แม่ครัวยอดเซียน - ตอนที่ 416
นี่ตนกำลังอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่มีใครเลย มีเพียงความมืดมิด เห็นแค่ตนเองเท่านั้น มองตนเอง ทำไมเขามองเห็นตนเองได้ เป็นเพราะลำแสงนั้นหรือเปล่า ถึงจะไม่รู้ว่าลำแสงนั้นคืออะไร แต่มันก็อยู่กับเขา เป็นเพื่อนร่วมทางที่ห่วงใยกันและกัน
ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างเจิดจ้า แล้วความมืดมิดก็หายไป สวีโจวยกมือขึ้นบังตา จากนั้นก็มีบางสิ่งอยู่ในมือของตน เป็นหินสีดำก้อนหนึ่ง
“หินรัตติกาล เจ้าต้องจำคำพูดของเจ้าไว้ให้ดี ห้ามทอดทิ้งข้า” หินรัตติกาลเขียนคำพูดนี้ขึ้นกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าไปในร่างสวีโจว
“เทพรัตติกาลถูกเปลี่ยนตัวแล้ว สุดท้ายเยี่ยโยวหวงก็หาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น” เทพพสุธารู้สึกเหลือเชื่อและพูดเหมือนคาดเดาไว้ว่าจะเกิดขึ้น
“นั่นสิ เขาลืมความตั้งใจแรกตอนที่สืบทอดตำหนักเทพรัตติกาลไปแล้ว ข้าพอจะเดาออกว่าต้องพบจุดจบเช่นนี้” เทพวายุเอ่ย
“เยี่ยโยวหวง ต่อให้เจ้าได้รับปราณผสม ข้าก็ไม่กลัวเจ้า ข้าเป็นเทพอัคคีที่ได้รับการยอมรับ ต่อให้เจ้ากลายเป็นเทพผสม เจ้าจะทำอะไรข้าได้” หลิวหลีไม่เกรงกลัวเลยสักนิด นางเป็นถึงเทพอัคคีที่ผู้คุมกฎสวรรค์ยอมรับ ต่อให้เขากลายเป็นมหาเทพสูงสุดก็ทำอะไรตนไม่ได้อยู่ดี
“หลงหลิวหลี ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะปากดีไปได้ถึงเมื่อไหร่” เยี่ยโยวหวงพูดอย่างโมโหจนตาแทบถลน
“ใช่สิ ข้ายังติดค้างคำขอบคุณเจ้าอยู่ เมล็ดพันธุ์แห่งเทพในร่างข้าแตกแล้วสร้างขึ้นใหม่ ข้าสรรหาวิธีแล้วต่างๆนานาแต่ก็คิดไม่ออก ผลคือที่ตรงด้านหน้าประตูตำหนักเทพอัคคีได้เจ้าช่วยข้าไว้พอดี ไม่อย่างนั้นข้าจะกลายเป็นเทพอัคคีได้อย่างไร” หลิวหลีดูเหมือนจะคิดอะไรออก จึงพูดแทงใจดำอีกฝ่าย
“เหอะๆ” เยี่ยโยวหวงแสร้งหัวเราะ ไม่ว่าจะใครที่ตั้งใจจะสังหารอีกฝ่ายแต่ผลคือกลับไปช่วยเขา จะให้อารมณ์ดีก็แปลกพิกล
“นังหนู ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เสียงของเอ๋าเลี่ยดังลอยเข้ามา
เยี่ยโยวหวงจำคนผู้นี้ได้ จากนั้นก็รู้สึกโมโหจนอกจะแตกตาย เทพเหมันต์หนานกงเวิ่นเทียน สามีของนังหนู เทพสงครามเอ๋าเลี่ย เคยเป็นคู่พันธะสัญญาของนังหนู เทพหิมะน้ำค้างแข็งเฟิ่งอิงเสวี่ย เคยเป็นคู่พันธะสัญญาของสามีหลิวหลี ไม่น่าเชื่อว่าจะได้สืบทอดสองตำแหน่งเทพ เทพอัสนีจื่อฉี ก็เคยเป็นคู่พันธะสัญญาของหลิวหลี นางเลี้ยงเขาราวเป็นน้องชาย เทพพฤกษาอวิ๋นชิง เพื่อนที่สนิทที่สุดของหลิวหลี ส่วนเทพวารีปิงเซียวและเหลยรุ่ยนั้น นางเลี้ยงดูโตเหมือนคนเป็นลูก เห็นหลิวหลีสำคัญเสียยิ่งกว่าบิดามารดา ไม่น่าจะเชื่อว่าสองคนจะสามารถสืบทอดตำแหน่งเทพตำแหน่งเดียวได้ เทพมารจวินหาว ก็ได้นังหนูส่งเสริม แล้วยังมีเทพรัตติกาลสวีโจว เยี่ยโยวหวงมองสวีโจวที่มาถึงเป็นคนสุดท้าย นี่คือคนที่สองที่ทำให้เขารู้สึกสั่นไหว ดูแล้วคงจะเป็นคนสืบทอดตำแหน่งเทพรัตติกาลที่ตนละทิ้งไป ก็แค่ขอทานคนหนึ่งเท่านั้น
ทันทีที่ได้สืบทอดตำแหน่งเทพ หากไม่มีความผิดใหญ่หลวงก็คงจะไม่หายไป หากเยี่ยโยวหวงสืบทอดตำแหน่งมหาเทพสูงสุดจริงๆ เรียกได้ว่าหัวเดียวกระเทียมลีบ ทุกคนล้วนเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับหลิวหลี ทันใดนั้นเขาก็คิดได้ว่าตนต้องการกำลังคนเช่นกัน แต่เมื่อนึกได้ว่าสองคนนั้นเป็นแค่ราชาเทพก็รู้สึกปวดท้อง ทำไม ทำไมเขาถึงไม่มีคนที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยความจริงใจมากนัก ทำไมกัน
“สบายใจได้ ข้าไม่เป็นไรหรอก” หลิวหลีส่ายหน้า บอกว่าไม่เป็นไร
“นังหนู พวกเราทำสำเร็จกันหมดแล้ว เจ้าเต็มที่เลย เดี๋ยวพวกเราจะเป็นกำลังเสริมให้เจ้าเอง” อวิ๋นชิงพูด เขาในตอนนี้มั่นใจมาก เพราะอาศัยใบบุญของนังหนูถึงโชคนี้แบบนี้
“วางใจเถอะ เขากระโดดไปได้อีกไม่กี่ครั้งหรอก คิดว่าดูดซึมปราณผสมไปแล้วจะเรียบร้อยแล้วหรือ ปราณผสมที่ล่องลอยอยู่ไม่รู้กี่ปีจะมีฤทธิ์มีเดชขนาดไหนกันเชียว น่าจะผุพังไปหมดแล้ว” หลิวหลีเยาะเย้ยโดยไม่กดดันแต่อย่างใด
“แล้วจะทำไม ขอแค่เพียงเศษเสี้ยวก็พอ แล้วเจ้าล่ะ พวกเจ้าทั้งหมดนี่ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก” เยี่ยโยวหวงไม่สนใจคำพูดเสียดสีของหลิวหลีสักนิด
“ช่างโง่เขลานัก” เสียงของป๋อเหยียนดังมาจากทางด้านหลังของเยี่ยโยวหวง ไม่แม้แต่จะเก็บสีหน้าเหยียดหยามด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจอะไรสักนิดแถมยังจะสืบทอดตำแหน่งมหาเทพสูงสุดอีก
“ตาแก่ป๋อเหยียน เจ้าเอาแต่ทำลายเรื่องดีๆของข้า ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
“เป็นคนโง่เขลาเสียจริง เจ้าไม่มีทางให้หนีแล้ว ยังคิดมากมายเช่นนั้นอีก เจ้าคิดว่ามหาเทพสูงสุดคืออะไร ปราณผสมเกิดจากภายนอกอย่างนั้นหรือ โง่แบบนี้ ยังเพ้อหาตำแหน่งมหาเทพสูงสุดอีก” ป๋อเหยียนด่าทออย่างไร้ความเกรงใจ
“ผู้อาวุโสป๋อเหยียน”
“พอได้แล้ว ตอนนี้ข้ารับการทำความเคารพของเจ้าไว้ไม่ได้แล้ว พวกเจ้าเป็นเทพที่แท้จริงกันหมดแล้ว ข้าเป็นเพียงขุนนางเทพตัวเล็กๆ รับไม่ไหวๆ” ป๋อเหยียนรีบโบกมือปัด
“ผู้อาวุโสป๋อเหยียน ท่านยังคงเป็นผู้อาวุโสของพวกข้า ท่านรับการเคารพจากข้าเถอะ” หลิวหลีพูด
“นังหนู เจ้าช่วยบอกคนโง่ผู้นั้นทีว่าปราณผสมเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นสิ่งที่มหาเทพสูงสุดคนก่อนทิ้งไว้หรือไม่” ป๋อเหยียนภูมิใจ มากกว่านั้นคือความประทับใจ เขาตัดสินใจโจมตีเยี่ยโยวหวงเป็นครั้งสุดท้าย
“ปราณผสมเกิดมาจากตัวข้าเอง แต่เพราะข้าสืบทอดตำแหน่งเทพอัคคี ปราณผสมจึงกลายเป็นสีแดง ตอนนี้ข้าจะสืบทอดตำแหน่งมหาเทพสูงสุดได้แล้ว” หลิวหลีพูดตรงๆ วงจรหมุนเวียนที่สมบูรณ์ในร่างกายนางสร้างปราณผสมขึ้นมา จะให้พึ่งพาปัจจัยภายนอกจะได้อย่างไร
“เจ้าโกหก หลงหลิวหลี ขอแค่ฆ่าเจ้าได้ ปราณผสมของเจ้าก็จะกลายเป็นของข้า” เยี่ยโยวหวงบ้าคลั่งเล็กน้อยแล้วแปลงร่างเป็นมังกรทันที
“ท่านพี่เอ๋าเลี่ย เขาเป็นญาติท่านนี่” จื่อฉีเห็นจึงพูดขึ้น
“พูดบ้าอะไร ข้าจะมีญาติสมองไม่ปกติแบบนั้นได้ยังไง” เอ๋าเลี่ยไม่พอใจ ดูยังไงว่าคนๆนี้เป็นเกี่ยวข้องกับเขา อย่าโยนขี้ให้เขา
“ว่าแต่ ลักษณะแบบนี้ เคยเห็นที่ไหน” เอ๋าเลี่ยพูดกับตัวเอง เผ่ามังกรล้วนสกุลเอ๋าทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นระดับขั้นไหน สกุลเยี่ยดูเหมือนจะมีอยู่ชนิดหนึ่ง
“ข้านึกออกแล้ว เขาเป็นมังกรฝันร้าย ความเสื่อมโทรมของเผ่ามังกร ถูกไล่ออกจากเผ่ามังกร จึงใช้สกุลเยี่ยแทน” เอ๋าเลี่ยนึกถึงประวัติศาสตร์แห่งอาณาจักรกรงเล็บที่เขาลืมไปเสียสนิท
“พวกเราไปช่วยกันเถอะ” อวิ๋นชิงเอ่ย จวินหาวก็เตรียมตัวจะยื่นมือเข้ามายุ่งเช่นกัน
“ไม่ต้อง” เอ๋าเลี่ยส่ายหน้า หากเป็นอย่างอื่น พวกเขาอาจจะกังวลอยู่บ้าง แต่นี่เป็นมังกร พวกเขาจึงผ่อนคลายลง
“แต่ว่า หลิวหลีดูหมดแรงนิดหน่อย” อวิ๋นชิงงุนงง คนเหล่านี้ทนเห็นนางบาดเจ็บไม่ได้ไม่ใช่หรือ แต่อันตรายเช่นนั้นกลับไม่ไปช่วย ป๋อเหยียนเองก็งุนงงเช่นกัน
“มา ข้าจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของนังหนูให้ฟัง แล้วพวกเจ้าก็จะเข้าใจเอง” เอ๋าเลี่ยเริ่มให้ความรู้กับสหายที่มาใหม่นี้
“ในตอนนั้น ข้ากับนังหนูเจอกันครั้งแรกคือตอนที่ข้าอยากบำเพ็ญเพียรใหม่ ผลคือเกือบถูกหลิวหลีเหยียบตาย นังหนูคนนี้เป็นดาวเคราะห์ของมังกรและงู ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนก็แตะใส่จุดตายของพวกเขาโดยไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว” เอ๋าเลี่ยเพิ่งพูดจบ หลิวหลีก็ดึงเกล็ดที่คอเยี่ยโยวหวงออกมา ทุกคนที่ดูอยู่ตาค้างปากค้างกันหมด
“โหดจริงๆด้วย” อวิ๋นชิงเหลือเชื่อ
“เฮ้อ ที่แท้แล้วนางก็เป็นตัวซวยของมังกรและงู แถมยังเล่นมังกรจนตายด้วยวิธีการประหลาดๆ” เอ๋าเลี่ยถอนหายใจ ส่วนหนานกงเวิ่นเทียนกำลังคิดว่าจะเอาดวงจิตเทพเหมันต์ให้เด็กสาวในแดนลี้ลับของเขา
“เจ้าแพ้แล้ว” หลิวหลียื่นเกล็ดคอในมือนางออกมา เจ้ามังกรฝันร้ายต่างจากเผ่ามังกรทั่วไป เกล็ดคอเป็นชีวิตของพวกเขา
เยี่ยโยวหวงกลับร่างเป็นคนและกระอักเลือดออกมา
“ข้าไม่พอใจ”
“ของเจ้าก็คือของๆเจ้า ถ้าไม่ใช่ของเจ้า เจ้าจะใช้วิธีไหนก็ไม่มีทางได้มา อีกอย่างคนเราต้องรักษาคุณธรรม แต่ถ้าเจ้าหลงลืมไป จะเกิดเป็นโศกนาฏกรรมเช่นนี้” หลิวหลีพูดจบก็สลายเกล็ดคอในมือ กลายเป็นปราณผสมเล็กน้อยที่นางขาดอยู่ แล้วนางก็ดูเหมือนภาพฝัน แล้วของสิ่งนี้ก็ลอยเข้ามาในร่างนาง
“ดวงจิตผสม” ป๋อเหยียนมองออก นังหนูกลายเป็นมหาเทพสูงสุดอย่างเป็นทางการแล้ว
หลิวหลีเป็นอย่างที่พูดแล้ว ด้านนอกสายลมพัดกระหน่ำ ตำหนักมหาเทพสูงสุดส่องแสงแล้ว
ทุกคนรับรู้แจ่มแจ้ง ความวุ่นวายสิ้นสุดลง มหาเทพสูงสุดปรากฏตัวแล้ว เทพแห่งดวงดาวตื่นเต้นจนมือสั่นระริก ดีเหลือเกิน ผู้มีพระคุณของเขาทำได้แล้ว ทำได้แล้ว หมิงเยี่ยตื่นเต้นตั้งแต่ตอนที่ตำหนักเทพมารสว่างแล้ว หลานชายของเขา คนที่เคยมีปัญหากับคนรอบตัวนางไม่มากก็น้อยต่างก็รู้สึกไม่ดีคงถูกล้างแค้นกระมัง พวกเขามีตาหามีแววไม่ ที่แท้ก็ไม่ใช่ของปลอม
เทพที่แท้จริงทั้งหมดทำความเคารพสูงสุดอย่างอดไม่ได้ นี่คือมหาเทพสูงสุด แม้แต่คนที่มาทีหลังอย่างเทพพสุธาและเทพวายุก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายบนตัวของหลิวหลีและคุกเข่าลงเช่นกัน สิ้นสุดลงแล้ว ปรายตามองสหายของเทพที่แท้จริงทั้งสามคน ถ้ารู้เช่นนี้ตั้งนานแล้ว จะทำทำไมแต่แรก ตำแหน่งเทพก็ไม่มีแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะมีจุดจบอย่างไร
เมื่อหลิวหลีลืมตาขึ้น ทุกคนล้วนไม่มีใครกล้ามองตาหลิวหลี มหาเทพสูงสุดกลับคืนมา ความวุ่นวายถือกำเนิด
ฉายาของหลิวหลีคือ ‘เทพอัคคีผสม’ ถูกขนานนามเป็นเทพสูงสุด ควบคุมเพลิงอัคคีทั้งหมดในใต้หล้า
“เยี่ยโยวหวง บทลงโทษสำหรับความผิดของเจ้าเป็นอย่างไร คงไม่ได้มีความหมายใดๆ จะขอลงโทษให้เจ้ากลับชาติมาเกิดหนึ่งร้อยชาติ ขอแค่เจ้าหาคุณงามความดีทั้งมวลกลับมาได้ใหม่ ก็จะสามารถบำเพ็ญเพียรใหม่อย่างแท้จริง” หลิวหลีพูดแล้วไม่ให้โอกาสเยี่ยโยวหวงได้ตอบโต้ จากนั้นก็ส่งเขาลงไป
………………………………………..