แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่ 228 แค่รูปเดียวก็ทำให้เวยป๋อแทบแตกในเวลาตีห้า
- Home
- แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ
- บทที่ 228 แค่รูปเดียวก็ทำให้เวยป๋อแทบแตกในเวลาตีห้า
ลี่ถิงเซิ่งเป็นถึงพ่อแท้ๆของสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หาน แต่กลับไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
สุดท้ายก็เป็นผลให้เด็กทั้งสองคนไม่สามารถเรียกเขาว่าพ่อต่อหน้าเขาได้!
ขนาดสวี่รั่วฉิงประสบอุบัติเหตุสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานยังไม่กล้ามาที่โรงพยาบาล เธอเลยต้องมาคนเดียว
จู่ๆซูจิ่วเอ๋อร์ก็รู้สึกกลัวย้อนหลัง ถ้าวันนี้เธอไม่ได้มาที่เมืองหลินชวน สวี่รั่วฉิงเกิดอุบัติเหตุอย่างนี้ แล้วสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานจะทำยังไง!?
ยิ่งคิดซูจิ่วเอ๋อร์ก็ยิ่งรู้สึกขุ่นเคืองในใจ!
ทั้งๆที่สวี่รั่วฉิงมีความรู้สึกดีๆให้ลี่ถิงเซิ่งแท้ๆ ยิ่งพอซูจิ่วเอ๋อร์นึกถึงเรื่องที่น้ำหอมของสวี่รั่วฉิงนับวันยิ่งมีกลิ่นอายของหญิงสาวที่โตเป็นผู้ใหญ่ ก็รู้ได้ทันทีว่าหนีไม่พ้นได้แรงบันดาลใจมาจากลี่ถิงเซิ่งแน่นอน
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วกับคำพูดถากถางของซูจิ่วเอ๋อร์
ผู้หญิงคนนี้…………
ดูเหมือนจะอคติกับเขามากเลยสินะ?
เขาช้อนเปลือกตาขึ้นไปมองเพื่อนสนิทของแอนนาเล็กน้อย นัยน์ตาแอบแฝงไปด้วยความงุนงง
แอนนาคือลูกสาวบุญธรรมของคุณผู้ชายซู ความสัมพันธ์ของซูจิ่วเอ๋อร์กับแอนนาจึงดีมากอย่างไร้ข้อกังขา
แต่ว่าตั้งแต่ที่ซูจิ่วเอ๋อร์มาถึงโรงพยาบาล น้ำเสียงของเธอก็มีแต่ความประชดประชัน ราวกับไม่พอใจอะไรเขานักหนา
แต่ตระกูลลี่และตระกูลซูไม่เคยติดต่อกันมาก่อน ทั้งสองตระกูลไม่มีทางขัดแย้งกันแน่นอน
ดูเหมือนจะเป็นเพราะแอนนา
ลี่ถิงเซิ่งผละสายตาจากซูจิ่วเอ๋อร์ และไม่ได้ตอบคำถามของเธอ
ซูจิ่วเอ๋อร์ยิ้มเยาะ ดูท่าเธอกับลี่ถิงเซิ่งจะต่อกันไม่ติดแล้วจริงๆ!
แค่คิดว่าสวี่รั่วฉิงมีความรู้สึกดีๆให้ลี่ถิงเซิ่ง ซูจิ่วเอ๋อร์ก็รู้สึกเหมือนถูกหมูขโมยผักกาดที่ตัวเองดูแลรักษามาอย่างดีไปอย่างไรอย่างนั้น!
คิดมาถึงตรงนี้ ซูจิ่วเอ๋อร์ก็นั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง
เธอยังรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าลี่ถิงเซิ่งอยู่ดี!
แต่พ่อกับแม่กลับคิดที่จะจับคู่ให้สวี่รั่วฉิงและลี่ถิงเซิ่ง!
กลับปารีสครั้งนี้เธอต้องบอกพ่อกับแม่ ว่าลี่ถิงเซิ่งไม่มีทางเป็นตัวเลือกคู่แต่งงานของสวี่รั่วฉิงได้แน่นอน!
ทางเดินที่ทอดยาว ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
แป็บๆก็มีเจ้าหน้าที่พยาบาลนำถุงเลือดเข้าไปในห้องผ่าตัด แล้วก็กลับออกไปอย่างรวดเร็ว
หัวคิ้วของลี่ถิงเซิ่งขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เขาที่เห็นเหตุการณ์ ในใจก็รู้ในทันทีว่าการผ่าตัดของสวี่รั่วฉิงจะไม่จบลงในเร็วๆนี้แน่
“เธอเสียเลือดเยอะมากเลยเหรอ?” ถึงลี่ถิงเซิ่งจะนิ่งมากแค่ไหน แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่นำเลือดเข้าไปในห้องผ่าตัดครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่สามารถใจเย็นได้อีกต่อไป
พยาบาลพยักหน้า “ใช่ค่ะ ให้เลือดเยอะแล้วด้วย! เฮ้อ แย่จัง…ไม่รู้ว่าใครสติฟั่นเฟือนทำกันได้ลงคอ”
พยาบาลพูดจบ ก็รีบเดินจากไป
สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งเปลี่ยนเป็นซีดขาวเล็กน้อย
เขาแทบอยากจะเป็นคนถูกผ่าตัดแทนผู้หญิงคนนั้นให้รู้แล้วรู้รอด
“ประธานลี่ เหมือนโทรศัพท์คุณจะมีสายเข้านะครับ” ไม่รู้ว่าหลี่อานตื่นขึ้นมาตอนไหน ถึงได้เอ่ยพูดกับลี่ถิงเซิ่งได้
ลี่ถิงเซิ่งเดินมาที่เก้าอี้ยาว ก้มตัวลงไปคลำหาโทรศัพท์
เป็นสายจากเสิ่นเชียน
หัวคิ้วของลี่ถิงเซิ่งคลายขมวด ดูเหมือนจะมีความคืบหน้าแล้ว
“ฉันไปข้างนอกนะ” เสียงของลี่ถิงเซิ่งแหบแห้งนิดหน่อย หันไปกำชับหลี่อานว่า “ถ้าอาการของแอนนามีความคืบหน้า รีบแจ้งฉันทันที”
พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งก็เดินออกไปยังที่สูบบุหรี่ไร้ซึ่งผู้คน
เขาเปิดหน้าต่างออก แล้วเอนพิงกำแพงกระจก
จุดบุหรี่ในมือเสร็จ ก็กดโทรหาเสิ่นเชียน
“พี่ลี่ เรื่องที่พี่ให้ผมสืบมีเค้าลางแล้วนะ” ลมหายใจของเสิ่นเชียนไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่
ลี่ถิงเซิ่งพอเข้าใจคร่าวๆ “พูดมา”
เสิ่นเชียนแอบคิดในใจ: เฮ้อ ผู้หญิงกับผู้ชายนี่ต่างกันจริงๆ เวลาพี่ลี่พูดกับแอนนาเสียงอบอุ่นจนน้ำแข็งแทบละลาย แต่พอพูดกับเขาเท่านั้นล่ะ คำเดียวรู้เรื่องเลย
ช่างเถอะ เขาชินกับนิสัยของพี่ลี่ตั้งนานแล้วล่ะ
เสิ่นเชี่ยนเอ่ยพูดว่า “หลายปีมานี้เมืองหลินชวนหมายหัวแก๊งใต้ดินค่อนข้างหนัก หลายๆแก๊งเลยไม่กล้ารับงานอย่างเปิดเผย อีกอย่างหลายปีมานี้พวกแก๊งต่างๆก็เริ่มมีทรัพย์สินกันแล้ว ดังนั้นเลยพากันเปลี่ยนมาเดินสายขาว หลายเดือนมานี้ มีรับงานอยู่แค่ไม่กี่แก๊ง ส่วนใหญ่จะช่วยตระกูลไฮโซจัดการพวกบ้านเล็กบ้านน้อยโดยเฉพาะ ที่สืบได้มีอยู่แค่สี่แก๊ง”
เสิ่นเชียนพูด พร้อมกับเปิดอ่านเนื้อหาที่สืบมาได้ “มีหลิง หลี่ หวัง ว่าน สี่แก๊งนี้ยังรับงานจากตระกูลไฮโซอยู่”
นัยน์ตาของลี่ถิงเซิ่งทอแววลุ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ “เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก”
“พี่ลี่ ไม่ต้องเกรงใจน่า! เป็นเพื่อนกันจะมาขอบจงขอบใจอะไรเล่า!” เสิ่นเชียนแปลกใจเล็กน้อย รู้สึกว่าวันนี้ลี่ถิงเซิ่งแปลกๆไป
แต่ก็ไม่รู้ว่าแปลกไปตรงไหน
หลังจากคุยสายเสร็จ ลี่ถิงเซิ่งก็ยืนสูบบุหรี่เงียบๆ
เขากดส่งข้อความไปให้หัวหน้าเฉิน
“ตรวจสอบแก๊งใต้ดินพวกนี้ให้หน่อย เมื่อวานมีใครอยู่แถวๆที่เกิดอุบัติเหตุบ้าง”
เมื่อหัวหน้าเฉินได้รับข้อความจากลี่ถิงเซิ่ง ก็รู้สึกประหลาดใจ
สายข่าวของลี่ซื่อกรุ๊ปทำงานเร็วเกินไปแล้ว เพิ่งไม่กี่ชั่วโมงเอง ก็สามารถลดขอบเขตในการสืบหาพวกแก๊งนักเลงได้แล้ว
ลี่ถิงเซิ่งเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า หลังจากที่สูบบุหรี่เสร็จ ก็ทิ้งก้นบุหรี่ลงถังขยะ
เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ เขาก็พับแขนเสื้อขึ้น จากนั้นก็ใช้น้ำล้างหน้าเพื่อขจัดความง่วง
เพิ่งผ่านไปคืนเดียว บริเวณคางของเขาก็มีหนวดจางๆขึ้นมาแล้ว
ชายหนุ่มในกระจกดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนที่ลี่ถิงเซิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ จู่ๆก็มีแสงแฟลชวาบขึ้นมา
เขาหรี่ตาลงโดยอัตโนมัติ เมื่อหันมองรอบๆ กลับไม่พบอะไรเลย
ลี่ถิงเซิ่งยกมือขึ้นมานวดหัวคิ้ว คงเป็นเพราะไม่ได้พักผ่อนมาคืนหนึ่ง เลยตาฝาดล่ะมั้ง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ลี่ถิงเซิ่งก็เดินไปที่ห้องผ่าตัด
บริเวณที่เขายืนอยู่เมื่อสักครู่ มีนักข่าวคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมเลี้ยวแล้วรีบเดินจากไป
ภาพในโทรศัพท์ของนักข่าว คือภาพของลี่ถิงเซิ่ง!
ในใจของเขาลิงโลด
ไม่คิดเลยว่าลี่ถิงเซิ่งจะอยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆ! แถมยังดูอ่อนเพลียเหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน
ดูเหมือนที่เขาเดาๆกันในอินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องจริง! แอนนาประสบอุบัติเหตุ เพราะงั้นลี่ถิงเซิ่งถึงมาอยู่ที่นี่!
รอยยิ้มของนักข่าวลุ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนเขาจะได้จับเงินก้อนใหญ่ซะแล้วสิ
นักข่าวไม่คิดอะไรให้มากความ โพสต์รูปภาพลงบนเวยป๋อทันที
“ใครๆก็รู้ ว่าลี่ถิงเซิ่งกับแอนนากิ๊กๆกันอยู่ ตอนนี้ลี่ถิงเซิ่งอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนที่หนึ่ง แอนนาก็คงอยู่ด้วย!”
“ประธานลี่ดูเหนื่อยๆนะ? เพราะไม่ได้นอนเลยทั้งคืนหรือเปล่า?”
“คู่จิ้นของฉันคือเรื่องจริง! ประธานลี่กับแอนนาคือเรื่องจริง!”
“เวลานี้ ยังมีหน้ามาชงคู่จิ้นอีกเหรอ!ถ้าลี่ถิงเซิ่งอยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆ นั่นก็แปลว่าเรื่องที่แอนนาประสบอุบัติเหตุก็ต้องเป็นเรื่องจริงน่ะสิ?”
“งั้นแบบนี้ก็เหมือนที่วิเคราห์ไว้น่ะสิ? มีคนไม่ชอบหน้าแอนนา เลยให้คนไปขับรถชนหรือเปล่า? แต่ว่าจนถึงตอนนี้ตำรวจก็ยังไม่แถลงอะไรเลยนะ พูดยากจังแฮะ……..”
“คงไม่กล้าแถลงน่ะสิ! ถ้าแอนนากิ๊กกับลี่ถิงเซิ่งจริงๆ ต่อให้ตำรวจจะใหญ่แค่ไหนก็ไม่กล้าแถลงหรอกเชื่อไหม! แบบนั้นจะไม่ถูกลี่ซื่อกรุ๊ปคิดบัญชีกันพอดีเหรอ?”
“พอพูดมาอย่างนี้แล้ว ฉันก็คิดว่านักข่าวคนนี้ชักจะน่าสงสารแล้วสิ……”
แค่รูปของนักข่าวรูปเดียวก็ทำให้เวยป๋อแทบแตกในเวลาตีห้า!