โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 152
Ch.152 – อย่าปล่อยให้ลงจากเวทีแบบมีชีวิต
Translator : Muntra / Author
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.152 – อย่าปล่อยให้ลงจากเวทีแบบมีชีวิต
ฉินเฟิงแสยะยิ้มหยัน แต่ก็ไม่คิดขวางคนเหล่านั้น
ในเวลาเดียวกัน ผู้จัดการก็ที่แยกตัวออกไปในตอนแรกก็กลับมา แต่ดันพบว่าซินเจี่ยเซิงไม่อยู่แล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น แต่พวกเห็บปลิงที่อยู่ก็กระจัดกระจายออกไป เหลือเพียงฉินเฟิงที่ยืนหัวโด่อยู่ที่นี่
สีหน้าของผู้จัดการกลายเป็นบึ้งตึงเมื่อไม่มีคนจากตระกูลซินให้ประจบ คิ้วของเขาขมวดแน่น มองไปทางฉินเฟิงแล้วกล่าวหยัน “นายน้อยซินอยู่ที่ไหน?”
“หางจุกตูดไปแล้ว!” ฉินเฟิงตอบสบายๆ
ผู้จัดการงงในตอนแรก แต่ไม่ช้าเขาก็เริ่มคาดเดาได้อย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่ว่าแกอ่อนแอเกินไป จนนายน้อยซินขี้เกียจสู้ด้วยแล้วรึเปล่า?”
“เหอๆ” ฉินเฟิงไม่สนใจลมปากของผู้จัดการ อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตนมาถึงที่นี่แล้ว ก็ขอลองซักตั้ง!
เป็นธรรมดาที่จะออกแข้งออกขาสักเล็กน้อยก่อนจะจากไป!
ไม่ได้ฝึกฝนมาหลายวัน เส้นเขาก็มียึด มีตึงบ้างเหมือนกัน! ไหนๆก็สามารถหาเหยื่อได้ถึงที่แล้ว สมควรหย่อนเบ็ดลงฆ่าเวลา เผื่อจะได้โชคกับเขาบ้าง
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ฉินเฟิงก็ส่งคำร้องขอสุ่มประลองออกไปทันที
【ติ๊ง! หมายเลขนักสู้ของคุณได้ถูกส่งเข้าสู่สังเวียนแล้ว!】
【โปรดรอสักครู่ ทางเรากำลังจัดสุ่มนักสู้ที่เหมาะสมแก่คุณ】
ราวกับเป็นเรื่องบังเอิญ ผู้จัดการเพิ่งตระเตรียมสังเวียน ดังนั้นจึงมีสังเวียนหนึ่งที่ว่างอยู่พอดี เมื่อฉินเฟิงสมัคร เขาก็ได้รับการจัดคู่ประลองอย่างรวดเร็ว
【เลเวลของคุณอยู่ที่ F6 ผลการประเมินความแข็งแกร่งอยู่ในระดับสวรรค์โปรดปราน ดังนั้นคู่ต่อสู้ของคุณคือเลเวล F6 ที่สามารถชนะ 4 ครั้งติดต่อกัน หมายเลขนักสู้ XXXX 】
【อธิบายกฏโดยย่อ : ชนะหนึ่งครั้งจะได้รับ 1 แต้ม รางวัลชนะติดต่อกันครั้งแรก : 5,000 เหรียญ , หมายเลขสังเวียน เวทีที่ 3 !】
รางวัลครั้งแรกถือว่าน้อยมาก นอกจากนี้ มันยังไม่เท่าทุนกับเงินที่ฉินเฟิงเสียค่าสมัครไปกว่า 10,000 เหรียญ
หรือกล่าวอีกอย่างนึงก็คือ แม้ฉินเฟิงจะชนะรอบแรก แต่เขาก็ยังขาดทุนกว่าอีก 5,000 อยู่ดี
แต่แน่นอน ถ้าเขาชนะติดต่อกันอีกรอบ เขาก็จะพลิกมาเป็นกำไร แต่น่าเสียดาย เห็นได้ชัดว่าการคว้าชัยชนะติดต่อกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายดายถึงขนาดนั้น (สำหรับบุคคลทั่วๆไป)
ฉินเฟิงออกจากโถงรับรอง แล้วพาไป๋หลีเดินทางไปยังเวทีที่ 3 บางทีอาจเป็นเพราะผู้จัดการตระเตรียมสังเวียนให้แก่ซินเจี่ยเซิงเป็นพิเศษ ดังนั้นบนสังเวียนจึงมีพื้นที่กว้างกว่า 20 เมตร
ฉินเฟิงเดินขึ้นไปรอ ไม่นานคู่ต่อสู้ของเขาก็มาถึง
อีกฝ่ายเป็นชายร่างใหญ่ มีใบหน้าค่อนไปทางดุร้าย ถือขวานยักษ์ที่สาดแสงสีม่วงอยู่ในมือ
เพียงแค่มอง ฉินเฟิงก็สามารถบอกได้ทันที ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณที่ฝึกฝนวิชาเส้าหลิน
ไม่รู้ว่าระดับความแข็งแกร่งทางกายภาพของอีกฝ่ายคืออะไร แต่เขาสามารถชนะติดต่อกันได้ถึง 4 ครั้ง ดังนั้นหากสามารถคว้าชัยชนะมาได้อีกรอบหนึ่ง รางวัลที่ได้รับก็จะเพิ่มเป็นเท่าตัว!
แต่ช่างน่าสงสาร … เพราะคู่ต่อสู้ของเขาในครั้งนี้ดันเป็นฉินเฟิงพอดี!
“เชิญชี้แนะ”
“เชิญชี้แนะ!”
สิ้นเสียง การประลองรอบแรก็ปะทุขึ้นทันที!!
ฉินเฟิงเลือกใช้ออกเพียงทักษะวรยุทธโบราณของตนเอง
เริ่มจากใช้ก้าวแห่งหมอก หลบเลี่ยงการโจมตีที่กวาดเป็นวงกว้างของศัตรู
ฉินเฟิงน่ะว่องไวเป็นอย่างมาก ด้วยประสิทธิภาพของพลังพิเศษกลืนกิน ทำให้ในแง่พัฒนาการ ฉินเฟิงเติบโตไปในทุกๆด้าน(ว่องไว , พละกำลัง ความทนทาน ฯลฯ)
เขาสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของคู่ต่อสู้ และอ้อมไปหยั่งเท้าอยู่ด้านข้างได้โดยตรง
ฉินเฟิงยกมือขึ้น จ้วงกำปั้นซัดเข้าใส่เอวของชายคนนั้น
ชายร่างใหญ่สะดุ้งเฮือก เขาไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงจะว่องไวถึงขนาดนี้ ชักแขนกลับอย่างเร่งร้อน ปลุกเร้ากำลังภายใน เสริมความเร็ว เพื่อตวัดขวานกลับมาป้องกันตรงเอว
เคร้ง!
กำปั้นที่ฉกออกไปส่งเสียงคล้ายโลหะกระทบกันและกัน กำลังภายในจากแต่ละฝ่าย แผ่ลงไปทั่วขวานและหมัดของฉินเฟิง ก่อตัวเป็นคลื่นกระเพื่อม
ชายร่างใหญ่สัมผัสถึงได้เพียงพละกำลังมหาศาล ตนแทบจะไม่สามารถควบคุมมือตัวเองเอาไว้ได้ ขวานในมือเกือบร่วงตกพื้น
“ทรงพลังอะไรอย่างนี้!”
ได้ยินคำชมของอีกฝ่าย ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มจางๆ “มาลองกันอีกซักตั้ง!”
ในงานสวนล่า ตนทำได้เพียงละเล่นกับพวกหน้าใหม่อยู่หลายวัน ในที่สุดก็เจอคนที่พอทนมือทนเท้าได้เสียที ไม่รอช้า ฉินเฟิงปลดปล่อยพละกำลังทั้งหมดในร่างกายของเขา
นี่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการอุ่นเครื่อง!
หลังจากการต่อสู้เริ่มขึ้น มันก็เกือบจะเป็นการโจมตีอยู่เพียงฝ่ายเดียว ฉินเฟิงซัดกำปั้นออกไปนับสิบครั้ง ชายร่างใหญ่ทำได้เพียงทานรับการโจมตีอย่างอดทน
จวบจนเกือบถึง 20 กระบวนท่า ชายร่างใหญ่ก็หลุดการป้องกัน ถูกชกเข้ากลางหน้าอก จุกจนมิอาจสูดหายใจได้
“โอ๊ย ยอมแล้ว! ฉันยอมแพ้!” ชายคนนั้นรีบตะโกน
ชายร่างใหญ่ทราบดีว่าฉินเฟิงยั้งมือเอาไว้ มิฉะนั้นตนคงตกตายภายใต้กำปั้นเมื่อครู่ไปแล้ว ยังไงก็ตาม แม้จะไม่บาดเจ็บถึงตาย แต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บภายในจากการโจมตีนี้อยู่ดี
ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างที่บอกไป ชายร่างใหญ่ช่างโชคร้ายจริงๆที่เจอฉินเฟิง
【ขอแสดงความยินดีต่อชัยชนะของคุณ คุณสามารถจ่าย 10,000 เหรียญ เพื่อต่อเวลาอยู่ต่อบนสังเวียนได้ครึ่งชั่วโมง และรอผู้ท้าชิงคนต่อไป ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?】
แน่นอนว่าฉินเฟิงเลือกต่อเวลา!
【ติ๊ง! หมายเลขนักสู้ของคุณเข้าสู่สังเวียนแล้ว ระบบกำลังทำการจับคู่นักสู้แบบสุ่มให้แก่คุณ】
สังเวียนต่อสู้เป็นอะไรที่ได้รับความนิยมมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้สามารถสุ่มผู้ท้าชิงได้เลยในทันทีทุกเวลา ดังนั้นฉิงเฟิงจึงต้องยืนรออย่างอดทน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เนื่องจากผู้จัดการต้องการประจบซินเจี่ยเซิง เขาจึงวิ่งมาตามตัวอีกฝ่าย “นายน้อยซิน เด็กที่คุณคิดสั่งสอนกำลังอยู่บนสังเวียน ต้องการให้กระผมมอบบทเรียนให้แก่เขาไหม?”
เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้จัดการไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เขาคิดแค่เพียงว่าฉินเฟิงเอ่ยปากยอมแพ้ และซินเจี่ยเซิงรู้สึกเบื่อหน่ายจึงจากไป แต่ปัจจุบันในเมื่อเด็กน้อยกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง เลยเป็นธรรมดาที่ผู้จัดการคิดคว้าโอกาสดีนี้ในการประจบสอพลอ!
ซินเจี่ยเซิงเดิมก้าวออกมาข้างนอก และเตรียมจะสตาร์ทรถอยู่แล้ว แต่พอได้ยินข่าว มุมปากของเขาก็ยกสูงขึ้นทันที
แน่นอน ว่าก่อนหน้านี้ที่ตนส่งคำขู่และจากมา มิใช่เพียงเพราะแค่หวาดกลัว แต่ยังถอยออกมาเพราะตั้งใจจะระดมคนจากทางตระกูลซิน ให้ไปลอบโจมตีฉินเฟิงอย่างลับๆ
แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าฉินเฟิงมันจะใจกล้าจริงๆ ไม่เพียงหลบหนีจากไปในทันที แต่ยังเลือกต่อสู้บนสังเวียนซะอย่างงั้น
ทว่า … การกระทำดังกล่าวนี้เทียบได้กับเป็นการโคตรจะดูถูกซินเจี่ยเซิง!
ทันใดนั้นความอัปยศ ความโกรธ ความเดือดดาลก็พรั่งพรูขึ้นในจิตใจ
อย่างไรก็ตาม ซินเจี่ยเซิงรู้สึกว่า โอกาสได้มาถึงแล้ว!
‘ในเมื่อแกไม่คิดเดินจากไป งั้นก็อย่าแม้แต่จะคิดที่จะออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิต!’
“ไปเรียกคนมา แล้วฆ่ามันซะ! อย่าปล่อยให้มันรอดชีวิตลงจากสังเวียน! หาห้องส่วนตัวให้ฉันด้วย!” ซินเจี่ยเซิงกล่าว
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา กระผมจะจัดห้องส่วนตัวที่นายน้อยสามารถรับชมได้อย่างเต็มตา!”
ว่าจบ ผู้จัดการก็เริ่มหันมาสนใจฉินเฟิง และคิดส่งคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าฉินเฟิงลงไป เพื่อสังหารเขาซะ!
แต่ในตอนนั้นเอง คู่ต่อสู้แบบสุ่มของฉินเฟิงก็จับคู่ได้พอดี ผู้จัดการผงะตะลึงงัน
“บ้าน่า เขาจับคู่กันซางเทียนได้อย่างไร?”
ซางเทียน คือคนที่บ้าการต่อสู้ เป็นนักสู้ระดับชั้นยอด ผู้จัดการมักจะได้เจออีกฝ่ายประจำ จึงรู้จักกันเป็นอย่างดี
แต่คู่ต่อสู้ของฉินเฟิงกลับเป็นซางเทียน ซึ่งซางเทียนเป็นผู้ใช้พลังในเลเวล F6!
“ระบบจะสุ่มจับคู่นักสู้ในเลเวลที่เท่าเทียมกัน … หมายความว่าเจ้าหนูนั่นมีเลเวล F6 อย่างงั้นหรอ?” สมองของผู้จัดการหมุนเร็วจี๋ วินาทีนี้สิ่งต่างๆเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด ดังนั้นเขาจึงเรียกดูข้อมูลจากหมายเลขนักสู้ของฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว
และพบว่าในข้อมูลของหมายเลขนักสู้ ฉินเฟิงมีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล F6 จริงๆ ไม่เพียงแค่นั้น แต่การทดสอบความแข็งแกร่งโดยรวมของเขายังอยู่ในระดับสวรรค์โปรดปราน! ภาพตรงหน้าทำเอาผู้จัดการหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ
“ชิบหายแล้วไง ทีนี้ฉันจะเอายังไงดี?”
เมื่อครู่ตนเพิ่งสัญญากับซินเจี่ยเซิงว่าจะสังหารฉินเฟิง แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าเป้าหมายของตนจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ปัจจุบัน ผู้จัดการค้นพบว่าตนกำลังอยู่บนหลังเสือ ฉะนั้นยากที่จะก้าวลง
ตนขบฟันแน่น และโทรออกผ่านอุปกรณ์สื่อสารหานักสู้มืออาชีพอย่างรวดเร็ว
“บิ๊กเค รบกวนช่วยมาลงสังเวียนให้หน่อยสิ ฉันจะจ่ายเงินให้อย่างงามหลังจากเสร็จธุระแล้ว”
“เหมินเฉิน วันนี้ไม่ได้ทำงานใช่ไหม ฉันมีนักสู้ดีๆมานำเสนอ อยากจะให้นายช่วยไปสั่งสอนมัน!”
“ฮ่าวซี มีงานให้ทำ รีบมาที่สังเวียนเร็วเข้า!”
สายแล้วสายเล่าถูกโทรออกไป บางคนก็เป็นนักสู้มืออาชีพบนสังเวียน บ้างก็เป็นพวกรักการต่อสู้ และชอบที่จะท้าทายคู่แข่งที่มีศักยภาพ
หลังจากโทรออกไปสายแล้วสายเล่า ตอนนี้ผู้จัดการถึงค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย