงมานั่งยองๆอย่างจนปัญญา แล้วใช้มือบีบจมูกน้อยๆของสวี่อี้หาน:“รู้จักกินอย่างเดียวเลยนะเรา ตะกละจังเลยนะ!”
สวี่อี้หานตื้อเธอไว้ไม่ยอมไปไหน แล้วเข้าไปในครัวพร้อมสวี่รั่วฉิน เฝ้าดูสวี่รั่วฉินนำผลไม้และขนมออกจากถุงช๊อป
“หม่ามี๊คะ หนูกับพี่จะปิดเทอมซัมเมอร์แล้วนะคะ”หลังจากสวี่อี้หานช่วยสวี่รั่วฉินนำผลไม้ใส่เข้ากล่องเสร็จ แล้วเธอก็กระซิบเบาๆ:“ปีนี้ หม่ามี๊ยังจะมีเวลาพาหนูกับพี่ไปเที่ยวมั้ยคะ?”
สวี่อี้ฝานเดินเข้ามาในครัว น้ำเสียงฟังดูตำหนิ:“ตอนนี้ หม่ามี๊ต้องไปทำงานที่บริษัท ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ”
เมื่อก่อน สวี่รั่วฉินทำงานอิสระ อยากรับงาน หรือช่วยใครปรุงน้ำหอมเมื่อไหร่ก็ทำเมื่อนั้น ได้
แต่ตอนนี้ เธอทำงานในบริษัทลี่ซื่อ จะลางานพาเด็กสองคนไปเที่ยวตามใจไม่ได้แล้ว
สวี่รั่วฉินถึงตระหนักได้ว่า หนทางการแก้แค้นของเธอ ยังต้องเสียสละความสุขของสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานไปด้วย
จู่ๆก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา เธอเตรียมอาหารใส่จานอย่างเงียบๆเสร็จ จากนั้นก็พูด:อี้หานอยากไปเที่ยวที่ไหนคะ?ถ้าหม่ามี๊มีโอกาสละก็ หม่ามี๊จะลางานพาพวกหนูไปเที่ยวดีมั้ยคะ?”
สวี่อี้ฝานนวดขมับตัวเองด้วยท่าทางปวดหัวทีนึง:“หม่ามี๊ครับ หม่ามี๊ตามใจเธอเกินไปหรือเปล่าครับ……”
“แล้วอี้ฝานไม่อยากไปหรอจ้า?”สวี่รั่วฉินถามเขาอย่างอ่อนโยน
ใบหน้าของเด็กผู้ชายที่ปกติดูเงียบขรึมแดงขึ้นนิดๆ เขาหันหน้าไปอีกทางอย่างเขินแล้วพูดด้วยเสียงเบา:“แน่นอนว่าต้องอยากไปสิครับ……”
แต่ว่าหม่ามี๊งานยุ่งมากไม่ใช่หรอครับ?ต้องออกไปทำงานแต่เช้าทุกวัน กลางคืนก็ต้องทำงานล่วงเวลาอีก
แด๊ดดี้นี่ก็จริงๆเลย ไม่รู้จักสงสารหม่ามี๊เลยครับ
“นั้นก็ดีแล้วไม่ใช่หรอครับ?”สวี่รั่วฉินสวมผ้ากันเปื้อนโดยรู้สึกขำ ก้มเอวลูบจับผมของเขา แล้วจูบที่หน้าผากเขาเบาๆทีนึง:“ขอแค่ลูกสองคนอยากไป นั้นหม่ามี๊ก็จะหาวิธีพาลูกสองคนไปเที่ยวพักร้อนให้ได้เลยจ้า”
“เจ้าเล่ห์จริงๆเลย!หนูก็จะให้หม่ามี๊หอมแก้มด้วย!”สวี่อี้หานพูดด้วยอารมณ์ไม่พอใจ:“พี่เขาเจ้าเล่ห์มากเลยค่ะ!”
หลังจากทำให้แก้วตาดวงใจทั้งสองชอบใจแล้ว สวี่รั่วฉินได้เอาพิซซ่าที่อยู่ข้างๆเข้าเตาอบระหว่างนั้นก็ถาม:“ประชุมผู้ปกครองเมื่อไหร่ คุณครูได้บอกหรือยังจ้า?”
สวี่อี้ฝานพยักหน้า:“วันอาทิตย์นี่ครับ หม่ามี๊มีเวลามั้ยครับ?ถ้าไม่มีละก็ ไม่ต้องไปก็ได้นะครับ ในเมื่อ ครั้งนี้ คะแนนของผมกับอี้หานต่างก็ไม่เลว”
สวี่รั่วฉินเชื่อข้อนี้ดี
ตลอดที่ผ่านมา เธอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงคะแนนของสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานเลย
เด็กทั้งสองคนฉลาดมาก สอบได้อันดับต้นๆในห้องมาตลอด
“วันเสาร์หม่ามี๊มีงาน แต่วันอาทิตย์พัก ไปประชุมผู้ปกครองได้จ้า แล้วที่สำคัญ กามเทพตัวน้อยสองคนที่น่าภูมิใจของหม่ามี๊ สอบได้คะแนนดี หม่ามี๊จะพลาดคำชมของคุณครูได้ยังไง ถูกมั้ยจ้า?”