โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 421
2/5
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.421 – ตัวเชื่อมจิตสำนึก
ตัวเลขนี้ เกรงว่าต่อให้เป็นเลเวล B ก็ยังรู้สึกอิจฉา
โชคยังดี ที่เลเวล B ทั้งสามคนจากไปแล้ว หากยังรั้งอยู่ น่ากลัวว่าสถิติของฉินเฟิงจะไม่ต่างไปจากการตบหน้าพวกเขา
“เอาล่ะทุกคน ผมขอตัวก่อน” ฉินเฟิงกล่าว
ฝูงชนแยกเป็นสองฟากฝั่งโดยอัตโนมัติ เปิดทางให้ฉินเฟิงเดินจากไป
แม้จะตกอยู่ภายใต้การจับจ้องของเลเวล C แต่เลเวล D คนนี้กลับยังคงสงบเยือกเย็น ต้องขอชมว่าจิตใจของฉินเฟิงมั่นคงหนักแน่นจริงๆ
แน่นอน พวกเขาย่อมไม่ทราบ ว่าจริงๆแล้วฉินเฟิงคือผู้กลับมาเกิดใหม่!
กองทหารรับจ้างเฟิงหลี เดินตามฉินเฟิงกลับไปยังสถานที่ที่พวกเขาต่อสู้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะยังมีเลือดเปรอะอยู่บนร่างกาย แต่พวกเขาก็ไม่ใส่ใจ มองหาบ้านที่ยังพออยู่ได้ตามริมถนน แล้วเข้าไปพักผ่อน
เป็นธรรมดาที่หลังสงคราม สภาพความเป็นอยู่จะไม่หรูหราเท่ากับก่อนสงคราม แต่ก็ไม่มีใครบ่นอะไร
ตรงกันข้าม ในจิตวิญญาณกลับรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง!
เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องแยกกันตรวจสอบทีละคน เนื่องจากหลังจัดตั้งทหารรับจ้างแล้ว ผลงานทั้งหมดจะถูกคำนวณในรูปแบบกองกำลัง
แม้ว่าในที่นี้ คนที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุด จะเป็นฉินเฟิงก็ตาม
“ทุกคนจะได้รับเงินรางวัลคนละ 30,000 ล้าน สำหรับพลปืนได้รางวัลอัดฉีดเพิ่มอีก 10,000 ล้าน ส่วนรองหัวหน้าจะได้รับ 50,000 ล้าน มีใครคัดค้านอะไรไหม?”
ฉินเฟิงเอ่ยถาม
คนอื่นๆจะกล้าคัดค้านได้อย่างไร? เวลานี้พวกเขาตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวอยู่แล้ว!
–เงินกว่า 30,000 ล้าน!! แลกกับการต่อสู้เสี่ยงชีวิตในคืนเดียว นี่มันมาก .. มากเกินพอแล้ว!
เงินเริ่มถูกโอนออกไปทีละรายการ สมาชิกทหารรับจ้างต่างเผยรอยยิ้มกว้างแทบอดรนทนไม่ไหวที่จะร้องตะโกนออกมาดังๆ
เพราะตามปกติ ผู้ใช้พลังเลเวล D ทั่วๆไป จำต้องใช้เวลานับสิบปี ถึงจะสามารถสะสมเงินได้ถึง 10,000 ล้าน
…
สามวันถัดมา ในสถานชุมชนหลงฉวนที่ 3 ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกเลย มันสงบไร้เรื่องราว ราวกับเผ่ากริมได้หายตัวไปในอากาศที่บางเบา กลุ่มเลเวล B ทั้งสามคนใช่ว่าจะอยู่เฉย พวกเขาเองก็ออกตามหาเช่นกัน แต่ไม่อาจพบร่องรอยใดๆ ดังนั้นซื่อฉิงและหวังโจวจึงถูกเรียกตัวกลับไป คนเดียวที่ยังเหลือ คือกวงเว่ย
แต่ก่อนจะจากไป หวังโจวได้ติดต่อหาฉินเฟิง
“คำขอขึ้นเป็นผู้การรัฐของนาย ฉันเสนอให้ทางเบื้องบนแล้ว แต่ตอนนี้นายเป็นได้แค่รักษาการชั่วคราว ต้องรอให้ขึ้นถึงเลเวล C ซะก่อน ถึงจะได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ”
“ขอบคุณนายพลหวัง!”
“ด้วยความยินดี อ้อจริงสิ ในคืนนี้ จะมีคนไปส่งตัวเชื่อมจิตสำนึกให้แก่นาย พร้อมสอนวิธีใช้งานเครือข่ายในพันธมิตรมนุษย์ ที่นั่นมีทรัพย์สมบัติมากมายที่นายไม่เคยรู้ หรือเคยเห็น ถ้าคว้าจับดีๆอาจได้ประโยชน์จากมัน น่าจะช่วยให้นายยกระดับได้เร็วขึ้น”
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
“เอาล่ะ งั้นฉันขอตัวก่อน”
หวังโจวหายจากหน้าจอสนทนา ฉินเฟิงวางสายไป
กลางดึก มีคนเดินทางมายังโรงแรมที่พักของฉินเฟิงจริงๆ เธอเป็นสาวงามที่ไว้ผมยาวสลวย และมีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล D
กลุ่มผู้ใช้พลังเลเวล D ประจำการอยู่ในสถานชุมชนหลงฉวนที่ 3 มาสักพักแล้ว หลายคนเมื่อเห็นเธอ เลยอดน้ำลายสอไม่ได้
“ขอโทษที ฉินเฟิงอยู่ที่นี่หรือเปล่า ฉันชื่อว่าหลี่จื่อซาน เป็นตัวแทนพิเศษของพันธมิตรมนุษย์ เดินทางมามอบตัวเชื่อมจิตสำนึกให้แก่เขา”
หลี่จื่อซานหยิบบัตรประจำตัวของเธอ แสดงให้ฝูงชน เปิดเผยตนว่ามิได้มาร้าย
แน่นอน ว่าต่อให้เธอมาด้วยเจตนาร้าย แต่สมาชิกของทหารรับจ้างเฟิงหลี ไม่มีใครคิดว่าเธอจะสามารถทำอะไรฉินเฟิงได้
“อยู่ข้างใน โปรดเชิญทางนี้”
คนของทหารรับจ้างเฟิงหลีนำหลี่จื่อซานไปยังห้องของฉินเฟิง
อีกฝ่ายเคาะประตู ด้วยพลังสมาธิ ฉินเฟิงสามารถรับรู้ถึงการมาเยือนของทั้งสองได้ทันที
ไป๋หลีก้าวไปข้างหน้าแล้วเปิดประตู ผู้ใช้พลังเบื้องหน้าเร่งอธิบาย “มิสไป๋ นี่คือผู้แทนพิเศษของพันธมิตรมนุษย์ มาเพื่อส่งมอบตัวเชื่อมจิตสำนึก”
หากได้รับสิ่งนี้ ต่อให้ฉินเฟิงเป็นเลเวล D แต่เขาก็ไม่ต่างอะไรไปจากเลเวล C แล้ว
“เข้ามาสิ ที่รักกำลังรอคุณอยู่” ไป๋หลีกล่าว
หลี่จื่อซานมองไป๋หลี ความตกใจวาบผ่านแววตาของเธอ คิ้วขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
“ผมไม่กล้าเข้าไปหรอก!” ชายที่เดินมาส่งกล่าว
ไป๋หลีไม่สนใจ ทำท่าทีเชื้อเชิญหลี่จื่อซาน
หลี่จื่อซานเดินเข้ามา มองไปยังฉินเฟิงที่รออยู่ในห้องนั่งเล่น เผยยิ้มและยื่นมือออกไป
“สวัสดี ฉันชื่อหลี่จื่อซาน”
“สวัสดี ผมฉินเฟิง”
“แน่นอน ฉันรู้ว่าคุณคือใคร ชื่อของหัวหน้าฉินเป็นที่โจษจันกันมากในสงครามครั้งนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณยังเป็นแค่เลเวล D ” หลี่จื่อซานเริ่มยกยอ
ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ไม่คิดเอ่ยถ่อมตัว เขาไม่อยากเสียเวลากับอีกฝ่ายให้มากเกินไป
“ไหนล่ะตัวเชื่อมจิตสำนึก” ฉินเฟิงเอ่ยถาม
สีหน้าของหลี่จื่อซานแสดงออกถึงความอึดอัดเล็กน้อย แต่ไม่นานมันก็ฟื้นเป็นปกติ เธอกล่าวว่า “หัวหน้าฉิน ฉันได้รับคำสั่งจากเจ้านาย นั่นคือเหตุผลที่ฉันเดินทางมาด้วยตัวเอง เพื่อสอนคุณเกี่ยวกับพื้นฐานการใช้งานเบื้องต้น แน่นอน ตราบใดที่จิตสำนึกแข็งแกร่งมากพอ มันจะใช้งานได้อย่างง่ายดาย”
อธิบายจบ หลี่จื่อซานก็หยิบแว่นตาสีเงินออกมา
แม้จะเห็นเป็นแค่แว่นตาขนาดเล็ก แต่จริงๆแล้วมันคืออุปกรณ์รูนระดับราชันย์เลเวล C ถือเป็นของหายากมาก
นี่คือของรางวัลที่คุณจะได้รับหลังจากก้าวขึ้นสู่เลเวล C
ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้คน แต่ยังสามารถใช้สื่อสาร และแลกเปลี่ยนความลับกันได้
หลี่จื่อซานอธิบายถึงวิธีการใช้งานอย่างละเอียด ฉินเฟิงเพียงพยักหน้าและพูด ‘อืม’ เท่านั้น ไม่มีข้อสงสัยใดๆเลย เพราะสุดท้าย ก่อนเขาจะเกิดใหม่ เจ้าสิ่งนี้อยู่ติดตัวเขามาอย่างยาวนานถึง 5 ปี
ไม่นาน ฉินเฟิงก็สวมแว่นตา พลังสมาธิไปรวมกันตรงตำแหน่งหว่างคิ้ว เจาะลึกเข้าไปในตัวเชื่อมจิตสำนึก
วินาทีต่อมา ในวิสัยทัศน์เห็นแค่เพียงแสงวูบวาบตรงหน้า รู้สึกตัวอีกที ฉินเฟิงก็มาปรากฏตัวในอีกสถานที่หนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่ได้ตกใจอะไร เนื่องจากนี่เป็นสถานที่ที่เขาคุ้นเคย แม้จะไม่ได้มาเหยียบเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วก็ตาม
ทางเข้าเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่โอ่อ่าและงดงาม สูงขึ้นไปเหนือศีรษะ สลักไว้ด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่
‘พันธมิตรมนุษยชาติเขตหัวเซี่ย!’
มองเข้าไปเบื้องหลังทางเข้า บนท้องถนน ผู้คนมากมายล้วนเดินกันอย่างเร่งรีบ และทั้งหมดเป็นผู้ใช้พลังเลเวล C ยังไม่พอ บางครั้งจู่ๆพวกเขาก็หายวับไป ไม่ก็ปรากฏขึ้นในพริบตา
ฉินเฟิงก้มลงมองตัวเอง แต่เมื่อเห็นรอยแผลเป็นบนมือ หัวใจของเขาพลันสั่นสะท้าน
แม้เขาจะเกิดใหม่ แต่ตัวเชื่อมจิตสำนึก กลับเลือกใช้รูปลักษณ์จิตสำนึกดั้งเดิมของตน
เวลานี้ เขาสูงกว่า 192 ซม. ร่างกายบึกบึน ใบหน้าคมคาย เผยให้เห็นกระทั่งร่องรอยของความบ้าคลั่งและโหดเหี้ยมในแววตา แต่ที่เด่นชัดที่สุด คือความมุ่งมั่น!
กลิ่นอายของเขาในเวลานี้ ดูเป็นผู้ใหญ่มากเป็นพิเศษ รูปลักษณ์ภายนอก กลายเป็นชายหนุ่มอายุราวๆ 27-28 ปี
ฉินเฟิงเริ่มกระตุ้นพลังสมาธิ วินาทีต่อมา รูปลักษณ์ของเขาก็เริ่มอ่อนวัยลง ผิวหนังไม่คล้ำแดด ผมยาวขึ้นเล็กน้อย ยังคงไว้ซึ่งความสูง แต่กลิ่นอายเปลี่ยนเป็นวัยรุ่น
กลายมาเป็นคนอายุ17-18ปี
จากนั้น เบื้องหลังฉินเฟิงก็ปรากฏคนๆหนึ่งตามเข้ามา
เป็นหลี่จื่อซาน