แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - ตอนที่ 698
บทที่ 698 ตกหล่น
โดย
Ink Stone_Fantasy
ยังพอสัมผัสถึงทิศทางคร่าวๆ ของหลิงม่อได้ ถึงแม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าเขากำลังเคลื่อนไหวในพื้นที่ใกล้ๆ หรือไม่ แต่ในเมื่อหลิงม่อไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยอะไรผ่านสายสัมพันธ์ทางจิตมา ก็แสดงว่าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น…
“เธอรู้ได้ยังไง ฉันไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลย…” สวี่ซูหานถามเสร็จก็รู้สึกเสียใจที่พลั้งปากทันที คนอื่นเขาเป็นถึงซอมบี้ระดับสูง ส่วนตัวเธอยังอยู่ในระหว่างกลายพันธุ์ จะเปรียบเทียบกันได้อย่างไร…
ไม่น่าล่ะพวกเธอถึงได้ดูสงบกันอย่างนี้ ที่แท้ก็รู้กันอยู่แล้วนี่เอง…
สวี่ซูหานไม่เพียงรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว แต่ในความอับอายนั้นก็แฝงไปด้วยความคาดหวัง
ในเมื่อเธอไม่อาจย้อนเวลาไปแก้ไขเรื่องกลายพันธุ์ได้ ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องฝากความหวังในการใช้ชีวิตไว้กับการวิวัฒนาการ…
ถ้าหากสามารถวิวัฒนาการจนถึงระดับเดียวกับพวกเย่เลี่ยนได้ ก็จะดูไม่ค่อยแตกต่างจากมนุษย์มาก…
แต่ไม่รู้ว่าทำไมดวงตาของพวกเธอถึงได้เป็นแบบนั้นได้…
สวี่ซูหานรู้ว่าสิ่งตอบแทนที่ตัวเองสามารถจ่ายให้มีจำกัด ไม่อาจเรียกร้องมากไป ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากโลภมากไม่รู้จักพอ…
“อิจฉาพวกเธอจัง…”
แวบหนึ่งความคิดนี้ผุดขึ้นมา สวี่ซูหานถึงกับตกใจจนต้องแอบหยิกฝ่ามือตัวเองเงียบๆ หนึ่งที
บ้าไปแล้วหรือไง! อิจฉาใครไม่อิจฉา แต่อิจฉาซอมบี้เนี่ยนะ…
นี่คงไม่ใช่ขั้นแรกของการสูญเสียความเป็นมนุษย์หรอกนะ…
“แต่ว่า…”
จู่ๆ หลี่ย่าหลินก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองซ้ายมองขวา “พวกเธอรู้สึกได้ถึงอะไรอย่างอื่นไหม?”
“หืม?” ซย่าน่าและเย่เลี่ยนมองไปรอบกาย แต่กลับทำหน้างุนงง
ถึงแม้เย่เลี่ยนจะมีระดับวิวัฒนาการสูงกว่าหลี่ย่าหลิน ส่วนซย่าน่าก็อยู่ในระดับที่ไม่ต่างกับหลี่ย่าหลินมากนัก แต่หลี่ย่าหลินไม่ใช่ซอมบี้ 100%
เชื้อไวรัสในร่างกายเธอ ถูกงูกลายพันธุ์ปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่…
เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบข้าง สัตว์หลายชนิดมีความรู้สึกที่ไวกว่ามนุษย์มาก และในหมู่ซอมบี้ หลี่ย่าหลินที่มีลักษณะเด่นของสัตว์จำพวกงูก็ได้เปรียบในเรื่องนี้มาก
เย่เลี่ยนไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมาก แต่ซย่าน่ากลับตั้งท่าระวังตัวขึ้นมาทันที
ที่หลิงม่อให้พวกเธออยู่ที่นี่ก็เพื่อเฝ้าสวี่ซูหานไว้ และเพื่อให้พวกเธอช่วยเหลือกันหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วจริงๆ?
พวกซย่าน่าต่างรู้ดีว่าชั้นล่างมีแต่ซอมบี้ แล้วก็รู้ด้วยว่าหลิงม่อส่งหุ่นซอมบี้ไปสำรวจมาแล้ว แต่ในเมื่อหลิงม่อไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรมา ก็แสดงว่าข้างล่างน่าจะปลอดภัยสิ…
หลังสบตากันชั่วขณะ ซย่าน่ารีบคว้าแขนสวี่ซูหาน แล้วบอกว่า “พวกเราไปดูกัน”
“หา?” ถึงสวี่ซูหานจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าจู่ๆ บรรยากาศก็เปลี่ยนไป
จู่ๆ ซอมบี้สาวกลุ่มนี้ก็เข้าสู่โหมดจริงจังกันขึ้นมา ซึ่งนี่กลับทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว…
“นี่เราจะไปไหน?” เธอถามอย่างตระหนกเล็กน้อย
ใครจะไปรู้ล่ะว่าซอมบี้กำลังคิดอะไรอยู่ เกิดพวกเธออยากล่าเหยื่อขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ?
ไม่ได้ๆ ฉันยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ!
สวี่ซูหานยังไม่ได้เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้ ทำให้เธอลนลานทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
“ชู่ว พวกเรารีบไปเถอะ ไปหาพี่หลิงกัน” ซย่าน่าพูดพลางขมวดคิ้ว
หลี่ย่าหลินเอาแต่กวาดมองไปรอบตัว สีเหลืองอำพันในดวงตาประกายระยิบระยับไม่หยุด นั่นแสดงว่าสัญชาตญาณของเธอรับรู้ได้ถึงอันตรายบางอย่าง และร่างกายของเธอก็กำลังปรับตัวเข้าสู่สภาวะเตรียมรับมือ
ถึงตอนนี้เย่เลี่ยนเองก็กระชับปืนเทพเจ้าสายฟ้าในมือบ้างแล้ว สายตาของเธอเริ่มสะท้อนความเย็นชาออกมา
“มีบางอย่าง…กำลังมา…
คำพูดของเย่เลี่ยนทำให้สวี่ซูหานสะดุ้งโหยง แถวๆ นี้เงียบมาก มีอะไรกำลังมากันล่ะ?!
จนถึงตอนนี้ซย่าน่าก็ยังสัมผัสอะไรไม่ได้เลย แต่เย่เลี่ยนกลับสัมผัสได้แล้ว นั่นแสดงว่ามีอะไรกำลังมาจริงๆ…
บางทีกว่าเธอจะสัมผัสได้ ก็อาจสายไปแล้ว
หลิงม่อไม่อยู่ พวกเธอจะพลาดท่าไม่ได้เด็ดขาด…
“ไป!”
ซน่าน่าตะโกนสั่งเสียงเบา พร้อมคว้ามือสวี่ซูหานแล้วออกวิ่งทันที
พวกเธอรู้ทิศทางคร่าวๆ ของหลิงม่อ ขอเพียงไปรวมตัวกันทันเวลา แล้วพาหลิงม่อหนีไปจากที่นี่พร้อมกับพวกเธอเท่านั้น…
ซย่าน่าไม่รู้ว่าอันตรายนั้นคืออะไร แต่สามารถทำให้หลี่ย่าหลินและเย่เลี่ยนมีปฏิกิริยาอย่างนี้ได้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ยังไม่พูดถึงหลี่ย่าหลิน แต่เย่เลี่ยนเป็นถึงซอมบี้ระดับเจ้าเมืองเชียวนะ…
สวี่ซูหานเองก็ดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ในตอนนี้แล้วเช่นเดียวกัน รอบข้างมีแต่ความมืด และในความมืดนี้ ก็มีบางสิ่งกำลังเข้าใกล้พวกเธอด้วยความเร็ว!
“โฮก!”
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามที่ดังมาจากชั้นล่างก็ได้ทำลายความเงียบลง
ในวินาทีถัดมา พวกเธอก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากพื้น!
แรงสั่นสะเทือนอย่างนี้หากเป็นมนุษย์อาจไม่สามารถรับรู้ได้ แต่ซอมบี้นั้นรู้สึกได้แน่นอน
แม้แต่สวี่ซูหานก็ยังรู้สึกได้ถึงความผิดปกติรางๆ เหมือนจู่ๆ ชั้นใต้ดินก็เดือดพล่านขึ้นมา…
“เกิดอะไรขึ้น…”
เธอก้มมองพื้นอย่างตื่นตระหนก บนพื้นถูกเคลือบด้วยวัตถุเนื้อหนืด และแรงสะเทือนก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนมีบางอย่างกำลังแหวกพื้นอาคาร และโผล่ขึ้นมาได้ทุกเมื่อ!
ในตอนนั้นเอง เย่เลี่ยนตวัดสายตามองไปที่ประตูบานหนึ่ง
“ข้างนอกนั่น…”
เธอเพิ่งจะพูดจบ เสียงคำรามหนึ่งก็ดังมาจากด้านหลังประตู
ซย่าน่าหันไปมองประตูลิฟท์ที่อยู่ไม่ไกล แล้วหันไปมองทางประตูห้องบันได
“โฮก!”
เสียงคำรามของซอมบี้ประสานรับกัน ซย่าน่ามองประตูลิฟท์ ส่วนเย่เลี่ยนมองไปทางบานประตูที่เปิดแง้มไว้นั่น
“กรร!”
ทันใดนั้น ก็มีมือข้างหนึ่งโผล่มาเกาะขอบประตูลิฟท์เอาไว้
ขณะเดียวกัน ก็มีขาคู่หนึ่งโผล่เข้ามาทางช่องประตูบานนั้นด้วยเช่นกัน
“ถอย!”
ซย่าน่ารีบละสายตาออกมา แล้วตะโกนสั่งเสียงเบา
ขณะเดียวกับที่พวกเธอกำลังถอยอย่างช้าๆ ด้านหลังประตูบานนั้นก็มีขาหลายสิบคู่กำลังวิ่งพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ซอมบี้จำนวนมากกำลังไหลทะลักเข้ามาทางห้องบันได……
ซอมบี้พวกนี้เหมือนคลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน พวกมันเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่งอย่างเต็มที่ภายในชั่วพริบตา
สถานการณ์อย่างนี้ เกรงว่าแม้จะเป็นซอมบี้ระดับสูงก็คงจะต้านพวกมันไม่อยู่ กลับจะกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีด้วยซ้ำ!
“ฮู่ว…”
ขณะเดียวกัน ซย่าน่าพบว่าสวี่ซูหานที่อยู่ข้างหลังจู่ๆ ก็มีอาการผิดปกติไป
เธอหันกลับไปมอง เห็นสวี่ซูหานกำลังก้มหน้า ร่างกายแข็งทื่ออย่างควบคุมไม่ได้
“เธอเป็นอะไรไป…”
มืออีกข้างของซย่าน่ากระชับเคียวดาบแน่น
พอได้ยินเสียงถาม สวี่ซูหานก็เงยหน้าขึ้นทันที เผยให้เห็นดวงตาที่แดงก่ำยิ่งกว่าเดิม
เธออ้าปากกว้าง แล้วกระโจนเข้าใส่ซย่าน่าทันที “กรร!”
ซย่าน่าเบิกตากว้าง…
“กว้างจนไม่มีจุดสิ้นสุดจริงๆ ด้วย แต่ความจริงเรากำลังเดินวนอยู่ที่เดิมสินะ?”
หลิงม่อถอนหายใจ แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ตามคาด รอบกายยังคงมีแต่ความมืด ไฟฉายขนาดพกพาที่แสงอ่อนล้าเต็มทีของเขาก็ส่องไปได้ไม่ไกลมากนัก
ที่นี่เหมือนทางเดินที่ไม่มีจุดสิ้นสุดอย่างไรอย่างนั้น…
“ไม่สิ ถ้าหากเดินไปทางห้องน้ำหรือห้องเก็บของล่ะ? ในสภาพแวดล้อมแคบๆ อย่างนั้นจะยังใช้พลังนี้ได้อีกหรือเปล่า? อย่างเช่นในห้องน้ำเล็กๆ ที่แคบถึงขนาดแค่หันหลังก็ยังชนชักโครก อีกฝ่ายจะยังทำให้เรารู้สึกว่าพื้นที่ตรงนั้นมันกว้างจนไร้ขอบเขตเหมือนที่นี่ได้หรือเปล่า…ลองดูดีกว่า…”
หลิงม่อกำลังคิดจะลอง แต่ทันใดนั้นเขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
ความรู้สึกไม่สบายใจนั่น เหมือนจะรุนแรงขึ้นในพริบตา…
การที่ความรู้สึกนี้รุนแรงขึ้นไม่ใช่เรื่องดี หลิงม่อเคยคิดว่าในพื้นที่โซน A แห่งนี้ไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนี้เขากลับเริ่มสงสัยในการตัดสินใจของตัวเองแล้ว
ถึงแม้เขาจะสำรวจทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้เขาจะต้องตกหล่นอะไรบางอย่างไปแน่ๆ
แต่เขาตกหล่นอะไรไปกันแน่…
“ไม่ได้ ต้องรีบออกให้เร็วที่สุด!”
หลิงม่อคิดในใจ พลันรีบควบคุมหุ่นซอมบี้ตัวเล็กให้รีบย้อนกลับไป
ครั้งนี้มันเดินตามกลิ่นเลือดของตัวเองกลับไป แล้วดูว่าจะเจออวี๋ซือหรานหรือเปล่า
อีกหนึ่งจุดประสงค์คือเพื่อทดสอบสมมติฐานของหลิงม่อ ว่าโลกภาพลวงตาแห่งนี้กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า
ส่วนเรื่องทุบกำแพงหรืออะไรทำนองนั้น เขาคิดดูแล้วก็ได้ผลสรุปว่าไม่ทำดีกว่า
ถึงแม้เขาไม่ต้องลงมือเอง แต่ก็เขาก็ยังต้องเผาผลาญพลังจิตไม่น้อยอยู่ดี และหุ่นซอมบี้เพียงตัวเดียวที่เขาสามารถควบคุมได้ก็จะสูญเสียเรี่ยวแรงจำนวนมากเช่นเดียวกัน
อีกอย่าง ในเมื่อหลุดเข้ามาในโลกแห่งภาพลวงตาของคนอื่นแล้ว ไม่ยากที่จะคาดเดาเลยว่าเขาอาจกำลังขุดพื้นดิน แทนที่จะเป็นกำแพงหรือเพดานอย่างที่เขาเข้าใจ…
ส่วนตัวเขานั้น ก็กำลังหลับตา และนึกภาพทางเดินต่อไป
หลังจากที่พลังจิตแกร่งขึ้น ความจำของเขาก็ดีขึ้นด้วย ห้องน้ำอยู่ติดกับทางเดินนี้แหละ ขอเพียงแค่เขาไม่ได้ถูกขังไว้ในพื้นที่เล็กๆ เขาต้องหาเจอแน่นอน
เขาลองใช้หนวดสัมผัสทางจิตโจมตีไปทั่วแล้วหนหนึ่ง แต่กลับไม่ได้ผล
“น่าจะอยู่แถวๆ นี้แหละ…น่าแปลก เราใช้หนวดสัมผัสทางกวาดสำรวจไปทั่วมาตลอดทาง แต่กลับไม่เห็นสัมผัสได้ถึงร่างกายคน…หรือพวกเราจะถูกขังแยกไว้คนละที่ และไม่มีทางมาเจอกันจริงๆ…”
แต่การแยกขังคนหลายคน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ…
หลิงม่อคิดก็ส่วนคิด แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับไม่ได้ช้าลงแม้แต่น้อย
ความรู้สึกไม่สบายใจนั่นทำให้เขากระวนกระวายเล็กน้อย แต่ในสถานการณ์อย่างนี้เขาจะเสียสมาธิไม่ได้
ทันทีที่พลาดรายละเอียดอะไรไป คนที่เผยจุดอ่อนออกมาก่อนอาจกลายเป็นเขาก็ได้…
—————————————————————————–