แม่ครัวยอดเซียน - ตอนที่ 371 ตลาดยาเทพศักดิ์สิทธิ์
“พระเจ้า น้องหญิง เจ้าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” ตำแหน่งเทพที่แท้จริงมีแค่เพียงตำแหน่งเดียว แต่ใครจะเป็นคนครอบครอง จะให้ครองสองตำแหน่งก็คงไม่ได้ นี่ไม่ได้สมเหตุสมผลมากนัก หนานกงเวิ่นเทียนตกใจเล็กน้อย
“ท่านพี่ นี่เป็นโอกาสทางการค้า” ดวงตาหลิวหลีเป็นประกาย ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย นั่นหมายความว่าอะไร หมายความว่าการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่มีค่ามาก ถ้าเช่นนั้นอะไรจะมีค่ามากที่สุด ของที่ช่วยรักษาชีวิต ในฐานะที่เป็นนักปรุงยา การทำยาศักดิ์สิทธิ์ออกมาเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก ใครจะไม่อยากมีของคุ้มครองล่ะ
“น้องหญิง เจ้ามองว่าเป็นโอกาสทางการค้าจากสิ่งใด”
“ชิ้นนี้” หลิวหลีชี้ไปที่คำว่าไม่ว่าจะเป็นตาย
“ท่านคิดว่ายาศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้รักษาชีวิตที่ข้าปรุงขึ้นมามีคุณภาพอย่างไร อีกอย่างได้ยินมาว่าทั้งโลกเทพมีเทพนักปรุงยาไม่ถึง 20 คน อีกทั้งยังสร้างภาพมายาขึ้นมาได้อีกด้วย” หลิวหลีหัวเราะอย่างมีเลศนัย
“ภาพมายา” ภรรยาของเขาจะมาไม้ไหนอีก
“ท่านพี่ว่า พวกเรามาเปลี่ยนความหมายของฉายาของเราหน่อยดีไหม นักปรุงยาคุ้นเคยกับไฟเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้ข้ามีภาพลักษณ์เป็นเทพนักปรุงยาที่ปรุงยาได้เพียงแค่อย่างเดียว ว่าอย่างไร ท่านพี่ว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไรกับภาพลักษณ์ของนักปรุงยา” หลิวหลีกล่าว
“พละกำลังไม่ไหว จำเป็นจะต้องมีคนมาปกป้อง” หนานกงเวิ่นเทียนเข้าใจทันที ใช่ ภาพลักษณ์ของนักปรุงยา คือทำให้คนคิดว่าจำเป็นต้องได้รับการปกป้อง ถือเป็นคนที่อ่อนแอ
“ใช่แล้ว ท่านพี่ก็คือคนที่ปกป้องข้า เรื่องต่อสู้ในภายหน้าคงต้องรบกวนท่านพี่แล้ว” หลิวหลีจงใจพูดอย่างจริงจัง
“ปกป้องเจ้า ถือเป็นหน้าที่ของข้า” หนานกงเวิ่นเทียนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ใช่แล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ ใครจะไปรู้ว่าภรรยาของเขาที่ดูเหมือนเป็นนักปรุงยาที่ต้องได้รับการปกป้อง จะเป็นนักฆ่าที่มีฝีมือในการต่อสู้ไม่ธรรมดา
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าคิดจะทำอะไร” หนานกงเวิ่นเทียนรู้สึกสงสัยน้อยๆ
“อืม เรื่องนี้ แค่รอให้คนที่มาเจอเราคนแรกกระจายข่าวนี้ออกไป เพราะอย่างไรเสียเทพนักปรุงยาในโลกเทพก็น้อยจนแทบจะไม่มี” หลิวหลีคิดๆดูแล้ว จึงพูดขึ้น จะต้องมีคนที่ทนไม่ได้ นึกว่าตัวเองแน่ แล้วมาสืบหาเบาะแสอย่างแน่นอน
และผลปรากฏว่า เป็นอย่างที่นางคิดไว้ ผู้กล้ารายแรกมาเยือนแล้ว
“ทั้งสองคือราชาเทพอัคคีที่แท้จริงกับราชาเทพเหมันต์บริสุทธิ์ใช่หรือไม่ ดูท่าแล้ว พวกท่านสองคนน่าจะเป็นสามีภรรยากัน ใช่แล้ว ข้าอยู่ชั้นเดียวกับพวกท่าน ข้าคือราชาเทพจื่อมู่ เป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งเทพพฤกษา” ราชาเทพจื่อมู่กล่าว
“ราชาเทพจื่อมู่ พวกข้า 2 คนเป็นสามีภรรยากัน” หลิวหลีกล่าว
“พวกท่านน่าอิจฉาเป็นอย่างมาก ที่นี่ก็มีคนที่เป็นสามีภรรยากัน แต่สุดท้ายมักจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน” ราชาเทพจื่อมู่พูดเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ผลคือสองสามีภรรยาไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ
“พวกเราโชคดีมากที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้” หลิวหลีทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดนั้น แล้วแสดงความรักกันต่อ
“ก็จริง แต่ท่านทั้งสองเก่งกาจมากนัก ปกติราชาเทพที่มาใหม่จะอยู่ชั้นล่างสุด แต่ตำแหน่งที่พวกท่านอยู่ถึงจะไม่ได้สูงมาก แต่ก็พอจะเห็นได้ว่าไม่ธรรมดา พูดตามตรง พวกท่านสองคนสร้างแรงกดดันให้กับผู้ท้าชิงตำแหน่งเทพอัคคีกับเทพเหมันต์เป็นอย่างมาก บวกกับฉายาของพวกท่าน ยิ่งทำให้คนอื่นรู้สึกกังวลไม่น้อย” จื่อมู่กล่าวต่อ ในเมื่อวิธีนี้ไม่ได้ผลก็ลองเปลี่ยนวิธีอื่น
“เอ๊ะ? ข้าเป็นเพียงแค่นักปรุงยา ทำได้เพียงแค่เอายาไปฟาดหัวคนอื่น นึกไม่ถึงว่าจะมีคนเกรงกลัว” หลิวหลีแสร้งพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ ราวไม่รู้ว่าตัวเองได้เปิดเผยความลับออกมา
“คิดไม่ถึงเลยว่าราชาเทพอัคคีที่แท้จริงจะเป็นเทพนักปรุงยาหรือ” จื่อมู่ประหลาดใจน้อยๆ แต่ก็ถูกชักจูงไปสำเร็จ อย่างไรเสียเทพนักปรุงยาก็มีจำนวนน้อยแค่ไหน พวกเขาที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานจะไม่รู้ได้อย่างไร ยาเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เทพนักปรุงยาปรุงออกมาหายากขนาดไหน อย่างไรเสียสิ่งที่สามารถรักษาชีวิตได้หรือจะยาเทพศักดิ์สิทธิ์ก็สำคัญทั้งสิ้น แต่อยู่ดีๆมีเทพนักปรุงยาโผล่ออกมา เขาจะไม่ประหลาดใจได้อย่างไร
“ใช่ ข้าพอจะปรุงยาได้บ้าง อย่างน้อยข้า 2 สามีภรรยาก็มีเพียงพอใช้ ใช่แล้ว ข้าเพิ่งจะมาถึงที่เขาเทพ ไม่รู้ว่าฝีมือในการปรุงยาของตัวเองอยู่ในระดับไหน อยากจะรบกวนราชาเทพจื่อมู่ช่วยประเมินให้ได้หรือไม่” หลิวหลีแสร้งทำเป็นเข้าใจ แล้วหยิบยาเทพศักดิ์สิทธิ์ออกมา 1 เม็ด มอบให้ราชาเทพจื่อมู่ มองด้วยแววตาคาดหวัง ด้วยหวังว่าจะได้รับคำวิจารณ์ที่ดี ขณะที่รอแววตาก็แฝงไปด้วยความตื่นเต้น จนจื่อมู่จับสังเกตได้ นางแสดงท่าทางของคนใหม่ที่เพิ่งจะมาถึงในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างแนบเนียน
มือของจื่อมู่สั่นน้อยๆ ยานี้คุณภาพดีมาก คุณภาพดียิ่งกว่าเทพนักปรุงยาที่อยู่มานานบนภูเขานี้เสียอีก อีกทั้งกลิ่นหอมของยา พอดมเข้าไปก็ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาได้ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ราชาเทพอัคคีองค์จริงพูดเป็นเรื่องจริง ถ้าเช่นนั้นสามีของนาง ก็คงจะเป็นคนที่คอยปกป้องนาง
“ใช่แล้ว ยาศักดิ์สิทธิ์ที่ราชาเทพอัคคีองค์จริงทำขึ้นนั้นมีคุณภาพสูงมาก” จื่อมู่อดยอมรับในจุดนี้ไม่ได้
“ขอบคุณท่านมาก ราชาเทพจื่อมู่เรียกชื่อข้าได้เลย ข้าเพิ่งจะมาถึงที่นี่ ข้านามว่าหลงหลิวหลี ท่านนี้คือสามีของข้า หนานกงเวิ่นเทียน” หลิวหลีรู้สึกว่าการเรียกว่าอัคคีองค์จริงฟังดูแปลกๆ พอฟังคนอื่นเรียกชื่อตัวเองแล้วค่อยรู้สึกสบายหน่อย
“ก็ดีเหมือนกัน หลิวหลี เวิ่นเทียน พวกเจ้าเรียกข้าว่าจื่อมู่ก็พอ” จื่อมู่กล่าว เพียงแต่เขาพบว่าอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาประหลาด แต่ก็เข้าใจขึ้นมาในทันที
“หลิวหลี เวิ่นเทียน พวกเจ้าอาจจะไม่รู้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีวาสนาที่ดีอย่างพวกเจ้าที่ได้รับฉายาอย่างเป็นทางการ ฉายาของข้าก็คือชื่อของข้า ชื่อของข้าคือหลิวจื่อมู่” จื่อมู่กล่าวอธิบาย
“จื่อมู่หมายความว่าฉายาก็มีความแตกต่างกันหรือ” สองสามีภรรยามองหน้ากัน ราวกับมีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น
“ใช่แล้ว โดยปกติแล้วราชาเทพที่ใช้ชื่อตนเองตั้งเป็นฉายา จะมีผลงานที่ธรรมดา ส่วนที่มีฉายาอย่างเป็นทางการจะเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์หรือคนที่ต่างจากคนทั่วไป เช่นเทพนักปรุงยาคนหนึ่ง ฉายาของเขาคือราชาเทพหลินเซียว ฉายาของเขาตั้งมาจากชื่อของเขา แต่มีเทพนักปรุงยาอีกคนหนึ่งฉายาของเขาคือราชาเทพวิญญาณพฤกษา เพราะเขาแตกต่างจากคนธาตุพฤกษาทั่วไป จึงมีฉายาที่แตกต่างออกไป ยาศักดิ์สิทธิ์ที่เทพนักปรุงยาทั้ง 2 คนปรุงขึ้นมาแตกต่างกันเช่นกัน ทุกคนมักจะชื่นชอบยาที่ราชาเทพวิญญาณพฤกษาปรุงออกมามากกว่า แต่หาได้ยาก จึงจำเป็นจะต้องเลือกยาที่ราชาเทพหลินเซียวเป็นคนปรุงแทน” จื่อมู่อธิบายความแตกต่าง
“ขอบคุณที่คลายความสงสัย ข้าเข้าใจขึ้นมาไม่น้อย ถ้าเช่นนี้ยาที่ข้าปรุงขึ้นมาพอจะอยู่ในสายตาของศิษย์พี่จื่อมู่ได้หรือไม่” หลิวหลีเปลี่ยนคำเรียกขาน เรียกว่าศิษย์พี่แทน อย่างมีเจตนาจะกระชับความสัมพันธ์
“ใช้ได้ทีเดียว” จื่อมู่ไม่อยากจะคืนยาเทพศักดิ์สิทธิ์ให้อีกฝ่าย
“ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้าก็ขอมอบยาเม็ดนี้ให้ศิษย์พี่จื่อมู่แล้วกัน ถือว่าเป็นของขวัญในการเจอกันครั้งแรก ท่านเป็นแขกคนแรกที่มาเยี่ยมเยียนกระท่อมของข้า” หลิวหลีมอบยาให้จื่อมู่ไปตามน้ำ เพราะอย่างไรเสียสำหรับนางแล้ว การปรุงยาไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแต่คนนอกไม่รู้เท่านั้น อีกอย่าง นางต้องรบกวนจื่อมู่ ให้เป็นคนกระจายข่าวให้นาง ไม่เช่นนั้นใครจะมาหาราชาเทพนักปรุงยาที่เพิ่งเข้ามาใหม่ล่ะ
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอรับไว้แล้วกัน” จื่อมู่เก็บยาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นถึงยาศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ของอย่างอื่น
ทั้งสามคนพูดคุยกันตามมารยาทสักพัก แล้วจื่อมู่ก็ขอตัวกลับ แต่ไม่นาน ทุกคนต่างก็ล่วงรู้ข่าวเรื่องที่ราชาเทพผู้มาใหม่สามารถปรุงยาได้ อีกทั้งยังเป็นราชาเทพที่มีฉายา แต่ก็ไม่มีคนมาหา เพราะไม่รู้ว่าคุณภาพของยาที่นางปรุงนั้นเป็นอย่างไร แล้วใครจะไปรู้ว่ายาที่มอบให้กับจื่อมู่ใช้เวลาปรุงนานขนาดไหน หลิวหลีกับหนานกงเวิ่นเทียนไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะพวกเขาค่อนข้างมั่นใจในฝีมือการปรุงยาของหลิวหลี