โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 452
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.452 – ล้างบาง
เกือบทุกกระบอกปืนสาดไสว รังสีแสงพลังงานท่วมท้นพรมยิงลงเบื้องล่างอย่างต่อเนื่อง
โกวกวนจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง เขาไม่อาจทําใจเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะถูกควบคุมโดยฝี มือของคนๆเดียว!
ต้องรู้นะว่า เรือเหาะลํานี้ มีความยาวตลอดทั้งลํากว่า 300 เมตรปืนทั้งน้อยใหญ่รวมๆแล้วทั้งสิ้นนับพันกระบอกดังนั้นต่อให้พลังสมาธิของฉันเพิ่งจะแข็งแกร่งแค่ไหน ย่อมไม่อาจควบคุมในคราวเดียวได้
ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงกลับทําสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ประสบความสําเร็จอย่างง่ายดาย!
“ต้องขอบคุณหนทางสู่เจตจํานงศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยฝึกจิตของฉันให้สามารถแยกการใช้งาน ได้หลายอย่างในคราวเดียว”
ฉินเฟิงผ่อนลมหายใจอย่างลับๆ
“ลูกพี่ ฉันขอช่วยด้วย!”
โกวป่วนเมื่อเห็นฉินเฟิงต่อสู้อย่างแข็งขัน ในขณะที่จักรพรรดิสัตว์ร้ายทั้ง 11 ตัวกลับไม่อาจตอบโต้ได้เลย ก็เร่งเสนอหน้า พุ่งเข้าสวมหมวกพลังสมาธิอย่างรวดเร็ว เข้าแทรกแซงเรือเหาะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพลังสมาธิของโกวกวนได้เข้ามาเจ้าตัวก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึง
ราวกับบ่อน้ําลึกอันไร้ที่สิ้นสุด คล้ายเผชิญเข้ากับหุบเหวสยองขวัญอันไร้ก้นบึง เป็นพลังสมาธิอันยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้
โกวคิ้วนคือมือปืน ดังนั้นปฏิกิริยาของพลังสมาธิย่อมคมชัด แม้ฉันเพิ่งจะเคยเปิดเผยอบิลิตี้และวรยุทธโบราณออกมา แต่เขายังไม่เคยเปิดเผยพลังสมาธิของตนแบบจริงๆจังๆต่อหน้าฝูงชนในเมืองหวังเลยสักครา
ปัจจุบัน โกวก๋วนรู้สึกแค่เพียงกําลังเผชิญกับพลังสมาธิที่ทรงอํานาจอย่างหาที่เปรียบ ไม่แตกต่างจากจักรพรรดิสัตว์ร้าย
อันที่จริงปฏิกิริยาของโกวคิ้วนไม่ได้ผิดไป พลังสมาธิของฉินเฟิง อยู่ในระดับจักรพรรดิจริงๆ!
ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงสังเกตเห็นถึงพลังสมาธิของโกวคิ้วน เขาพบว่ามันเล็กน้อยและอ่อนแอพลังสมาธิเล็กจ้อยเบื้องหน้าเขา หากคิดบดขยี้ ฉินเฟิงสามารถกระทําได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงยังคงไว้หน้าโกวคิ้วน เขาถอนสมาธิจากการควบคุมปืนใหญ่รองด้านซ้ายและชักนําพลังสมาธิของโกวป่วนไปยังทิศทางนั้น
โกวกวนไร้ซึ่งความสามารถในการต้านทาน ไม่ต่างจากเด็กน้อย ที่ถูกลากคอโดยผู้ใหญ่และนําไปวางลงในตําแหน่งที่ต้องการโดยตรง ทั้งยังต้องนั่งอยู่อย่างนั้น มิอาจขยับเขยื้อนไปไหนได้
โกวคิ้วนเผยรอยยิ้มแห้ง จากนั้นก็เริ่มควบคุมเฉพาะปืนใหญ่รอง และดําเนินการโจมตี
แน่นอน การโจมตีของเขา เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถเทียบเปรียบกับฉินเฟิงได้ เขายิงโดนแค่บริเวณส่วนของกระดองเต่า มิอาจเล็งทะลุช่องว่างเข้าไปยังเนื้อหนังของเต่าได้
จําเป็นต้องไว้หน้าโกวป่วนอีกครั้ง ฉินเฟิงลดระดับความสูงของเรือเหาะลง
เหลือ 60 เมตร
ในระดับความสูงนี้ หากเต่ายักษ์สามารถดีดพลิกตัวกลับมา มันสามารถกัดกระชากตรงส่วนช่วงท้องของเรือเหาะได้เลย
ทว่าโชคยังดี ที่ฉินเฟิงยิ่งสะกดข่มพวกมันเอาไว้ตลอดเวลา ดังนั้นพวกเต่าไม่มีโอกาสพลิกตัววกโจมตี
ด้วยการโจมตีจากลําแสงพลังงานของฉินเฟิง เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างของเต่ายักษ์ก็ถูกทะลวงเป็นรูพรุน
พลังงานมหาศาลแพร่กระจายออกจากเต่าหมื่นปี ถูกสูบกลืนเข้าสู่ร่างกายของฉินเฟิงโดยพลังพิเศษดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง ราวกับปากใหญ่ที่อ้าออก กลืนกินพลังงานจากเต่าหมื่นปี
ฉินเฟิงรับรู้ได้ทันทีว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น หัวใจเต้นระรัว ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ
ฉินเฟิงมีความรู้สึกกระทั่งว่า ช่วงอายุขัยของเขา กําลังยืดยาวออกไป
เต่าหมื่นปีเป็นสัตว์ร้ายที่แสนหายาก และคําเล่าลือที่ว่าแก่นพลังงานของมันสามารถช่วยยืดอายุขัยของมนุษย์ได้
เป็นเรื่องจริง!
แก่นพลังงานหนึ่งชิ้นของมัน สามารถช่วยยืดอายุขัยได้นับสิบปี!
สิ่งนี้เองที่ทําให้ผู้คนนับไม่ถ้วน ทุ่มเทต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา แม้จะต้องเหนื่อยยากเพียงใดก็ตาม
ในดวงตาของฉินเฟิง บังเกิดประกายแสงกระพริบไหวอย่างรุนแรง
แก่นพลังงานนี้ เขาต้องครอบครองมันให้จงได้
แม้การยืดอายุไข จะไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้นก็ตาม แต่ฉินเฟิงไม่ต้องการพลาดโอกาสดังกล่าว
ปืนใหญ่พลังงานยังคงระดมยิงต่อไป ประสิทธิภาพการโจมตีจากปืนใหญ่ทางด้านซ้ายด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นความแตกต่างที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ถึงกระนั้น การล่าสังหารที่กําลังดําเนินอยู่นี้ ยังคงไม่เกิดปัญหาแต่อย่างใด
“ฮือ..”
เต่าหมื่นปีอีกตัวหนึ่งจบชีวิตลง กลิ่นอายของมันถูกดูดซับโดยสิ้นเชิง
ตัวที่สาม และตัวที่สี่ตามมาติดๆ
ในเวลาครึ่งชั่วโมงที่เกิดการระดมยิงอย่างบ้าคลั่ง สัตว์ร้ายทั้ง 11 ตัว ในที่สุดก็จบชีวิตลงภายใต้เงื้อมมือของฉินเฟิง
ขณะนี้ ฉันเพิ่งสัมผัสได้ว่าความแข็งแกร่งของเขากําลังยกระดับไปอีกขั้น
ยังคงจําได้หรือไม่ ว่าการยกระดับครั้งล่าสุด มันคือเมื่อเดือนที่แล้ว
ลองคิดดูเอาเถิด ว่าพลังงานของจักรพรรดิสัตว์ร้ายทั้ง 11 ตัวยิ่งใหญ่ขนาดไหน ดังนั้นการที่ฉินเฟิงยกระดับได้ ถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผล
การต่อสู้จบลงโดยสมบูรณ์
ฉินเฟิงสูดหายใจลึก ลดระดับเรือเหาะลง ลอยลําเหนือพื้นเพียง 10 เมตร
“ลงไป พวกเราจะเริ่มเก็บรวบรวมวัตถุดิบ” ฉินเฟิงกล่าว
คนบนเรือเหาะ ราวกับถูกกระชากจากห้วงฝัน ทยอยกันลงไปทันที
อันที่จริง บนเรือเหาะลํานี้ นอกจากโกวป่วนกับหลานแล้ว ก็ยังมีผู้คนอีกนับร้อย มีเลเวล E อยู่ถึง 30 คน ส่วนที่เหลือเป็นพนักงานบริการ , คนทําความสะอาดห้อง และคนครัว
เหล่าผู้ใช้พลังลงจากเรือเหาะ จ้องมองไปยังสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าจินตนาการมาก่อนในชีวิตว่าจะได้เผชิญหน้าตรงๆกับจักรพรรดิสัตว์ร้าย
แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ํา ว่าสัตว์ร้ายตัวนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร
เพราสัตว์ร้ายต่างมิติมีขนาดใหญ่เกินไป มันเกือบจะมีขนาดเท่ากับวิลล่าทั้งหลัง มองผ่านเข้าไปทางรูกระดองส่วนหัวของเต่า ราวกับเจอห้องขนาดใหญ่
ไปหลีเอื้อมมือออกไปทันใดนั้นบางสิ่งที่มีขนาดเส้นผ่านสูญกลางหนึ่งเมตร แก่นพลังงานค่าของจักรพรรดิสัตว์ร้ายก็ปรากฏลงบนพื้นทันที
แก่นพลังงานสัตว์ร้ายสาดแสงไสว เปล่งประกายแสงสีทองน้อยๆ ผู้คนต่างถูกดึงดูดโดยมัน
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องจํานวนที่มีมากถึง 11 ลูก
ไปหลีวาดมืออีกครั้ง แก่นพลังงานสัตว์ร้ายทั้งหมดจมหายไปในอุปกรณ์รูนมิติทันที
“อย่ามัวชักช้า รีบรวบรวมเลือดและเนื้อของพวกมันที่ยังเหลือเร็วเข้า ถ้าขวดไม่พอ ก็ ใช้ฮอลศึกบินกลับไปซื้อ!ที่นี่ไม่ไกลจากเมืองหวัง เร่งมือเร็ว!”
โกวป่วนรู้สึกตื่นเต้นสุดแสน เขาสั่งการจัดแจงคนของตนอย่างรวดเร็ว
คนอื่นๆคว้าจับสิ่งจําเป็นในมือ และเริ่มจัดการเก็บกู้
“กระดองเต่าพวกนี้สามารถนําไปหลอมทําอุปกรณ์รูนได้ และหากเราใช้มีดตัดตามแนวขวางจะช่วยให้สามารถตัดเนื้อได้สะดวกขึ้น”
ทุกอย่างบนตัวเต่าหมื่นปีล้วนเป็นสมบัติ ฉินเฟิงไม่ต้องการที่จะให้มีส่วนใดเสียหาย แต่เขายังไม่ได้เปิดเผยพลังมิติของไปหลีกับคนกลุ่มนี้ ดังนั้นฉินเฟิงจึงเริ่มแยกเปลือกเต่าหมื่นปีด้วยตัวเอง
ไปหลีเองก็เริ่มทําตาม ขั้นแรกต้องยกกระดองเต่าขึ้นมา จากนั้นก็ตัดเป็นชิ้นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสามเมตร จากนั้นก็นําไปวาง และถูกเก็บเข้าสู่พื้นที่มิติของฉินเฟิง
ปัจจุบัน เขามีอุปกรณ์รูนมิติในครอบครองจํานวนมาก มีให้ใช้ไม่สิ้นสุด ทุกสิ่งยึดมาจากศัตรูและหากในอุปกรณ์รูนมิติไม่มีวัตถุใดที่น่าสนใจ ทั้งหมดจะถูกโยนเข้าไปในสุสานเทพสงครามและให้ซูชิงผู้เป็นคนจัดการโดยตรง
ฉันเพิ่งเริ่มเก็บวัตถุดิบชิ้นแล้วชิ้นเล่า อุปกรณ์รูนมิติชิ้นแล้วขึ้นเล่าเริ่มถูกงัดออกมาใช้
ระหว่างกําลังวุ่น ทันใดนั้นเอง เสียงร้องโหยหวนของผู้ใช้พลังพลันดังขึ้น ทั้งเนื้อทั้งตัวของคนๆนั้นกลายเป็นแดงก่ํา ร่วงตกลงไปในกระดองเต่า
“เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าข้างในยังมีศัตรูเหลืออยู่?”
คนอื่นๆเริ่มตื่นตกใจ
ฉินเฟิงกวาดตามองอีกฝ่าย สักพักดวงตาของเขาก็กลายเป็นเย็นเยียบ
เขาวาดมือ พลังสมาธิลากผู้ใช้พลังที่ตกลงไปในกระดองเต่าออกมาทันที
คนๆนั้นยังคงดิ้นพล่านไม่หยุด ต่อมา กลิ่นอายของเขาก็เริ่มยกระดับขึ้น มันปะทุออกจากร่างกายของเจ้าตัว
เดิมคนๆนี้เป็นผู้ใช้พลังเลเวล F ของเมืองหวัง มีอาชีพเป็นเพียงช่างซ่อมบํารุง ทั้งชีวิตอาศัยอยู่ในสลัม มิอาจใช้พลังที่ตนมีได้ดั่งใจ เพราะอาจถูกฆ่าตายได้ทุกเมื่อ
ทว่าปัจจุบัน กลิ่นอายของชายคนนี้ จู่ๆก็ทะยานขึ้นอย่างฉับพลัน
เพียงชั่วพริบตา จากเลเวล F ดีดขึ้นไปเป็นเลเวล E
ยังไงก็ตาม สภาพของอีกฝ่ายไม่น่าดูอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายปูดบวม คล้ายกับลูกบอลราวกับ จะระเบิดได้ตลอดเวลา
มือของฉินเฟิงที่อัดแน่นไปด้วยกําลังภายในวาดออกทันใด
โผล่ะ!
ศีรษะของอีกฝ่ายลอยคว้างกลางอากาศทันที เลือดกระฉูดอย่างบ้าคลั่ง ถ้าจะให้อธิบายชัดๆมันกระดูกสูงกว่า 3 ฟุต ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ