โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 34
“ยกแขนขึ้น!”
เย่เทียนพูดกับเหล่าทาสสปาตัน.
“แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง…”
ทาสนักรบ 20 คนยกแขนของพวกเขาขึ้นมา, โซ่เหล็กที่แขนของพวกเขากระทบกัน.
เย่เทียนมองมาจากระยะไกลและไม่เห็นอะไรแปลกๆ กับโซ่เหล็ก, แต่เขาก็ยังคิ้วขมวดอยู่.
“ดึงโซ่เหล็กด้วยกำลังทั้งหมดของพวกเจ้าซิ!”
เย่เทียนออกคำสั่งอีกครั้ง. เนื่องจากทาสพวกนี้อยากจะฆ่าเขา, โซ่เหล็กพวกนี้ก็น่าจะมีปัญหา. หรือไม่ก็ในตัวของพวกมันอาจจะซ่อนกุญแจที่เอาไว้เปิดกุญแจข้อมือไม่ก็ข้อเท้าอยู่.
นี่คือสิ่งที่เขาคาดเดาไว้.
“แก๊ง แก๊ง แก๊ง…”
…
เมื่อโซ่เหล็กพวกนี้ถูกดึง มันก็ทำเสียงดังมากขึ้นไปอีก. นั่นแปลว่าโซ่พวกนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและมันก็ทำมาจากเหล็กแท้ๆด้วย.
งั้นก็แปลว่าตัวของพวกมันน่าจะมีกุญแจซ่อนอยู่.
“มานี่ซิ, เจ้าน่ะ!”
เย่เทียนชี้ไปทางทาสคนหนึ่งตรงแถวหน้าและออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น.
น้ำเสียงของเย่เทียนนั้นค่อนข้างดูสุขุม แต่หัวใจของทาสสปาตันพวกนี้ระสับระส่ายมาก.
พวกเขารู้แล้วว่า เย่เทียนรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติในตัวพวกเขา. ไม่งั้นนายทาสหนุ่มคนนี้คงไม่ระวังตัวขนาดนี้.
“มา!”
เสียงของเย่เทียนเริ่มดุขึ้น.
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง, ทาสที่เย่เทียนชี้ก็ค่อยๆเดินเข้ามาหา.
เย่เทียนสังเกตเห็นความลนลานในตาของเขา.
“เจ้ากลัวอะไร?”
เย่เทียนยิ้มอย่างสุขุมและพอเขาเดินมาถึงด้านหน้าของเย่เทียน เย่เทียนก็จับแขนเขาไว้.
เย่เทียนสามารถรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อที่กำลังเกร็งตรงแขนของเขา แต่ทันใด้นั้นทาสคนนี้ก็รีบคลายกล้ามเนื้อทันที.
เย่เทียนไม่พูดอะไรแล้วก็ไม่ได้รังเกียจหรือพยายามเลี่ยงความสกปรกของเขา แต่กลับกันเขายกแขนทาสคนนี้ขึ้นเหนือหัวทันที.
การกระทำของเย่เทียนทำให้หน้าของทาสสปาตั้นทุกคนเปลี่ยนไปทันที ทั้งตึงเครียดและก็หวาดกลัว พวกเขากังวลถึงเรื่องนั้น, เรื่องความลับที่พวกเขาพยายามซ่อนไว้อย่างสุดขีดจะถูกเปิดเผยออกมา.
“มีกุญแจจริงๆด้วย!”
เสียงเย่เทียนก้อง เขาแตะเจอของแข็งๆเข้า แล้วหยิบมาดู มีกุญแจอยู่จริงๆ.
“โจมตี!”
ทาสนักรบที่ถูกเย่เทียนแย่งกุญแจไปนั้นตะโกนออกมาทันที เขารีบปัดแขนเย่เทียนออกแล้วพยายามคุมตัวเขาไว้.
“กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง..”
ทาสทุกคนรีบยกมือขึ้นไปทางหัวทันที.
“จะฆ่าข้าเหรอ!!! เจ้ามีความสามารถให้พอก่อนเหอะ!!!”
เย่เทียนพูดอย่างยโส. จากนั้น เขายกแขนตัวเองขึ้นมาทันทีแล้วฟันศอกไปที่หน้าของทาสคนที่กำลังจะเข้ามารัดเขา.
“โอ๊ย!”
เลือดพุ่งออกมาจากหน้าของสปาตันทันที และความเจ็บปวดมหาศาลนั่นก็เกือบทำให้เขาหมดสติ.
“ตุ้บ!”
แล้วเย่เทียนก็ยกขาขึ้นมาเตะเขาลอยกระเด็นไป.
“ฟุ่บ!”
พอเตะทาสสปาตั้นนั้นปลิวไป, แทนที่เขาจะวิ่งหนี แต่เย่เทียนกลับวิ่งเข้าหาทาสนักรบสปาตั้นอีก19คน, อย่างกับเสือชีตาร์.
ถ้าพวกเขาปลดโซ่แล้วล่ะก็ เย่เทียนคงไม่กล้าหรอก.
แต่ทว่า เขากล้าสู้หัวชนฝากับทาสสปาตั้น20คนที่ถูกล่ามไว้แน่ๆ.
“เร็วเข้า!”
พอเห็นเย่เทียนไม่วิ่งหนี แต่วิ่งเข้ามาหา. ทาสนักรบสปาตันพวกนี้ก็รู้สึกยกย่องเขาอยู่หน่อยๆ. ถ้าหากเป็นนายทาสคนอื่นหรือชนชั้นสูงแล้วล่ะก็ พวกเขาคงวิ่งหนีไปและเรียกทหารมาปราบแล้ว.
แต่ในเวลาเดียวกัน, การกระทำของเย่เทียนก็ทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบากกว่าเดิม. เย่เทียนคว้าโอกาสสวนกลับก่อนทำให้เวลาพวกเขาเหลือน้อย. ดังนั้น หนึ่งในพวกทาสจึงคำรามออกมาแล้วพุ่งเข้าหาเย่เทียน เพื่อจะสกัดเขาไว้และซื้อเวลาให้เพื่อนๆ.
แต่ทว่า เขายังไม่รู้ซึ้งถึงความเร็วและการตอบสนองของเย่เทียน. เย่เทียนก้มลงเล็กน้อย. เมื่อทาสคนนั้นกระโจนเข้ามาหาเขา, เย่เทียนก็ยกทาสคนนั้นขึ้นทันทีแล้วโยนไปหาพวกนั้น.
“ตุ้บ!”
ทาส 18 คนนั้นอยู่ใกล้กันเกินไปและส่วนใหญ่ก็ล้มลงไปเพราะการโจมตีของเย่เทียน.
เหลือแค่ประมาณ 8-9 คนที่กำลังยืนอยู่ แต่การปลดล็อคโซ่ก็ถูกขัดขวางไว้.
พวกเขาทุกคนนั้นหวาดกลัวมาก. มีนายทาสที่บ้าคลั่งขนาดมาก่อนด้วยหรอ? น่าจะเรียกว่าหมีน้ำตาลคลั่งตัวใหญ่ได้เลยมั้ง.
เย่เทียนก็ยังไม่หยุด. เขาเข้ามาใกล้ๆทาสสปาตันที่กำลังล้มอยู่ แล้วก้มไปจับข้อเท้าคนนึง. เขาเหวี่ยงทาสคนนั้นแล้วโยนไปทางทาสสปาตั้นที่เหลือ.
เย่เทียนไม่ปราณีเลยแม้แต่น้อย. การโจมตีรอบนี้ ถ้าทาสคนนั้นไม่ถูกเพื่อนรับไว้ แขนแขนก็อาจจะหักไป หรือไม่ก็ ถ้าโชคร้ายคอก็อาจจะหักแทน.
“บ้าเอ๊ย!”
พวกสปาตั้นไม่สามารถทนดูเพื่อนตัวเองตกอยู่ในอันตรายไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว. พวกเขารวมตัวรับเขาไว้ ใช้ร่างกายตัวเองรับเพื่อนที่กำลังบินมา.
“ฟุ่บ!”
กลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งก็ร่วงไป ตอนนี้เหลือแค่3คนที่กำลังยืนอยู่แล้ว.
“สปาต้า!”
“สปาต้า!”
…
ทั้ง3คนคำรามออกมาและดับเครื่องชนไปหาเขา.
“ตาย!!”
เย่เทียนก็คำรามออกมาเช่นกัน, แล้วเหวี่ยงหมัดออกไป.
นักรบสปาตันที่กำลังพุ่งมา ยกโซ่ที่มือของเขามาป้องกันหมัดของเย่เทียนไว้ แต่เขาไม่คิดว่ากำลังของเย่เทียนจะมหาศาลขนาดนี้. กุญแจมือนั้นขูดหนังแขนของเขาถลอกไป จากนั้นเขาก็โดนต่อยปลิวไปเต็มๆด้วยพลังมหาศาลนี้.
หมัดของเย่เทียนเองก็เลือดไหลเหมือนกัน แต่เลือดที่กำลังหยดนั้นทำให้เขาเดือดดาลมากกว่าเดิม. แรงกดดันมหาศาลแผดออกมาจากตัวของเขา, มันน่าช้อคมากและทำให้ทาสอีก2คนเหม่อไป.
“ตุ้บ!”
พวกเขากำลังเหม่ออยู่ แต่เย่เทียนไม่. เขากางแขนออกมาจับคอพวกเขาไว้ แล้วเอาหัวพวกเขาโขกใส่กัน. ตาของพวกเขาเหลือกขึ้นมาและเกือบจะหมดสติในทันที.
จากการเล่นอย่างรุนแรงของเย่เทียน ในเวลาไม่ถึงนาทีทาสทั้ง 20 คนก็ร่วงไป เย่เทียนก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเปี่ยมศักดิ์ศรี.
“ลุกขึ้นมา, มาสู้อีกรอบ! ไอ้พวกลูก***ี่, มีแค่นี้แต่กล้าจะมาฆ่าข้าเหรอ?”
เย่เทียนดึงเสื้อคลุมออกและตะโกนออกมา.
“ปั้ก!”
“ปั้ก!”
…
ก่อนที่พวกเขาจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง เย่เทียนเตะทุกคนไปอีกรอบ. พละกำลังที่น่ากลัวนั่นทำให้ร่างกายของพวกเขากระเด็นถอยไป3เมตร. พวกเขาไม่สามารถลุกมาได้อีกแน่ๆรอบนี้ ทำได้แค่เอาแขนมาปกหน้าอกไว้. เลือดหยดออกจากปากไปหมด, พวกเขาไม่มีใจจะสู้อีกแล้ว.
“ปอมปีย์! แผนแกดีหนิ. ถ้าชั้นอ่อนกว่านี้อีกนิด ชั้นคงหลงกลแผนแกแล้ว! แต่เพราะงี้ทุกๆอย่างมันเลยน่าสนุกขึ้นว่ะ!”
เย่เทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น, ความไร้ปราณีแว่บขึ้นมาในตาของเขา.
เขาไม่ได้เกลียดปอมปีย์ แต่แค่ระแวงในตัวเขามาก. เพราะยังไงตอนแรกเขาเป็นคนอยากจะบีบคอปอมปีย์ให้ตายก่อน ปอมปีย์เลยตอบโต้กลับเฉยๆ.
แต่ทว่า ตอนนี้ความสัมพันธุ์ของพวกเขาได้แย่ลงไปแล้วและหนึ่งในพวกเขาก็ต้องตาย. ถ้าหากมีโอกาสล่ะก็เย่เทียนจะฆ่าเขาให้ได้.
“ชั้นดูถูกมันจริงๆ!”
เย่เทียนรีบใจเย็นลงและอดยกย่องปอมปีย์นิดหน่อยไม่ได้. คนๆนี้, ปอมปีย์ มันวางแผนเก่งจริงๆ. ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็คงจะตายจริงๆรอบนี้.
พอมาคิดดูแล้ว ทาสสปาต้าพวกนี้มีกุญแจหมดเลย. ถ้าใครไม่ระมัดระวังตัวล่ะก็งานเข้าแน่. ถ้าพวกเขาโชคไม่ดีจริงๆ ก็อาจจะโดนทาสสปาต้าพวกนี้ฆ่าตาย เพราะไม่มีใครรู้ว่าพวกทาสนี่จะลุกฮือขึ้นมาเมื่อไหร่.
ยิ่งไปกว่านั้นปอมปีย์ก็จะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆและไม่เกี่ยวโยงกับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อยด้วย.