แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 804 ดอกกุหลาบปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ตอนที่ 804 ดอกกุหลาบปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เจียวอิงทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ระดับต้นไปจนถึงระดับสูงทีละขั้นตอนด้วยประสบการณ์อันยาวนาน
ด้วยวาทศิลป์ของคนเหล่านั้น เขาก็รู้ทันทีว่าควรเลือกผู้ใดให้เป็นผู้รับเหมาในโครงการอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้
เขาไม่ได้จ้างผู้รับเหมารายใด และเลือกผู้รับเหมาแปดคนที่ซื่อสัตย์และมีความสามารถแทน
เขาเตรียมพร้อมสำหรับการประเมินรอบสอง และคัดเลือกผู้รับเหมาหกรายจากทั้งหมดแปดราย
หลินม่ายระมัดระวังตัวเสมอ เธอเชื่อเสมอว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
ใครจะรับประกันได้ว่าเขาพวกเขาจะเชี่ยวชาญและทำงานได้ดี? คุณภาพงานได้มาตรฐานหรือไม่? ฝีมือดีหรือไม่?
ดังนั้นเขาจึงกำหนดเงื่อนไขว่า ผู้รับเหมาทั้งหมดที่ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชนครอบครัวของธนาคารจะต้องจ่ายเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอน
ผู้รับเหมาสองในแปดรายที่เจียวอิงคัดเลือกได้ปฏิเสธที่จะรับงานทันที
ไม่จำเป็นต้องมีการประเมินรอบที่สองอีกต่อไป และผู้รับเหมาอีกหกรายที่เหลือจะได้รับการว่าจ้างโดยตรง
เจียวอิงยกนิ้วโป้งให้หลินม่ายด้วยความชื่นชม “คุณหลินฉลาดมากเลยนะครับ สามารถทำให้ผู้รับเหมาทั้งสองคนถอนตัวออกได้เอง เหลือไว้เพียงคนที่พร้อมจะทำงานร่วมกับเรา”
หลินม่ายโบกมือ “ไม่มีใครมีสายตาที่แหลมคม เพียงรู้วิธีหว่านล้อมก็พอ”
เรือนพักคนงานถูกสร้างไว้นานแล้ว และผู้รับเหมาทั้งหกคนต้องพาทีมของตัวเองเข้ามา
หลังจากที่เจียวอิงจัดการงานให้กับผู้รับเหมาทั้งหกคนพร้อมทีมงานที่เขานำมาจากเจียงเฉิงแล้ว เขาได้นำผู้ใต้บังคับบัญชาสองสามคนไปจัดการรื้อถอนชาวบ้านเป็นการส่วนตัว
การรื้อถอนเป็นงานที่ลำบากมาก บ้านทุกหลัง ต้องวัดและคุยรายละเอียด ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็เสร็จ
อย่างไรก็ตาม หลินม่ายไม่ได้มีส่วนร่วมในงานนี้มากนัก เธอกำลังเตรียมตัวขั้นสุดท้ายเพื่อให้เถาจือวิ๋นเข้าร่วมงานงานแฟชั่นนานาชาติแห่งฮ่องกง
ในวันนี้หลินม่ายใช้เวลาว่างในการออกแบบชุดราตรีให้กับเถาจือวิ๋นและตัวเธอเองในห้องเรียนขนาดใหญ่
หลังจากงานงานแฟชั่นนานาชาติแห่งฮ่องกง จะมีงานเลี้ยงต้อนรับ และทั้งสองคนจะเข้าร่วม ดังนั้นจึงต้องใช้ชุดราตรี
ในเวลานี้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็วิ่งเข้าไปในห้องเรียนพร้อมดอกกุหลาบช่อใหญ่
หล่อนเข้ามาแล้วก็สบตากับหลินม่าย วิ่งเข้าไปหา ก่อนวางดอกกุหลาบช่อใหญ่ไว้บนโต๊ะและวิ่งหนีไป
หลินม่ายมองกุหลาบช่อใหญ่ที่หยิบมาจากถังขยะแล้วก็แค่นเสียงในลำคอ รู้สึกปวดหัวอย่างมาก
ตั้งแต่หลินเพ่ยได้รับการปล่อยตัวจากคุก เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ทำงานเป็นคนส่งดอกไม้ให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย
หลินม่ายคิดว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนกลัวหลินเพ่ยจะโกรธเพราะความเข้าใจผิดหากรู้ว่าเขาให้ดอกกุหลาบกับเธอ ดังนั้นจึงหยุดส่งดอกกุหลาบมาให้
แม้ว่าในสายตาของหลินเพ่ย อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะไม่มีคุณสมบัติที่จะยืนเคียงข้างหล่อนเลยก็ตาม
ทว่าหล่อนหวงเขามาก หล่อนไม่ชอบอู๋เสี่ยวเจี๋ยน แต่ก็ยอมให้เขาทำตัวดีกับผู้หญิงคนอื่น โดยเฉพาะหลินม่ายซึ่งเป็นศัตรูของหล่อน
อย่างไรก็ตาม หลินเพ่ยมีความฉลาดทางอารมณ์สูง แม้ว่าหล่อนจะไม่ต้องการ แต่ก็จะไม่พูดออกมา แต่ใช้วิธีหว่านล้อมและปล่อยให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนสัมผัสด้วยตัวเอง
เมื่อหลินม่ายแอบดีใจที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะไม่รบกวนเธออีกต่อไป เธอก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเด็กหญิงคนนั้นจะยังคงส่งดอกกุหลาบมาอย่างไม่ลดละ
ทุกครั้งก็เหมือนวันนี้ หล่อนวางดอกกุหลาบแล้ววิ่งหนีไปโดยไม่บอกว่าใครเป็นคนส่ง ทั้งที่หลินม่ายรู้ว่าใครเป็นคนส่ง
หลินม่ายทิ้งดอกกุหลาบช่อใหญ่ลงถังขยะและตำหนิอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอย่างดุเดือด
เธออยากบอกให้เขาหยุดส่งดอกกุหลาบจากในถังขยะมาให้ และเก็บไว้ให้หลินเพ่ยยอดรักของเขาเสีย
แต่ทุกครั้งที่วิ่งออกไปก็ไม่พบอู๋เสี่ยวเจี๋ยน เธอไม่รู้ว่าเขาซ่อนตัวหรือไม่ได้เดินทางมาเลย
หลินม่ายยุ่งมากทั้งการเรียนและการทำงาน จึงไม่มีเวลาที่จะเฝ้าประตูบ้านเพื่อสอนบทเรียนให้กับอู๋เสี่ยวเจี๋ยน
เธอทำได้เพียงโยนดอกไม้กลับลงถังขยะอย่างช่วยไม่ได้
แต่เธอก็ยังต้องการที่จะสอนบทเรียนให้กับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนด้วยตัวเอง
เธอไม่สามารถปล่อยให้เขาก่อกวนเธอเช่นนี้อีกต่อไปได้ เธอต้องสอนบทเรียนให้เขาอย่างหนักหน่วง
เดือนพฤษภาคมเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว
ไม่กี่วันก่อน ฟางถิงโทรมาบอกว่าหล่อนกำลังจะแต่งงานในวันที่ 1 พฤษภาคม
หล่อนหวังว่าหลินม่าย สามี คุณย่าฟาง และคุณปู่ฟางจะพาโต้วโต้วไปงานแต่งงานของหล่อน
ปีที่แล้ว เมื่อพี่ชายคนที่สองของฟางถิงแต่งงาน ทั้งหลินม่ายและฟางจั๋วหรานยุ่งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้กลับไปร่วมงานแต่งงานของพี่ชายหล่อน
มีเพียงคุณปู่ฟางและคุณย่าฟางเท่านั้นที่นำเงินมาให้ทั้งคู่เป็นของขวัญ
คราวนี้ฟางถิงโทรมาแต่เช้าและเชิญพวกเขาไปงานแต่งงานของหล่อน หากปฏิเสธก็คงไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้นหลินม่ายจึงตอบตกลง
ทว่าเมื่อเดือนที่แล้ว เคอจื่อฉิงได้ให้กำเนิดลูกฝาแฝด เธอได้ทำการนัดหมายกับเฉินเฟิงไว้ว่าจะเดินทางไปเยี่ยมพวกเขาในวันที่ 1 พฤษภาคม
ดังนั้นแม้ว่าฟางถิงจะไม่ได้แต่งงานในวันที่ 1 พฤษภาคม หลินม่ายก็ต้องกลับไปที่เจียงเฉิงเพื่อเลี้ยงรับขวัญให้กับลูกทั้งสองของเฉินเฟิงอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้หลินม่ายจึงขอลาโรงเรียนครึ่งวัน และบินไปเจียงเฉิงพร้อมกับคุณปู่ฟางและคนอื่น ๆ ในบ่ายวันที่ 30 เมษายน
เมื่อทุกคนมาถึงเจียงเฉิงก็เป็นเวลาหนึ่งถึงสองทุ่มแล้ว
พวกเขาเดินทางมาถึงวิลล่าเวลาสี่ทุ่ม
วิลล่าเงียสงบบอย่างมาก
คุณย่าฟางพึมพำด้วยเสียงต่ำ “จั๋วเยวี่ยอยู่บ้านหรือเปล่า?”
ฟางจั๋วเยวี่ยเป็นนกเค้าแมว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้านอนเร็วขนาดนี้ บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่ได้อยู่บ้าน
ฟางจั๋วหรานขึ้นไปยังห้องของฟางจั๋วเยวี่ย แต่กลับพบว่าทั้งห้องว่างเปล่า
เขาลงมาและบอกคุณยายฟางว่าฟางจั๋วเยวี่ยไม่อยู่บ้าน
คุณย่าฟางกล่าว “ดึกมากแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้าน” หลังกล่าวจบ นางก็ไปอาบน้ำ
แม้ว่าระหว่างทางจะมีเครื่องบินและรถแท็กซี่ แต่ผู้สูงอายุก็ยังคงเหนื่อยล้าหลังจากเดินทางเป็นเวลานาน
ทุกคนต่างแยกย้ายไปจัดการธุระของตัวเองและเข้านอน
ในวันที่ 1 พฤษภาคม ทั้งครอบครัวตื่นแต่เช้า พร้อมที่จะไปที่บ้านของฟางเว่ยหมินหลังอาหารเช้า
ฟางถิงแต่งงาน และพวกเขาต้องไปแต่เช้าในฐานะสมาชิกครอบครัว เผื่อคนอื่น ๆ ในงานต้องการความช่วยเหลือ
คุณปู่ฟางไปที่สวนหลังบ้านเพื่อดูว่ามีผักชีหรือต้นหอมสำหรับทำบะหมี่ให้หลินม่ายหรือไม่
เขาเห็นว่าแปลงผักในสวนหลังบ้านนั้นเขียวชอุ่มไปด้วยผักนานาชนิด
เห็นได้ชัดว่าป้าหวงดูแลสวนผักเหล่านี้ในยามที่พวกเขาไม่อยู่
คุณปู่ฟางมีความสุขมาก เขาหยิบมะเขือเทศใกล้สุกสองสามลูกและผักชีที่มีกลิ่นหอมน่าดึงดูดใจมาหนึ่งกำมือ
เขามอบมันให้หลินม่ายราวกับสมบัติและพูดอย่างมีความสุข “ป้าหวงปลูกผักได้ดีจริง ๆ หลานชอบบะหมี่ที่ใส่มะเขือเทศ ผักชี และไข่ไม่ใช้เหรอ? รับไปสิ!
หลินม่ายรับมาด้วยรอยยิ้มและไปยังห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า
ฟางจั๋วหรานตามเธอเข้าไปในครัวเพื่อช่วยทำอาหาร
จากนั้นบะหมี่หนึ่งหม้อก็พร้อมเสิร์ฟในเวลาไม่นาน
ชามหกใบถูกวางเรียงรายบนโต๊ะอาหารอย่างพร้อมเพรียมก่อนที่ทุกคนจะนั่ง
คุณย่าฟางมองไปยังบันไดพลางกล่าว “จั๋วเยวี่ยยังไม่กลับมาตั้งแต่เมื่อคืน หรือว่าเขายังไม่ตื่นนอน? ทำไมไม่มีใครเห็นเขาเลย?”
นางขอให้โต้วโต้วขึ้นไปดูที่ห้องนอนของเขา
โต้วโต้ววิ่งขึ้นชั้นบนด้วยสองขาและลงมาภายในไม่กี่นาที
หล่อนบอกคุณย่าฟางและคนอื่น ๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณอายังหลับอยู่เลยค่ะ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น”
คุณย่าฟางหยิบตะเกียบของตนขึ้นพลางกล่าว “หลังจากกินเสร็จ ฉันจะไปจัดการเขาเอง!”
ในไม่ช้า ทุกคนก็กินบะหมี่ในชามของตนจนหมด
คุณย่าฟางรักษาคำพูดของนาง วางตะเกียบแล้วเดินขึ้นไปข้างบน
เมื่อหลินม่ายและฟางจั๋วหรานล้างจานเสร็จสิ้นและออกมาจากห้องครัว ในที่สุดพวกเขาก็เห็นฟางจั๋วเยวี่ย
รูปลักษณ์ของเขาทำให้สองสามีภรรยาตกใจ
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มาก่อกวนหลินม่ายแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนข้อหาคุกคามความเป็นส่วนตัวจนได้เข้าคุกอีกรอบล่ะเสี่ยวเจี๋ยน ทีนี้ก็ไม่ต้องอยู่กับเพ่ยเพ่ยสุดที่รักของแกเลย
ไหหม่า(海馬)