แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - ตอนที่ 945
เดินไปได้ไม่ไกล ตรงหน้าหลิงม่อก็มีประตูเหล็กสีฟ้าขึ้นสนิมบานหนึ่งปรากฏขึ้น ประตูถูกปิดไว้ และถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจอันใหญ่ ด้านหน้ามีป้าย “อยู่ในระหว่างก่อสร้าง” หล่นอยู่ ซึ่งบนป้ายมีรอยเลือดเลอะเต็มไปหมด
เขาหยุดยืนอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง แล้วหันไปถาม “พวกนายเป็นคนล็อกที่นี่ไว้สินะ?” พูดไป หลิงม่อก็ยกนิ้วชี้ไปที่ช่องใต้ประตู “ตรงนี้มีแต่เลือด แล้วยังมีเศษเสื้อผ้าอยู่ด้วย…ดังนั้น ถึงแม้จะมีคนหนีออกมาได้ ก็คงไม่มีเวลาหันมาล็อกประตูไว้อย่างนี้ นอกเสียจากว่าคนคนนั้นจะมีพละกำลังเหนือกว่าซอมบี้” เขาใช้สายตาพยักพเยิดไปที่บริเวณกุญแจ จุดที่บานประตูทั้งสองบรรจบกัน มีรอยมือสีเลือดอยู่ไม่ต่ำกว่าห้าหกรอย
ถึงแม้ตอนนี้สีของรอยมือพวกนั้นได้กลายเป็นเหมือนสีสนิมไปแล้ว แต่มันก็ยังทำให้ผู้พบเห็นสามารถจินตนาการถึงภาพเหตุการณ์สยองขวัญที่เคยเกิดขึ้นในที่นี่ได้ อย่างเช่นความสิ้นหวังที่อยู่ในดวงตาของผู้รอดชีวิต ฝ่ามือเปื้อนเลือดหลายคู่ที่ยื่นออกมาจากช่องประตู และเกาะเกี่ยวบานประตูไว้แน่น…
“แกว่าไหม?” หลิงม่อถาม
หนทางแก้ตัวถูกดักไว้หมดแล้ว…ถังฮ่าวจึงได้แต่พูดอย่างอับจนหนทางว่า “ตอนนั้นมีคนเคยรายงานฉันว่าได้ปิดตายสถานที่หนึ่งไว้ แต่ฉันไม่ได้สนใจมากนัก”
เขาไม่ได้สนใจจริงๆ จนถึงตอนนี้ เขาก็เพิ่งมาเริ่มสนใจเพราะพฤติกรรมแปลกของหลิงม่อ
ความจริงหากทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ เรื่องราวควรดำเนินไปอีกทิศทางหนึ่ง อย่างหลิงม่อ ตอนนี้เขาไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลย แต่ควรไปอยู่อีกที่มากกว่า…
แต่เจ้าหลิงม่อกลับดันทุรังจะมาที่นี่…
“บ้าฉิบ!” หลิงม่อลอบสบถ
“แล้วแกรู้ไหมว่าขังอะไรไว้ข้างใน?” หลิงม่อจับกุญแจประตู พลางถาม
ถังฮ่าวอดกลอกตาขาวไม่ได้ “ไม่ใช่ศพก็ซอมบี้แหละ แต่ตอนนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว ไม่ว่าข้างในจะมีอะไรอยู่ ตอนนี้ก็น่าจะเน่าไปหมดแล้ว”
“พวกแกเจอที่นี่มาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่เห็นจะเข้ามาอยู่ หรือทิ้งมันไป กลับจัดการทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดี…พวกแกนี่ช่างรู้จักหาอะไรทำฆ่าเวลากันจริงๆ นะ” อยู่ๆ หลิงม่อก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่หนักไม่เบา
“…” ถังฮ่าวหน้ากระตุก
ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้ว ถึงแม้หลิงม่อไม่ได้ลงมือทรมานเขาเองกับมือ แต่เขากำลังแก้แค้นซ้ำๆ ผ่านทุกการกระทำและคำพูด!
และในคำพูดที่แฝงความนัยลึกซึ้งนี้ ถังฮ่าวก็ทำได้แต่คาดเดาว่าตกลงหลิงม่อรู้มากน้อยแค่ไหนกันแน่เท่านั้น แต่กลับไม่รู้ว่าหลิงม่อมีความเห็นและท่าทีต่อเรื่องพวกนี้ยังไง หรือตัดสินใจจะใช้กลยุทธ์แบบใดกันแน่…
ถาม? เป็นไปไม่ได้ เดา? ทรมานคน…ไอ้เลวนี่จงใจชัดๆ
“แกร๊ก!”
เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ กุญแจที่ล็อกอยู่ก็เปิดออก
ถังฮ่าวตะลึง ทั้งสองอยู่ใกล้กันขนาดนี้ แต่เขากลับมองไม่เห็นว่าหลิงม่อทำอะไร
ผู้มีพลังจิตทำอย่างนี้ได้ด้วยหรอ? แต่ผู้มีพลังจิตที่อยู่ในกลุ่มเขาไม่เห็นมีใครมีพลังแบบนี้เลย…
แอ๊ดด—
ช่องประตูถูกสนิมเกาะจนเขรอะ พอบานประตูถูกผลักเข้าไป เสียงเอี๊ยดอ๊าดจึงดังแสบแก้วหูทันที ขณะเดียวกันเมื่อประตูถูกเปิดออกช้าๆ กลิ่นประหลาดหนึ่งก็โชยออกมาจากข้างใน
“ฉิบ!” ถังฮ่าวสบถเพราะกลิ่นนั้นแย่เกินทน
แต่หลิงม่อกลับปิดจมูกแล้วยกมือขึ้นปัดไปมา จนกระทั่งประตูถูกเปิดออกจนสุด
เริ่มแรกในห้องมีแต่ความมืดมิด แต่เมื่อสายตาปรับสภาพได้ สิ่งของที่อยู่ในห้องก็ค่อยๆ ปรากฏให้เห็น
“นี่อะไรน่ะ?” หลิงม่อเพิ่งจะมองแวบแรก ก็อดถามไม่ได้
พื้นในห้องนี้ต่ำกว่าทางเดินข้างนอกเล็กน้อย แต่มีเนื้อที่กว้างไม่น้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกปิดตายมานานหรือเปล่า ที่นี่จึงให้ความรู้สึกวังเวง พอทอดมองเข้าไป ก็เห็นแต่คราบเลือดสีน้ำตาลอยู่เต็มพื้น แม้แต่บนอุปกรณ์ที่ตั้งอยู่ด้านหนึ่ง ก็ถูกเลือดกระเด็นใส่จำนวนมาก
แต่สิ่งที่น่าตื่นตะลึงไม่ใช่เรื่องพวกนี้ แต่เป็นอีกเรื่อง…
“ศพล่ะ!” ถังฮ่าวตกใจ
ตอนที่สถานที่แห่งนี้ถูกปิดตาย ข้างในน่าจะมีศพถูกกองรวมกันไว้ไม่น้อยสิ!
ถึงแม้ไม่เคยระบุตัวเลขจำนวนที่ชัดเจน แต่แค่คำว่า “ศูนย์” กับ “ทั้งห้อง” มันก็ชัดอยู่แล้วไม่ใช่หรอ!
หลิงม่อหันไปมองถังฮ่าวทันที แต่ถังฮ่าวยังคงเบิกตากว้าง
เขาเข้าใจความคิดของหลิงม่อ…อีกฝ่ายกำลังสงสัยเขา แต่เขาจะหาคำตอบจากไหนมาให้หลิงม่อล่ะ? เรื่องที่ไม่มีความจำเป็นอย่างนี้ พรรคพวกของเขาไม่มีเหตุผลให้โกหกเขาเลยนี่นา…
“ในนี้ต้องมีศพอยู่แน่นอน! ศพทั้งหมดที่หาได้ในตอนนั้น…ซอมบี้ที่ถูกจับได้ น่าจะอยู่ในนี้หมดถึงจะถูกสิ…” ถังฮ่าวอธิบายอย่างลนลาน “ใช่แล้ว! อาจจะมีซอมบี้ที่ยังไม่ตายกินศพที่อยู่ในนี้จนเกลี้ยงก็ได้…ดังนั้น ตอนนี้…มีซอมบี้ที่ตัวหนึ่งยังไม่ตายอยู่ในนี้ แต่ซอมบี้เก่งเรื่องการอำพรางกลิ่นอายมาก ถ้ารู้ว่ามีคนมา มันจะหลบไปอยู่ในมุมเงียบๆ ไม่แน่ ตอนนี้มันอาจกำลังจ้องเราอยู่ก็ได้…”
พูดถึงประโยคท้ายๆ เขาก็ถอนหายใจโล่งอกอย่างไม่รู้ตัว
ไม่ผิดแน่ ต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ…ถึงแม้จำนวนศพและความเร็วในการเน่าสลายไม่มีทางที่จะทำให้ซอมบี้ตัวนั้นสามารถมีกินมาได้จนถึงตอนนี้ แต่สำหรับซอมบี้ หิวซักสองสามเดือนจะเป็นอะไรไป?
ถังฮ่าวคิดอย่างนี้ แต่เขากลับกวาดตามองหลิงม่อขึ้นลงอย่างหวาดกลัว
อีกฝ่ายไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนเขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าหากโกหก จุดจบก็คือ…ตาย! ดังนั้นถังฮ่าวจึงทำมากสุดแค่ปิดบัง แต่กลับไม่กล้าโกหกแต่งเรื่องหลอกเขาแม้แต่น้อย
ช่วยไม่ได้ ก็เขากลัวนี่นา…
“กระดูกล่ะ?” หลิงม่อกลับชี้ไปที่พื้นแล้วถาม
พอคำถามนี้หลุดออกจากปาก ถังฮ่าวก็แทบอยากจะวิ่งเอาหัวโขกกำแพงทันที
ทำไมเขาคิดไม่ถึงเรื่องนี้เลยล่ะ!
กระดูกของศพมากมายขนาดนั้น ไปไหนหมดแล้ว?
หลิงม่อกลับไม่รอคำตอบจากเขา แต่หันกลับไปดึงบานประตูปิดครึ่งหนึ่ง และใช้นิ้วแตะๆ ไปที่หลังประตู “บนประตูนี่ก็ไม่มีร่องรอยถูกกระแทกใหม่ๆ ดู มีแต่ฝุ่น”
เขาเช็ดฝุ่นที่นิ้วออก แล้วอยู่ก็มองออกไปข้างนอกประตู จากนั้นก็พูดว่า “ไม่คุยแล้ว พวกเราถอยเข้าไปข้างในก่อนแล้วกัน”
“แบ๊…”
เสี่ยวป๋ายกลับร้องขึ้นในเวลานี้ หลิงม่อมองมันแวบหนึ่ง หัวใจพลันเต้นรัว
“ไปเถอะ”
หลิงม่อปิดประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เดินลึกเข้าไปในห้องไฟฟ้า
เมื่อแสงสว่างสุดท้ายหายไป ที่นี่ก็เหลือแต่ความมืดมิด จนกระทั่งหลายวินาทีผ่านไป ถังฮ่าวจึงค่อยๆ มองเห็นเค้าโครงเลือนรางผุดขึ้นตรงหน้า
“แอ๊ด…”
ทันใดนั้น เสียงประตูถูกเปิดพลันดังมาจากที่ไกลๆ ถังฮ่าวเพิ่งจะเบิกตากว้าง แต่วินาทีถัดมาเขาก็ถูกวัตถุเย็นเฉียบจ่อขมับ
“ชู่ว” เสียงของหลิงม่อดังมาจากด้านข้าง
ถังฮ่าวกลั้นหายใจทันที ไม่นาน เขาก็ตระหนักได้ถึงปัญหาหนึ่งขึ้นมาทันที
หมีแพนด้าตัวนั้นล่ะ?
นับจากตอนที่ที่เขาถูกปล่อยตัวจนหมีแพนด้าหายตัวไป ราวกับว่าทั้งหมดเกิดขึ้นภายในพริบตาเดียว…จนตอนนี้ เขาถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองถูกส่งต่อให้หลิงม่อแล้ว
นี่คิดจะทำอะไนกันแน่?
เขาหันไปมองหลิงม่อที่กำลังจดจ้องไปยังประตูห้อง พลางรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“ทำไมรู้สึกว่า…เขาไม่ได้มาที่เพื่อหาของเท่านั้น แต่จะใช้ที่นี่เป็นกรงด้วย…”
—————————————————————————–