แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 410 คำร้องขอข้ามชั้น
ตอนที่ 410 คำร้องขอข้ามชั้น
หลินม่ายและเหยียนเหวินเล่อเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกัน เห็นว่าด้านหน้ากระดานข่าวสารของโรงเรียนเต็มไปด้วยนักเรียนและผู้ปกครอง
ทุกคนสงสัยจนต้องเดินเข้าไปดู ปรากฏว่ากระดานข่าวสารติดชื่อรายชื่อและห้องของนักเรียนใหม่ชั้นมัธยมต้นปีที่หนึ่งและมัธยมปลายปีที่หนึ่งไว้
นักเรียนและผู้ปกครองเหล่านั้นยืนหารายชื่อของเด็กที่บ้านตัวเองในแต่ละห้องอยู่ เมื่อดูว่าอยู่ห้องไหนแล้วจึงไปลงทะเบียนเรียน
เหมยจวินเพิ่งดูรายชื่อนักเรียนมัธยมปลายใหม่เสร็จก็หันมาเห็นหลินม่ายและคนอื่นๆ
เขาพูดกับหลินม่ายด้วยท่าทางชอบใจ “ฉันกับเธอได้อยู่ห้องเดียวกันล่ะ ต่อไปเราก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกันแล้ว”
หลินม่ายพยักหน้า ยิ้มแล้วเอ่ยถาม “หางานในตลาดสดของฉันได้ไหม?”
เหมยจวินยิ้มร่า “ได้แล้ว งานไม่หนักมาก”
“งั้นก็ดี ค่าเทอมของเทอมนี้มีพอหรือเปล่า?”
เหมยจวินพยักหน้า “พอแล้ว ยังเหลืออีกเยอะ ซื้อพวกปากกาและสมุดการบ้านอะไรได้อีกเยอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเรียนเลย”
ทั้งสองคนเดินไปคุยไป
เมื่อมาถึงสนาม หลินม่ายก็แยกจากเขา เอาจักรยานไปจอดในโรงจอดรถและไปหารองผู้อำนวยการเพื่อยื่นคำร้องขอข้ามชั้น
เมื่อไปถึงหน้าห้องทำงานของรองผู้อำนวยการ เธอก็เคาะประตูห้องทำงานที่เปิดอ้าไว้
รองผู้อำนวยการที่กำลังนั่งจิบชาอ่านหนังสือพิมพ์เงยหน้าขึ้นมาและพูดว่า “เข้ามาได้”
หลินม่ายตอบรับและเดินเข้าไป
รองผู้อำนวยการถามอย่างใจดี “มาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
หลินม่ายพูดกับเขาไปตามตรง “ฉันอยากข้ามชั้นจากม.สี่ไปม.ห้าค่ะ”
รองผู้อำนวยการชะงักไปชั่วขณะ
จู่ๆ ตอนเช้า ก็มีนักเรียนมาขอข้ามชั้น!
รองผู้อำนวยการหยิบรายชื่อนักเรียนมัธยมปลายที่เข้าใหม่ออกมาจากลิ้นชักแล้วถามว่า “คุณชื่ออะไร?”
หลินม่ายบอกชื่อตัวเอง “หลินม่ายค่ะ”
รองผู้อำนวยการรู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหู แต่คิดไม่ออกว่าไปได้ยินจากที่ไหนมา
เขาก้มลงหาชื่อเธอในใบรายชื่อเพื่อจะดูว่าเธอได้คะแนนเท่าไรตอนที่สอบเข้ามา
หากคะแนนสอบสูงก็สามารถพิจารณาคำร้องของเธอได้
แต่ถ้าคะแนนอยู่ที่ระดับกลางจนถึงต่ำก็ต้องบอกให้เธอเข้าเรียนชั้นม.สี่ไปตามตรง อย่าคิดไกลเกินไป
ชื่อในใบรายชื่อจะเรียงตามคะแนนสูงต่ำ
ทันทีที่รองผู้อำนวยการก้มดู ก็เห็นว่าชื่อของหลินม่ายอยู่ที่อันดับหนึ่ง คะแนนรวมสูงที่สุด และอันดับสองยังตามหลังอยู่หลายคะแนน
ตอนนั้นเองที่เขาจำได้ว่าหลินม่ายเป็นผู้ที่ทำคะแนนได้สูงที่สุดในการสอบเข้ามัธยมปลายของโรงเรียนปีนี้ และเป็นผู้ทำคะแนนได้สูงที่สุดของเมืองนี้ด้วย
คะแนนดีขนาดนี้ก็สามารถพิจารณาเรื่องข้ามชั้นของเธอได้
รองผู้อำนวยการเงยหน้าขึ้นมาพูดกับหลินม่าย “ถ้าคุณอยากข้ามชั้นก็ทำได้ไม่มีปัญหา แต่ต้องผ่านการสอบให้ได้ก่อน”
การจะข้ามชั้นต้องสอบก่อนถึงจะทำได้ ไม่อย่างนั้นสองสามวันมานี้หลินม่ายคงไม่ทำข้อสอบเป็นบ้าเป็นหลัง
เธอพยักหน้ารับอย่างตั้งใจและตอบว่า “ได้ค่ะ”
รองผู้อำนวยการรีบเรียกครูหวังที่เป็นหัวหน้าสายชั้นมัธยมปลายปีที่สองมา ให้เขาและครูคนอื่นๆ ทำชุดข้อสอบให้หลินม่าย ถ้าคะแนนรวมทุกวิชาได้แปดสิบคะแนนขึ้นไปก็สามารถข้ามชั้นได้
คุณครูหวังดันแว่นตาบนจมูกมองหลินม่าย ในใจคัดค้านการข้ามชั้นของหลินม่าย
แม้ว่าคะแนนสอบเข้าของหลินม่ายจะไม่เลว แต่หลักสูตรของชั้นมัธยมปลายก้าวกระโดดจากชั้นมัธยมต้นไปมาก
ถ้าจู่ๆ ข้ามชั้นไป พื้นฐานจะไม่มั่นคง และจะกระทบกับการเรียนในภายหลัง
แต่รองผู้อำนวยการรับปากอนุญาตนักเรียนไปแล้ว ตราบใดที่เธอสอบผ่าน เธอก็สามารถเรียนข้ามชั้นได้
ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา การคัดค้านจะเป็นการหักหน้ารองผู้อำนวยการ
คุณครูหวังออกจากห้องทำงานของรองผู้อำนวยการไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ และไปทำตามคำสั่งของเขา
แม้จะไม่อาจห้ามรองผู้อำนวยการได้อย่างชัดเจน แต่ก็เข้าไปยุ่งในการทำข้อสอบได้
ทำข้อสอบให้ยากหน่อย ให้นักเรียนที่อยากข้ามสายชั้นคนนั้นสอบไม่ผ่าน เท่านี้ก็ข้ามชั้นเรียนไม่ได้แล้ว
ภายใต้คำแนะนำของคุณครูหวัง ครูท่านอื่นก็ได้จัดการทำข้อสอบของตนเองให้ยากมาก
ครูหวังนำข้อสอบทั้งหมดห้าวิชา ยกเว้นวิชาการเมืองมาที่ห้องทำงานของรองผู้อำนวยการ ส่งข้อสอบให้เขาแล้วถอยออกไป
รองผู้อำนวยการลุกขึ้นและผายมือให้หลินม่าย “นั่งทำข้อสอบที่โต๊ะของฉันเลย”
หลินม่ายส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันทำข้อสอบบนโต๊ะน้ำชาได้ค่ะ”
รองผู้อำนวยพูดอย่างจริงจัง “โต๊ะน้ำชาเตี้ยขนาดนี้ วางไว้บนนั้นแล้วทำข้อสอบมันจะลำบากเกินไป! จะไม่เชื่อฟังคำพูดของฉันเหรอ?”
หลินม่ายจึงทำได้เพียงนั่งที่โต๊ะทำงานของรองผู้อำนวยการ
รองผู้อำนวยการเอ่ยถาม “จะทำข้อสอบวิชาไหนก่อน?”
หลินม่ายลองคิด “ทำภาษาอังกฤษก่อนค่ะ”
รองผู้อำนวยการเอาข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษส่งให้เธอและเธอก็เริ่มลงมือเขียนทันที
รองผู้อำนวยการยังอ่านหนังสือพิมพ์ไม่ทันจบก็ได้ยินหลินม่ายบอกว่า “รองครูใหญ่คะ ฉันทำภาษาอังกฤษเสร็จแล้วค่ะ”
รองผู้อำนวยการตกใจมาก ถามอย่างไม่เชื่อ “ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้วเหรอ?”
หลินม่ายพยักหน้าอย่างแข็งขัน
รองอาจารย์ใหญ่ลุกขึ้นไปหยิบข้อสอบภาษาอังกฤษของเธอมาดู เขียนเต็มทั้งหมด แม้จะไม่รู้ว่าถูกหรือผิดก็ตาม
เขาส่งข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ให้หลินม่าย “เธอทำข้อสอบวิชาคณิตไปก่อน ฉันจะเอาข้อสอบภาษาอังกฤษไปส่งให้คุณครูตรวจ”
วันนี้เป็นวันลงทะเบียนเรียน จึงไม่มีการเรียนการสอน
ครูภาษาอังกฤษของชั้นมัธยมปลายปีที่สองอยู่ในห้องพักครู พูดคุยเล่นกับคุณครูท่านอื่น
รองผู้อำนวยการเดินเข้าไป เอาข้อสอบภาษาอังกฤษของหลินม่ายส่งให้หล่อนรีบตรวจ
คุณครูภาษาอังกฤษจำได้ทันทีว่านี่เป็นข้อสอบที่หล่อนเพิ่งออกไป
หล่อนอ้าปากค้างและถามว่า “นักเรียนที่อยากข้ามชั้นคนนั้นทำข้อสอบเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
รองผู้อำนวยการพยักหน้า “คุณรีบตรวจข้อสอบเถอะ ดูว่าหล่อนทำได้เท่าไหร่”
คุณครูภาษาอังกฤษหยิบปากกาแดงขึ้นมาและรีบลงมือตรวจข้อสอบของหลินม่าย
หลังจากใช้เวลาตรวจไปไม่ถึงสิบนาทีก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดกับรองผู้อำนวยการว่า “คะแนนเต็ม!”
รองผู้อำนวยการตื่นเต้นเล็กน้อย “ไม่คิดเลยว่านักเรียนคนนี้จะเก่งขนาดนี้ ทั้งทำเร็วและถูกต้องด้วย!”
เขากลับไปที่ห้องทำงาน นั่งทำงานบนโซฟาไปด้วยและมองหลินม่ายที่ทำข้อสอบไปด้วย
เด็กสาวตัวน้อยกำลังนั่งทำข้อสอบอย่างตั้งใจอยู่ที่โต๊ะ
ใช้เวลาทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ไปประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็ส่งข้อสอบแล้ว
ครูหวังเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ แต่ตอนนี้เขากำลังเก็บค่าเทอมที่ห้องเรียน จึงไม่มีเวลามาตรวจข้อสอบ
รองผู้อำนวยการให้ครูคณิตศาสตร์อีกคนในระดับชั้นช่วยตรวจให้อีกที
แม้ว่าจะไม่ได้คะแนนเต็มเหมือนวิชาภาษาอังกฤษ แต่คะแนนก็ไม่แย่ ได้ถึงเก้าสิบคะแนน
ในช่วงเช้า หลินม่ายทำข้อสอบห้าวิชาเสร็จทั้งหมด คะแนนที่น้อยที่สุดคือแปดสิบหกคะแนน คะแนนเฉลี่ยนับว่าค่อนข้างดี
หลังจากครูหวังลงทะเบียนให้นักเรียนเสร็จแล้วก็แจกจ่ายหนังสือเรียนสำหรับปีการศึกษาใหม่ ให้นักเรียนทำความสะอาดห้องและตรงไปที่ห้องทำงานของรองผู้อำนวยการ
อยากไปปลอบใจหลินม่าย ให้เธอค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ไม่หันหลังกลับ
เขาไม่คิดเลยว่าหลินม่ายจะทำข้อสอบผ่าน เพราะข้อสอบยากขนาดนี้
ตอนที่เขาไปถึงห้องรองผู้อำนวยการ เห็นหลินม่ายกำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่ จึงคิดว่าเธอร้องไห้
ครูหวังพูดว่า “การล้มเหลวเป็นแม่แบบของความสำเร็จ ไม่มีอะไรต้องร้องไห้ เราเริ่มเรียนชั้นม.สี่ไปทีละก้าวเถอะ อย่าฝันถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริงเลย…”
เขาสั่งสอนหลินม่ายไปหนึ่งยก
หลินม่ายและรองผู้อำนวยการมองไปที่เขาอย่างพูดไม่ออก สายตาเต็มไปด้วยความซับซ้อน
รองผู้อำนวยการอดทนรอให้ครูหวังพูดไปเรื่อยจนจบแล้วจึงเอาข้อสอบของหลินม่ายให้เขาดูเงียบๆ
ครูหวังยังไม่เห็นคะแนนสอบของหลินม่าย จึงเริ่มพูดพล่ามอีกครั้ง “สอบได้ไม่ดีก็อย่าท้อแท้ เราก็ตั้งใจเรียนกันต่อไป…”
พูดไปได้ครึ่งหนึ่งก็พลันชะงัก ดวงตากลมโตเบิกกว้างเหมือนลูกวอลนัต พูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง
รองผู้อำนวยการมองท่าทางตกตะลึงของเขาด้วยความสนใจ ก่อนยื่นมีดให้เขา “นักเรียนหลินม่ายสอบข้ามชั้นผ่านแล้ว คุณอยากให้หล่อนอยู่ที่ห้องของคุณไหม?”
“อยาก! แน่นอนกว่าอยาก!” ครูหวังตอบอย่างกระตือรือร้น นักเรียนทำคะแนนได้ดีขนาดนี้ ไม่อยากก็โง่แล้ว
รองผู้อำนวยการส่งยิ้มให้หลินม่าย “ต่อไปคุณอยู่ชั้นม.ห้าห้องหนึ่งนะ ครูหวังเป็นครูประจำชั้น”
หลินม่ายยืนขึ้นและพูดกับครูหวังด้วยความเคารพ
คุณครูหวังสงบสติอารมณ์ พาหลินม่ายไปที่ห้องทำงานของตัวเอง จัดการลงทะเบียนให้เธอ มอบหนังสือเรียน บอกเธอว่าพรุ่งนี้เก้าโมงเช้าจะให้มาเข้าร่วมพิธีเปิดภาคเรียน
หลินม่ายลังเลและพูดว่า “วันพรุ่งนี้ฉันอาจจะมาเข้าร่วมพิธีเปิดภาคเรียนไม่ได้ค่ะ”
เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “ต่อไปนอกจากการสอบประจำเดือน วันทั่วไปคงไม่ได้มาเรียนค่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สอบข้ามชั้นได้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องทนอยู่ร่วมชั้นเดียวกันกับยัยว่านฮุ่ย
ไหหม่า(海馬)