แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - ตอนที่ 948
ถังฮ่าวมองหลิงม่ออย่างตื่นตะลึง แต่หลิงม่อกลับพูดต่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “แกคงอยากรู้สินะ ว่าฉันเริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ไม่รอให้ถังฮ่าวตอบ หลิงม่อพูดต่อว่า “ตอนที่แกเล่าแผนการนี้จบไงล่ะ”
“เป็นไปได้ยังไง…” ถังฮ่าวพูดขึ้นโดยสัญชาตญาณ
“ใช่ เพราะแกไม่ได้โกหก แม้แต่คลื่นดวงจิตก็ไม่มีร่องรอยของการโกหก และฟังผิวเผิน แผนการนี้ก็สมบูรณ์แบบมากจริงๆ สมเหตุสมผลกับผลประโยชน์และแรงจูงใจของพวกแก” หลิงม่อยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขาดูเหมือนกำลังคุยกับหลิงม่อ แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนกำลังอธิบายให้สวี่ซูหานที่ยืนอยู่อีกด้านฟังด้วย “แต่ขนาดซอมบี้ยังรู้จักใช้วิธีปิดบังมาแทนการโกหก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมนุษย์เลย…ว่ากันตามจริง นิสัยของซอมบี้ก็มาจากมนุษย์นี่แหละ ปัญหาที่เป็นความรู้ทั่วไปอย่างนี้ก็เหมือนกัน แกคิดว่าไงล่ะ?”
“แกต้องการจะพูดอะไร…” ถังฮ่าวถามด้วยสีหน้าซีดขาว
“ดังนั้นในระหว่างที่เล่าให้ฉันฟัง แกจงใจปิดบังรายละเอียดที่สำคัญกับฉัน…อย่างเช่น ความจริงแล้วตึกนี้มีไว้ใช้ทำอะไรกันแน่ แล้วก็ จุดประสงค์ที่แท้จริงของแก” พอเห็นถังฮ่าวตัวสั่น หลิงม่อก็หัวเราะเย็นชา “จากมุมมองของพวกแก ไม่ว่าพลังของพวกฉันจะแกร่งถึงระดับไหน ความจริงมันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ใช่ไหมล่ะ? แน่นอน พวกแกมั่นใจในพลังแปลงร่างของตัวเองกันมาก นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ถ้าไม่อย่างนั้น การดำเนินแผนการที่สำคัญขนาดนี้ ควรจะสังเกตการณ์ซักระยะหนึ่งก่อนแล้วค่อยเริ่มเคลื่อนไหวไม่ใช่หรอ? เมื่อใดที่จิตใจและร่างกายของคนคนหนึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลง การวัดคุณค่าในตัวเองของคนคนนั้นก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน หากไม่เย่อหยิ่ง ก็ต้อยต่ำไปเลย…”
“ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลน่ะ มันเป็นเรื่องที่พวกแกช่วยไม่ได้เลย…พอพวกฉันมาถึงที่นี่ก็ลงมือสำรวจรอบๆ บริษัทลอว์สันทันที ที่พักที่พวกฉันเลือก เป็นแค่ที่พักชั่วคราวเท่านั้น สถานการณ์อย่างนี้ถือเป็นเรื่องดีสำหรับพวกแก แต่ที่มากกว่ามันกลับนำมาซึ่งความยุ่งยากและความตื่นตระหนกมาให้พวกแก แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกแกที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดตอนนั้น ก็ได้มองว่าพวกฉันเป็น “ผู้ช่วย” และเหยื่อล่อที่เดินมาหาถึงที่ เพราะด้วยสถานการณ์ของพวกแก ไม่มีทางพิจารณาเรื่องร่วมมือกันอย่างแน่นอน ถูกไหม?” หลิงม่อถาม
ถังฮ่าวกัดฟันกรอด แล้วถามย้อน “คนปกติทั่วไปจะยอมร่วมมือกับคนอย่างพวกฉันไหมล่ะ? ถึงแม้ตอนแรกจะเห็นด้วย แต่หลังจากเห็นพวกฉันแปลงร่าง ก็คงไม่ลังเลที่จะยิงปืนหรอกมั้ง? ในเมื่อเป็นอย่างนั้น…”
สวี่ซูหานยืนเงียบอยู่อีกด้าน พอได้ยินถึงตรงนี้ก็อดถอยหลังสองก้าวไม่ได้ เธอมองถังฮ่าวผ่านหน้ากาก เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายกลับนิ่งเงียบเหมือนเดิม
“เพราะความคิดอย่างนี้ จึงทำให้แกมีทางเลือกเหลืออยู่แค่สองทางเท่านั้น…ทางที่หนึ่งคือรอให้พวกฉันเข้าไปในบริษัทลอว์สัน จากนั้นก็พวกแกค่อยลักลอบตามเข้าไป นี่คงจะเป็นตัวเลือกแรกของพวกแกสินะ? เพราะพวกฉันไม่ได้มีแค่ปืน คนก็มีไม่น้อยด้วยเหมือนกัน ถ้าหากเข้าไปในบริษัทได้จริงๆ พวกฉันก็จะสามารถกำจัดอุปสรรคให้พวกแกได้ไม่น้อย ทางที่สอง คือล่อพวกฉันมาที่นี่ และจากนั้นก็ล่อซอมบี้ทั้งหมดมาที่นี่ จุดนี้สามารถทำได้ด้วยหลายวิธี โดยเฉพาะการล่อพวกฉันมาที่นี่ ความจริงพวกแกปูทางสำหรับเรื่องนี้มานานแล้วสินะ? อย่างเช่น จงใจทำให้พวกฉันรับรู้ถึงตัวตนของพวกแก จงใจวนเวียนไปมารอบที่พักของพวกฉัน เพื่อทำให้พวกฉันระแวดระวัง…และตามคนของพวกแกออกไป บอกตามตรง ตอนแรกฉันก็หลงกลเหมือนกัน”
ถังฮ่าวไม่พูดอะไร แต่ดูจากสีหน้าเขา ถึงแม้การวิเคราะห์ของหลิงม่อจะไม่ได้ถูกต้องแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถูกถึงแปดเก้าส่วนเลยทีเดียว…
“ความจริงความยากของทางเลือกที่สอง อยู่ที่ขั้นตอนที่สอง…คือจะทำให้พวกฉันเข้าไปในบริษัทลอว์สันได้ยังไง”
หลิงม่อพูดอย่างแช่มช้า แต่สวี่ซูหานกลับร้องออกมาอย่างแปลกใจ
“นั่นมัน…เป็นไปไม่ได้มั้ง? ถ้าถูกขังอยู่ในนี้ จะเข้าไปในบริษัทลอว์สันอีกได้ยังไง? ถ้าไม่นับทางตรง ที่นี่อยู่ห่างจากบริษัทลอว์สันตั้งห้าร้อยเมตรเชียวนะ!”
หลิงม่อหัวเราะ มองถังฮ่าวแล้วบอกว่า “เป็นไปได้หรือไม่ ถามเขาดูก็รู้แล้ว”
สวี่ซูหานมองหน้าถังฮ่าวทันที แล้วเธอก็สังเกตเห็นตั้งแต่แวบแรก ว่าถังฮ่าวกำลังตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
พอเห็นทั้งสองมองมาพร้อมกัน มุมปากของถังฮ่าวก็กระตุกสั่น แล้วจู่ๆ ก็หัวเราะแห้งขึ้นมา “ฮ่าฮ่า…ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ถ้าหากไม่ได้เห็นกับตา ฉันคงไม่เชื่อว่าพวกแกมาที่นี่เป็นครั้งแรก…ถูกต้อง แกพูดไม่ผิดเลย สำหรับพวกฉัน ใครแกร่งใครอ่อนไม่สำคัญซักนิด เพราะนับตั้งแต่วินาทีที่พวกแกโผล่มา พวกแกก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว พวกแกไม่รู้จักที่นี่ พวกแกแปลงร่างไม่เป็น…ดังนั้นขอเพียงแผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกแกไม่มีทางรอดแน่ ถึงจะไม่ตาย…ไม่สิ ไม่มีทางไม่ตายแน่นอน”
“พวกแกตัดสินความเป็นความตายของคนอื่นง่ายดายเกินไปแล้ว…” อยู่ๆ สวี่ซูหานก็พูดแทรกขึ้นประโยคหนึ่ง
“มีอะไรง่ายหรือไม่ง่ายกันล่ะ…บนโลกนี้มีคนตายกันน้อยๆ เสียเมื่อไหร่? พวกเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจตายกันเองหรอกมั้ง? แต่สัจธรรมโลกก็เป็นอย่างนี้แหละ…” ถังฮ่าวยกมือขึ้นลูบหน้าแรงๆ แล้วบอกว่า “แผนการที่สอง…เป็นอย่างที่หมอนี่พูดจริงๆ”
“แต่ที่นี่…”
“ไม่เกี่ยวกับระยะทาง” ถังฮ่าวมองไปที่ประตูเหล็กบานที่อยู่ข้างหน้าด้วยสายตาซับซ้อน ที่ประตูบานนั้น พรรคพวกของเขากำลังตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล…
“ฉันไม่คิดเลยว่าที่นี่จะยังมีทางออกที่สองซ่อนอยู่ด้วย…ตอนแรกฉันคิดว่า หลิงม่อน่าจะไปยังทางออกที่หนึ่ง จากนั้นเขาก็จะตายอยู่ที่นั่น ถึงจะไม่ตาย ฉันก็ยังฉวยโอกาสหนีไปได้…แน่นอน ที่นี่เป็นที่ที่พวกแกจะถูกล่อไปด้วย มีสัตว์ประหลาดอยู่ข้างหน้า ซอมบี้อยู่ข้างหลัง พวกแกทำได้แค่ต้องสู้อย่างไร้ทางเลือก แต่ยิ่งพวกแกฆ่ามากเท่าไหร่ ก็จะมีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมามากขึ้น…” ถังฮ่าวชะงักไปครู่หนึ่ง
สวี่ซูหานได้ยินอย่างนั้นก็อึ้ง จากนั้นก็ถามอย่างตะลึง “สัตว์ประหลาดที่ว่านั่น…มาจากบริษัทลอว์สัน?”
“ใช่ เป็นอย่างที่เธอคิดนั่นแหละ” หลิงม่อพูดอย่างมั่นใจ “ทางออกที่ว่า คือทางเชื่อมระหว่างตึกนี้กับบริษัทลอว์สัน ถ้าหากพวกเรายินยอม ก็จะสามารถไปยังบริษัทลอว์สันผ่านทางนั้นได้ แต่ถ้าหากเข้าไปแล้ว ก็จะไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้อีก และอีกอย่าง พวกเขาจะต้องทำอะไรกับตึกหลังนี้ไว้เพื่อไม่ให้เราหนีออกไปแน่ๆ”
ถังฮ่าวพยักหน้า “เป็นอย่างนั้นจริงๆ พวกเราจะใช้ซอมบี้ล้อมที่นี่ไว้ สองคนนั้นที่อยู่ในห้องมีหน้าที่มาจัดการขั้นตอนนี้ พวกเขาจะเทเลือดจำนวนมากไว้ที่ประตู ดึงดูดซอมบี้ให้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง หน้าที่เปิดทางเชื่อมเส้นนั้นก็เป็นของสองคนนั้นเหมือนกัน ถ้าหากไม่ถูกแกทำแผนพัง ป่านนี้พวกเขาคงเปิดทางเชื่อมไปแล้ว”
“แต่ว่าตอนนี้…แกก็เปิดแล้วทางหนึ่งเหมือนกัน…” ถังฮ่าวมองไปที่ประตูเหล็ก แล้วอยู่ๆ ก็หัวเราะ “แกคงไม่ได้คิดว่า ประตูบานนั้นจะสามารถขวางพวกเขาไว้ได้จริงๆ หรอกนะ…ตายแน่ๆ พวกเราต้องตายกันหมดแน่ๆ…”
—————————————————————————–