แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - ตอนที่ 913
เสียงของเจ้าหมีที่ตามมาเหมือนเสียงลูกบอลเหล็กที่กลิ้งไล่หลังมาอย่างต่อเนื่อง ทรงพลังและน่ากลัว เหล่ากระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนที่วิ่งตามมันมาส่งเสียงร้อง “งี๊ดๆ” ไม่หยุด ชั่วขณะหนึ่งเสียงของพวกมันฟังดูเหมือนเสียงของงูพิษที่เลื้อยไปทั่วทางเดิน หลิงม่อและหลี่ย่าหลินกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดพัก พวกเขาวิ่งพุ่งไปยังลิฟต์ที่อยู่ข้างหน้าโดยตรง
“เจ้าบ้านั่นอึดเกินไป ถ้าหากสู้กับมันที่นี่ อาจดึงดูดให้กระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนพวกนั้นมาที่โรงอาหารหมดก็ได้ ถ้าหากเป็นอย่างนั้น พวกเราก็จะตกอยู่ในอันตราย…ยิ่งในเวลาอย่างนี้ ยิ่งต้องรักษาพลังไว้ พวกเราไม่เพียงต้องระวังพวกมัน ยังต้องคอยระวังอันตรายที่แฝงอยู่ในตึกหลังนี้ รวมถึงผู้รอดชีวิตที่ลอบสังเกตการณ์อยู่ข้างนอกนั่นอีก…” หลิงม่อวิ่งไปด้วย พูดไปด้วย หุ่นซอมบี้ของเขาตัวนี้บาดเจ็บหนักมาก และเผาผลาญพลังงานไปไม่น้อยเช่นกัน แต่พอคิดว่ายังมีเรื่องต้องทำอีกมาก เขาก็จำต้องกัดฟันอดทนต่อไป
“เจ้าหุ่น สู้เขานะ…”
หลี่ย่าหลินพยักหน้าอย่างงงๆ แล้วจู่ๆ เธอก็ยกมือชี้ไปในความมืดข้างหน้า “อ๊ะ! ตรงนั้นแหละ!”
“เรื่องคร่าวๆ เป็นยังไง?” หลิงม่อหรี่ตามองไป แล้วถาม
“ก็ไม่มีอะไรมาก ตรงนั้นมีช่องแคบๆ เปิดแง้มไว้ ซย่าน่าบอกว่าข้างบนนั้นมีรู…แล้วฉันก็ถูกเจ้าหมีเจอตัวตรงนี้แหละ” หลี่ย่าหลินครุ่นคิด แล้วบอก
หลิงม่อคำนวณในใจ แล้วบอกว่า “อีกเดี๋ยวพี่เข้าไปก่อน ผมจะเป็นคนล่อมันมาช้าๆ เอง หลังจากที่มันเข้าไปในลิฟต์แล้ว ผมจะปิดประตูไว้เอง แล้วพี่ก็โจมตีมันจากข้างบน ถ้าหากเราร่วมมือกันได้ดี น่าจะทำให้มันบาดเจ็บได้จริงๆ ที่เหลือแค่ต้องหาจุดอ่อนของมันให้เจอแล้วจัดการมันซะ”
“เรื่องแบบนี้ควรจะให้ฉันทำสิ…” หลี่ย่าหลินบอก
“ไม่ได้ ผมมีแรงโจมตีไม่พอ ถ้าให้ผมเป็นฝ่ายซุ่มโจมตีทุกอย่างก็เสียเปล่าหมดสิ” หลิงม่อส่ายหน้า
“แต่ยังมีไอ้ตัวเล็กพวกนั้นอยู่ด้วยนะ…” หลี่ย่าหลินพูดอย่างเป็นห่วง
“ใช่ไง ดังนั้นผมก็เลยต้องอาศัยความเร็วเท่านั้น จุดอ่อนหนึ่งเดียวของกระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนพวกนั้นก็คือเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า ไม่ใช่แค่ช้ากว่าเจ้าหมี แม้แต่ซอมบี้ธรรมดาก็ยังวิ่งเร็วกว่าพวกมันด้วยซ้ำ พี่ฟังเสียงฝีเท้าของเจ้าหมีสิ มันกำลังวิ่งด้วยความเร็วเต็มสูบ ดังนั้นกระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนพวกนั้นเลยถูกมันทิ้งระยะห่างไปช่วงหนึ่งแล้ว แต่ก็น่าจะเป็นระยะทางไม่เกินสิบวินาที ดังนั้นพวกเราจึงมีเวลาแค่สิบวินาทีเท่านั้น! พอดีเลย แขนสองข้างนี้ก็ใกล้ใช้งานไม่ได้แล้ว ก่อนที่มันจะใช้ไม่ได้จริงๆ มาจัดการเจ้าหมีให้ได้กันก่อนเถอะ!” หลิงม่อเหวี่ยงหมัด แล้วพูดขึ้น
หลี่ย่าหลินจ้องหน้าเขา แล้วอยู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “ฉันเข้าใจแล้ว เพราะว่านี่เป็นหุ่นซอมบี้…”
“อย่าดูถูกหุ่นซอมบี้เชียว…”
“แต่นายไม่ต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ก็ได้นะ ทำเอาฉันเริ่มเครียดไปด้วยแล้วเนี่ย…”
“ใครเล่นใหญ่กัน! จะว่าไปพี่เครียดเป็นด้วยหรอ?”
“อิอิ คงงั้นมั้ง…ถึงแล้ว!”
ไม่นานลิฟต์ตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตา เป็นไปตามที่หลี่ย่าหลินบอก ประตูลิฟต์เปิดแง้มไว้แค่เล็กน้อย รอบด้านเต็มไปด้วยรอยเลือด กระทั่งยังมีเศษเสื้อผ้าติดอยู่ตรงช่องแคบนั้น แค่เห็นภาพนี้ ผู้รอดชีวิตทั่วไปก็คงเลือกที่จะรักษาระยะห่างกับที่นี่ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะเข้าไปสำรวจข้างในเลย และการปีนออกไปตามทางออกฉุกเฉินเหมือนที่ซย่าน่า ก็คงมีแค่ซอมบี้เท่านั้นที่ทำเรื่องอย่างนี้
แต่การที่ซย่าน่าไปแล้วไม่กลับมาซักที กลับทำให้หลิงม่อไม่สบายใจมาก
“การสื่อสารทางจิตยังอยู่ นั่นแสดงว่าซย่าน่ายังปลอดภัยดี ไม่ได้มีอันตรายอะไร แต่จากสติปัญญาของซย่าน่า ถ้าหากเจออะไรในสถานที่อย่างนั้นล่ะก็ เธอต้องส่งสัญญาณมาทันทีแน่นอน จะว่าไป ข้างบนลิฟต์นี้ เป็นสถานที่แบบไหนกันแน่? ถ้าหากเป็นแค่ช่องลิฟต์ ก็ไม่น่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นได้ นอกจากว่าจะเป็น ‘สัตว์เลื้อยคลาน’อย่างพวกกระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อน…แต่แค่นี้ ยังไม่พอที่จะอธิบายความแปลกของตึกหลังนี้ได้…จุดที่ควรค้นหาในตึกนี้ ฉันก็ค้นหมดแล้ว จุดเดียวที่ยังไม่ได้ค้น ก็คือมีแค่ที่นี่เท่านั้น ไม่แน่ว่าเป้าหมายของคนกลุ่มนั้นอาจอยู่ที่นี่?”
“หลิงม่อ ฉันเข้าไปก่อนล่ะ” เสียงพูดของหลี่ย่าหลินดึงสติหลิงม่อกลับมาจากความคิดทั้งปวง
เขารีบพยักหน้า “อื้ม ระวังตัวด้วย พี่แค่ปีนขึ้นไปรอข้างบนก็พอแล้ว ห้ามทำอะไรคนเดียวเด็ดขาด ในช่องลิฟต์นั้นจะต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถสกัดกั้นพลังสำรวจของผมได้ สรุปว่า ต้องระวังตัวไว้ให้ดี”
“เข้าใจแล้วน่า” หลี่ย่าหลินยิ้มแล้วตอบรับ เธอกระโดดไปข้างหน้าเบาๆ จากนั้นก็หายลับเข้าไปในช่องแคบเล็กๆ นั่นอย่างรวดเร็ว
และหลังจากที่มองส่งหลี่ย่าหลินจนลับตา หลิงม่อก็ชะงักเท้าหยุดอยู่ที่เดิม พลางปรับจังหวะลมหายใจ แล้วหันกลับไปมองทางเดินข้างหลัง
“ตึง ตัง ตึง ตัง!”
เสียงฝีเท้าของเจ้าหมีชัดเจนขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใต้สถานการณ์ที่ยังมองเห็นเงาร่างมันไม่ชัด เสียงที่ได้ยินให้ความรู้สึกเหมือนมีลูกบอลเหล็กขนาดใหญ่กำลังกลิ้งเข้ามาอย่างไรอย่างนั้น
เร็ว และแรงมาก…ถ้ายังยืนอยู่ตรงนี้ ต้องถูกทับแบนแน่ๆ!
ความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณซัดสาดเข้ามาราวกับคลื่น แต่หลิงม่อเพียงสูดหายใจเบาๆ และจ้องไปข้างหน้าโดยไม่กระพริบตา
“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต้องสู้ที่แข็งแกร่ง ซอมบี้จะแผ่รังสีของตัวเองออกไป ใช้ความแกร่งของพละกำลังข่มขวัญศัตรู…ถึงแม้หุ่นซอมบี้ของฉันจะไม่แข็งแกร่ง แต่มันก็ยังมีพลังจิตของฉันเป็นแรงหนุน!” เมื่อพลังจิตพรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่อง หุ่นซอมบี้ที่เดิมยืนโงนเงนไปมาก็เริ่มยืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง หลิงม่อบิดคอไปมา พร้อมกับสะบัดแขนสองสามที
แขนใหญ่ๆ สองข้างนี้เริ่มเหี่ยวแห้งลงไม่น้อยแล้ว เลือดจำนวนมากเลอะไปทั่วแขนจนกลายเป็นสีแดง ดูแล้วสภาพย่ำแย่สุดๆ แต่พละกำลังที่เกิดขึ้นจากการที่มันพองตัวขึ้นยังคงอยู่ นอกจากนี้เชื้อไวรัสที่อยู่ในร่างกายก็กำลังถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง และไหลมารวมกันที่แขนตามกระแสเลือด พละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นต้นทุนที่หลิงม่อจะใช้ต่อกรกับเจ้าหมีซึ่งๆ หน้า แต่พลังงานที่ถูกบังคับให้กระตุ้นออกมากลับไม่สามารถคงอยู่ได้นาน ไม่แน่ว่า…อาจมีเวลาแค่สามวินาทีเท่านั้น!
“รุ่นพี่ซ่อนตัวเรียบร้อยแล้ว ต่อไป ก็ต้องล่อเจ้าหมีเข้าไปในลิฟต์ภายในเวลาสามวินาทีให้ได้…ที่สำคัญที่สุดคือ ในสามวินาทีนี้ห้ามล้มเด็ดขาด!”
ยิ่งการเคลื่อนไหวของเขาเร็วเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเพิ่มเวลาให้หลี่ย่าหลินได้มากเท่านั้น แต่แค่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าหมี เขาก็รู้สึกกดดันมาแล้ว! หลังจากการประมือกันสั้นๆ ครั้งนั้น เจ้าหมีคลุ้มคลั่งหนักกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด และสำหรับหุ่นซอมบี้ตัวนี้ สิ่งที่มันต้องเผชิญก็คือซอมบี้หัวหน้าฝูง ผู้ที่มันไม่เคยกล้าเข้าใกล้มาก่อน!
“ไม่จำเป็นต้องคิดมากขนาดนั้น ซอมบี้ร่างแม่ของที่นี่ก็เคยเจอมาแล้ว แค่ซอมบี้หัวหน้าฝูงตัวเดียวจะน่า…”
“ตึง!”
เสียงอึกทึกโครมครามดังสนั่นออกมาจากความมืด ไม่นาน เงาดำขนาดใหญ่ก็วิ่งตรงมาทางหลิงม่ออย่างรวดเร็ว
เสี้ยววินาทีหนึ่ง หลิงม่อรู้สึกเหมือนตัวเองยืนอยู่บนรางเหล็ก โดยมีรถไฟขบวนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง
“ฉิบหายแล้ว! เมื่อกี้ก็ยังไม่รู้ซึ้งขนาดนี้…พลังพุ่งชนของเจ้าบ้านั่นน่ากลัวมาก!”
เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้น และจ้องไปที่เจ้าหมีที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วอย่างไม่ละสายตา
ดูเหมือนอยู่ไม่ไกล แต่หลิงม่อกลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน…
วินาทีแรก!
ทันใดนั้น เขายอบตัวลง จากนั้นในเสี้ยววินาทีที่ใกล้จะพุ่งชนกับเจ้าหมีเขาก็กระโดดขึ้นสูง
ขณะที่อยู่กลางอากาศ เจ้าหมียกมือขึ้นคว้าไปที่แข้งของหุ่นซอมบี้
“เจ้าบ้านี่คล่องแคล่วกว่าที่คิดแฮะ!” หลิงม่อลอบสบถ
แต่ในวินาทีที่ใกล้ถูกจับได้ แขนทั้งสองข้างของหลิงม่อกลับเกาะขอบฝ้าหลุมเอาไว้ได้ก่อน เขางอตัวและออกแรงเหวี่ยงเท้าเตะออกไปอย่างแรง
“ป๊าบ!”
ขาทั้งสองข้างของเขาฟาดเข้าที่ท้ายทอยของเจ้าหมีเต็มๆ พอเห็นเจ้าหมีเซ หลิงม่อรีบดีดตัวกระโดดลงมายืนตรงหน้ามัน
วินาทีที่สอง!
“กรรร!”
เจ้าหมีเหวี่ยงแขนและคำรามลั่น ดูเหมือนมันจะมึนงงกับวิธีการโจมตีอันคล่องแคล่วว่องไวจากเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ระดับตัวนี้เล็กน้อย แต่ขณะที่มันกำลังสะบัดหัวไปมา หลิงม่อกลับหันหน้าออกวิ่งไปทางประตูลิฟต์แล้ว
“กรร กรรร!”
เสียงฝีเท้าที่ดังก้องเหมือนฟ้าผ่าดังไล่หลังมาอีกครั้ง หลิงม่อขมวดคิ้วแน่น สายตาจดจ้องไปยังช่องแคบตรงกลางประตูลิฟต์เขม็ง
ถ้าไม่อัดมันซักที แล้วจะทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดบ้านั่นโกรธจนหน้ามืดตามัวและวิ่งตามมาได้ยังไง…แต่แค่ทำให้มันตามมายังไม่พอ ปัญหาคือ…จะทำให้มันเข้าไปได้ยังไง!
เจ้าหมีวิ่งตามมาอย่างบ้าคลั่ง มันวิ่งเร็วกว่าหลิงม่อระดับหนึ่ง ถ้าหากการโจมตีเมื่อกี้ไม่ได้ช่วยเพิ่มระยะห่างให้เขา ไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจถูกตามทันแล้วก็ได้
วินาทีที่สาม!
ช่องแคบอยู่แค่ตรงหน้าแล้ว!
และเวลานี้ ระยะห่างระหว่างหลิงม่อกับเจ้าหมีก็เหลือไม่ถึงสามเมตรแล้ว!
สำหรับซอมบี้ ระยะห่างแค่สามเมตรเท่ากับระยะห่างเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
โอกาส…มีโอกาสแค่ครั้งเดียว!
“กรรร!”
เจ้าหมียื่นกรงเล็บออกมา พร้อมกับคำรามเสียงดังลั่น
มันต้องการฉีกเจ้าเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์น่าชังตัวนี้ให้กลายเป็นชิ้นๆ ซะ เป็นแค่ซอมบี้ระดับต่ำตัวหนึ่งแท้ๆ แต่กลับกวนประสาทมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
“โครม!”
หลิงม่อตัดสินใจกระโจนไปข้างหน้า ขาทั้งสองข้างยันไปที่ขอบช่องแคบนั้น แล้วกระโดดขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง
วินาทีที่เขากระโดดขึ้น กรงเล็บของเจ้าหมีเฉี่ยวผ่านร่างกายของเขาไป และยื่นเข้าไปในช่องแคบของประตูลิฟต์
ร่างกายของมันเซเข้าไปข้างในตามแรงโน้มถ่วง แต่ฝีเท้ากลับชะงักหยุดอยู่แค่หน้าประตู
“ชิท!”
หลิงม่อสบถ พอทิ้งตัวลงพื้นก็รีบกำหมัดแน่น และชกเข้าไปที่กลางแผ่นหลังของเจ้าหมีเต็มแรง
เมื่อเสียงอึกทึกดังสนั่นหวั่นไหว ร่างกายของเจ้าหมีก็ถูกยัดเข้าไปในช่องแคบเล็กๆ นี้จนสำเร็จ
ขณะเดียวกันเสียง “กร๊อบแกร๊บ” ดังมาจากแขนของหลิงม่อ เลือดมากมายพุ่งกระฉูดออกมาพร้อมกับที่แขนของเขาแฟบลงอย่างรวดเร็ว
เขาไม่มีเวลาดูมันด้วยซ้ำ เพราะต้องรีบยกแขนขึ้นปิดช่องแคบที่ประตูลิฟต์ไว้ทันที
พละกำลังมหาศาลกระแทกเข้ามา พร้อมกับเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งที่ดังออกมาจากข้างใน
“กรรรร!”
ร่างกายของหลิงม่อพลันสั่นสะท้าน เสียง “กร๊อบแกร๊บๆๆ” ดังมาจากหัวไหล่เบาๆ
“ตายอยู่ข้างในนั่นแหละ!”
เขาคำรามเสียงต่ำอย่างบ้าคลั่ง และออกแรงยันประตูลิฟต์อย่างไม่ยอมถอย
ไกลออกไป เงาร่างของเหล่ากระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนปรากฏตัวขึ้น…
—————————————————————————–