โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 418
3/5
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.418 – ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ผู้ใช้พลังเลเวล B นี่ช่างแข็งแกร่งซะจริง!
แต่หากจะให้กล่าวว่าเลเวล B เพียงหนึ่งสามารถรับมือกับศัตรูนับหมื่นได้มันคงจะเกินไปหน่อย –ถ้าเป็นหนึ่งต่อร้อยล่ะก็สบายบรื๋อ
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า บนน่านฟ้า มิใช่พวกทหารกริมทุกตนจะรุมโจมตีพวกเขาเป็นจุดเดียว ทั้งหมดยังต้องคอยรับมือกับทางอื่นอยู่
อีกอย่างพวกมันเป็นเลเวล C ดังนั้นแทบจะไม่อาจทำร้ายเลเวล B ได้เลย
เผ่ากริมเริ่มตื่นตระหนกอีกครั้ง
อาวุธของพวกมันได้รับความเสียหายจากกแรงระเบิดหลายครั้ง และด้วยกรงเล็บเพียงอย่างเดียว ไม่พอที่จะสังหารเลเวล B ทั้งสามคนนี้ได้
“ปล้น! รีบปล้นศิลามิติจากพวกอ่อนแอเร็วเข้า!”
“กระจายกำลังกันออกไป พยายามอย่าเผชิญหน้ากับพวกตัวอันตรายทั้งสาม”
“ส่วนคนอื่นๆ ถ้าเจอก็ฆ่าทิ้งให้หมด!”
พวกมันตัดสินใจทิ้งสหายเอาไว้เบื้องหลังราวๆ 100 ตน เพื่อตรึงเลเวล B เอาไว้ ส่วนที่เหลือต่างมุ่งหน้าลงไปในเมือง
ทหารกริมตนหนึ่งหยั่งเท้าลงบนท้องถนน วินาทีถัดมา ก้อนหินยักษ์พลันร่วงตกจากฟ้า กระแทกเข้าใส่หัวมัน รอจนกระทั่งทหารกริมลุกขึ้น ผู้ใช้วรยุทธโบราณกลุ่มหนึ่งปรากฏออกมาจากที่ใดไม่ทราบ ระดมทั้งเท้าทั้งหมัดเข้าใส่ไม่ยั้ง
และหนึ่งในนั้น มีการดำรงอยู่ที่ครอบครองพละกำลังอันแข็งแกร่งผสมโรงอยู่ด้วย
เพียงไม่กี่ลมหายใจ ทหารกริมตนนั้นก็ถูกรุมถล่มจนตาย
ไม่นาน ทหารกริมนับหลายสิบตัวเริ่มโฉบตามลงมา หาเป้าหมายสังหาร
เดิมที ภายในสถานชุมชนที่ 3 มีผู้ใช้พลังเลเวล C อยู่ทั้งสิ้น 300 คน และเลเวล D อีกกว่า 5,000 คน แต่เนื่องจากการซุ่มโจมตีนอกเมืองล้มเหลว หลังจากถูกสังหารหมู่ไป ผลปรากฏว่ามีเลเวล D กว่า 1,000 คนต้องจบชีวิตลง
อย่างไรก็ตาม ต่อให้ผู้ใช้พลังเหล่านั้นประจำการอยู่ในเมือง ผลลัพธ์คงไม่แตกต่างกัน กลายเป็นเป้าให้พวกมันสังหารอยู่ดี
แต่ในครั้งนี้ จุดเดียวที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ มีฉินเฟิงอยู่ที่นี่!
และฉินเฟิงมิใช่เลเวล D ธรรมดา!
กริมนับสิบตัวกำลังบินอยู่บนที่สูง ไล่สังเกตหามนุษย์ หมายจะสังหารและปล้นชิงอุปกรณ์รูนมิติจากพวกเขา
ฉินเฟิงกระโจนออกมาจากที่ซ่อนทันใด
“โอบกอดทมิฬ!”
“ลำแสงแห่งความมืด!”
เพียงพริบตา ทหารกริมเหล่านั้น แทบจะสูญเสียประสิทธิภาพในการรบทั้งหมดไป ร่วงหล่นลงบนถนน
จากในที่ซ่อน กองทหารรับจ้างเฟิงหลี กระโจนเข้ารุมขย้ำทันที
ฉากนี้ราวกับลูกแกะถูกเชือด ทั้งสับทั้งฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อันที่จริงแล้ว ฉินเฟิงกับเผ่ากริมได้เผชิญหน้า ต่อสู้กันอยู่หลายครั้ง แต่ในทุกครั้ง ทหารกริมที่เห็นหน้าฉินเฟิง ทั้งหมดล้วนไม่รอดชีวิตกลับไป
ดังนั้นพวกมันเลยยังไม่ทราบ ว่าเป็นฉินเฟิงนี่เอง ที่คือปีศาจจำแลง คอยเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกมันในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ดังนั้น ยามแรกเมื่อสังเกตเห็นฉินเฟิง ในสมองของพวกมันเลยผุดคำว่า ‘เล็กจ้อยและอ่อนแอ’ ขึ้นมา
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่สหายถูกผู้ใช้พลังเข้าเข่นฆ่า นี่เลยยิ่งเป็นการดึงดูดทหารกริมตนอื่นๆให้เข้ามายังถนนสายนี้ เพื่อล้างแค้น
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้พลังที่บาดเจ็บและกำลังหลบหนี เมื่อเห็นพวกฉินเฟิง ก็เข้ามาขอพึ่งพิง
โดยไม่ทันตั้งตัว จำนวนในกองกำลังของฉินเฟิงเริ่มเพิ่มมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
พวกเขาประสานงาน ต่อสู้สังหารทหารกริมได้เป็นอย่างดี
เสียงฆ่าฟันดังอื้ออึงไปถึงสรวงสวรรค์!
แต่ที่ฉินเฟิงอยู่ในก็แค่จุดเดียวในชุมชน เวลานี้ ยิ่งสงครามดำเนินไปเนิ่นนาน จำนวนมนุษย์ก็ยิ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆ
ผู้ใช้พลังคนใดที่ถูกพวกกริมจับตัวได้ครั้งหนึ่ง จะถูกจับแหวกอก กระชากหัวใจออกมาอย่างไม่ละเว้น
ภายในสถานชุมชน กลิ่นอายโลหิตฟุ้งกระจายออกไปทั่ว
ช่างเป็นสงครามที่น่าสลดและน่าหวาดกลัว!
“ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!”
ข้อความฉุกเฉินถูกส่งมายังอุปกรณ์สื่อสารของทุกคน
“หัวหน้า ท่านนายพลส่งคำสั่งลงมา ว่าให้ทุกคนถอย ไปหลบในสถานที่ปลอดภัย” เฉินเซี่ยงก้มมองอุปกรณ์สื่อสารและกล่าว
นี่คือข้อความจากซื่อฉิงโดยตรง
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเผ่ากริมมีจำนวนมากเกินไป!
แม้จะถูกระเบิดโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่ของฉินเฟิง และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แต่ก็มิอาจหยุดการรุกรานของพวกมันได้ ปัจจุบัน นับจากช่วงเริ่มสงคราม เวลาได้ผ่านพ้นไปกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว กองทัพกริมตกตายลงทั้งสิ้น 1,000 ตน แต่ส่วนใหญ่ตายลงภายใต้น้ำมือของผู้ใช้พลังเลเวล B
ในขณะที่เลเวล D ฝั่งมนุษย์ จบชีวิตลงไปแล้วมากกว่า 3,000 คน!
นี่ถือเป็นตัวเลขที่น่าหวาดกลัวมาก
ประมาณการคร่าวๆตามสถานการณ์ คาดว่าภายในเวลาอีกสักชั่วโมง ผู้ใช้พลังเลเวล D ทั้งหมดคงจบชีวิตลง!
นั่นเท่ากับหายนะของพันธมิตรมนุษยชาติ
“พวกเราถอย!”
ฉินเฟิงตะโกนสั่งการ
สมาชิกกองทหารรับจ้างเฟิงหลี เตรียมตัวพร้อมอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาล่าถอยอย่างเป็นระเบียบ
ส่วนเหล่าเลเวล D ที่ได้รับบาดเจ็บ และสูญเสียผู้นำ ก็ล่าถอยตามคนของเฟิงหลีไป
เผ่ากริมแน่นอนย่อมพยายามจะไล่ตาม ทว่าเทคนิคมังกรไฟของฉินเฟิงปะทุขึ้นทันใด
“มีฉันอยู่ที่นี่ พวกแกยังคิดไปทำร้ายคนอื่นอยู่อีกหรอ!”
มังกรไฟกู่ก้องคำราม ร่ายระบำบนฟากฟ้า ปกคลุมทหารกริมที่คิดลงมือเอาไว้โดยตรง ก่อนลากตัวออกไปและ–
ตูม!
ส่งร่างที่ลุกไหม้ของทหารกริม ลอยไปจูบกับกำแพงตึกหลังหนึ่ง
“ฆ่าเขาซะ!”
ทหารกริมหลายตนเบนความสนใจมายังฉินเฟิง ถลึงมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ แทบอดรนทนไม่ไหวที่จะฉีกฉินเฟิงเป็นชิ้นๆ
อย่างไรก็ตาม พวกมันย่อมไม่มีทางสมหวัง!
แม้ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง เทียบกับพวกมันแล้ว จะเป็นเพียงตัวตนเล็กจ้อยและอ่อนแอ แต่ฉินเฟิงดันครอบครองอบิลิตี้มืด ที่มีความสามารถลดทอนความแข็งแกร่งของศัตรูลง ดังนั้นเลยตาลปัตรเป็นฝ่ายตนเสียเองที่ถูกฉินเฟิงคร่าชีวิตไป
“เสนอหน้านัก งั้นก็ตายซะ!”
มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิง กรีดผ่านอากาศ สะบั้นกริมไปอีกหนึ่งหัว ขณะเดียวกันก็เริ่มล่าถอยตามสมาชิกคนอื่นๆไป
คนของกองทหารรับจ้างเฟิงหลี ทยอยกันล่าถอยลงไปยังลานจอดรถใต้ดิน
“พวกคุณลงไปก่อน นับจำนวนผู้บาดเจ็บด้วย และซ่อนตัวให้ดี!” ฉินเฟิงตะโกน
“รับทราบ!”
ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ
ความไว้วางใจของพวกเขาที่มีต่อฉินเฟิง อาจเรียกได้ว่าเชื่อมั่นจนดวงตามืดมัว พวกเขาจะไม่มีทางปฏิเสธคำสั่งของฉินเฟิง
กว่า 200 คน เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในฐานป้องกันในลานจอดรถใต้ดิน
มีเฉพาะฉินเฟิงกับไป๋หลี ที่ยังเหลืออยู่บนชั้นลานจอดรถ คอยทานรับการบุกโจมตีของเผ่ากริม
“พรมโลกันต์!”
ทะเลเพลิงปะทุโหม ปิดทางเข้าเอาไว้ทันที เปลวไฟก่อตัวเป็นกำแพงกั้น ไม่ยินยอมให้ผู้ใดฝ่าเข้ามา
ฉินเฟิงและไป๋หลีคอยเฝ้าปกป้องสถานที่แห่งนี้
หน้าทางเข้าโรงจอดรถชั้นใต้ดิน ศพยิ่งมายิ่งทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มจากหนึ่ง … เป็นสอง และจากสอง … เป็นสิบ และจากสิบ … เป็นร้อย!
การต่อสู้ดำเนินไปราวกับไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด
จนกระทั่งไม่มีทหารกริมตนใดกล้ายืนหยัดอยู่เบื้องหน้าฉินเฟิง
บางทีพวกมันอาจจะหวาดกลัว!
คลิก คลิก คลิก …. ฟู่ ….
ไม่ไกลจากฉินเฟิง เสียงกระหน่ำกระสุนที่ดั่งสนั่นตลอดมา ในที่สุดก็หยุดลง
ช่วงเวลานี้การต่อสู้ชุลมุนเป็นอย่างมาก และเกรงว่าเจ้าของเสียงกระสุนปืนที่ขาดห้วงไปนี้ จะเหลือเพียงคนเดียว และบ่งบอกว่าเขากำลังถึงวิกฤตแล้ว!
ณ เส้นขอบฟ้า แสงอรุณรุ่งเริ่มปรากฏขึ้น
โดยไม่มีใครทันรู้ตัว เวลาได้ผ่านพ้นไปกว่า 4 ชั่วโมงแล้ว!
“ไสหัวไปให้พ้น!”
บนยอดตึกสูง เสียงคำรามเกรี้ยวกราดดังขึ้น ผสานไปกับพลังสมาธิ ก่อให้เกิดเสียงอึกทึก
–นี่คือคลื่นอัดอากาศพลังสมาธิ!
เป็นหวังโจว
หวังโจวไม่มีกระสุนเหลืออีกแล้ว
และที่น่าห่วงยิ่งกว่าก็คือ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของมือปืน ไม่ได้สูงส่งอะไรมากมายนัก
การต่อสู้ข้ามคืน เลเวล B คนแรกที่ถึงขีดจำกัดก็คือหวังโจว
ขณะนี้ ทหารกริมราวกับเห็นประกายแสงแห่งความหวัง พวกมันถลาเข้าโจมตีหวังโจวอย่างบ้าคลั่ง
น่าเสียดายจริงๆที่ขาดกระสุนไปนิดเดียว เพราะอันที่จริง รอบตัวหวังโจว เหลือทหารกริมอยู่อีกแค่ 50 ตัวเท่านั้น
หวังโจวตัดสินใจกระโดดจากตึกสูง ลงไปยังอีกตึกหนึ่ง ระหว่างทางก็โจมตีไปในตัว
แต่สุดท้าย เขาก็พบว่าตนถูกต้อนจนมุม
แต่ในตอนนั้นเอง กลิ่นอายอันร้อนแรงพลันหยดย้อยจากฟากฟ้า
“เทคนิคมังกรไฟ!”
“โฮกกกกกก”
มังกรไฟมหึมากู่ก้องคำราม อ้าปากกวาดกลืนทหารกริมเหล่านั้นลงไป
–เป็นฝีมือของฉินเฟิง!
หากเทียบกับคนอื่นๆแล้ว ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของฉินเฟิงไม่ได้ลดทอนลงเลย
นั่นเพราะพลังพิเศษดูดกลืนของเขา ที่ดูดซับความตายจากศัตรู มาเติมเต็มพลังงานให้แก่ตนเอง
ยิ่งฉินเฟิงต่อสู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเปี่ยมไปด้วยพลังมากขึ้นเท่านั้น!
“ตายซะ!”
มีดกษัตริย์ครามโฉบเข้าเฉือนศีรษะทหารกริม
ลำแสงแห่งความมืดหลากเส้นปะทุออกมา กริมหลายตัวล้มลงกับพื้น มือไม้อ่อนแรงอย่างกะทันหัน
“ระเบิดแมกมา!”
ตูมมม!
เพลิงหนืดลุกฮือ โถมจากพื้นดินปกคลุมทหารกริมเอาไว้ทันที
เพียงการปรากฏกายของฉินเฟิง ในระยะเวลาสั้นๆแค่หนึ่งนาที และอีกสามกระบวนท่า–
–เขาสามารถสังหารศัตรูไปได้กว่า 7 ตน!