โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 220
Ch.220 – มืดปะทะมืด
Provider : Muntra
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.220 – มืดปะทะมืด
“เรื่องนั้นวางใจเถอะ”
เพราะอย่างแย่ที่สุดก็แค่สังหารคนด้วยกันเองแล้วชิงอุปกรณ์รูนมิติมา จากนั้นก็ถอดชิ้นส่วน และสร้างเป็นตัวเชื่อมต่อพิกัดมิติ ถ้ายังไม่ได้ผล พวกเขาก็ยังมีไป๋หลี ซึ่งในเรื่องนี้ฉินเฟิงมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าจะสามารถหลบหนีไปจากเกาะได้หากเทียบกับคนอื่นๆ
บนต้นไม้ ชิหลงผุดลุกขึ้น แสดงท่าทีตื่นตัวเล็กน้อย
“จากข้อมูลอินฟาเรดที่เพิ่งสแกนตำแหน่งใกล้เคียงบนเกาะ ค้นพบสถานที่หนึ่งที่แปลกออกไป ฉันสงสัยว่ามันน่าจะเป็นรังวางไข่ของสัตว์ร้ายจระเข้มังกร แต่ที่นั่นน่าจะมีระดับนายพลสัตว์ร้าย และจระเข้มังกรตัวอื่นๆคอยเฝ้าอยู่เช่นกัน … สนใจจะลองไปตรวจสอบดูไหม?”
จระเข้มังกรระดับทหารจะสูงห้าเมตร แต่นายพลจระเข้มังกรจะมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อไข่จระเข้มังกร มันคุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดวง เพราะหากถูกฟักออกมาและสามารทำพันธสัญญาได้ มูลค่าของมันจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล!
“งั้นพวกเราลองไปดูกัน!”
ทีมของฉินเฟิงค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ตำแหน่งของนายพลจระเข้มังกรอย่างระมัดระวัง ไม่ช้าก็พบกับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่โต
แม้มันจะเป็นเพียงนายพลสัตว์ร้าย แต่แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของมัน เหนือล้ำยิ่งกว่านายพลสัตว์ร้ายทั่วๆไป
ในรังมีไข่ทั้งสิ้น 4 ฟอง แต่มันอยู่ใกล้กับนายพลสัตว์ร้ายมากๆ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีจระเข้มังกรระดับทหารอีก 3 ตัวเฝ้าอยู่รอบๆ หากเกิดความผิดพลาดขึ้น พวกเขาอาจจะถูกค้นพบได้ทันที
ทั้งนี้ทั้งนั้น จระเข้มังกรเองก็มีศัตรูตามธรรมชาติเช่นกัน นั่นคือนางนวลปีกวายุเลเวล E หากจระเข้มังกรพบเจอกับคู่ปรับของมัน แล้วตระหนักว่าไม่สามารถกำจัดอีกฝ่ายลงได้แน่ๆ มันจะลงมือทำลายไข่ของตนเองทันที
แต่ฉินเฟิงและคนอื่นๆมิใช่ศัตรูตามธรรมชาติของจระเข้มังกร แต่หากต้องต่อสู้กับสัตว์ร้ายจระเข้มังกรตรงๆ ก็ไม่อาจรับประกันเหมือนกันว่าไข่จะได้รับความเสียหายหรือไม่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินเฟิงก็เอ่ยปากออกมา “ผมจะเข้าไปก่อกวนและล่อพวกจระเข้มังกรเอง จากนั้นพวกคุณก็ฉวยโอกาสไปขโมยไข่!”
ไม่รั้งรอให้ฮั่นเจียนเอ่ยปากถามว่าฉินเฟิงจะเข้าไปก่อกวนอย่างไร อีกฝ่ายก็ชิงเดินออกไปพร้อมมีดกษัตริย์ครามในมือ
ฉินเฟิงลอบปลดปล่อยรูนมืดออกมาอย่างลับๆไม่ให้ใครเห็น ใช้มันบดบังร่างกาย ตรงไปยังจระเข้มังกรทั้งสี่ตัวและ–
–ปัง!
ปืนพกส่งเสียงคำรามต่ำ ตาข่ายสีขาวขนาดใหญ่พลันกางออก โถมเข้าห่อหุ้มจระเข้ระดับทหารไว้โดยสมบูรณ์
นี่คือใยของแม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กระดับราชันย์!
และด้วยใยแมงมุมระดับราชันย์นี้ ต่อให้เป็นสัตว์ร้ายมังกรเลเวล E ก็ยากที่จะดิ้นหลุดในทันที
สามจระเข้มังกรเกิดความตื่นตระหนก ฉินเฟิงไม่รอช้า งัดมีดกษัตริย์ครามออกมาอีกครั้ง และทะยานเข้าหาจระเข้มังกรตัวสุดท้าย ปักมันเข้ากลางร่างศัตรูโดยตรง
“หลีกไปให้พ้น!”
ฉินเฟิงเร่งเร้าพละกำลังมหาศาล กระแทกเข้าใส่นายพลจระเข้อย่างโหดเหี้ยม
เปรี้ยง!
ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ส่งผลให้นายพลจระเข้ม้วนกลิ้งออกห่างจากรังของมันไปไกลกว่าสามเมตร
สำหรับนายพลจระเข้ ถูดอัดกระเด็นสามเมตรไม่นับว่าเป็นสิ่งใด ทว่าสามเมตรที่ออกห่างจากรัง มันเพียงพอแล้วที่จะไม่ให้ไข่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ!
“มาลองกันอีกครั้ง!”
“ทักษะลับกลืนดารา!”
“ปลดปล่อยแรงผลัก!”
กำลังภายในเร่งเร้ากลืนดารา พริบตาเดียว พละกำลังของฉินเฟิงก็พุ่งสูงขึ้นนับสิบเท่า แรงผลักดันมหาศาลถูกส่งออกจากมีดกษัตริย์ครามในมือเขา ส่งจระเข้นายพลม้วนกลิ้งไปอีกกว่า 5 เมตร
ก๊าซซซ!
นายพลจระเข้คำรามคลั่ง มันถูกยั่วยุจนเบนสมาธิมาที่ฉินเฟิงโดยสิ้นเชิง
ปากใหญ่พลันอ้าออก พุ่งเข้ามาหมายจะงับฉินเฟิง
แต่ฉินเฟิงมีหรือจะยินยอมให้อีกฝ่ายจับตัวเอาได้ง่ายๆ? ท่าร่างภูติพรายถูกใช้ออก ทั้งคนทั้งร่างของเขาหายวับไปจากแนวสายตาของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
ร่างใหญ่โตของนายพลจระเข้หมุนกวาดไปมาจนพื้นสั่นสะเทือน มันพยายามหาตำแหน่งของฉินเฟิง จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของฉินเฟิงที่อยู่ข้างหลังมัน
“ระบำดอกไม้ไฟ!”
ใบมีดพลันกระพริบไหว หางของนายพลจระเข้ถูกเฉือนเป็นแผลลึกเข้าไปถึงกระดูก! หากมิใช่เพราะนายพลจระเข้หลบเลี่ยงได้อย่างว่องไว กระบวนท่าเมื่อครู่คงสะบั้นหางมันขาดไปแล้ว!!
ก๊าซซซซซ!!
นายพลจระเข้คำรามคลั่งด้วยความโกรธครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังร้องโหยหวนน่าเวทนาในเวลาเดียวกัน เปล่งเสียงจนปอดสั่นสะเทือน
กรงเล็บยักษ์ตะปบไปมา ทุกครั้งที่ขยับ พื้นดินถึงขั้นสั่นสะเทือน ปรากฏรอยแตกระแหง ร่างใหญ่โตหมุนตัวกวาดโจมตีเป็นวงกว้าง ต้นไม้ใหญ่ ต้นแล้วต้นเล่าถูกหักโค่นลง
เวลานี้นายพลจระเข้คล้ายกลายเป็นบ้าไปแล้ว!
สมองของมันคิดอะไรไม่ได้ ใช้สัญชาตญารตัดสินใจเลือกใช้ขนาดตัวและพละกำลังมหาศาล กวาดบดขยี้ฉินเฟิงที่เอาแต่มุดหัว ไม่ยอมโผล่ออกมา
“คลื่นเปลวเพลิง!”
มือซ้ายของฉินเฟิงตวัดเล็งไปทางนายพลจระเข้ เปลวเพลิงปะทุโหมอย่างรุนแรง ทว่าคลื่นกระแทกมิได้ปะทะเข้าใส่ตัวจระเข้ ตรงกันข้าม มันส่งแรงผลักดันช่วยให้ฉินเฟิงพุ่งปลิวถอยกลับไปเบื้องหลัง
และการถอยในครั้งนี้ กินระยะทางไกลกว่า 20 เมตร
นายพลจระเข้ไม่รอช้า ไล่ติดตามทันที –พริบตาเดียว ทั้งสองก็ออกห่างจากรังไปนับ 100 เมตร
ระยะทางนี้มิได้ไกลเลยในสายตาของผู้ใช้พลัง แต่ทุกวินาทีราวกับกำลังอยู่ในระหว่างความเป็นความตาย ไม่ว่าใครมองไปยังฉินเฟิง ต่างก็รู้สึกเย็นหลังสันวาบ เพราะฉากนี้แลคล้ายกับฉินเฟิงเป็นเพียงเรือลำเล็กๆ ที่อาจถูกท่วมทับในเวลาใดก็ได้
“เร็วเข้า จังหวะนี้แหละ!”
คนอื่นๆเริ่มเคลื่อนไหวในที่สุด
หลิงหวูยี่มุ่งเป้าไปยังจระเข้มังกรสามตัวที่กำลังดิ้นรน สะบัดมือปลดปล่อยกรงเล็บแหลมกลายพันธุ์ออกมาทันที
เล็บหลากสีสันทิ่งแทงลงในร่างของจระเข้มังกร ทันใดนั้นสารพิษพลันแพร่กระจายออกไปตามตัว พวกมันตกตายลงอย่างไร้หนทางต่อต้าน
ฮั่นเจียนกับชิหลงโฉบเข้าไปใกล้กับรังจระเข้ในระยะ 1 เมตร เก็บไข่ทั้ง 4 ฟองเข้าสู่พื้นที่มิติ และหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ราวกับสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ นายพลสัตว์ร้ายส่งเสียงคำรามคลั่งอย่างกระทันหัน มันต้องการที่จะกลับไป
“คิดได้ตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว!”
มีดกษัตริย์ครามในมือของฉินเฟิงโบกสะบัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟาดฟันลงตามส่วนหัวและลำคอที่แข็งแกร่งของนายพลจระเข้
ด้วยพละกำลังของฉินเฟิงในปัจจุบัน ย่อมมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะกำจัดมัน แค่ก่อนหน้านี้เขาเกรงว่าไข่จระเข้จะได้รับความเสียหายเลยล่อมันออกมาก็เท่านั้นเอง
มีดกษัตริย์ครามอันทรงพลังตัดเฉือนเข้าเนื้อส่วนลำคอของจระเข้โดยไม่มีสิ่งใดสามารถขวางกั้น เลือดย้อมทั้งร่างของฉินเฟิงจนแดงฉานอีกครั้ง
“ตายซะ!”
มีดในมือวูบไหวอีกครั้ง
ฉัวะ!
หัวของนายพลจระเข้ถูกสะบั้นแยกออกจากกันในที่สุด
จระเข้มังกรระดับนายพล — ตกลงสู่ความตาย!
แต่ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง เสียงปืนพลันดังขึ้นจากระยะไกลอย่างไม่ทันตั้งตัว
ปัง!
กระสุนคริสตัลสีม่วงโฉบข้ามผ่านผืนป่า ตรงมายังตำแหน่งของฉินเฟิง
พลังสมาธิของฉินเฟิงปะทุโหมอย่างรุนแรง ทั้งคนทั้งร่างกลายเป็นตื่นตัว เอนกายวูบในเสี้ยววินาที หลบพ้นรัศมีของมัน
ด้วยความเร็วกระสุนที่ถูกลดทอนลงโดยพลังสมาธิ ทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงกระสุนอันร้ายแรงนี้ได้
ซี่ ซี่ ซี่ ซี่ …
กระสุนโฉบผ่านเขา พุ่งไปตกลงบนศพของนายพลจระเข้ที่เพิ่งสิ้นใจ ปรากฏรังสีแสงสีม่วงปกคลุม ก่อรูปเป็นตาข่ายกระแสไฟฟ้าขึ้นรอบตัวมัน
—จู่ๆก็มีคนลอบทำร้ายเขาอย่างไม่คาดฝัน!
และฟังจากเสียงกระสุนที่กรีดผ่านอากาศ ระยะทางน่าจะอยู่ห่างออกไปกว่า 500 เมตรเป็นอย่างน้อย มิฉะนั้นด้วยพลังสมาธิที่แข็งแกร่งของฉินเฟิง เลยไม่สามารถที่จะรับรู้มันได้ในระยะ 300 เมตร
ดูเหมือนว่าคนอื่นๆก็จะได้ยินเสียงปืนนี้เช่นกัน ชิหลงตกใจ เร่งกระจายพลังสมาธิของตน จนค้นพบตำแหน่งคร่าวๆของศัตรู
“ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าข้ามหน้าข้ามตาฉัน มาดูกันว่าใครจะแน่กว่ากัน!”
ว่าจบ เขาก็เรียกปืนไรเฟิลขนาดใหญ่ออกมาโดยตรง และเล็งไปยังตำแหน่งที่ศัตรูยิงออกมา
พลังสมาธิถูกล็อคลงไป กระสุนวิ่งตัดผ่านพืชพรรณอุปสรรคขัดขวางทั้งหมด พุ่งตรงไปข้างหน้าและ–
–ปัง!
กระสุนปะทะกันกลางอากาศ อีกฝ่ายหนึ่งก็ยิงสวนกลับมาสกัดกั้นกระสุนของชิหลงเช่นเดียวกัน
แม้จะยังไม่เห็นร่างของอีกฝ่าย แต่กระสุนปืนนับไม่ถ้วนก็ถูกระดมยิงตอบโต้กันไปมา
กระสุนแต่ละนัดของทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ วิธีการต่อสู้ของมือปืนช่างเป็นอะไรที่น่าตื่นตายิ่งนัก
ร่างของฉินเฟิงวูบไหวไปจากสถานที่เดิม ท่ามกลางความมืดมิด เขาวิ่งผ่านสิ่งกีดขวางไปอย่างรวดเร็ว
ชั่วพริบตาเขาก็มาอยู่ในระยะของมือปืนคนนั้น แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ปรากฏเงาดำวูบไหวโฉบออกมาอย่างกระทันหัน สองกริชโบกสะบัดยากจะคาดเดาทิศทาง หนึ่งกริชยาวตีวงกว้างเป็นแนวขวาง หนึ่งกริชสั้นสับลงเป็นแนวตั้ง ดูน่าหวาดเสียว
และที่สำคัญก็คือ กริชสั้นของอีกฝ่ายว่องไวเป็นอย่างมาก
ฉินเฟิงไม่มีเวลามากพอจะหลบเลี่ยง เขาทำได้เพียงงัดกระบวนท่าอบิลิตี้เข้าตอบโต้
“โอบกอดทมิฬ!”
อบิลิตี้มืดแพร่กระจายออกไปรอบๆ ท่ามกลางความมืดมิด กระทั่งพลังสมาธิก็มิอาจใช้งานได้
เวลานี้ บุคคลที่แต่เดิมคิดลอบสังหาร ชะงักไปวูบหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง
ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป ฉินเฟิงฉวยจังหวะเอี้ยวตัวหลบ กริชสั้นของศัตรูกรีดผ่านเหนือหัว ตัดปลายเส้นผมเขา ฉินเฟิงไม่รอช้า ง้างเท้าเตะออกไป
ตูม!
ร่างที่โจมตีเขากระเด็นถอยกลับ อีกทั้งมันยังทำให้ฉินเฟิงได้เห็นอีกด้วยว่าผู้ลอบสังหารคนนี้คือใคร!