โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 24
“นายท่าน, ท่านมีชื่อว่าอะไรรึ?”
เย่เทียนคิ้วขมวดเล็กน้อยและถามไปอย่างสุภาพ ชายที่พูดกับเขาตะกี้เป็นเด็กหนุ่ม ไม่ก็วัยรุ่นอายุราวๆ16ปี.
“แกนัส ปอมปีย์!”
ชายหนุ่มผู้นั้นพูดออกมาด้วยความภาคภูมิ, แล้วก็เมินเย่เทียนไปสวัสดีออเรเลีย “ท่านหญิงออเรเลียผู้เลอโฉม เป็นเกียรตินักที่ได้พบท่าน!”
ในดวงตาของเขามีแสงสีเพลิงแว่บขึ้นมา. เขาดูเด็กมากและหลงเสน่ห์ความสวยงามและเซ็กซี่ของออเรเลียมากเช่นกัน.
ก็จริงแหละ, ออเรเลียนั้นมีเสน่ห์เหลือล้นมากๆ ไม่งั้นซีซาร์คงไม่ฝันเปียกหานางหลังนางตายไปแน่.
แกนัส ปอมปีย์!
ปอมปีย์!
เขาเป็นหนึ่งใน3ยักษ์ใหญ่ที่ปกครองโรมในอนาคตกับแครสซัสและซีซาร์.
ช่างเป็นคนที่ทะเยอทะยานจริง.
เย่เทียนไม่คาดฝันเลยว่าจะได้พบกับ3คนนี้ได้ในเวลาสั้นๆแบบนี้.
ปอมปีย์เกิดในตระกูลชั้นสูงของโรม. พ่อของเขา, สตราโบ ปอมปีย์ไม่เพียงแต่เป็นผู้บัญชาการทหารที่ยอดเยี่ยมของสาธารณะรัฐโรมันเท่านั้น ทั้งยังเป็นตัวแทนของพวกผู้ดีอีกด้วย. เขาเป็นกงศุลในปี 89 ก่อนพระคริสต์ ได้ด้วยการพิชิตพื้นที่เซไบน์และปิเคนัมในช่วงสงครามอิตาลี. พวกเขามีดินแดนมากมายและผู้คนที่ได้รับการคุ้มครองในพื้นที่ปิเคนัม.
ปอมปีย์รักการทหารมากเนื่องด้วยอิทธิพลจากตระกูลของเขา. เมื่อเขาอายุ17ปี, จริงๆก็ปีหน้านี่แหละ, เขาก็จะติดตามพ่อเขาไปปราบจลาจลชาวอิตาเลี่ยน.
หมอนี่รู้สึกจะแต่งงานกับลูกสาว14ขวบของซีซาร์ตอนที่อายุ50.
แต่ทว่า ซีซาร์ก็ไม่ได้เสียเปรียบเช่นกัน. รู้สึกว่าซีซาร์นั้นจะมีเรื่องชู้สาวกับภรรยาของปอมปีย์อยู่นานมาก แถมปอมปีย์เองก็รู้เห็นด้วย.
ก็พูดได้เลยว่าเขาเป็นคนอดทนอดกลั้นมากๆ.
ชายคนนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในอนาคต. เขาบรรลุความสำเร็จขั้นสุดยอดด้านการทหารและทำให้พวกคนแก่หวาดกลัวได้.
แต่ตอนนี้เขายังเด็กเกินไปที่จะซ๋อนสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่.
“ท่านปอมปีย์, ข้าไม่คิดเลยนะว่าท่านจะเติบโตมาเป็นชายที่เข้มแข็งเพราะเราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว!”
ออเรเลียยิ้มเบาๆ, ทำให้ใจเขาเต้นตุบตับและตาถลนออกจากความภาคภูมินั่น.
“ซาตาน, ท่านแน่ใจรึว่านักสู้หน้าใหม่นั่นจะชนะ?”
ถึงอย่างงั้น ออเรเลียก็ไม่สนเขาอีกต่อไป แล้วหันไปถามเย่เทียนแทน.
“แน่นอนครับ, ข้าจึงคิดว่าจะใช้เหรียญทองของข้าทั้งหมดวางเดิมพันว่าเขาจะชนะ. โอกาสมีมากกว่า60%, ข้าต้องได้เงินมามากแน่!”
เย่เทียนพูดด้วยความมั่นใจ. ครั้งนี้เขาพกเหรียญทองมามาก, มากมายจริงๆ! มากถึงขนาดว่าเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดแต่ก็น่าจะอย่างน้อย1กิโลกรัม. ตอนนี้มีแต่พวกรวยๆอยู่ ถ้าเขาไม่คว้าโอกาสนี้ทำเงินล่ะก็ ก็คงจะเสียชื่อ – ซาตาน แน่.
“ท่านรู้ได้ยังไง?”
ออเรเลียสงสัยกว่าเดิม.
“ความรู้สึกข้าครับ. และถ้าข้าวางเดิมพันล่ะก็ ข้ามีแววว่าจะได้มาเยอะด้วยทุนน้อยๆนี่!”
เย่เทียนยิ้มโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มอีก.
“โง่เอ๊ย……”
ถึงยังไงปอมปีย์ก็เป็นแค่เด็ก16ขวบ. เขายังไม่เคยผ่านสงคราม ทั้งยังมีความอดทนที่ไม่เป็นผู้ใหญ่แถมยังดีใจกับอะไรเล็กๆน้อยๆอีกด้วย.
แน่นอนว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวสวย พวกผู้ชายก็ชอบอวดอ้างตัวเอง.
แต่ว่าเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นคือเย่เทียนมันนั่งข้างๆออเรเลีย ตัวก็แทบจะแตะกันอยู่แล้ว แถมยังคุยหยอกล้อกันสนุกสนาน มันทำให้เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้อิจฉาริษยาไม่มากก็น้อยจริงๆ.
ถ้าสถานะของเย่เทียนนั้นสูงพอละก็ เด็กนั่นก็คงไม่พูดอะไร ได้แต่เก็บความอิจฉาไว้ในใจ. แต่ทว่า, เย่เทียนน่ะดูยังไงก็แค่ชาวเมือง อย่างมากก็แค่นายทาสที่ดูรวยแค่นั้นเอง.
ในตาของเขานั้น, ไอ้คนแบบเย่เทียนไม่มีสิทธิ์จะมานั่งใกล้ความสูงส่งของชนชั้นสูงหรอก.
นี่แหละคือการเหยียดหยามและความยโสโอหังเพราะระบบในสังคมยังไงล่ะ.
แต่ว่า, ขนาดออเรเลียยังไม่พูดอะไรเลยแถมเธอยังเป็นคนชวนเขามานี่อีก, เขาเลยไม่พูดอะไรแย่ๆออกไปอีก.
ถึงอย่างงั้นเขาก็เหม็นหน้าเย่เทียนอยู่ดี.
“ท่านหญิง ออเรเลีย, อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของคนโง่เลย. มาวางข้างสตอร์มแมนด้วยกันเถอะ. เงินชนะน่ะไม่สำคัญหรอก แต่ชัยชนะ/ผู้ชนะต่างหากที่น่าสนุกของจริง!
ปอมปีย์ดอดเข้ามาอีกแล้ว, คำพูดของเขานั้นไปกระทบกระทั่งเย่เทียนเข้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้.
ออเรเลียไม่ชอบใจเล็กน้อย. เพราะยังไงเย่เทียนก็มานี่เพราะเธอ, ปอมปีย์หยามเย่เทียนซะต่ำต้อย ราวกับหมิ่นเกียรติของเธอ. แต่เธอก็ไม่พูดอะไรเพราะตระกูลของเขาอยู่ระดับเดียวกับนาง.
“ท่านชายปอมปีย์, สินะ? เอางี้, เรามาลองพนันกันไหม? ท่านวางข้างสตอร์มแมน ข้าวางข้างเด็กใหม่. เคปะ?”
เย่เทียนยิ้มและพูดอย่างสุภาพ.
ปอมปีย์หรอ, เย่เทียนไม่ได้กลัวเขามากอะไรนัก. ปีหน้าเขากับพ่อก็ต้องเหยียบเข้าไปในสนามรบอยู่แล้ว. หลังจากอีก2ปี พ่อเขาก็จะตายเพราะถูกฟ้าผ่า.
“เจ้ามีสิทธิ์มาพนันกับข้าด้วยเหรอ?”
ปอมปีย์เข้าใจผิดว่าที่ออเรเลียคิ้วขมวดนั่นเป็นเพราะนางไม่รู้ว่าจะเลือกข้างไหน เขาเลยล้อและเหยียดเย่เทียนต่อ.
“แม้ว่าข้าจะยังไม่ใช่ชนชั้นสูง, แต่ข้าก็มีความสามารถมากพอ. เรื่องพนันกับท่าน มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร. แน่นอนว่าข้าไม่กล้าพนันกับทั้งตระกูลท่านหรอกนะ!”
เย่เทียนส่ายหัวเบาๆ เสียงเขาดูนิ่งมาก.
“ก็ได้! มาพนันกันด้วยเหรียญทอง1ทาเลนตั้มเลยเป็นไง!”
ปอมปีย์กล่าวอย่างยโสโอหัง ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย และสีหน้าก็เหมือนกับจะพูดว่า เอาดิ พนันมาเลย ใครจะกลัวใครล่ะ.
ทอง1ทาเลนตั้มเท่ากับเหรียญทอง30กิโลกรัม, ซึ่งดูเหมือนจะเป็นจำนวนที่เยอะมากแม้จะอยู่ในวงผู้ดีก็ตาม.
“ไม่มีปัญหา แต่เพิ่มทาสนักรบสปาตั้นเก่งๆมา20คนด้วย!”
เย่เทียนคิดอย่างสุขุม แล้วเพิ่มเดิมพันเข้าไป.
ทาสนักสู้สปาตั้นนั้นเป็นของหายากในโรมตอนนี้ เย่เทียนก็หาซื้อตัวพวกเขายากเช่นกัน. เขาเลยไม่ขัดนะถ้าจะได้มาจากมือของไอ้เด็กโอหังนี่.
ช่างเป็นการลงทุนที่ไม่เสียอะไรเลยจริงๆ!
เย่เทียนรู้ว่าเขาต้องชนะแน่ๆ!