โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 308
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.308 – ฉินเฟิงชมละคร
ฉินเฟิงได้รับกุญแจมิติจำนวนมากมาจากเกาะจระเข้มังกร กุญแจมิติมีพื้นที่มิติกว้างขวางกว่า 100 ลูกบาศก์เมตร ฉะนั้น แม้ลำตัวของราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำจะใหญ่โต แต่ก็ยังพอยัดเข้าไปได้!
ผู้คนที่เดิมซ่อนอยู่ในเงามืด และตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ฉกฉวยกำไรจากวัตถุดิบราชันย์งู กลายเป็นโง่งม
พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าฉินเฟิงจะครอบครองพื้นที่มิติขนาดใหญ่เช่นนี้ เขาไม่ได้ตัดแบ่งมันด้วยซ้ำ แค่วาดมือแล้วรวบเอาลำตัวของงูเหลือมเกล็ดทองคำทั้งหมดเข้าไปโดยตรง
แม้จะตะลึงกับฉากตรงหน้า แต่พวกเขาก็ฉุกคิดได้ทันทีว่าคงพลาดโอกาสนี้แล้ว ฉะนั้นหมุนตัวกลับไปอีกทาง หันไปไล่ล่าส่วนหัวราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำแทน
ช่วงเวลานี้ ราชันย์งูเหลือมกำลังหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง มันอยู่ห่างจากไซปิงแค่ไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น!
ไซปิงคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D3 พละกำลังไม่อ่อนแอ ปัจจุบันราชันย์งูหนีตรงมาทางเขา แม้ร่างของมันจะใหญ่โต แต่ก็ไม่มีส่วนครึ่งหลัง ในมุมมองของไซปิง จะอย่างไรมันต้องตายอย่างแน่นอน นี่คือการดิ้นรนเฮือกสุดท้าย
“ตายซะ!”
ไซปิงอัดฉีดกำลังภายในพวยพุ่งไปทั้งตัว ระเบิดปราณกำลังภายในออกมา ทะยานออกไป ขวานยักษ์ในมือเขาเหวี่ยงสับลงกลางหัวของราชันย์งู
เมื่อถูกหนุนเสริมด้วยกำลังภายใน อำนาจของขวานยักษ์ก็ทวีคูณเป็นสองเท่า มันตอกลงบนศีรษะของงูเหลือมเกล็ดทองคำอย่างดุร้าย
กึ้งงงง!
ลำขวานบังเกิดเสียงหนักทึบ ไซปิงรู้สึกได้ว่าขวานยักษ์ของเขาฟาดลงตรงหัวราชันย์งูแล้วแน่ๆ มันสับลงอย่างแม่นยำ แต่อำนาจของเขากลับไม่ถูกปลดปล่อยออกมาความเร็วของราชันย์งูไม่ลดลงเลย
พลังมหาศาลจากในมือสู่ขวาน กลับไม่อาจหยุดศัตรูได้เลย
ตูม!
หัวยักษ์ของงูเหลือมเกล็ดทองคำปะทะกับกำลังภายในของไซปิง เกิดเสียงระเบิดอู้อี้
ไซปิงถูกแรงเหวี่ยงปลิวกระเด็นออกไปทันที
เหนือศีรษะของงู ปรากฏเพียงร่องรอยเล็กๆแค่ 10 ซม.เท่านั้น แต่ยามเมื่ออยู่ภายใต้เกล็ดสีทองที่สาดแสงไสว มันไม่อาจมองเห็น —การโจมตีสุดแรงเกิดของไซปิง ไม่อาจคุกคามราชันย์สัตว์ร้ายได้เลย
นี่คือสิ่งที่ไซปิงไม่เคยคิดฝันมาก่อน
ฟิ้วววว
ไซปิงลอยคว้างกลางอากาศไปไกลกว่า 10 เมตร ปราณกำลังภายในถูกบดขยี้จนสิ้น ร่างม้วนคว่ำตกใส่ต้นไม้ใหญ่ จึงสามารถแรงเหวี่ยงลง เลือดกระอักจากปากเป็นสาย
ราชันย์งูไม่มีเวลาสนใจไซปิง เพราะมันสัมผัสได้ถึงอีกหลายเจตนาฆ่าที่ไล่ตามมาจากเบื้องหลัง
อย่างไรก็ตาม ในมุมมืด คนอื่นๆได้เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว พวกเขากระจายกันเข้าโอบล้อมราชันย์งูเกล็ดทองคำในพริบตาเดียว
กว่าสี่คนกระโดดออกมา
มีอยู่ 2 คนที่ฉินเฟิงรู้จัก ส่วนอีก 2 เขาไม่รู้ แต่มองไปยังหนึ่งในนั้นที่ถืออาวุธหนัก ขณะที่อีกคนถือแส้ ก็พอจะคาดเดาสถานะของพวกเขาได้
อาวุธหนักของตระกูลตี๋มีชื่อเสียงมาก ชายคนนี้คือทายาทสายตรงของตระกูลตี๋ ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D2 —ตี๋ซิน
อีกหนึ่งชิ้นเป็นอาวุธพิเศษของตระกูลโหว แต่เนื่องจากเขาเป็นผู้ชาย เลยมิได้ใช้แส้เหมือนกับโหวหยางเจียว แต่ใช้โซ่เหล็กแทน เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D1 —โหวหยางเฉิง
อีกสองคนฉินเฟิงรู้จักดี เป็นเหมิงหลินผู้นำเมืองนุ่ยเหมิง และเล่ยเฉินจากเมืองไห่
สี่คนทะยานเข้าโจมตีจากสี่ทิศทาง
ฝีเท้าของฉินเฟิงชะลอลง มาหยุดยืนอยู่ข้างๆไซปิง
“เหอะ!”
ฉินเฟิงส่งเสียงเย็นชา เหลือบมองสภาพดูไม่ได้ของไซปิง ก่อนเบนกลับไปมองสนามรบ
ไซปิงตั้งใจจะจะลุกขึ้นอธิบาย แต่สุดท้ายก็ละทิ้งความคิดนี้ไป เพราะยังไงซะการกระทำของเขามันไม่บริสุทธิ์ใจ ที่ฉินเฟิงทำทีฮึดฮัดใส่ ถือว่าสมควรแล้ว
อีกสี่คนกำลังต่อสู้กับราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำ พัวพันกับมันไม่ยอมถอย
ราชันย์งูแต่เดิมคิดหนีไป แต่ไม่นานมันก็ค้นพบว่า ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ เมื่อเทียบกับฉินเฟิงแล้ว … ช่างอ่อนแอจนน่าใจหาย!
ฉินเฟิงครอบครองร่างกายระดับราชันย์สัตว์ร้าย กล่าวได้ว่าด้อยกว่าราชันย์งูเพียงเล็กน้อย ดังนั้นสามารถต่อสู้อย่างหนักกับราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำโดยไม่เสียเปรียบ
กำลังภายในของฉินเฟิงเองก็มากกว่าคนอื่นๆหลายเท่านัก สามารถทุ่มใช้ไปโดยไม่ต้องคิด อีกอย่างอัตราการฟื้นฟูของเขาก็รวดเร็วเช่นกัน แต่ละการโจมตีของราชันย์ที่โคตรจะรุนแรงเลยไม่ค่อยส่งผลอะไร
ในทางตรงกันข้าม 4 คนที่รวมพลังโถมโจมตีปิดล้อมอยู่ขณะนี้ เริ่มปรากฏอาการบาดเจ็บที่คล้ายคลึงกับไซปิงบ้างแล้ว แม้สองคนนั้นจะเป็นตระกูลผู้ใช้วรยุทธโบราณชั้นสูง ครอบครองร่างกายค่อนข้างจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บ
เมื่อไม่สามารถคุกคามราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำได้ ผลที่ตามมาก็เลยกลายเป็นสร้างความรำคานให้แก่มันจนเริ่มโกรธเกรี้ยว
ตอนแรกที่รู้ว่าถูกรุมโจมตี มันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ทว่าเมื่อถูกโจมตีจริงๆ กลับรู้สึกเหมือนถูกข่วนชวนให้จั๊กจี้ ความหวาดกลัวก็เลือนหาย สำแดงออกมาเพียงความโกรธเกรี้ยว!
—ราชันย์สัตว์ร้ายผู้มากไปด้วยศักดิ์ศรี มิใช่สิ่งที่มดหรือแมลงจะสามารถรังแกได้!
จู่ๆทั้งร่างของราชันย์งูก็สาดไปด้วยแสงสีทอง พรั่งพราวเป็นประกายหาที่ใดเปรียบ แม้ผู้ใช้วรยุทธโบราณที่รุมมันจะปิดตาลง แต่แสงก็ยังเสียดเข้ามา ชวนให้วิงเวียน
ซี่! รังสีศักดิ์สิทธิ์สาดไสว กวาดเข้าหาเหมิงหลินแห่งเมืองนุ่ยเหมิง
เหมิงหลินตระหนักได้ถึงอันตราย เขาชะงักไปชั่วขณะ เร่งตั้งท่าป้องกัน
แสงสีทองของราชันย์งูโถมทับเข้าใส่โล่ปราณกำลังภายใน เกิดเสียงระเบิดดังปัง! เหมิงหลินปลิวขึ้นไปบนฟ้า
ไม่รั้งรอใดๆ ราชันย์งูฉกเข้าหาตี๋ซินต่อทันที กระแทกหัวส่งเขากระเด็นลอยฟ้าออกไปอีกหนึ่ง งูเหลือมเลื้อยไปข้างหน้า เตรียมบดขยี้ศัตรูต่อ ตี๋เล่ยวุ่นอยู่กับการปัดป้องด้วยอาวุธของเขา เข้าต้านทานกับร่างใหญ่ของงูเหลือม
สีหน้าของตี๋ซินยิ่งนานยิ่งแดงก่ำ อาวุธเหล็กกล้ายิ่งนานยิ่งโค้งงอจนไม่อาจใช้การ!
“ขอพี่หยางโปรดช่วยเหลือด้วย!” ตี๋ซินตะโกนด้วยความตื่นตระหนก
โหวหยางเฉิง กวัดแกว่งโซ่เหล็กอย่างเร่งร้อน บังคับมันเข้าพัวพันกับราชันย์งูเหลือม พยายามลากศัตรูออกมาอีกทาง แต่กล้ามเนื้ออีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลย
“ตัดสายฟ้า!”
เล่ยเฉินฉวยโอกาสนี้ ดวงตาของเขาสาดประกายสดใส โฉบกายมาเบื้องหลังงูเหลือมเกล็ดทองคำ โจมตีเข้าใส่ตำแหน่งที่เคยถูกตัดออกโดยฉินเฟิง ซึ่งปัจจุบันชุ่มไปด้วยเลือดเนื้อ ไร้ซึ่งเกล็ดสีทองคอยปกป้อง
คมมีดสายฟ้าในมือเขาห่อหุ้มไปด้วยกำลังภายใน แทงทะลุเข้าสู่เนื้อหนังของราชันย์ทันใด
ในที่สุดกระบวนท่านี้ก็สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ราชันย์งูได้เสียที!
ราชันย์งูหวีดร้องโหยหวน ลำตัวของมันกวัดแกว่งไปมา อาวุธของตี๋ซินหลุดออกไป เกิดประกายระหว่างเหล็กปะทะเหล็ก
จังหวะที่เขาเสียสมาธิ ก็ถูกร่างของงูยักษ์กดทับลง
“อ๊าาา!” ตี๋ซินร้องลั่น
แม้การบดขยี้นี้จะไม่โดนเต็มๆทั้งตัว แต่สองขาของตี๋ซินถูกกดทับโดยตรง ด้วยกำลังภายในที่คอยปกป้องร่างกาย ช่วยรับประกันได้ว่าสองขาของเขากระดูกจะไม่หักลง แต่การโจมตีนี้สร้างความเจ็บปวดมากเกินไป
ราชันย์งูสะบัดหัว โหวหยางเฉิงซึ่งแต่เดิมกำลังใช้โซ่เหล็กรัดตัวงูไว้ถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศ กระทั่งโซ่เหล็กก็หลุดจากมือ
ราชันย์งูหันมาไล่ตามเล่ยเฉินแทน
เล่ยเฉินเห็นแล้วว่าราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำดุร้ายแค่ไหน เขาไม่กล้าที่จะสู้ เร่งฉีกไปอีกทาง
จากสี่คนที่เคยรุมล้อม บัดนี้กว่า 3 คนถูกกวาดออกไปพ้นทาง เล่ยเฉินเพียงลำพังย่อมไม่สู้ หนีไปรอบๆอย่างลนลาน
แต่แล้วเล่ยเฉินก็มองเห็นฉินเฟิง พอลองย้อนคิดไปถึงความแข็งแกร่งของฉินเฟิงเมื่อช่วงเช้า เขาก็พุ่งมายังทิศทางของฉินเฟิงทันที
“ผู้ว่าการฉิน เร็วเข้า ทุกคนต้องร่วมมือกันสู้ ถึงจะฆ่าสัตว์ร้ายตัวนี้ได้!” เล่ยเฉินร้องตะโกนเสียงดัง
ฉินเฟิงเพียงแสยะยิ้มและกล่าว “นั่นไม่ดีหรอก ผมต้องปล่อยให้พวกคุณสู้กันเองอีกสักพักหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงลำบากเวลาแบ่งสินสงครามกันในภายหลัง”
“ฟ่อว … ” ราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำ เมื่อเห็นฉินเฟิงมันก็ชะงักไป ลำตัวหดถอยโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งตอนนี้มันก็ยังรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากการถูกตัดหาง
มันเกลียดฉินเฟิง … หวาดกลัวเขา
น่ากลัวว่าหลังจากจบการต่อสู้ในครั้งนี้ ความแข็งแกร่งของราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำอาจร่วงหล่นลงมาถึงแค่เลเวล D ธรรมดา
เล่ยเฉินเมื่อเห็นว่าราชันย์งูไม่ได้ไล่ตามเขาอีกต่อไป ก็ถอนหายใจโล่งอก ทว่าก็ยังไม่รู้สึกวางใจ
“ผู้ว่าการฉิน คงจะเร็วไปหน่อยถ้าพวกเรายกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ทำไมไม่ช่วยกันสังหารราชันย์งูเหลือมลงก่อนเล่า” เล่ยเฉินพยายามโน้มน้าวให้ฉินเฟิงก้าวออกมาต่อสู้
ฉินเฟิงไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไร เขาเพียงเอ่ยปากกล่าว “ผมเห็นว่าทุกคนกระตือรือร้นกันมาก ก็เล่นรอให้พวกคุณเล่นกันให้หนำใจก่อน เพราะการแบ่งสินสงครามมันต้องยุติธรรมตามแรงที่ลงไปกับมัน จะให้ผมลงมือก็ได้ แต่คุณคิดว่าตัวเองทุ่มเทมากพอรึยัง จะยอมแพ้แล้วใช่ไหม ถึงเวลาได้วัตถุดิบน้อยคงไม่บ่นทีหลังหรอกนะ?”