แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 685 เยี่ยมชมเมืองต้องห้าม
บทที่ 685 เยี่ยมชมเมืองต้องห้าม
เมื่อคืนที่ผ่านมา แม่ไป๋ขอให้ไป๋เซี่ยไปที่บ้านเช่าเพื่อคืนบ้าน และโยนสิ่งของทั้งหมดของไป๋ซวงออกไป แสดงถึงการตัดสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกสาว
ไป๋เซี่ยไม่เพียงปฏิบัติตามเท่านั้น แต่เขายังทำทุกอย่างจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งก็คือการเอาชนะไป๋ซวง
ไป๋ซวงทำร้ายแม่ไป๋แบบนั้น คนเป็นลูกชายก็ควรจัดการให้หล่อนไม่ใช่เหรอ?
ไป๋ซวงถูกทุบตีและขับไล่จนต้องลากข้าวของของตัวเองออกไป หลับนอนบนถนนเหมือนสุนัขจรจัด
แม้ว่ากฎหมายและความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวงจะดีมาก ต่อให้จะนอนข้างถนนก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยส่วนบุคคล แต่ความหิวโหยก็เป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากสำหรับหล่อน
ไป๋ซวงหิวโหยมาตั้งแต่เที่ยงวานจนถึงเช้าวันนี้ และหล่อนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงรีบไปโรงพยาบาล
หล่อนต้องการเกลี้ยกล่อมแม่ไป๋ให้เปลี่ยนใจ เพื่อที่หล่อนจะได้เป็นปลิงดูดเลือดของแม่ไป๋ต่อไป
แม่ไป๋ไม่ยอมพูดอะไร เพียงดุด่าและขับไล่ไป๋ซวงออกไป
ขณะไป๋ลู่เข้าห้องน้ำ หล่อนได้ยินเสียงตะโกนของแม่ของไป๋ จึงรีบเข้าไปในวอร์ดและเห็นไป๋ซวง
ไม่ว่าแม่ไป๋จะดุด่าแค่ไหน ไป๋ซวงก็พิสูจน์ตัวเองด้วยคำพูดที่ไพเราะ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ไป๋ลู่ก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อขับไล่ไป๋ซวง
อย่างไรก็ตาม ไป๋ซวงผลักไป๋ลู่ลงกับพื้นแล้วเตะหล่อนสองครั้ง ก่อนจะวิ่งหนีไปบอกคนอื่นว่าตนโดนทำร้าย!
ไป๋ลู่ลุกขึ้นจากพื้น สัมผัสจุดที่เจ็บปวดจากการเตะของไป๋ซวง และบ่นกับแม่ไป๋ “นี่แหละค่ะลูกสาวบุญธรรมที่แม่ดูแลเอาใจใส่ทุกวิถีทาง เห็นไหมว่าหล่อนมีพิษสงแค่ไหน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ลู่ แม่ไป๋ก็ไม่อาจตอบโต้ได้ ทำได้เพียงก้มหน้าด้วยความอับอาย
แต่ทันทีที่ไป๋ซวงวิ่งออกจากวอร์ด หล่อนก็โดนไป๋เซี่ยที่กลับมาจากซื้อผลไม้พุ่งชนเข้าอย่างแรง
เมื่อเห็นท่าทางกระวนกระวายของหล่อน ไป๋เซี่ยก็ก้าวไปข้างหน้าและกระชากผมของหล่อนพลางถามอย่างดุร้าย “เธอทำเรื่องเลวร้ายอะไรอีก?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋ลู่ก็ออกมาจากวอร์ด ชี้ไปยังไป๋ซวงและพูดกับไป๋เซี่ย “หล่อนเตะฉัน!”
ใบหน้าของไป๋เซี่ยเย็นชาและสั่งให้ไป๋ลู่รับผลไม้ในมือของเขา
เขาลากไป๋ซวงไปยังมุมอับ ทุบตีทุกที่ยกเว้นใบหน้า ทั้งชกและเตะไป๋ซวง “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ารังแกน้องสาวฉัน ไม่อย่างงั้นฉันเอาเธอตายแน่!”
หลังจากสั่งสอนบทเรียนให้ไปซวงแล้ว ไป๋เซี่ยก็กลับไปยังวอร์ด
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ไป๋ซวงก็มาพร้อมกับตำรวจ หล่อนแจ้งตำรวจว่าไป๋เซี่ยเพิ่งทุบตีตน
แม่ไป๋โกรธมากจนรู้สึกเจ็บหน้าอกอีกครั้ง หล่อนบอกตำรวจด้วยความโกรธว่า ลูกชายของหล่อนทุบตีไป๋ซวงเพราะไป๋ซวงทุบตีไป๋ลู่ก่อน ดังนั้นไป๋เซี่ยจึงสูญเสียการควบคุมอารมณ์และทุบตีหล่อน
แม่ไป๋ยังบอกตำรวจถึงการกระทำอันชั่วร้ายของไป๋ซวงที่ผ่านมาด้วยความเศร้าโศกและความขุ่นเคือง
ตำรวจมองเด็กสาวผู้มีหน้าตาธรรมดาที่ดูเงียบหงิมใสซื่อคนนี้ด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดเลยว่าหล่อนจะร้ายกาจตั้งแต่อายุยังน้อย
ไป๋ซวงทุบตีไป๋ลู่ก่อนก็จริง แต่ไป๋เซี่ยทุบตีไป๋ซวงด้วยความรุนแรง ดังนั้นตำรวจจึงสั่งให้ไป๋เซี่ยจ่ายค่ารักษาพยาบาลไป๋ซวงเป็นเงินสามสิบหยวนเพื่อจบเรื่องราว
แม้ไป๋ซวงจะไม่พอใจกับการตัดสินของตำรวจ เพราะพวกเขาไม่ได้จับกุมไป๋เซี่ย แต่หล่อนก็ไม่กล้าทำให้เรื่องใหญ่โตเกินไป คุณปู่ไป๋มีตำแหน่งสูงก่อนจะเกษียณอายุ แน่นอนว่าเขาเป็นคนมีอำนาจ
พ่อไป๋ยังเป็นรองประธานสาขาธนาคารด้วย ดังนั้นเขาต้องมีอำนาจไม่น้อยแน่
หากพวกเขาลงโทษหล่อนอย่างจริงจัง หล่อนอาจไม่มีที่ยืนสำหรับตัวเองในเมืองหลวง
ไป๋ซวงจึงคว้าเงินสามสิบหยวนไว้และรีบจากไปทันที
……
พระราชวังต้องห้ามสวยงามมาก ครอบครัวของหลินม่ายเดินเล่นจนถึงหลังเที่ยงก่อนออกเดินทาง
หลังจากหาร้านอาหารสำหรับมื้อกลางวันได้แล้ว หลินม่ายก็ไปชอปปิ้งและซื้อตุ๊กตาตัวใหญ่ให้โต้วโต้ว
ฟางจั๋วหรานทำข้อตกลงกับโต้วโต้ว เขาแนะนำให้ซื้อของสองชิ้นที่ต้องการ เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
ไม่มีใครนึกถึงความคิดแอบแฝงของฟางจั๋วหราน ดังนั้นทุกคนจึงชอปปิ้งด้วยกันอย่างมีความสุข
หลังจากซื้อตุ๊กตาเสร็จก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว
ทุกคนต่างหมดแรง ยกเว้นฟางจั๋วหราน
หลินม่ายเองก็มีสมรรถภาพทางกายที่ดี อายุยังน้อย และไม่เหนื่อยง่าย
แต่เธอถูกฟางจั๋วหรานทรมานเป็นเวลาหลายชั่วโมงเมื่อคืนนี้ จึงหมดแรงจนรู้สึกเหนื่อยล้ามากในวันนี้
เมื่อทั้งครอบครัวกลับมาถึงบ้าน คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางรีบไปที่เตียงและเอนกาย
โต้วโต้วหลับในรถระหว่างทางกลับ
ฟางจั๋วหรานพาลูกสาวไปนอนที่ห้อง จากนั้นจึงคิดจะไปหาหลินม่ายแล้วนวดให้เธอเพื่อคลายความเมื่อยล้า
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายเปลี่ยนไปสวมชุดลายสก็อตสีแดงดำ สวมถุงน่องสีดำ และรีบออกจากห้องพร้อมกระเป๋าหลุยส์วิตตอง เขาก็รีบวิ่งไปคว้าแขนเธอทันที
ฟางจั๋วหรานถาม “คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?”
หลินม่ายพยักหน้า “มีปัญหาบางอย่างในสำนักงานปักกิ่งที่ฉันต้องจัดการ”
ฟางจั๋วหรานกล่าว “ผมจะพาคุณไปที่นั่นเอง”
สำนักงานในปักกิ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของหลินม่าย ขับรถเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
เมื่อพวกเขามาถึงสำนักงานปักกิ่ง หลินม่ายก็ลงจากรถ ส่วนฟางจั๋วหรานรออยู่ในรถอย่างเงียบงันเพื่อไม่ให้กระทบกับงานของเธอ
ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง หลินม่ายกลับมาที่รถด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ฟางจั๋วหรานชำเลืองมองที่เธอและถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
หลินม่ายตอบกลับ “มีร้านค้ามากมายขายเสื้อผ้าจิ่นซิ่วปลอมในตลาดรอบปักกิ่ง เสื้อผ้าปลอมและคุณภาพต่ำเหล่านั้นมีมีอิทธิพลอย่างมากต่อชื่อเสียงของร้านเสื้อผ้าจิ่นซิ่ว”
ฟางจั๋วหรานกล่าว “เรามากำราบการปลอมแปลงกันเถอะ ให้กรมอุตสาหกรรมและการค้าจับกุมใครก็ตามที่ปลอมแปลงเสื้อผ้าอันสวยงามของคุณ”
หลินม่ายส่ายหัว “แผนแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้”
ฟางจั๋วหรานถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไม?”
“เนื่องจากต้นทุนของการปลอมแปลงต่ำ หากจะปราบปรามการปลอมแปลง เราต้องจ้างอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ตรวจสอบและลงโทษพวกเขา แต่ผู้คนก็จะสร้างผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบและผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำในสถานที่อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่หยุดไม่ได้”
ฟางจั๋วหรานขมวดคิ้ว “แล้วควรทำอย่างไร?”
หลินม่ายกล่าว “ฉันได้อธิบายกับผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานปักกิ่งแล้วว่า ฉันวางแผนที่จะดึงดูดการลงทุนจากร้านค้าแฟรนไชส์ เพื่อให้สามารถควบคุมสินค้าลอกเลียนแบบและสินค้าคุณภาพต่ำได้ในระดับสูงสุด หลังจากที่สำนักงานได้ทำการการวางแผนการลงทุนแฟรนไชส์ก็สามารถทดลองแฟรนไชส์การลงทุนในเมืองหลวงได้ “
ทั้งสองขับรถกลับบ้าน เห็นพ่อไป๋และคู่รักวัยกลางคนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
พ่อไป๋ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เพียงแนะนำหลินม่ายและสามี “สองคนนี้เป็นพ่อและแม่ของลวี่กั๋วต้ง และพวกเขามาเพื่อชดใช้ความผิดให้ลูก”
หลินม่ายโบกมือให้ทั้งคู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ไม่จำเป็นต้องชดใช้ค่ะ พวกคุณไม่ได้ทำร้ายฉัน”
พ่อลวี่พูดด้วยความจริงใจ “เป็นความผิดของพ่อที่ไม่สั่งสอนลูก ดังนั้นเมื่อลูกทำผิดก็ถือเป็นความผิดของเราด้วย”
เขาหยิบซองสีแดงออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้หลินม่าย “มีเงินห้าร้อยหยวนในนั้น คุณใช้มันซื้ออาหารบำรุงร่างกายของคุณเถอะ”
หลินม่ายปฏิเสธที่จะรับเงินของพวกเขา
เธอรู้อยู่ในใจว่าทั้งคู่มาขอโทษเพราะพ่อไป๋เป็นเจ้านายโดยตรงของพ่อลวี่
ลูกชายของเขาทำร้ายลูกสาวของเจ้านาย ดังนั้นพวกเขาจึงมาเพื่อชดใช้ไม่ใช่หรือ?
นอกจากนี้อู่ผิงยังตบแม่ไป๋อย่างรุนแรง
แม้ว่าแม่ไป๋จะเป็นอดีตภรรยาของพ่อไป๋ แต่การทุบตีหล่อนก็ถือเป็นความผิดร้ายแรง
หากอู่ผิงทุบตีแม่ไป๋โดยไม่คิดขอโทษก็อาจทำให้พ่อไป๋ขุ่นเคือง
เพื่ออนาคตของพวกเขาเอง พ่อลวี่และภรรยาของเขาจึงมาที่นี่เพื่อขอโทษด้วยตัวเอง
หากพ่อไป๋ไม่ใช่เจ้านายโดยตรงของพ่อลวี่ ทั้งคู่จะไม่มีวันทำเช่นนี้แน่
อันธพาลสองสามคนที่มาทำร้ายหลินม่ายพร้อมลวี่กั๋วต้ง ไม่มีพ่อแม่ของอันธพาลคนใดมาขอโทษพวกเขาเช่นนี้เลย
เพราะพ่อแม่ของเด็กพวกนั้นไม่ได้อยู่ในภายใต้อำนาจตระกูลไป๋ ไม่ว่าพ่อไป๋จะมีอำนาจแค่ไหนก็ไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้
หลินม่ายไม่สนใจคำขอโทษของพ่อลวี่เลย เธอชอบที่จะเห็นพ่อลวี่ถูกพ่อไป๋เหยียบย่ำ
ลวี่กั๋วต้งไม่สามารถเอาชนะเธอได้ และพ่อแม่ของเขาต้องแบกรับความลำบากทุกอย่างเพราะเขายืนหยัดเพื่อไป๋ซวง
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ยอมรับเงินของพวกเขา ทั้งคู่จึงต้องจากไปอย่างขุ่นเคือง
พ่อไป๋พูดกับหลินม่าย “พ่อรู้อยู่แล้วว่าลูกจะไม่ยอมรับเงินของพวกเขา และพ่อก็ไม่สามารถบังคับลูกให้อภัยได้”
หลินม่ายถามด้วยรอยยิ้ม “แต่ทำไมพ่อยังพาพวกเขามาหาลูก?”
พ่อไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เพราะพวกเขาควรต้องเคารพลูก!”
……
เมื่อนึกถึงทัศนคติของหลินม่าย พ่อลวี่และภรรยาของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง แน่นอนว่าพ่อไป๋จะไม่ปล่อยพ่อลวี่ไป
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเพราะไป๋ซวง และอู่ผิงก็ต้องการฉีกไป๋ซวงเป็นชิ้น
หล่อนสาปแช่งไป๋ซวงอย่างเดือดดาล ทันใดนั้นก็พลันเห็นไป๋ซวงลากกระเป๋าเดินทางของหล่อนไปข้างหน้าด้วยอาการกระสับกระส่าย
เมื่อได้พบกันอีกครั้ง อู่ผิงก็พุ่งเข้าหาไป๋ซวงและตะโกนสาปแช่งด้วยความโกรธ
เมื่อไป๋ซวงได้ยินเสียงอู่ผิง หล่อนก็พลันหันศีรษะไปมองด้วยด้วยความตกใจ และวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หล่อนลุกลี้ลุกลนมากจนเท้าซ้ายสะดุดเท้าขวาและล้มลงกระแทกพื้น
เมื่ออู่ผิงตามทันหล่อน หล่อนก็ถูกทุบตีอย่างรุนแรง
พ่อลวี่ซ่อนตัวอยู่ไกลๆ เพราะไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
เขาเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของธนาคาร แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการระดับกลาง แต่ก็ต้องไม่มีเรื่องอื้อฉาว มิฉะนั้นจะถูกลดระดับหรือถูกพักงาน
แต่หากภรรยาของเขาทุบตีผู้อื่น และเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ
พ่อลวี่ซ่อนตัวอยู่ไกลๆ ยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องของไป๋ซวงที่ถูกภรรยาของเขาทุบตี
เขากัดฟันกระซิบ “สู้ ๆ นะที่รัก! ฆ่านังตัวเล็กนั่นซะ!”
หากไม่ใช่เพราะหญิงสารเลวคนนี้ปั่นหัวลูกชายพวกเขา ทุกอย่างก็คงไม่เป็นเช่นนี้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นังไป๋ซวงลำบากแล้ว โดนผลัดกันทุบเป็นกระท้อนไปแล้วมั้ง แต่นี่แค่เริ่มต้นนะบอกเลย หล่อนต้องเจอดีมากกว่านี้
ไหหม่า(海馬)