โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 457
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.457 – การจบชีวิตของเลเวล B
แม้เจ้าเมืองหวังจะสามารถปฏิเสธพลังสมาธิของฉินเฟิง แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรฉินเฟิงได้อยู่ดี
ทางฉินเฟิง แม้จะถูกปิดกั้นพลังสมาธิ ส่งผลให้ไม่สามารถได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆจากอีกฝ่าย แต่อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถระบุตำแหน่งของศัตรูได้
มุมปากของฉินเฟิงยกสูงขึ้นเล็กน้อย พลังสมาธิถูกเร่งเร้าดุเดือด
“ไปลงนรกซะ!”
ปืนใหญ่หลักบนเรือเหาะ สาดแสงไสวอย่างหาที่เปรียบมิได้
ขณะเดียวกัน เจ้าเมืองหวังยังคงปลอดภัยดี ปราณกำลังภายในปกคลุมทั้งร่างเขา ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แค่เพียงร่วงตกลงมาจากฮอลศึก
แต่เพียงชั่วอึดใจต่อมา เจ้าเมืองหวังก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอันตรายถึงชีวิต
สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน คลุ้งไปด้วยควันไฟ ตาเปล่าของเขามิอาจมองเห็นอันตรายได้ ด้วยฐานะผู้ใช้วรยุทธโบราณ แม้จะแข็งแกร่งทางกายภาพ แต่ด้านพลังสมาธิกับการรับรู้ มิอาจ ‘มอง’ ได้ไกลเกินไป
ช่วงเวลาต่อมา ลำแสงไสวอย่างหาที่ใดเปรียบ ทะลุผ่านกลุ่มควันเข้ามา ตีเข้าใส่เจ้าเมืองหวังในฉับพลัน
ถึงเวลานี้ ต่อให้ปราณกำลังภายในของเจ้าเมืองหวังแข็งแกร่งเพียงใด ก็แตกสลาย ถูกเจาะเข้าไปทันที ลำแสงปะทะเข้ากับกายเนื้อของเจ้าเมืองหวังโดยตรง
ท่ามกลางหมอกหนา ร่างเงาของบุคคลคนหนึ่งร่วงตกลงสู่พื้น
ฉินเฟิงควบคุมพวงมาลัยเรือเหาะ บินตรงไปยังทิศทางนั้น ลอยลำเหนือผืนฟ้าในตำแหน่งเจ้าเมืองหวัง
ดวงตาสแกนอิเล็กทรอนิกส์นับไม่ถ้วนเริ่มทำงาน ทำให้สามารถเห็นถึงศพมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว
ปรากฏว่าบนหน้าอกของศพๆนี้กลวงโบ๋ มันถูกแผดเผาและมีควันจางๆจากรอยไหม้โชยออกมา ช่วงเวลานี้ศพถูกแขวนพาดอยู่บนกิ่งของต้นไม้ใหญ่ ตกตายในสภาพทั้งๆอย่างนั้น
เมื่อศพปรากฏขึ้นในวิดีโอ โกวก๋วนพลันเบิกตากว้าง แทบไม่อาจทำใจเชื่อ
“นัั่น … นั่นมัน … ”
ลิ้นของเขาพันกัน จนไม่อาจเปล่งคำ
แต่ถึงลิ้นไม่พัน ก็ไม่รู้ว่าสมควรจะพูดอะไรออกมาอยู่ดี
“คุณรู้จักเขา?” ฉินเฟิงถอนพลังสมาธิจากตัวควบคุม
“เขา … เขา … ” โกวก๋วนพยายามเอ่ยต่อด้วยเสียงสั่นสะท้าน
ฉินเฟิงกล่าว “โอเค ท่าทีแบบนี้ดูเหมือนจะฆ่าไม่ผิดตัว เขาคงเป็นเจ้าเมืองหวังจริงๆ”
มุมปากของฉินเฟิงเผยรอยยิ้มสะใจ
“อะไรนะ!” จิ่นเฟยและมือปืนคนอื่นๆ ทั้งหมดอ้าปากตาค้าง เหม่อมองไปยังศพที่เพิ่งตาย บังเกิดความคิดน่าเหลือเชื่อขึ้นในจิตใจ
นี่ … นี่พวกเขาสามารถสังหารเลเวล B ได้อย่างงั้นหรือ?
แถมยังใช้แค่เรือเหาะลำเดียวเนี่ยนะ?
โอ้สวรรค์!
เรื่องแบบนี้ พวกเขาไม่เคยกล้าแม้จะจินตนาการ
ผู้ใช้พลังเลเวล B แข็งแกร่งขนาดไหนน่ะหรือ? พวกเขาสามารถทำลายล้างเมืองทั้งเมืองได้ด้วยฝ่ามือเดียว! แต่ตอนนี้ดันกลายเป็นศพถูกห้อยอยู่บนกิ่งไม้ท่ามกลางทุ่งล่า!
ฉินเฟิงไม่สนใจอาการช็อกของคนเหล่านี้ เขาเอ่ยปาก “ไป๋หลี ช่วยเอาศพชะตาขาดนั่นมาที่นี่ที ฉันอยากจะรู้ว่าบนศพเจ้าเมืองหวัง มีของอะไรดีๆติดตัวเอาไว้บ้าง”
นั่นคือบอสใหญ่ของบอสของเมืองหวังเชียวนะ!
หากเป็นคนอื่นสามารถโค่นเจ้าเมืองหวังได้ คงจะตื่นเต้นมาก แต่สำหรับฉินเฟิง ในชีวิตก่อน ใช่ว่าเขาจะไม่เคยสังหารเลเวล B ดังนั้นเจ้าตัวเลยค่อนข้างสงบมาก
พลังสมาธิของไป๋หลีเริ่มขับเคลื่อน รูนมิติปรากฏขึ้น วินาทีถัดมา ศพของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B ก็มาโผล่บนเรือเหาะ
ปราณที่แท้จริงในตันเถียนของอีกฝ่ายยังไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง ฉินเฟิงเริ่มแสร้งทำเป็นตรวจสอบ ขณะเดียวกันก็คอยดูดซับกำลังภายในของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ
หากกำลังภายในของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล C อยู่ในรูปแบบของสระน้ำ เช่นนั้นกำลังภายในของเลเวล B จะอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่าทะเลสาบ!
มันคือทะเลสาบขนาดใหญ่! คุณสามารถจิตนาการได้ว่ากำลังภายในของเลเวล B มหาศาลเพียงใด
ทักษะลับกลืนดาราของฉินเฟิงดูดซับ 20 สระน้ำเข้าสู่ร่างกายเขาได้ทันที ปัจจุบันฉินเฟิงครอบครองกำลังภายในทั้งหมด 30 สระ หรือเรียกได้ว่าเทียบเท่ากับ 3 ทะเลสาบ นั่นคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B3 !
ทว่านี่คือผลลัพธ์ที่ยังไม่ทำการกลั่น แต่จะอย่างไรก็ช่าง เพราะปกติแล้วแม้กำลังภายในจะยกระดับขึ้น แต่มันมิได้แสดงออกสู่ภายนอก ดังนั้นความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิง ยังคงอยู่ในเลเวล D8
อย่างไรก็ตาม อีกไม่ไกลเขาก็จะไปถึงเลเวล C แล้ว!
ฉินเฟิงดีดนิ้วดังเป๊าะ เพลิงโลกันต์ตกลงบนร่างของเจ้าเมืองหวัง เปลวไฟลุกไหม้ แผดเผาศพศัตรูอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันเหลือทิ้งไว้เพียงอาวุธ , เกราะ และอุปกรณ์รูนมิติของอีกฝ่าย
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
แค่ค้นหานิดๆหน่อยๆ ฉินเฟิงก็พบอุปกรณ์รูนมิตถึงห้าชิ้น เจ้าเมืองหวังนี่ … ช่างร่ำรวยซะจริง!
แน่นอน ว่าฉินเฟิงรวยยิ่งกว่า เพราะตอนนี้หากใครสามารถสังหารฉินเฟิงได้ คนๆนั้นจะได้รับอุปกรณ์รูนมิติมากกว่าสิบชิ้นไปครอบครอง!
ฉินเฟิงตรวจสอบเล็กๆน้อยๆ และอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับเจ้าเมืองหวังผู้นี้
เพราะแค่เหรียญพลังงานที่เจ้าเมืองหวังครอบครองคนเดียว มันมีมูลค่ามากกว่า 30 ล้านล้าน!
นี่ยังไม่นับรวมแก่นอบิลิตี้ธาตุต่างๆ และวัตถุดิบของเขาอีกนะ
“หึ เจ้าเมืองหวัง คิดจะไล่ฆ่าฉัน แต่ดันพกสมบัติมากมายขนาดนี้ติดตัวมาด้วย สุดท้ายทั้งหมดตกเป็นของฉัน การถูกไล่ล่าครั้งนี้ช่างคุ้มค่าซะจริง” ฉินเฟิงกล่าว
โกวก๋วนและคนอื่นๆ เอาแต่เฝ้ามองศพของเจ้าเมืองหวัง ถึงขั้นสามารถทำให้อีกฝ่ายจบชีวิตลงที่นี่ได้ แต่ฉินเฟิงกลับเพียงถอนหายใจ และเอ่ยตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉากนี้เล่นเอาพวกเขาแทบสิ้นสติ ไม่ทราบว่าจะแสดงความรู้สึกออกมาอย่างไรดี
“ลูกพี่ บางทีเขาอาจแค่พยายามรักษาศักดิ์ศรี เพราะคุณไปสังหารคนของเขา ท้าทายอำนาจเขา นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไล่ตามคุณมา เพื่อต้องการมอบบทเรียน” จิ่นเฟยกล่าว
ฉินเฟิงเผยยิ้มบาง “และนี่คือบทเรียนที่เขาได้รับ”
มุมปากของโกวก๋วนกระตุก “ฉันเกรงว่าเขาคงไม่คิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบนี้”
สถานะของเจ้าเมืองหวังคืออะไร? เขาคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B2 แค่การเผชิญหน้ากับผู้ใช้พลังเลเวล D เดิมมันสมควรไม่ต่างไปจากการบี้มดมิใช่หรือ?
เพราะงั้นใครมันจะไปคิดกัน ว่ามดที่ตนต้องการบี้ จะครอบครองพิษอันร้ายกาจ ทั้งยังถูกมันแว้งกัด กลายเป็นตนเองที่ต้องจบชีวิตลง
“เอาล่ะ อย่ามัวแต่มุงสิ รีบไปเก็บกวาดกันเร็วเข้า พวกเราจะได้ออกเดินทางต่อ!” ฉินเฟิงเรียกสติทุกคน
ฝูงชนโดยรอบเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ในหัวใจของพวกเขาในเวลานี้ ตำแหน่งของฉินเฟิงได้พุ่งทะยานสูงจนชนเพดาน ไม่ต่างไปจากพระเจ้าแล้ว!
“เจ้านาย ตอนนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราสมควรกลับไปยังเมืองหวังหรอกหรือ?” โกวก๋วนเอ่ยถาม
“ทำไมต้องกลับไปที่เมืองหวังด้วย?”
ฉินเฟิงไม่คิดกลับไปที่นั่น
โกวก๋วนกล่าว “เพราะเจ้านายได้สังหารเจ้าเมืองหวังไปแล้ว ดังนั้น ตราบใดที่เรากลับไป พวกเราจะสามารถสืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองหวังได้ และหากเป็นเช่นนั้น ทั้งเมืองหวังจะตกอยู่ในมือของพวกเรา!”
เมื่อความคิดดังกล่าวผุดขึ้น มันก็ชวนให้เลือดลมของผู้คนเดือดพล่าน ความปรารถนาเพิ่มพูนขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด
เพราะการครอบครองเมืองหวัง เท่ากับครอบครองธุรกิจที่สามารถสร้างเม็ดเงินมหาศาล!
ไม่ว่าจะเป็นเวทีเดิมพันบนเทียนไต้ หรือกระทั่งการผ่านเข้าออกประตูเมือง
ทั่วทั้งเมืองหวังไม่ต่างไปจากเครื่องจักรผลิตเงิน!
“ศพก็ถูกเผาไปแล้ว ถ้าผมเอ่ยปากไปว่า ผมนี่แหละสังหารเจ้าเมืองหวังลง คนอื่นคงไม่เชื่อ และต่อให้พวกเขาเชื่อก็ตาม คนจากทางกองกำลังมืดจะไม่มาแทนที่เลยหรือ? ถึงเวลานั้นพวกเราก็ต้องสังหารเลเวล B อีกคนหนึ่ง … ลองคิดดูดีๆว่าถ้าเป็นแบบนี้ พวกเราจะสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้หรอ?”
โกวก๋วนราวกับถูกน้ำเย็นราดรดใส่ ท่าทีตื่นเต้นกลายเป็นห่อเหี่ยวสิ้นหวังทันใด
เพราะที่กล่าวมานั่นก็จริง
แม้ฉินเฟิงจะสามารถสังหารเจ้าเมืองหวังคนปัจจุบันได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ที่ทำได้เพราะอาศัยโชค!
หากเลเวล B อีกคนมาเยือน มันคงไม่มีทางประสบความสำเร็จแน่นอน
อีกอย่าง รอบนอกเมืองหวัง มันเต็มไปด้วยกองกำลังมืดที่ก่อตั้งโดยมีหัวหน้าเป็นเลเวล B แม้คนเหล่านี้จะเกียจคร้าน ไม่คิดสร้างสถานชุมชนเป็นของตัวเอง แต่ก็เป็นกองกำลังที่เปี่ยมไปด้วยผู้ใช้พลังชั้นยอด บางครั้งก็บุกไปยังเขตของพันธมิตรมนุษย์ เรียกเก็บค่าคุ้มครอง , ปล้นสะดมรถขนส่ง ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม แม้จะทำแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ใช่ว่าคนเหล่านนี้จะอ่อนแอ
ตรงกันข้าม เลเวล B เหล่านี้แข็งแกร่งมาก
และพวกเขา ทุกสายตาต่างจับจ้องเมืองหวังด้วยความโลภ หากฉินเฟิงกลับไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองหวัง จะไม่กลายเป็นนกในกรงหรอกหรือ?
เมื่อนึกถึงกรณีนี้ โกวก๋วนก็สลัดเรื่องดังกล่าวทิ้งไป
ไม่กลับเมืองหวังก็ได้ ขอแค่ได้ติดตามฉินเฟิง แค่นี้เขาก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแล้ว
ส่วนคนอื่นๆไม่มีใครคิดโต้แย้ง หรือหักล้างการตัดสินใจของฉินเฟิงอีก
เรือเหาะลอยลำเหนือน่านฟ้าเป็นเวลากว่า 4 วัน ในที่สุดก็มาถึงเมืองผูไซ