แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่217 นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? กล้าไปท้าทายแย่งชิงผู้หญิงกับลี่ถิงเซิ่ง
- Home
- แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ
- บทที่217 นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? กล้าไปท้าทายแย่งชิงผู้หญิงกับลี่ถิงเซิ่ง
ลี่ถิงเซิ่งพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางสวี่รั่วฉิงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร สายตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
ผ่านไปชั่วขณะเดียว เขาก็ยื่นมือไปคว้าเธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน ต่อหน้าโจวหยวน ริมฝีปากบางนั้นก็เริ่มพูด “ตอนนี้คุณเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองคนหรือยัง?”
โจวหยวนตะลึงจนพูดไม่ออก ได้แต่อ้าปากค้าง
เขาคิดในใจเงียบๆ ไอ้ควาย ที่ผู้กำกับจางพูดก็เป็นเรื่องจริงสินะ คุณแอนกับประธานลี่มีความสัมพันธ์กันจริงๆ?
โจวหยวนมองไปที่แอนนาด้วยสายตาลึกซึ้ง ในใจรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
ทีแรกเขาหวังในใจว่าถ้าได้ถ่ายโฆษณาด้วยกันอีกครั้ง จะได้พัฒนาความสัมพันธ์กับสวี่รั่วฉิง ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบแข่งรถ รูปร่างหน้าตาสวยงามและมีหน้าที่การงานเป็นของตัวเอง ผูหญิงแบบนี้หาได้ยากมาก
แถมยังดูเย็นชาอีกต่างหาก!
ที่น่าเสียดายคือเขายังไม่ทันได้เริ่มจีบก็ค้นพบว่าเธอนั้นมีแฟนอยู่เสียแล้ว!
ก่อนโจวหยวนจะเดินจากไป ก็มองสวี่รั่วฉิงอย่างลึกซึ้ง พร้อมกับเดินอ่อนแรงไหล่ตกกลับไปที่ข้างนายหน้าของเขาเช่นเดิม
เมื่อนายหน้ามองเห็นเขาเช่นนั้นก็พูดถาม “เมื่อครู่นายไปไหนมา?”
โจวหยวนจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ให้นายหน้าฟัง
ใบหน้าของนายหน้าก็ซีดลง “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? นายไปแย่งชิงผู้หญิงกับลี่ถิงเซิ่ง? นายมีอนาคตมากแค่ไหนที่จะเอาไปพ่วงไว้กับเรื่องนี้? แค่เขาใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียว พรุ่งนี้นายก็ไม่ได้ถ่ายโฆษณาแล้ว เข้าใจหรือเปล่า? คิดถึงความรักอะไร ตอนที่นายยังไม่ได้มาถึงจุดสูงสุดของอาชีพนี้ นายก็ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง!”
โจวหยวนเม้มปาก พร้อมเงยหน้ามองไปตรงนั้นที่ไม่ไกลออกไป เห็นสวี่รั่วฉิงที่ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่กับลี่ถิงเซิ่ง ในใจนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
ไม่รู้ว่าฟ่านเซียวเซียวหายออกไปจากสายตาตอนไหน เหลือเพียงแค่สวี่รั่วฉิงและลี่ถิงเซิ่งสองคนเท่านั้น
สูทที่ลี่ถิงเซิ่งใส่วันนี้ สวี่รั่วฉิงมองนิดเดียวก็รู้ว่าเป็นงานฝีมือของช่างใหญ่ฝีมือดีในทวีปยุโรป
ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆคลายมือที่โอบไหล่เธอไว้ พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา “อธิบายมาหน่อย?”
สวี่รั่วฉิงเข้าใจ ว่าคำถามของเขานั้นหมายถึงสิ่งที่โจวหยวนพูดเมื่อครู่นี้ ตอนที่เธอถ่ายโฆษณาแล้วสอนเขาว่าต้องถ่ายฉากจูบยังไง
แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะตอบตรงๆได้ “ประธานลี่ คุณอย่าคิดมาก! ฉันแค่ใช้ประสบการณ์ที่ฉันดูละครรักมาหลายปีแค่นั้น! แนะนำเขาไปแค่นิดเดียว!”
ลี่ถิงเซิ่งไม่พูดอะไร มองไปที่สวี่รั่วฉิงเงียบๆ
“จริงๆนะคะ! มีแค่นิดนิดเดียวจริงๆ!” สวี่รั่วฉิงโต้แย้งกับลี่ถิงเซิ่งสักพัก จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ประธานลี่ คุณทิ้งสื่อมวลชนมากมายขนาดนั้น มาอู้งานอยู่ตรงนี้กับฉันไม่เหมาะสมเท่าไหร่มั้ง วันนี้เป็นงานเลี้ยงสำคัญไม่ใช่เหรอ?”
ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆยื่นมือไปคลายเนกไทของตัวเองออก เขาพิงกำแพงพร้อมมองไปออกไปที่อยู่ไม่ไกลนัก มองไปทางกลุ่มเซเลบริตี้ที่กำลังพูดคุยกัน ด้วยแววตาที่ไม่ค่อยสนุกรื่นเริงเท่าไหร่ “ถ้าฉันไม่มา เธอคิดจะคุณกับนายคนนั้นอีกนานแค่ไหน?”
สวี่รั่วฉิง “…” นี่หึงเกินไปหรือเปล่า อากาศรอบๆนั้นอบอวลไปด้วยความหึงหวงของเขาแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งยังพูดอีก “ก็เหมือนกับงานเลี้ยงที่เคยผ่านๆมานั่นแหละ ช่างมัน”
สวี่รั่วฉิงเงียบไปอีกครั้ง “ประธานลี่ งานเลี้ยงมากมายที่เคยไปมาก็แค่เดินไปเข้าร่วมงานเองนี่…”
ลี่ถิงเซิ่งมองไปที่สวี่รั่วฉิงอย่างจนปัญญา
ปกติก็เป็นผู้หญิงฉลาด แต่พอเป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกกับโง่เงอะงะเหมือนเด็กยังไงอย่างงั้น
ห่างจากเขาสองคนไปไม่ไกล สวี่รั่วยีที่จับแก้วไวน์อยู่ ตาคู่นั้นแดงก่ำ ถึงขนาดที่ในตานั้นมีเส้นเลือดเล็กๆขึ้นกระจายอยู่เต็ม
เธอกำแก้วแน่น พร้อมกับกัดฟันพูดออกมา “ทำไมถิงเซิ่งกับแอนนาถึงอยู่ด้วยกันอีกแล้ว?”
เสียงของสวี่รั่วยีไม่ได้ดัง แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกลียดและเคียดแค้น
เลขาของสวี่รั่วยีตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ คุณหนูใหญ่คงไม่คิดจะก่อเรื่องอะไรที่นี่หรอกใช่ไหม
เลขาของสวี่รั่วยีคิดจบ ก็รีบพูดโน้มน้าวเธอ “คุณหนูคะ เวลานี้ไม่ควรทำอะไรให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตนะคะ ถึงยังไงตอนนี้คุณก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ ถ้าเกิดว่าส่งผลถึงลูกในท้องจะไม่เป็นผลดีเอานะคะ”
สวี่รั่วยีสีหน้าแววตาดุร้าย แต่สิ่งที่เลขาพูดมานั้นก็ถูก ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้ แม้ว่าเธอนั้นจะไม่ได้ท้องจริงๆ แต่เธอจำเป็นต้องแกล้งหลอกทำเป็นเหมือนว่าท้อง ไม่เช่นนั้นคุณนายลี่กับลี่ถิงเซิ่งจะเชื่อว่าเธอนั้นท้องแล้วได้ยังไง?
เมื่อสวี่รั่วยีคิดได้เช่นนี้ก็เอาแก้วไวน์แดงที่อยู่ในมือนั้นวางไว้โต๊ะข้างๆอย่างหักใจ จากนั้นก็พูดสั่งกำชับเลขาของเธอนิ่งๆ “ตอนนี้พวกเราก็กลับกัน!”
เลขาพูด “คุณหนูใหญ่ คุณไม่รออยู่ในงานเลี้ยงอีกสักหน่อยเหรอ? อีกสักพักก็จะถึงเวลางานเต้นรำแล้ว ที่คุณมาวันนี้ไม่ใช่เพราะอยากเต้นรำกับประธานลี่สักรอบเหรอคะ? จากนั้นก็ทดสอบท่าทางของเขาสักหน่อย นี่ไม่ใช่คำสั่งที่คุณหญิงกำชับคุณมาวันนี้หรอกเหรอคะ?”
สวี่รั่วยีได้ยินที่เลขาพูด ก็ไม่ใจเย็นอีกต่อไป “สภาพการณ์ตอนนี้ยังจะให้มีอารมณ์เต้นได้อีกเหรอ? ล้อกันเล่นหรือเปล่า!”
สวี่รั่วยีพูดจบ ก็ย่ำรองเท้าส้นสูงสิบนิ้วนั้นเดินออกจากงานเลี้ยงไปอย่างรวดเร็ว
เธอขึ้นไปนั่งบนรถเก๋งพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พูดกับคนทางปลายสายนั้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “มีงานมูลค่าสิบล้าน พวกคุณกล้ารับหรือเปล่า!”
เสียงของคนปลายสายนั้นร้ายกาจอย่างมาก พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งคลุมเครือ “เรื่องฆ่าคนเหรอ?”
สวี่รั่วยีพูด “ใช่ เพียงแค่คุณช่วยฉันขับรถชนคนคนหนึ่งให้ตาย ต้องการเงินมากแค่ไหนฉันก็สามารถจ่ายให้พวกคุณได้!”
คำพูดของสวี่รั่วยี ทำให้คนขับรถที่กำลังขับรถอยู่นั้นตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เลขาที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับก็มองไปที่คนขับรถอย่างเตือนสติ
คนขับรถรับรู้ได้ทันที ถ้าเขานำเรื่องที่สวี่รั่วยีพูดเมื่อครู่นี้ออกไปพูดต่อ ชีวิตของเขานี้คงจบสิ้นแล้ว!
“คุณหนูสวี่ อย่างน้อยคุณก็ต้องบอกผมว่าคุณต้องการฆ่าใคร! ถ้าเป็นคุณหนูคุณชายของตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพล ต้องขอโทษด้วย งานแบบนั้นผมไม่ทำ!”
สวี่รั่วยีถอนหายใจพร้อมกับยิ้มเย็น พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอำมหิต “วางใจเถอะ ไม่ใช่คนสำคัญอะไร เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งเท่านั้น”
“คุณแน่ใจนะว่าไม่มีใครคอยสนับสนุนหลังเธอ?” คนคนนั้นระวังเป็นอย่างมาก ถามย้ำรอบที่สามเพื่อความมั่นใจ
“แน่นอนว่าฉันตรวจสอบมาแล้ว ถ้าคุณแค่ต้องการงานเงินก็รับงานนี้ซะ ฉันรับรองว่าชีวิตคุณต่อจากนี้ อยากได้อะไรก็ได้แน่นอน!”
สวี่รั่วยีจงใจปกปิดเรื่องความสัมพันธ์ของสวี่รั่วฉิงกับตระกูลซู
เธอต้องการให้ผู้หญิงต่ำต้อยคนนั้นตายๆไปซะ
ผู้ชายปลายสายคิดแล้วคิดอีก สิบล้าน! หลังจากนี้จะมีเงินมากมาย เขาก็ตอบตกลง “ได้ คุณบอกมาว่าผมต้องฆ่าใคร!”
สวี่รั่วยียิ้มมุมปาก พร้อมพูดเน้นออกมาทีละคำ “แอน นา!”
…
เย็นวันนั้น
หลังจบงานเลี้ยงราตรี สวี่รั่วฉิงยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงแรม หยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองออกมา ลองกดโทรไปหาเพื่อนสนิทอย่างซูจิ่วเอ๋อร์
แต่คิดไม่ถึง ว่าจะโทรติดจริงๆ
“จิ่วเอ๋อร์ ตอนนี้เธอถึงไหนแล้ว? งานเลี้ยงจบแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังเตรียมจะกลับแล้ว ถ้าตอนนี้เธออยู่สนามบิน ฉันจะไปรับเธอ”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูดพร้อมหัวเราะ “พอดีเลย ฉันอยู่บนทางที่จะไปคอนโดเธอพอดี งั้นเราเจอกันที่หน้าคอนโดละกันนะ!”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า “โอเค งั้นเจอกันหน้าคอนโด! ถ้าเธออยากกินอะไร ฉันจะซื้อของกินเล่นกลับไปให้”
สวี่รั่วฉิงพูดพร้อมกับเดินไปทางลานจอดรถ