แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 773 ติดตามชายอื่น
ตอนที่ 773 ติดตามชายอื่น
ทันทีที่เลิกเรียนในช่วงบ่าย ผู้จัดการทั่วไปซุนก็จัดรถตู้ไปรับหลินม่ายเพื่อแถลงข่าว
หลินม่ายกลับไปยังหอพักและเปลี่ยนเป็นชุดผ้าขนสัตว์สีเบจกับเสื้อโค้ทผ้าแคชเมียร์สีเทาควันบุหรี่ ก่อนจะวิ่งออกจากหอพักด้วยท่าทางสง่างามและขึ้นรถออกไป
ในเวลานี้สวีชิงหยาได้มาขวางทางเธอไว้และขอร้องอย่างน่าสมเพช “สหายหลินม่าย ฉันขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?”
ช่วงนี้หลินม่ายยุ่งมาก เธอคิดเกี่ยวกับปัญหาแม้กระทั่งตอนเดิน และไม่ได้สนใจใครหรืออะไรในมหาวิทยาลัยมานานแล้ว นับประสาอะไรกับสวีชิงหยา
เธอพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้ฉันรีบมาก ไม่มีเวลาฟังเธอหรอก”
พูดจบเธอก็ขึ้นรถและเดินออกไป
ใบหน้าของสวีชิงหยาซีดเซียว ความสิ้นหวังฉายชัดในดวงตา
หล่อนมองรถตู้ของหลินม่ายแล่นออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ จนหายไปจากสายตาในที่สุด
……
แม้จะผ่านการปฏิรูปและเปิดประเทศมาหลายปีแล้ว แต่แทบจะไม่มีใครรู้ว่างานแถลงข่าวคืออะไร
ผู้จัดการทั่วไปซุนเองก็เช่นเดียวกัน
โชคดีที่หลินม่ายอธิบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาฟังว่าการแถลงข่าวคืออะไรและจะจัดสถานที่อย่างไร ไม่อย่างนั้นเขาต้องทำอะไรไม่ถูกอย่างแน่นอน
เมื่อหลินม่ายมาถึง เธอก็เห็นว่าผู้จัดการทั่วไปซุนได้จัดห้องประชุมให้เป็นสถานที่แถลงข่าวตามความต้องการของเธอ
ทุกอย่างได้รับการจัดเตรียมอย่างดี
ในห้องประชุมแห่งนั้นมีโพเดียมอยู่
โพเดียมนั้นถูกตกแต่งด้วยช่อดอกไม้และผ้าจีบหลายผืนอย่างสวยงาม
ในหอประชุมมีสื่อมวลชนและผู้ชมที่สงสัยเกี่ยวกับการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว รวมถึงผู้เข้ารอบสุดท้ายบางคน
เสมียนสาวสวยหลายคนกำลังรินกั๋วเจินที่ชงแล้วให้ทุกคนในหอประชุม
หลินม่ายเดินขึ้นไปบนโพเดียมอย่างสง่างาม หยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วกล่าว
“สวัสดีค่ะสื่อมวลชน ผู้เข้าประกวด และเพื่อน ๆ ผู้ชมทุกท่าน ห้องเสื้อจิ่นซิ่วจัดงานแถลงข่าวในวันนี้เพื่อตอบสนองต่อผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันที่ตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว แม้เราจะอยู่ในฐานะผู้จัดการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว แต่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในขั้นตอนของงาน แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งผู้ชมและผู้เข้าร่วมการแข่งขันบางคนเกิดความสงสัย เนื่องจากมีผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากตั้งคำถาม เราจะทำการสอบสวนเพื่อตรวจสอบและให้คำอธิบายแก่ทุกคนที่นี่อย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว จุดประสงค์ของการจัดงานนี้คือเพื่อความเป็นธรรมและยุติธรรม และเราจะไม่ยอมปิดบังข้อมูลใดเป็นอันขาด”
ทั้งหอประชุมพลันเกิดเสียงอึงอลราวกับฟ้าร้อง
นักข่าวถาม “คุณหลินคะ ผลการสอบสวนจะออกเมื่อไหร่?”
หลินม่ายยิ้มให้นักข่าวอย่างเป็นมิตร “ห้องเสื้อจิ่นซิ่วของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก และจะสามารถให้ผลลัพธ์ได้ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ค่ะ”
นักข่าวพอใจกับคำตอบของเธอมาก
หลินม่ายจัดงานแถลงข่าวนี้ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ ไม่เพียงเพื่อความยุติธรรมของการแข่งขันนางแบบเท่านั้น แต่ยังเพื่อกระแสโฆษณาอีกด้วย
การประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วสิ้นสุดลงแล้ว และเธอต้องรักษาความนิยมสำหรับห้องเสื้อจิ่นซิ่วไว้
เสื้อผ้าจิ่นซิ่วจะขายได้ดีขึ้นและผู้คนจะสวมใส่มากขึ้น
หลินม่ายกล่าวกับนักข่าวว่า ผลการสอบสวนจะออกภายในหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากคาดว่าเซิ่งหนิงเฉียวจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการสอบสวนเหมาเซียงเอ๋อร์ให้ชัดเจน
เซิ่งหนิงเฉียวทำตามความคาดหวังของเธอ ในบ่ายวันเสาร์หลังจากที่เธอเลิกเรียน เขาก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปหาเธอ
หลินม่ายขึ้นมอเตอร์ไซค์และจากไป
เมื่อฟางจั๋วหรานขับรถไปรับหลินม่ายที่มหาวิทยาลัย เขาก็บังเอิญเห็นเหตุการณ์นั้น
เดิมทีเขาต้องการมารับโดยไม่บอกเพื่อทำให้หลินม่ายประหลาดใจ แต่เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะทำให้ตัวเขาเองตกใจเล็กน้อย
ภรรยาที่รักของเขาซ้อนรถจักรยานยนต์ของชายอื่น
ฟางจั๋วหรานนั่งอยู่ในรถพลางขมวดคิ้วขณะที่มองหลินม่ายและชายคนนั้นขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปต่อหน้าต่อตาเขา
เซิ่งหนิงเฉียวพาหลินม่ายไปยังร้านอาหารเล็ก ๆ ในตรอกห่างไกล และสั่งอาหารสองอย่างกับซุปหนึ่งอย่าง
หลินม่ายพูดกับเขา “คุณกินคนเดียวเถอะ ฉันจะกลับไปกินที่บ้าน”
คุณปู่ฟางและคนอื่น ๆ ยังคงรอให้เธอกลับไปทานอาหารเย็นด้วยกัน หากเธอรับประธารอาหารจากร้านนี้จนอิ่มหนำก็จะไม่สามารถกินอาหารร่วมกับครอบครัวของเธอได้
เซิ่งหนิงเฉียวยิ้มอย่างเข้าใจและหยิบซองจดหมายออกมาจากกระเป๋าและส่งให้หลินม่ายก่อนที่อาหารจะถูกเสิร์ฟ
หลินม่ายหยิบซองจดหมายและหยิบรูปถ่ายจำนวนหนึ่งออกมาดู
ทั้งหมดคือภาพถ่ายบนเตียงของเหมาเซียงเอ๋อร์และผู้กำกับรายการ
หลินม่ายตกตะลึงจนอุทานในใจ เซิ่งหนิงเฉียวช่างน่าทึ่ง เขามีรูปถ่ายพวกนี้ทั้งหมดได้อย่างไร
หลังจากเห็นภาพเหล่านี้แล้ว หลินม่ายก็ไม่เข้าใจในบางสิ่งบางอย่าง
เหมาเซียงเอ๋อร์ยั่วยวนผู้กำกับ และผู้กำกับก็ทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้หล่อนได้รับรางวัลชนะเลิศ
หลินม่ายบ่นอยู่ในใจ ผู้หญิงคนนี้ชื่อเหมาเซียงเอ๋อร์ที่แปลว่ากลิ่นหอม กลับทำตัวไม่สมกับที่ชื่อว่าเหมาเซียงเอ๋อร์เลย
น่าเฟะแบบนี้ไม่สมควรเรียกว่าหอมหรอก!
ขณะหลินม่ายกำลังดูรูป เจ้าของร้านก็เข้ามาเสิร์ฟอาหาร เธอรีบเก็บรูปนั้นลงทันที
หลังจากที่เจ้าของน้านจากไป หลินม่ายก็ยังคงดูรูปถ่ายต่อไป
เธอพบว่ามีภาพถ่ายอนาจารของเหมาเซียงเอ๋อร์และชายอื่นด้วย
นับจำนวนผู้ชายแล้วได้ไม่ต่ำกว่าสิบห้าคน
ในหมู่พวกเขา มีผู้ชายสองสามคนที่เธอคุ้นเคย พวกเขาคือผู้จัดการเวที ช่างแต่งหน้า สไตลิสต์ และวิศวกรผู้ควบคุมแสงในการประกวด
หลินม่ายรู้สึกทึ่ง เธอถามอย่างอธิบายไม่ถูก “คุณถ่ายภาพอนาจารของเหมาเซียงเอ๋อร์และผู้ชายคนอื่น ๆ ได้ยังไง?”
แน่นอนว่าชายที่เหมาเซียงเอ๋อร์จะนอนด้วยนั้นต้องมีส่วนช่วยทำให้หล่อนคว้ารางวัลชนะเลิศได้
แต่หลังจากได้รับรางวัลชนะเลิศ หล่อนก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้ผู้ชายที่ไม่มีประโยชน์มานอนกับตน เพราะคนที่จะหลับนอนกับหล่อนได้ก็มีเพียงคณะกรรมการและผู้กำกับเท่านั้น
เพราะพวกเขาเท่านั้นที่จะช่วยหล่อนได้ในอนาคต และหล่อนจะไม่นอนกับพนักงานชั้นต่ำคนอื่น ๆ แน่นอน
ตอนนี้หล่อนเป็นผู้ชนะเลิศการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว ดังนั้นหล่อนจึงมีสถานะสูงส่ง
เป็นไปได้ไหมว่าเหมาเซียงเอ๋อร์มีความสุขเพราะหล่อนได้รับรางวัลชนะเลิศ จึงให้รางวัลใหญ่ เป็นโบนัสสำหรับผู้ชายทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อให้หล่อนคว้ารางวัลชนะเลิศ?
หากเป็นแบบนั้นจริง ผู้หญิงคนนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา
เซิ่งหนิงเฉียวพูดด้วยความดูถูกในขณะที่กิน
“ในบ่ายวันอังคารที่คุณจัดงานแถลงข่าว และในตอนเย็นที่คุณปรากฏตัวในข่าวท้องถิ่นของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง เหมาเซียงเอ๋อร์ก็กระวนกระวายราวกับมดบนหม้อร้อน หล่อนไล่นอนกับผู้ชายทุกที่ โดยหวังว่าพวกเขาจะยอมสะสางเรื่องนี้ให้หล่อน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเก็บภาพอนาจารของหล่อนกับผู้ชายพวกนี้ได้”
หลินม่ายดูถูกเหมาเซียงเอ๋อร์ถึงขีดสุด
ผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายและปฏิเสธที่จะยอมรับว่าหล่อนมาจากพื้นที่ชนบทแห่งหนึ่งทางตอนเหนือ
หล่อนช่างไร้ยางอายอย่างคาดไม่ถึง เพื่อที่จะได้รับรางวัลชนะเลิศ หล่อนสามารถนอนกับผู้ชายที่คอยช่วยเหลือหล่อนได้ทุกคนเหมือนโสเภณี
หลินม่ายมองซองที่มีรูปถ่ายอยู่ในมือและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เธอกล่าวกับเซิ่งหนิงเฉียว “คุณคัดลอกภาพถ่ายเหล่านี้อีกสองสามชุด และส่งสำเนาไปยังสำนักหนังสือพิมพ์ทุกแห่งในเมืองหลวงโดยไม่เปิดเผยตัวตน โปรดจำไว้ว่าต้องไม่ระบุชื่อ”
เซิ่งหนิงเฉียวเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน “ทำไมถึงไม่เปิดเผยตัวตนล่ะครับ? คุณบอกในงานแถลงข่าวว่า ห้องเสื้อจิ่นซิ่วจะตรวจสอบและให้คำตอบกับทุกคนไม่ใช่เหรอครับ? หากไม่เปิดเผยตัวตน ใครจะไปรู้ว่าเราเป็นคนสืบเสาะเรื่องราวมาได้?”
หลินม่ายยิ้ม “ไม่สมควรมีใครรู้ เพราะการแอบถ่ายรูปมันผิดกฎหมาย”
เซิ่งหนิงเฉียวรู้สึกตกตะลึง “การแอบถ่ายภาพเป็นเรื่องผิดกฎหมาย? นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องนี้ ผมไม่ค่อยรู้กฎหมาย อย่าโกหกผมนะครับ”
คนในยุคนี้รู้เรื่องกฎหมายน้อยมาก หลายคนไม่รู้ว่าการแอบถ่ายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เป็นเรื่องปกติที่เซิ่งหนิงเฉียวจะไม่รู้
“ใครจะโกหกคุณเรื่องนี้? มีแต่คนของคุณนั่นแหละที่โกหกคุณว่าไม่เป็นไร” หลินม่ายพูดอย่างจริงจัง
“ไปถามศาลสิจะได้รู้ว่าฉันพูดจริงหรือโกหก ฉันต้องการให้คุณไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเพื่อไม่ให้ตกหลุมพรางของผู้อื่น”
เซิ่งหนิงเฉียวพยักหน้าอย่างชัดเจน ทานอาหารไปสองสามคำ และทันใดนั้นก็กล่าวขึ้น “หลินเพ่ยได้รับการปล่อยตัวจากคุกเมื่อวันที่ 14 เมษายน”
หลินม่ายพยักหน้า “ฉันจะพาหล่อนออกไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่หล่อนออกจากคุก”
เซิ่งหนิงเฉียวพยักหน้า “ผมรู้ว่าควรทำอย่างไร คุณไม่ต้องห่วง”
เขายัดหมูสามชั้นตุ๋นเข้าไปในปากพลางพูดอย่างงุนงง “ผมได้ยินจากพี่เฟิงว่าหลินเพ่ยเป็นศัตรูของคุณ แล้วทำไมคุณไม่ฆ่าหล่อนให้จบสิ้นไปเลยล่ะครับ?”
หลินม่ายกล่าวอย่างเฉยเมย “เราอยู่ในสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย อย่าแม้แต่จะคิดฆ่าคน ไม่อย่างนั้นคุณก็จะตายเหมือนกัน”
ขณะที่รับประทานอาหาร เซิ่งหนิงเฉียวเงยหน้าขึ้นมองเธอ “คุณไม่เคยได้ยินเรื่องอุ้มหายเหรอครับ? ผมสามารถทำให้ผู้หญิงคนนั้นหายไปได้โดยไม่มีวี่แววเลย”
หลินม่ายพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณไม่เคยได้ยินเรื่องชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตเหรอ? ตราบใดที่คุณทำผิดกฎหมาย คุณอาจถูกจับและประหาร เราไม่ควรเสี่ยงในเรื่องนั้น”
เป็นเพราะความห่วงใยและกังวล หลินม่ายจึงไม่ต้องการให้เขาฆ่าหลินเพ่ย
เพราะไม่อย่างนั้นเธอเองคงใช้เงินว่าจ้างคนในคุกให้ลอบสังหารผู้หญิงสารเลวคนนั้นแล้ว
แต่หากเธอทำเช่นนั้นจริงก็จะนำมาซึ่งปัญหาไม่รู้จบ
จะเกิดอะไรขึ้นหากเหล่านักโทษในคุกรวมหัวกันเปิดโปงเธอ
เธอรับความเสี่ยงนั้นไม่ได้ และจะไม่ยอมให้ใครมาเสี่ยงแทนเธอ
นอกจากนี้เธอยังต่อต้านการรุมประชาทัณฑ์
หากทุกคนยินยอมให้ทำเช่นนั้น โลกก็คงวุ่นวายไม่น้อยจริงไหม?
เธอมีวิธีจัดการกับหลินเพ่ย และไม่จำเป็นต้องใช้การรุมประชาทัณฑ์เลย
เซิ่งหนิงเฉียวยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดด้วยเสียงต่ำ “คุณร้ายลึกไม่เบาเลยนะครับ”
หลินม่ายพูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่ได้ร้ายลึก แต่เป็นคนระมัดระวัง ดังนั้นอย่าทำอะไรโผงผาง!”
จากนั้นเธอก็พยักหน้าให้เซิ่งหนิงเฉียว “คุณกินช้า ๆ ก็ได้ แต่ฉันต้องขอตัวก่อน”
หลังกล่าวจบ เธอก็ลุกขึ้นเดินจากไป
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ฉาวขนาดนี้ รอวันโดนถลกหนังเลยนางปีศาจจิ้งจอก ม่ายจื่อไม่เก็บไว้ให้เสียชื่อแบรนด์หรอก
ไหหม่า(海馬)