แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 755 การเรียกร้องจากลูกค้า
ตอนที่ 755 การเรียกร้องจากลูกค้า
ในเช้าวันที่สาม สิ่งแรกที่หลินม่ายทำหลังจากตื่นนอนคือการเปิดม่านเพื่อดูสภาพอากาศภายนอก
หิมะสีขาวโพลนปรากฏขึ้นในสายตา ความหนาของหิมะบนพื้นสูงมาถึงน่องของผู้ใหญ่แล้ว
ที่สำคัญคือยังมีหิมะตกหนักบนท้องฟ้า และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
พิจารณาดูแล้วมันก็มีโอกาสมากที่หิมะจะตกหนักจนทำให้เกิดภัยพิบัติ
หากเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านทั่วไปคงทำได้เพียงอยู่แต่ในบ้าน
โชคดีที่ช่วงวันปีใหม่ ทุกครัวเรือนต่างก็ตุนสินค้าปีใหม่ไว้ ทำให้การอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องยากลำบาก
ถ้าเป็นปกติ อาหารและน้ำมันของครอบครัวคงหมดลงภายในสองวัน
หลินม่ายอาบน้ำและมาที่ห้องนั่งเล่น
โต้วโต้วและฉีฉีเด็กน้อยสองคนตื่นตั้งแต่เช้า พวกเขาออกไปปั้นตุ๊กตาหิมะด้วยกันที่ลานหน้าบ้าน
ภายในห้องนั่งเล่น เถาจืออวิ๋นบอกคุณย่าฟางว่าหล่อนและฟางจั๋วเยวี่ยต้องการกลับไปยังเมืองเจียงเฉิงหลังอาหารเช้า
เกรงว่าถ้าไม่รีบเดินทางกลับ หิมะจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสนามบินและรถไฟถูกระงับ พวกเขาอาจไม่สามารถเดินทางกลับไปได้
คุณย่าฟางมองดูหิมะที่ตกหนักนอกหน้าต่าง ก่อนพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
ไม่มีใครรู้ว่าหิมะจะตกอีกกี่วัน หากเถาจืออวิ๋นและฟางจั๋วเยวี่ยติดอยู่ในเมืองหลวงเป็นอาทิตย์ งานของพวกเขาอาจจะล่าช้าออกไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงงานผลิตเครื่องโทรทัศน์ของฟางจั๋วเยวี่ย หลินม่ายลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก พวกเขาจึงไม่สามารถผ่อนคลายจนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง
หลังอาหารเช้า หลินม่ายออกไปส่งฟางจั๋วเยวี่ยและเถาจืออวิ๋นที่สถานีรถไฟ
เธอได้โทรหาทางสนามบินแล้ว แต่เครื่องบินระงับการบินชั่วคราว
เถาจืออวิ๋นและคนอื่นจึงต้องกลับโดยรถไฟเท่านั้น
โต้วโต้วและฉีฉียืนอยู่ที่ประตูลานบ้าน ขณะจับมือกันแน่นไม่ยอมแยกจากกัน
กระทั่งหลินม่ายบอกว่าจะกลับไปเมืองเจียงเฉิงในช่วงวันหยุดฤดูร้อน เด็กน้อยทั้งสองจึงยอมปล่อยมือ
เมื่อเห็นว่าหิมะหนาแค่ไหน ฟางจั๋วเยวี่ยจึงไม่ต้องการให้พี่ชายและพี่สะใภ้ออกมาส่ง
แต่หลินม่ายและฟางจั๋วหรานยืนกรานคำเดิม ไม่เพียงเพราะเถาจืออวิ๋นและน้องชายเป็นแขกผู้มีเกียรติ
แต่เป็นเพราะคุณปู่ฟาง คุณย่าฟาง หลินม่าย และฟางจั๋วหรานได้เตรียมของขวัญมากมายสำหรับพวกเขาไว้แล้ว
การจราจรเกือบเป็นอัมพาตเพราะหิมะตกหนัก
บนถนนแทบไม่เจอรถแท็กซี่วิ่งผ่าน จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเถาจืออวิ๋นและฟางจั๋วเยวี่ยที่จะขนของขวัญมากมายกลับตามลำพัง
หิมะบนถนนส่วนใหญ่ถูกเจ้าหน้าที่สุขาภิบาลกวาดออก ทว่ารถยนต์ก็ยังขยับแทบไม่ได้
ฟางจั๋วหราน หลินม่าย ฟางจั๋วเยวี่ย และเถาจืออวิ๋นขนของขวัญขึ้นรถ ก่อนพาฉีฉีไปยังสถานีรถไฟด้วยกัน
ในวันที่สามหลังจากปีใหม่ มีผู้โดยสารไม่มากนักที่สถานีรถไฟ แต่รถไฟทุกขบวนที่เข้าและออกจากเมืองหลวงล้วนล่าช้าภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกัน
เหตุผลหลักคือหิมะหนาที่ปกคลุมเส้นทางทั้งในและนอกเมืองหลวง จำเป็นต้องกวาดเส้นทางก่อน รถไฟจึงจะเคลื่อนตัวผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเห็นฟางจั๋วเยวี่ย เถาจืออวิ๋น และฉีฉีขึ้นรถไฟเรียบร้อย หลินม่ายและสามีจึงขับรถออกไป
เนื่องจากเพิ่งเป็นวันที่สาม อีกทั้งหิมะยังตกหนัก จึงคาดเดาว่าไม่มีแขกแวะเวียนมาที่บ้าน พวกเขาจึงไม่รีบกลับ
หลินม่ายขอให้ฟางจั๋วหรานขับรถไปยังตลาดฮุ่ยหมินในเขตเจาหยาง เธอต้องการดูว่าตลาดฮุ่ยหมินยังคงขายปลาและเนื้อสัตว์แปรรูปที่เน่าเสียในราคาถูกอยู่อีกหรือไม่
เมื่อมาถึงตลาดฮุ่ยหมิน หลินม่ายเห็นว่าด้านในค่อนข้างเสียงดัง มีคนอย่างน้อยนับร้อยคนกำลังโต้เถียงบางสิ่งบางอย่าง
หลินม่ายโน้มตัวไปข้างหน้าและฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ลูกค้าจำนวนมากได้ซื้อปลารสเผ็ดและหมูตุ๋นจากตลาดสดฮุ่ยหมินไปกิน แล้วในคืนนั้นคนแก่และเด็กบางคนก็เกิดอาการท้องร่วงจนต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ลูกค้าเหล่านี้จึงมาประท้วงขอความรับผิดชอบที่ตลาดฮุ่ยหมิน
อย่างไรก็ตามผู้จัดการเฉียนของตลาดฮุ่ยหมินมีทัศนคติที่แย่มาก
บอกว่าเมื่อวานเขาได้แจ้งไปแล้วว่าปลาและเนื้อที่ขายเน่าเสีย ทว่าลูกค้าเหล่านั้นเลือกที่จะซื้อไปเอง
คนหนึ่งยอมสู้ อีกฝ่ายยอมทน ไม่ต้องพูดถึงการกินแล้วเข้าโรงพยาบาล ต่อให้กินแล้วตาย พวกเขาก็ทำตัวเอง
ปล่อยให้ลูกค้าเหล่านั้นด่าทอตามที่ต้องการ เพราะอย่างไรพวกเขาก็มีสิทธิ์
ยุคนี้ไม่มีแม้แต่กฎหมายความปลอดภัยของอาหาร แล้วลูกค้าจะไปฟ้องได้ที่ไหนได้?
ลูกค้าเหล่านั้นโกรธมาก
ถึงกับมีคนตะโกนว่า “ถ้าคุณไม่จ่ายค่าชดเชย เราจะทำลายตลาดของคุณ!”
ผู้คนต่างเฮลั่นเห็นด้วย
ผู้จัดการเฉียนตื่นตระหนก บอกทุกคนให้ใจเย็นลงก่อน เขาจะไปขอคำแนะนำจากเจ้าของตลาดว่าควรต้องทำอย่างไร
ซูอวี้อิ๋งกำลังเล่นไพ่นกกระจอกกับแขก หล่อนหมดความอดทนทันทีหลังได้ยินเรื่องราวจากปลายสาย “ถ้าใครมันกล้ามาทำลายตลาดของฉัน คุณก็แค่เรียกตำรวจมาจับ จะเอาเรื่องเล็กน้อยแบบนี้มาบอกฉันทำไม!”
ผู้จัดการเฉียนกล่าวคำอย่างระมัดระวัง “กฎหมายถูกละเมิดโดยคนจำนวนมาก แล้วตำรวจจะจับใครครับ? อีกอย่างพวกที่ทำลายตลาดคงไม่อยู่รอให้ตำรวจมาจับตัวได้ และคงหนีไปไกลแล้ว”
ซูอวี้อิ๋งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรเรียกรถของครอบครัวพ่อหล่อนอีกครั้ง จากนั้นก็รีบไปตลาดฮุ่ยหมินในเขตเจาหยาง
เมื่อไปถึง หล่อนก็เห็นลูกค้ากำลังเดือดดาลและอยากจะทุบทำลายตลาดของหล่อนให้ย่อยยับ
สินค้าในตลาดที่รับมามีมูลค่านับหมื่น ถ้าคนเหล่านี้ทำลายตลาดจริง มันจะเป็นการสูญเสียไม่น้อย
เมื่อลูกค้าเหล่านั้นเห็นหล่อน พวกเขาก็ชี้นิ้วแล้วประกาศกร้าว ขู่ว่าถ้าหล่อนไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาล ในอนาคตก็ระวังตัวให้ดีเวลาเดินบนถนนคนเดียว
ซูอวี้อิ๋งไม่แน่ใจว่ามันเป็นแค่คำขู่หรือพวกเขาจะทำจริง
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว หล่อนจึงต้องยอมจำนนต่อลูกค้าเหล่านั้น
ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยของตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อไม่ให้ตลาดถูกทุบทำลายด้วย
หลังจากที่ได้รับเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล ลูกค้าเหล่านั้นจึงจากไป ผู้จัดการเฉียนถามเสียงสั่น “ประธานซู เราจะทำอย่างไรดีกับปลา เนื้อ และผักที่เน่าเสียเหล่านี้ครับ?”
ซูอวี้อิ๋งจึงโพล่งอย่างเดือดดาล “ทิ้งมันไปซะ!”
จากนั้นหล่อนก็กระทืบเท้าจากไป เพื่อเดินทางไปยังตลาดฮุ่ยหมินอีกแห่ง
เป็นไปไม่ได้ที่ตลาดฮุ่ยหมินจะมีลูกค้ามาเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลเพียงแห่งเดียว ตลาดอีกสาขาควรจะเผชิญกับสถานการณ์เดียวกันนี้ และหล่อนต้องไปจัดการมัน
หลินม่ายกลับเข้าไปในรถจี๊ปของฟางจั๋วหราน เฝ้าดูพนักงานของตลาดฮุ่ยหมินเทอาหารที่เน่าเสียทิ้ง
ไม่นานเธอจากไปพร้อมกับฟางจั๋วหราน เพื่อไปยังตลาดสดฝูตัวตัว
ราคาสินค้าของตลาดฝูตัวตัวเหมือนกับเมื่อวาน และการค้าขายยังคงร้างผู้คนเหมือนก่อนหน้า
หลินม่ายตระเวนไปรอบๆ และซื้อผักสองถึงสามอย่างแล้วจากไป
ทันทีที่ทั้งคู่กลับมาถึงบ้าน โต้วโต้ววิ่งด้วยขาอันสั้นมาหาและบอกว่าคุณลุงอยู่ที่นี่
หลินม่ายเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว ก่อนเห็นไป๋เซี่ยนั่งคุยกับปู่ฟางและย่าฟาง
หลินม่ายรู้สึกประหลาดใจมาก “หิมะกำลังตกหนัก ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ?”
ไป๋เซี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อวานเธอกับพี่เขยกลับไปบ้านพ่อ พ่อบอกว่าตามประเพณีของหูเป่ย เราต้องไปบ้านพี่เขยเพื่อตอบแทน ฉันจึงมาที่นี่”
คุณย่าฟางชี้ไปยังของขวัญมากมายด้านข้างโซฟา “หิมะตกหนามาก เราต้องขอบคุณพี่ชายของเธอนะที่นำของขวัญมากมายมาส่งถึงประตูบ้าน”
ไป๋เซี่ยยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร”
หลินม่ายยืนยันที่จะจัดงานเลี้ยงให้กับไป๋เซี่ยในตอนเที่ยงตามประเพณีของหูเป่ย
หลังจากกินและดื่มเพียงพอแล้ว ไป๋เซี่ยจึงขอตัวกลับบ้าน
ก่อนจากไป เขาบอกกล่าวคำพูดที่พ่อไป๋ฝากมา โดยบอกหลินม่ายว่าไม่ต้องไปเยี่ยมปู่ย่าเพื่อรับพรวันปีใหม่ ให้เธอรอจนกว่าหิมะจะโปรยปรายแล้วค่อยเดินทาง
หลังจากที่ไป๋เซี่ยกลับไปแล้ว หลินม่ายกลับมานั่งที่ห้องนั่งเล่นและฟังพยากรณ์อากาศจากวิทยุ โดยแจ้งว่าหิมะตกหนักในเมืองหลวงคาดว่าจะสิ้นสุดในอีกสามวันข้างหน้า
ปู่ฟางและย่าฟางถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หากหิมะตกหนักอย่างต่อเนื่อง ถนนจะต้องปิด และเมืองหลวงอาจกลายเป็นเกาะโดดเดี่ยวและใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
หลังอาหารเย็น หลินม่ายโทรหาทังอี้และถามเขาว่าการซื้อขายของตลาดในตอนบ่ายดีขึ้นหรือไม่
ตลาดฮุ่ยหมินทิ้งปลาและเนื้อสัตว์ที่เน่าเสียทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีสินค้าราคาถูกขาย ลูกค้าส่วนใหญ่ควรกลับไปซื้อที่ตลาดของเธอ
ทังอี้รายงานด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย โดยบอกว่าธุรกิจในช่วงบ่ายดีขึ้นมาก
ลูกค้าจำนวนมากมาซื้อสินค้าของเรา และพวกเขายังชมว่าตลาดสดฝูตัวตัวซื่อสัตย์กว่าตลาดฮุ่ยหมิน
ของเน่าเสียจะไม่ถูกนำมาขาย และของทุกชิ้นจะมีราคาติดไว้อย่างชัดเจน
ไม่หลอกลวงเหมือนตลาดฮุ่ยหมิน
หลินม่ายได้ยินก็โล่งใจ
แต่ซูอวี้อิ๋งแทบหัวใจวายตายด้วยความเดือดดาล ตลาดฮุ่ยหมินสาขาอื่นของหล่อนทั้งหมดต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากเช่นกัน
เงินจากการขายสินค้าที่เสียหายนั้นไม่เพียงพอสำหรับค่าชดเชย มันจึงกลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายแหละน้อ เธอไม่ควรเอาของเน่าของเสียมาขาย ตอนนี้จะกู้ชื่อเสียงกลับมาก็ยากแล้วล่ะซูอวี้อิ๋ง
ไหหม่า(海馬)