แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่236 สวี่รั่วยีฆ่าคนครั้งที่สองไม่สำเร็จ
- Home
- แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ
- บทที่236 สวี่รั่วยีฆ่าคนครั้งที่สองไม่สำเร็จ
เพื่อเป็นการป้องกันคนที่ต้องการแฝงตัวแอบเข้ามาในห้องสวี่รั่วฉิง ลี่ถิงเซิ่งถึงขนาดสั่งให้หลี่อาน เลือกเอาบอดี้การ์ดที่ฝีมือดีที่คุ้มครองเขาอยู่ ให้วนผลัดกันมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้กับสวี่รั้วฉิง
“ยังไม่มีใครมาอีกเหรอ?” ลี่ถิงเซิ่งถาม
“ยังค่ะประธานลี่ ตอนนี้กำลังเดินทางรีบมาค่ะ” หลี่อานเปิดประตูห้องพักไข้ให้ลี่ถิงเซิ่งพร้อมกับตอบคำถาม
ห้องพักไข้นั้นถูกตกแต่งอย่างประณีตละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก แสงไฟในห้องมีมากเพียงพอ ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืน แต่ก็ยังคงสว่างเหมือนตอนกลางวัน
ซูจิ่วเอ๋อร์สั่งกำชับเขาไว้แล้ว บอกให้เขานั้นเลือกพยาบาลที่มีประสบการณ์ดีเด่นสองสามคนให้มาที่โรงพยาบาลเอกชน เพื่อดูแลสวี่รั่วฉิงเป็นเพื่อนเธอ
ในห้องพักไข้ที่ใหญ่โตกว้างขวาง สวี่รั่วฉิงนอนอยู่บนเตียงนั้นอย่างไร้ชีวิตชีวา เธอเหมือนเพียงแค่หลับใหลไปเท่านั้น เพียงแค่นอนหลับตาเบาๆ คล้ายกับว่าเพียงแค่ผ่านค่ำคืนนี้ไป เธอก็จะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเหมือนกับทุกๆวัน
แต่ว่าใบหน้าเธอนั้นดูไม่มีชีวิตชีวาเลยแม้แต่น้อย เธอนอนนิ่งๆอยู่ตรงนั้น ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองเธอและรู้สึกคล้ายกับว่ามีคนเอาเข็มแหลมมาทิ่มแทงหัวใจเขายังไงยังงั้น
ซูจิ่วเอ๋อร์ได้ยินเสียงคนผลักเปิดประตูเข้ามา ก็หันหน้าไปปมอง เห็นว่าลี่ถิงเซิ่งนั้นยืนนิ่งเงียบอยู่ที่ประตูหน้าห้องนั้น พร้อมจ้องมองมาที่สวี่รั่วฉิงอย่างตั้งใจ เธอก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
เธอยืนขึ้นกอดอก น้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยดีนัก “ประธานลี่ สถานการณ์ตอนนี้ของแอนนาเป็นยังไง คุณก็เห็นอยู่ ถ้าคุณชอบแอนนาจริงๆ งั้นก็ดูแลเธอให้ดีๆ ไม่ใช่ปล่อยให้มีคนมาทำร้ายเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกแบบนี้”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูด ในสายตานั้นเต็มไปด้วยความเดือดดาลต่อสวี่รั่วยี
ถ้าหากว่าสวี่รั่วยีทำจริงๆ งั้นนี่ก็คงเป็นครั้งที่สองที่สวี่รั่วยีลงมือฆ่าคนไม่สำเร็จ!
ซูจิ่วเอ๋อร์เม้มปาก พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดูมีพลัง “ฉันไม่ต้องการเห็นเพื่อนสนิทของฉันเข้าโรงพยาบาลอีกหลังจากนี้”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูดจบ ก็ไม่พูดคุยอะไรกับลี่ถิงเซิ่งอีก
“ซ้ำแล้วซ้ำอีก?” ลี่ถิงเซิ่งพูดทวนกับตัวเอง พร้อมขมวดคิ้วแน่น
นอกจากครั้งนี้ ยังมีครั้งไหนอีกที่มีคนเคยมาทำร้ายสวี่รั่วฉิงภายใต้สายตาของเขา?
คล้ายกับซูจิ่วเอ๋อร์จะเดาออกว่าลี่ถิงเซิ่งกำลังคิดอะไรอยู่ “ประธานลี่ ถ้าคุณอยากรู้จริงๆ ก็รอหลังจากแอนนาตื่นแล้วถามเธอเอาจะดีกว่านะ ถ้าหากว่าเธอเต็มใจจะบอกคุณละก็นะ”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูดจบ ก็มองลี่ถิงเซิ่งเดินไปที่ข้างเตียง พร้อมเหลือบตาลงมองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงนั้นเงียบๆ
เขายกมือขึ้น ลูบไล้ใบหน้าสวี่รั่วฉิงเบาๆ
ค่อนข้างเย็น อุณหภูมิของเธอต่ำกว่าคนปกติเล็กน้อย
ลี่ถิงเซิ่งทำเหมือนเธอคือของล้ำค่า ลูบคลำแบบปลอบประโลมสวี่รั่วฉิงที่นอนหลับใหลอยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก สุดท้ายนิ้วเรียวยาวนั้นก็หยุดลงอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ
ริวฝีปากสวี่รั่วฉิง แสดงออกถึงความแห้งผาก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ดื่มน้ำมานานมากแล้ว
เขาดึงมือตัวเองกลับอย่างช้าๆ และมองสวี่รั่วฉิงอีกครั้ง ริมฝีปากบางค่อยๆเปิดพูด “รบกวนดูแลแอนนาให้ดีด้วย”
ซูจิ่วเอ๋อร์ขมวดคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย
ลี่ถิงเซิ่งเป็นคนเย่อหยิ่งขนาดนี้ แต่สามารถทำให้เขาพูดคำว่า”รบกวน”สองคำนี้ออกมาได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
ในห้องพักไข้นั้นเงียบจนน่ากลัว นอกจากเสียงอุปกรณ์แล้ว ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า ลี่ถิงเซิ่งก็ยังไม่ไปไหน
ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้รอให้ซูจิ่วเอ๋อร์ตอบกลับ แต่ก็ไม่ได้ไปไหน
ซูจิ่วเอ๋อร์รู้สึกขำในใจเล็กน้อย ในเมื่อวางใจไม่ได้แบบนั้น แทนที่จะให้เธอดูแลสวี่รั่วฉิง ทำไมเขาไม่อยู่ที่นี่เฝ้าสวี่รั่วฉิงด้วยตัวเองไปซะเลยล่ะ?
แต่พูดตามตรง ก็ไม่ใช่ว่ายังสนใจงานที่ลี่ซื่อกรุ๊ปอยู่เหรอ?
ไม่อยู่บริษัทหนึ่งวัน วางใจได้เหรอ? เดิมทีแล้วในใจเขาตำแหน่งของสวี่รั่วฉิงก็เป็นได้เพียงแค่เท่านั้น
แล้วคำพูดถากถางของซูจิ่วเอ๋อร์ก็ดังขึ้นในห้องนี้ “ฉันกับประธานลี่นั้นไม่เหมือนกันหรอกนะ กำไรของบริษัทในสายตาฉัน ไม่ได้สำคัญเท่ากับเพื่อนสนิทของฉันเลยสักนิด ประธานลี่ไม่จำเป็นต้องฝากฝัง ฉันก็จะดูแลเพื่อนสนิทของฉันให้ดีๆอยู่แล้วล่ะ”
หน้าผากของลี่ถิงเซิ่งขมวดแน่น
“ประธานลี่ รถมาถึงแล้วค่ะ” หลี่อานมารายงานข้างๆเขา
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็เดินออกไป
ก่อนจะไป เขาก็ปิดประตูห้องพักไข้อย่างเบามือที่สุด คล้ายกับว่าสวี่รั่วฉิงเพียงแค่นอนกลับเท่านั้นและกลัวเธอนั้นจะตกใจตื่นขึ้นมา
หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งออกจากห้องพักไข้ เขาก็ขึ้นไปบนรถเก๋งสีดำ
หลี่อานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ประธานลี่รออยู่ที่โรงพยาบาลนานขนาดนี้ แต่หลังจากที่แอนนาผ่าตัดเสร็จ เขากลับไม่ได้อยู่ต่อนานขนาดนั้น แถมยังออกมาเลยอีกต่างหาก
หลี่อานหันไปถามอย่างระมัดระวัง “ประธานลี่ การผ่าตัดของแอนนานั้นยังสรุปได้ค่อนข้างยาก ถ้าหากว่าคุณกังวลใจล่ะก็ ทำไมไม่อยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีกสักหน่อยล่ะคะ?”
ลี่ถิงเซิ่งพิงเบาะรถ หลับตาแน่นและไม่ได้ตอบคำถามของหลี่อาน
คนขับรถก็เอ่ยถามอย่างสุภาพ “ประธานลี่ ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกันครับ”
ลี่ถิงเซิ่งยกมือขึ้นมาข้างหนึ่งปิดตาตัวเองอย่างอ่อนเพลีย ริมฝีปากแห้งค่อยๆเอ่ยพูด “สถานีตำรวจ”
หลี่อานปิดหน้า พร้อมถอนหายใจออกมา
อุบัติเหตุรถชนของแอนนา ทำให้ประธานลี่เหมือนถูกปีศาจเข้าสิงจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจนถึงตอนนี้เขายังไม่คิดที่จะกลับไปพักผ่อนเลย อีกทั้งยังจะไปสถานีตำรวจอีก
ราวกับว่าถ้าไม่สามารถสืบค้นเรื่องนี้ให้ความจริงปรากฏขึ้นมาได้ เขาก็ยืนยันที่จะไม่หยุดพัก
…
ในคอนโดระดับสูงของสวี่รั่วฉิง
ไฟห้องรับแขกยังไม่ได้ปิด
บนโทรทัศน์นั้นยังเปิดการ์ตูนค้างไว้ แต่สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานไม่มีกะจิตกะใจจะดูแล้ว
ทั้งสองคนนั้นอยู่ภายใต้ผ้าห่ม พร้อมกับกำลังสัปหงกคล้ายกับว่ากำลังรออะไรอยู่
ในมือน้อยของสวี่อี้ฝานนั้นกำโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้แน่น
ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว การผ่าตัดของแม่ยังไม่เสร็จสิ้นเหรอ?
เพราะว่ากังวลเรื่องสวี่รั่วฉิง เขากับสวี่อี้หานจึงยังไม่ได้กินข้าวเลยทั้งวัน ถึงแม้ว่าซูจิ่วเอ๋อร์จะตั้งใจสั่งอาหารจากเชฟระดับโรงแรมห้าดาวมาให้พวกเขาสองคนเป็นพิเศษ แต่เด็กน้อยทั้งสองคนก็ยังคงไม่มีความอยากอาหารใดๆ
“พี่ การผ่าตัดของแม่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยใช่หรือเปล่าอ่ะ” สวี่อี้หานเบ้ปาก พร้อมกับตาแดงๆ
สวี่อี้ฝานกำโทรศัพท์มือถือแน่น พร้อมกับกุมมือน้อยของสวี่อี้หานเบาๆ “แม่จะต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ”
สวี่อี้หานฟังคำพูดของพี่ชาย พร้อมกับพยักหน้า
ฝ่ามือเล็กที่กำโทรศัพท์ไว้อยู่นั้นกังวลจนเหงื่อเปียกชุ่มไปหมด
แม้เขาจะสามารถปลอบใจสวี่อี้หาน แต่ก็ไม่สามารถปลอบใจตัวเองได้
ต้องขอพรให้แม่ปลอดภัยไม่เป็นอะไรสิ สวี่อี้ฝานคิดเงียบๆ
ตอนที่สวี่อี้ฝานกำลังเฝ้ารออย่างกังวล จู่ๆโทรศัพท์ในมือก็สั่นขึ้นมา
ร่างเล็กของสวี่อี้ฝานนั้นสั่นขึ้นมาเล็กน้อย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรีบร้อน
สวี่อี้หานรีบขยับเข้ามาใกล้ๆ “ใช่ข่าวของแม่หรือเปล่า!”
สวี่อี้ฝานดูข้อความอย่างกังวล เมื่อเห็นว่าเป็นซูจิ่วเอ๋อร์ส่งข้อความมา เขาก็กลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็กดเปิดข้อความ “การผ่าตัดของสวี่รั่วฉิงเสร็จสิ้นแล้ว ปลอดภัยไม่เป็นอะไรจ้ะ”
เด็กทั้งสองสวี่อี้ฝานและสวี่อี้หาน มองข้อความของซูจิ่วเอ๋อร์อย่างเลื่อนลอย
พวกเขาถึงขนาดที่ลืมร้องไห้ไปเลย
หลังจากเมื่อคืนวานนี้ที่รู้ข่าวอุบัติเหตุทางรถยนต์ของสวี่รั่วฉิง พวกเขาก็นอนไม่หลับและกินข้าวไม่ลงเลย คิดอยากจะไปโรงพยาบาลแต่ก็กลัวว่าลี่ถิงเซิ่งจะอยู่ที่นั่น กลัวว่าจะถูกพวกเขาเห็นเข้าว่าพวกเขาเติบโตมาเหมือนกับเขา
มีแค่ท้องฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาผ่านพ้นคืนนี้มาได้อย่างไร
ปกติสวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานจะมีเวลาพักผ่อนเป็นเวลา ทุกวันเวลาสี่ทุ่มจะต้องเตรียมเข้านอนแล้ว แต่ว่าวันนี้ก็รอจนเกือบถึงตีสองแต่ก็ยังไม่นอน
พวกเขาคิดถึงแม่ของพวกเขามากๆเลย…