โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 269
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.269 – สังหารราชันย์อย่างง่ายดาย
สำหรับหลายๆคน ราชันย์สัตว์ร้ายคือสิ่งมีชีวิตที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่ง
ในหมู่ผู้ใช้พลังเองจำต้องครอบครองเลเวลที่เหนือกว่ามันหนึ่งช่วงชั้นใหญ่ ถึงจะสามารถต่อกรกับราชันย์สัตว์ร้ายได้
มิฉะนั้น ผลลัพธ์จะนำมาซึ่งความตาย
อย่างในสถานการณ์นี้ คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือหวังจื่อเฉา
แล้วระดับราชันย์สูงสุดที่เขาสามารถรับมือได้ ก็คือเลเวล F8 ทว่าหากเลเวล F8 ปรากฏกายขึ้นมาจริงๆ … แน่นอนว่าหวังจื่อเฉาไม่กล้าสู้
เพราะแม้ในทางทฤษฏีจะสามารถสู้ได้ แต่ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็มีโอกาสสังหารหวังจื่อเฉาได้เช่นกัน
แต่ปัจจุบัน ที่พวกเขาต้องเผชิญคือสัตว์ราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล E5
ทั้งยังเป็นแมงกระพรุนกล่องตัวใหญ่ยักษ์ที่ครอบครองพิษอันน่าสะพรึง
เกรงว่าต่อให้เล่ยเฉินอยู่ที่นี่ หากบอกให้ต่อกรกับมัน เจ้าตัวก็ยังลังเล
เพราะราชันย์สัตว์ร้ายสายพันธุ์นี้ หากไม่ยั่วโมโหมัน ก็น่าจะสามารถหลีกเลี่ยงการปะทะได้ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตประเภทแมงกระพรุนคือสัตว์น้ำแบบ 100 เปอร์เซ็น ขอแค่เฝ้ารอจนกระแสกองทัพสัตว์ร้ายจบลง ราชันย์แมงกระพรุนกล่องก็จะจากไปเองอย่างแน่นอน
แต่ฉินเฟิงกลับไปยั่วยุมัน!
ทั้งหมดเลยคิดว่าฉินเฟิงคงจะบ้าไปแล้ว
“พรมโลกันต์!”
เพลิงโลกันต์ถล่มทับ กวาดระยะทางแผดเผากว่า 100 เมตร
อีกทั้งเปลวไฟนี้ ยังดูเหมือนจะไม่หวาดเกรงน้ำทะเลสักนิด มันลุกลามราวกับหนอไชกระดูก พริบตาเดียวท่วมทับทั้งตัวราชันย์แมงกระพรุน
ทว่าราชันย์แมงกระพรุนกลับไม่ส่งเสียงร้องแม้แต่แอะเดียว อีกทั้งท่าทีของมันยังเผยชัดถึงความโกรธ!
คลื่นขนาดใหญ่ถูกหนวดของมันยกสูงขึ้นจากผิวทะเล โถมซัดเข้าใส่ฉินเฟิง
พลังสมาธิของฉินเฟิงผสานเข้ากับม้าศึก ทะยานสู่ฟากฟ้า หลบเลี่ยงคลื่นมหึมา
“เทคนิคมังกรไฟ!”
ฉินเฟิงชูมือสูง มังกรเพลิงทรงอำนาจทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า ก่อนจะดิ่งกลับลงมาเป็นเส้นตรง โฉบลงน้ำเบื้องล่าง เปลี่ยนท้องทะเลให้กลายเป็นเดือดพล่าน
เมื่อน้ำกับความร้อนปะทะกัน ก็ก่อให้เกิดไอน้ำฟุ้งกระจาย และเนื่องจากน้ำที่ว่าอยู่รอบตัวราชันย์แมงกระพรุน ฉะนั้นไอที่ระเหยออกมาจึงแฝงไปด้วยพิษอันเข้มข้นของมัน
แต่ฉินเฟิงอาศัยความแข็งแกร่งทางกายในระดับสัตว์ประหลาด เข้าต่อกรอย่างไม่หวั่นเกรง
ขณะที่รอบบริเวณราชันย์แมงกระพรุน เริ่มฟุ้งไปด้วยไอพิษ
“ล่าถอย! รีบออกจากป้อมปราการกันเร็วเข้า!” หวังจื่อเฉาคำราม เขาสั่งการให้ทุกคนยอมทิ้งที่นี่โดยตรง ในขณะที่ไอพิษบางส่วนลอยมาตามสายลม บางคนสูดดมเข้าไปล้มลงโดยไม่ทันได้เอ่ยอะไรสักคำ
ไม่มีใครกล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป!
การต่อสู้ระดับสูงบนท้องทะเล ส่งผลพวงราวกับภัยพิบัติมาถึงมนุษย์บนบก!
“เผ่นเร็ว!”
“นี่น่ะหรือความสามารถของผู้ใช้อบิลิตี้ในเลเวล E ? จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“ไม่ใช่หรอก บางทีคนที่สามารถระเบิดพลังออกมาได้ถึงขนาดนั้น ในเลเวล E คงจะมีแค่ฉินเฟิงคนเดียว!”
เหล่าผู้ใช้พลังไม่ใยดีป้อมปราการอีกต่อไป ไม่สนไม่แคร์ว่าสัตว์ร้ายจะปีนป่ายขึ้นมา และบุกรุกเข้าไปในเมืองไห่หรือไม่
ในสมองของทั้งหมดคิดได้เพียงเรื่องเดียว นั่นคือวิ่งหนี!
อย่างไรก็ตาม ฝั่งสัตว์ทะเลก็ไม่ได้บุกขึ้นมาบนป้อมปราการเช่นกัน เพราะพวกมันทั้งหมดต่างก็ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างฉินเฟิงกับราชันย์แมงกระพรุน ไม่ถูกแผดเผา ก็ถูกสังหารลงด้วยพิษร้าย
พิษของแมงกระพรุนกล่องร้ายแรงมากเกินไป!
ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงมิได้หวาดกลัว ถึงการตอบโต้ของราชันย์แมงกระพรุนจะรุนแรง แต่มันไม่ใช่สัตว์ร้ายประเภทใช้ร่างกายเข้าปะทะ —แต่เป็นราชันย์ที่ครอบครองอบิลิตี้ธาตุน้ำที่ทรงพลัง
ฉินเฟิงครอบครองอบิลิตี้ไฟ ฉะนั้นย่อมเสียเปรียบและถูกข่มโดยมัน
แต่ราชันย์แมงกระพรุนกลับรู้สึกได้ ว่าเปลวไฟของฉินเฟิง แฝงบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ เพียงสัมผัสต้องก็คลัายถูกดูดซับพลังชีวิตไป
เพราะนี่มิใช่เปลวเพลิงธรรมดา แต่เป็นเพลิงโลกันต์!
เปลวเพลิงดังกล่าว ผสานไปด้วยรูนมืด สามารถเผาผลาญชีวิตศัตรูลงได้อย่างไร้สรรพเสียง
เปรี้ยง!
เสาน้ำยิงขึ้นฟ้า พุ่งเข้าหาฉินเฟิง
ฉินเฟิงกระตุ้นม้าศึก หลบเลี่ยงโดยเร็ว
เสาน้ำจากทะเลเบี่ยงวิถี ไล่ติดตามฉินเฟิง
ขณะเดียวกันท่ามกลางเสาน้ำ ยังก่อร่างเป็นรูปมังกรวารีขนาดใหญ่ ม้วนวนเข้าหาฉินเฟิง
ฉินเฟิงสั่งการมังกรไฟ ส่งสองมังกรเข้าพัวพันกัน
มังกรไฟถูกน้ำท่วมใส่จนมอดดับ มังกรน้ำเองก็ถูกความร้อนแผดเผาจนระเหยเป็นไอ หลงเหลือเพียงหมอกควัน
ขณะเดียวกัน สัตว์ร้ายทั้งหมดก็ถูกปกคลุมโดยหมอกควันที่ว่า พิษร้ายเข้าแทรกซึมร่างกายของพวกมัน ตกตายกันจนสิ้น
“ตาฉันบ้างล่ะ!”
ร่างของราชันย์แมงกระพรุนมีขนาดใหญ่โต ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เพียงขยับกายเบาๆ ก็สามารถซัดซากศพสัตว์ทะเลนับไม่ถ้วนจากระยะไกลที่อยู่ เกยไปถึงฝั่งได้
ขณะเดียว แม้ราชันย์แมงกระพรุนจะเทียบได้กับผู้ใช้อบิลิตี้ซึ่งมีร่างกายอ่อนแอ แต่บนตัวมันกลับไร้ซึ่งจุดอ่อน นั่นเพราะทั้งตัวมันปกคลุมไปด้วยน้ำ และต่อให้น้ำถูกฉีกทำลาย ก็สามารถกลับมารวมกันได้ใหม่ นอกจากนี้ยังฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว (อบิลิตี้น้ำมีความสามารถในการฟื้นฟูเหมือนหลี่เหยาเหยา)
ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงทราบดี ว่าสิ่งมีชีวิตรูปแบบนี้ ยังมีจุดอ่อนอยู่
นั่นคือแก่นอบิลิตี้ธาตุน้ำภายในร่างกายของมัน
ฉินเฟิงชี้นิ้วไปยังวัตถุโปร่งใสที่ดูคลุมเครือ คล้ายถูกอะไรบางอย่างห่อหุ้มเอาไว้
ปัจจุบันคลื่นยักษ์ยังคงซัดสาด อย่างไรก็ตาม เบื้องล่างมันลึกลงไปกว่า 7 – 8 เมตรตำแหน่งที่ฉินเฟิงชี้ตรงไป เกิดการสั่นสะเทือนคล้ายมีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว
“เทคนิคแมกมา!”
เทคนิคแมกมา มิใช่มีไว้ใช้เพียงเปลี่ยนแปลงพื้นดินเป็นลาวาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการสร้างอำนาจทำลายล้าง สั่งการให้มันปะทุได้อีกด้วย
จู่ๆพื้นใต้ทะเลก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ราวกับธารลาวาถูกควบคุมโดยฉินเฟิง สั่งการระเบิดได้ดั่งใจ
ตูม!
บังเกิดเสียงสะท้านสะเทือนเขย่าผืนปฐพี
เสาแสงสีแดงที่คล้ายกับเสาน้ำของราชันย์แมงกระพรุนก่อนหน้านี้ทะยานสูงขึ้น
—เป็นเสาลาวา!
ราวกับฉากภูเขาไฟระเบิด ลาวาเหลวพวยพุ่งขึ้น ทะยานสู่ท้องฟ้า
ในเวลาเดียวกัน แม้จะหลบอยู่เบื้องหลังโล่พลังงาน แต่ผู้ใช้อบิลิตี้ที่อยู่ห่างไกล ทั้งหมดกลับสามารถมองเห็นเสาลาวานี้ได้อย่างชัดเจน
ใจกลางเสาลาวาคือร่างของราชันย์แมงกระพรุน มันไม่ทันได้ตระเตรียมการใดๆเลย อีกอย่างร่างกายของมันคือน้ำ ฉะนั้นแทบจะไม่สามารถป้องกันสิ่งนี้ได้ พริบตานั้นลาวาก็ทะลุทะลวงร่างของมัน
“ส่งมาให้ฉัน!”
ฉินเฟิงเอื้อมมือออกไป แก่นอบิลิตี้น้ำกระตุกวูบบบ! ผลุบออกจากร่างราชันย์มาตกอยู่ในมือของฉินเฟิง
แก่นอบิลิตี้นี้ มีขนาดเท่ากับลูกบาสเกตบอล!
ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยรูนน้ำภายในมัน มูลค่าในตลาดอย่างน้อยต้องมากกว่า 3,000 ล้านอย่างแน่นอน
แม้สูญเสียแก่นอบิลิตี้ไป แต่ราชันย์แมงกระพรุนยังไม่ตายทันที มันยิ่งโกรธเกรี้ยวมากกว่าเดิม
บางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับพลาสติกใสนับไม่ถ้วน เริ่มซ้อนทับกัน เข้าโอบล้อมฉินเฟิง หมายจะห่อหุ้มตัวเขา และหมกพิษสังหารให้ตายเสีย!
ฉินเฟิงไม่รอให้ทำเช่นนั้น มีดกษัตริย์ครามถูกชักขึ้นมาในมือเขา วาดสะบัดออกไปทันใด
เห็นแค่เพียงคมกล้าที่ลุกไหม้ กวัดแกว่งไปมาคล้ายพายุเพลิง ตัดหั่นรอบทิศทาง
กายของแมงกระพรุนที่คิดห่อหุ้มตัวฉินเฟิง เมื่อถูกความร้อนตัดเข้าใส่ ก็แตกสลายลงทันที
ต่อมา เปลวไฟสีดำก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แผดเผาทุกสรรพสิ่งโดยรอบ
ทั้งร่างของราชันย์แมงกระพรุน สว่างไสวไปด้วยเปลวเพลิงของฉินเฟิง ถูกแผดเผาเป็นขี้เถ้าในพริบตา
โดยไม่ทันรู้ตัว น้ำทะเลก็ค่อยๆลดระดับลง เผยให้เห็นภาพของฉินเฟิงที่กำลังขี่ม้าศึก เหยียบย่ำอยู่เหนือศพของสัตว์ทะเลน้อยใหญ่
ฉากในปัจจุบัน เหมือนจะมีเพียงประโยคเดียวที่คู่ควรแก่การอธิบายมัน
‘เกลื่อนไปด้วยซากศพ!’
เนื่องจากการต่อสู้ระหว่างเขากับราชันย์แมงกระพรุน เหล่าสัตว์ทะเลที่ถูกซัดเข้าชายฝั่ง ทั้งหมดตายลงอย่างไร้สิ่งสรรพเสียง
บัดนี้ กระแสคลื่นสัตว์ร้ายระลอกล่าสุดได้จบลงแล้วโดยสิ้นเชิง และฉินเฟิงกลายเป็นผู้ครอบครองชัยชนะอันยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียว
รอบตัวเขาเกลื่อนไปด้วยศพสัตว์ร้าย พลังงานที่สายตาผู้คนมิอาจมองเห็น ถูกดูดซับอย่างบ้าคลั่งเข้าสู่ร่างกายของฉินเฟิง
เพียงพริบตาเดียว ในส่วนของพละกำลังกายก็ทะลวงขึ้นไปอีกขั้น
ก้าวขึ้นสู่เลเวล E8 !
ทุกคนกลายเป็นเงียบงัน
อุปกรณ์สื่อสารของทุกคนเชื่อมต่อกับเครือข่ายท้องถิ่น ฉะนั้นโดรนที่บินวนอยู่บนท้องฟ้า ย่อมสามารถจับภาพการต่อสู้ของฉินเฟิง ปัจจุบันทุกคนได้เห็นผลลัพธ์ของมัน
จู่ๆการรุกรานชายฝั่งของสัตว์ทะเลระลอกนี้ก็จบลงอย่างกระทันหัน!
ช่วงท้ายของการต่อสู้ ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่ามันสามารถจบลงด้วยน้ำมือของคนๆเดียว
อำนาจชนิดต่อต้านเจตจำนงสวรรค์นี่มันอะไรกัน?
“ฉินเฟิง … เขาคือผู้ว่าการสถานชุมชนเฟิงหลีใช่ไหม?”
“ฝีมือสมคำร่ำลือ!”
“ทางสถานชุมชนเฟิงหลียังต้อนรับคนอยู่รึเปล่า? หลังจากนี้ฉันจะไปขอสมัครเป็นพลเมืองของเฟิงหลี!”
“นั่นเขาสามารถยกระดับไปได้อีกขั้นแล้วงั้นหรอ?”
“ด้วยความแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ อีกทั้งความเร็วในการยกระดับ เกรงว่าขอเวลาอีกแค่ไม่กี่เดือน เขาคงสามารถก้าวขึ้นสู่เลเวล D ได้”
ระหว่างที่ผู้คนกำลังฮือฮา
วูซซซ!
ฉินเฟิงก็ควบม้าศึกกลับมายังป้อมปราการ ห่างออกไปหลังป้อมไม่กี่ร้อยเมตร จะพบกับผู้ใช้พลังที่ดูมีท่าทีอึดอัดเหลือแสน
หมอกดำของม้าศึกวูบไหว ไม่ช้าฉินเฟิงก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าพวกเขา แม้จะไม่ทราบว่าฉินเฟิงต้องการตรงไปที่ใด แต่ฝูงชนก็เปิดทางให้เขาแต่โดยดี