แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - ตอนที่ 950
พอเห็นทั้งสองเดินจากไปโดยไม่หันมามอง ถังฮ่าวทิ้งจึงตัวลงนอนกับพื้น
ท้องของเขายังคงดิ้นขลุกขลัก แต่เรี่ยวแรงแค่นี้ จะหนีรอดเงื้อมมือสัตว์ประหลาดที่อยู่หลังประตูบานนี้ไปได้ยังไง…
“ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาโอกาสที่ดีที่สุดใช้มัน…หมอนั่นรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…” ร่างกายถังฮ่าวกระตุกสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีแดงเลือด “ตอนที่สองคนนั้นเข้ามา ฉันอุตส่าห์อดทนไม่ใช้มัน…ตอนที่สองคนนั้นถูกขัง ฉันก็อุตส่าห์อดทนและไม่ใช้มัน…เจ้าเด็กนั่นพูดถูก ฉันกลัว…แต่ฉันมั่นใจมาโดยตลอด หากพลาดโอกาสพวกนี้ไป ฉันก็ยังรอโอกาสใหม่ได้…”
เรื่องนี้ ถังฮ่าวคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ…และเขาก็ไม่รู้ตัวด้วย ว่าหมีแพนด้าที่กำลังเหลือบมองเขาด้วยหางตาในตอนนี้ เหมือนซ่อนแววตาที่ต่างออกไปอยู่ลึกๆ…
“ฉันไม่อยากตาย…ฉันยังไม่อยากตาย!” ถังฮ่าวคำรามอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็พยายามคลานไปที่กำแพง แล้วค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น…
“ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ฉันก็จะไม่มีวันตาย…” ถังฮ่าวยังคงพึมพำอยู่อย่างนั้น…
“สายตาของหมอนั่น…หลิงม่อ เขาคงไม่ทำอะไรหรอกใช่ไหม?”
ระหว่างวิ่ง สวี่ซูหานพูดขึ้น ขณะหันกลับไปมองข้างหลัง
“ไม่เป็นไรหรอก” หลิงม่อละสายตาออกจากจุดที่กำลังมองอยู่ แล้วหันมาตอบเสียงเรียบ
“แต่…” สวี่ซูหานมองใบหน้าด้านข้างของหลิงม่อ หลังจากครุ่นคิด เธอก็เปลี่ยนเรื่อง “นายรู้ได้ไงว่าฉันมา? ฉันหมายถึงตอนที่ฉันปิดประตูน่ะ…เหมือนนายรู้อยู่ก่อนแล้ว”
“แล้วเธอปิดประตูทำไมล่ะ?” หลิงม่อกลับถามย้อน
“ฉันเห็นนายกับเสี่ยวป๋ายวิ่งตามกันออกมา แล้วสองคนนั้นก็วิ่งตามหลังมา…” สวี่ซูหานเพิ่งจะอธิบายได้ไม่กี่คำ แต่ไม่นานเธอก็คิดได้แล้วถามอีกครั้ง “นายยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ!”
“ฉันล็อกพลังจิตไว้ตรงนั้นแล้ว…”
“หา?”
“ฉันหมายถึงที่ประตูน่ะ…” หลิงม่อบอก
สวี่ซูหานงุนงงไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเพิ่งนึกขึ้นได้
ที่แท้ถึงเธอจะไม่ปิด เขาก็เตรียมการไว้พร้อมแล้วนี่เอง…
“เกินไปแล้วนะนาย!” สวี่ซูหานแอบยกมือขึ้นลูบแก้มเบาๆ จากนั้นก็เร่งความเร็วทันที
“เฮ้ยย ฉันตามไม่ทัน!”
“ใครสนล่ะ!”
หลิงม่อเอือมระอา…นี่ขนาดกลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว ทำไมยังเข้าใจยากอยู่อีกล่ะ! ตามคาด ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพศ ก็ไม่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์เลยจริงๆ!
ทว่าไม่นาน สายตาของเขาก็ดูจดจ่อขึ้นมาอีกครั้ง… “ปัญหาในตอนนี้ก็คือ ตกลงว่าตึกสองหลังนี้เชื่อต่อกันด้วยวิธีไหนกันแน่? ซย่าน่าล่ะ? เธออยู่ที่ไหน? จุดที่หุ่นซอมบี้ยังปีนไปไม่ถึง…”
หลังจากที่วิ่งเร็วไปได้ซักระยะ สวี่ซูหานที่อยู่ข้างหน้าก็ผ่อนฝีเท้าลงอีกครั้ง
“ฉันจะไปถือสาอะไรกับมนุษย์ทึ่มพรรค์นี้กันนะ…”
แต่พอเธอหันกลับไป กลับต้องกำหมัดแน่นอย่างโกรธจัด
เจ้าบ้านั่นยังวิ่งด้วยความเร็วเท่าเดิมอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรเลยนี่! แล้วทั้งๆที่ เมื่อกี้เขายังคุยกับเธออยู่ แต่ตอนนี้กลับทำท่าทางเหมือนกำลังใจลอยไปไกลอยู่…
“ไอ้บ้า ขอให้วิ่งหัวโขกกำแพงไปเลย!” สวี่ซูหานกันฟันกรอด
…………
“โป๊ก!”
หลังเสียงหนึ่งดังเบาๆ เสียงของหลี่ย่าหลินก็ดังมาจากข้างหน้า “ระวังหน่อยสิ ที่นี่ต่ำลงกว่าเดิมแล้ว ระวังอย่าไปชนท่อเข้า”
หลิงม่อควบคุมหุ่นซอมบี้ลูบหน้าผาก แล้วช้อนเปลือกตามองไปข้างหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ “ขุดได้ชุ่ยมากจริงๆ”
“แต่อย่างนี้ก็ดีออกนี่” หลี่ย่าหลินหันมาอบอก “เราจะได้รู้ขนาดตัวของมันชัดเจนขึ้นไง”
“ขนาดตัวไม่รู้หรอกนะ แต่พลังต่อสู้น่ะพอจะรู้บ้างแล้ว ถ้าหากราบรื่น อีกเดี๋ยวก็จะได้รู้แล้วพวกมันเป็นยังไง” หลิงม่อบอก
หลี่ย่าหลินร้อง “เอ๋” แล้วถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“อืม” หลิงม่อรับคำ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดกับทางฝั่งร่างจริงของเขาให้เธอฟังคร่าวๆ พอเล่าถึงตอนที่ผู้มีความสามารถพิเศษสองคนถูกฆ่า และตึกสองหลังนี้ก็ถูกเชื่อมต่อกันไว้ด้วยวิธีการพิเศษอย่างหนึ่ง หลี่ย่าหลินก็ตื่นเต้นจนไปโขกกับท่อเข้า…
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า ระดับวิวัฒนาการของพวกมันจะต้องสูงมากแน่ๆ เลยใช่ไหม! ถึงแม้เรื่องบางอย่างฉันจะทำได้เหมือนกัน…” หลี่ย่าหลินหัวเราะคิกๆ แล้วบอก
“ผมก็คิดว่าน่าจะใช่…ความจริงตอนที่เสี่ยวป๋ายขุดรู ผมเคยมองเข้าไปในรูผ่านดวงตาของมันครั้งหนึ่ง แค่ครั้งเดียวเท่านั้น…พอขุดรูนั้นเสร็จ เสียงเขย่าประตู และเสียงคนเดินที่ได้ยินก่อนหน้านั้น ก็ชัดเจนขึ้นมาทันที แต่เพิ่งจะมองได้แวบเดียว ผมก็รู้สึกว่าเสี่ยวป๋ายขนลุกตั้งไปทั้งตัว สุดท้ายเลยทันเห็นแค่มือข้างเดียว…” หลิงม่อบอก
หลี่ย่าหลินพูดอย่างสงสัย “สามารถทำให้เสี่ยวป๋ายตื่นกลัวได้ขนาดนั้น…ก็คงมีแต่ซอมบี้ระดับสูงหรือไม่ก็สัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงเท่านั้นล่ะทั้ง? ว่าแต่เป็นมือแบบไหนหรอ?”
“เป็นมือที่ขาวมาก และยาวมาก…จะว่ายังไงดีล่ะ เหมือนมือที่ไม่มีกระดูก ตอนที่ผมเห็น มือข้างนั้นกำลังยื่นออกมาจากมุมมุมหนึ่งพอดี เหมือนมีตัวอะไรกำลังเกาะอยู่ตรงทางเลี้ยว และกำลังปีนออกมาประมาณนั้น ที่น่าแปลกคือทั้งที่มันเป็นมือคน แต่มันกลับไม่ให้ความรู้สึกเหมือนมนุษย์เลยซักนิด จุดนี้ต่างจากซอมบี้มาก” หลิงม่อหนนึกถึงภาพนั้น พลางพูดขึ้น
“อย่างนั้นหรอ…ถ้าอย่างนั้นพวกมันเป็นคนขุดใต้พื้นหรอ?” อยู่ๆ หลี่ย่าหลินก็ตื่นเต้นขึ้นมา
หลิงม่อกลับทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจว่ารุ่นพี่คนนี้กำลังตื่นเต้นกับอะไรกันแน่ ทำได้เพียงตอบไปว่า “น่าจะใช่ ผมคิดว่าใต้อาคารทั้งหลังถูกขุดจนกลวงหมดแล้ว บางทีอาจไม่ใช่แค่ตึกหลังนั้น แต่เป็นตึกบนถนนทั้งสาย…แต่ตึกนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงพอดี คนกลุ่มนั้นเลยสังเกตเห็นเบาะแสได้ง่าย ตึกหลังอื่นๆ ถึงแม้ใต้พื้นถูกขุดจนกลวงโบ๋ยังไง ก็ดูจากภายนอกไม่ออกหรอก”
“บางทีอาจขุดแค่ทางเชื่อมบางส่วนก็ได้” หลี่ย่าหลินบอก
เหมือนเธอสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวของหลิงม่อ จึงพยายามปรับน้ำเสียงให้ผ่อนคลายขึ้น
“อ๊ะ ลูบเจอของเหลวหนืดนี่อีกแล้ว” หลี่ย่าหลินหยุดชะงัก
หลิงม่อเองก็ระแวดระวังขึ้นมาทันที การปรากฏตัวของเงาร่างประหลาดก่อนหน้านั้น ได้ทำให้เขาหวาดระแวงขึ้น และจุดที่เงาร่างนั้นโฉบผ่านไป ก็มีของเหลวแปลกๆ พวกนี้อยู่ด้วย
“ฉันคิดว่าเป็นของเหลวหนืดพวกนี้แหละที่ส่งผลกระทบต่อพวกเรา” หลี่ย่าหลินบอก
“เป็นไปได้…” หลิงม่อกวาดมองรอบข้างอย่างขยะแขยง
พอคิดว่าทางเชื่อมเส้นนี้ถูกเคลือบด้วยของเหลวหนืดพวกนี้ชั้นแล้วชั้นเล่า หลิงม่อก็รู้สึกท้องใส่ปั่นป่วนพิกล
“รู้สึกแปลกๆ พวกมันเป็นตัวอะไรกันแน่?” หลี่ย่าหลินเหมือนอยากถูกฝ่ามือ แต่สุดท้ายก็ได้แต่เบะปากแล้วล้มเลิกความคิด
“จะว่าไปแล้ว ผมรู้สึกว่าพวกเรากำลังเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป” หลิงม่อเงยหน้าจ้องบนหัว แล้วอยู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะเป็นตัวอะไร แต่โดยเนื้อแท้แล้ว พวกมันก็ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสเหมือนกัน จากนั้นจึงวิวัฒนาการจนเกิดการกลายพันธุ์เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หนึ่ง…ดังนั้นแทนที่จะคิดว่าพวกมันเป็นอะไร เรามาทำความเข้าใจพวกมันจากจุดนี้กันดีกว่า ความแตกต่างระหว่างพวกมันกับซอมบี้ธรรมดา น่าจะเกิดจากสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยแตกต่างกัน…”
“เคร้ง…”
เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น หลี่ย่าหลินกับหลิงม่อพลันเงียบกริบ
ไม่นาน ทั้งสองพลันพร้อมใจกันเร่งความเร็ว และไล่ตามไปอย่างเงียบเชียบ…
—————————————————————————–