โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 58
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
———————————————————————————————-
“ข้าว่าเจ้าตรงเถรเกินไปนะเนี่ย แม็กซ์, ข้าคิดว่าเรามีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันนะแต่อย่างน้อยเจ้าก็ตั้งราคาเสียหน่อยสิ”
เย่เทียนยิ้มแล้วรับโฉนดมาไว้, การก่อสร้างร้านอาหารเริ่มพรุ่งนี้ได้ทันทีเลยนะเนี่ย.
“โอ้พระเจ้าช่วย, โปรดอย่าพูดถึงเรื่องเงินเลยนะขอรับ, ท่านลอร์ดซาตานของข้า ข้าไม่อยากทำตัวเป็นพวกไร้มารยาทน่ะขอรับ”
พอได้ยินคำพูดของเย่เทียน แม็กซ์ก็รู้สึกดีใจมากๆ. ตอนแรกเขาก็คิดไว้ว่าจะให้เย่เทียนอยู่แล้วและตอนนี้เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกขึ้นไปอีก.
ช่างเป็นเรื่องโชคดีที่เขาได้ผูกมิตรกับชายชั้นสูงผู้นี้. ถ้าได้ผูกมิตรกับเย่เทียนแล้ว ต่อให้ออเรเลียไม่ชอบลูกสาวเธอพรุ่งนี้ เขาก็รู้สึกว่าของขวัญ2ชิ้นที่ให้เย่เทียนไปนั้นคุ้มค่าพอตัว.
“เชียส์แด่พระเจ้า!”
เย่เทียนยิ้มแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นมา.
พอทุกอย่างลงตัว ชายทั้งสองคนก็ได้ดื่มกันอย่างสบายใจ. เย่เทียนดื่มไปหนักมากและไม่คิดดูถูกแม็กซ์เลย กลับกันเขากลับชื่นชมความสามารถในการค้าขายของเขา.
แม็กซ์กล่าวลาหลังจากดื่มไปพอตัวแล้ว จากนั้นเขาก็จากไปพร้อมกับภรรยาและลูกสาว.
“เจ้ายักษ์? เจ้าโชคดีนะที่ได้พบข้า เพราะข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าสูญหายไปจากประวัติศาสตร์แน่นอน….”
เย่เทียนเดินมาที่สวนคนเดียวแล้วมองไปทางยักษ์สาวที่นั่งเงียบอยู่ในกรงแล้วพึมพำ.
“!$……!$@!1@#!#$!….”
ทันใดนั้นยักษ์สาวก็พูดออกมา. แม้ว่าเย่เทียนจะไม่สามารถเข้าใจว่าเธอพูดอะไร, เธอพูดออกมาเยอะมาก. แต่ดูจากสายตาแล้ว เย่เทียนเดาว่าเธอคงจะบอกให้ปล่อยเธอไป.
“ต่อให้เจ้ากลับไปในป่าได้ เจ้าจะทำอะไรได้? เจ้าก็เป็นแค่สัตว์ที่ยืนสองขาได้, เผ่าพันธุ์ของเจ้าสร้างอารยธรรมไม่ได้ด้วยซ้ำ”
เย่เทียนส่ายหัว. ไม่รู้ภาษา ไม่มีตัวตน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถูกกล่าวขานว่าเป็นเดรัจฉาน.
“ตุ้ม!”
ยักษ์สาวเองก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เย่เทียนพูดได้ แต่เธอก็สามารถเข้าใจที่เขาส่ายหัวเพราะอะไร เธอจึงรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยแล้วเอามือฟาดกรงไปทำให้กรงสั่นอย่างรุนแรง.
“เอ่อ, ให้ตายสิ, ถ้าเจ้าชนะข้าได้ ข้าจะปล่อยเจ้าไป. แต่ถ้าเจ้าแพ้, ข้าจะใส่ปลอกคอให้เจ้าไปซะ!”
เย่เทียนบิ้วอารมณ์ต่อสู้ขึ้นมาแล้วเปิดกรงออก.
ความแข็งแกร่งของยักษ์สาวนั้นสุดยอดจริงๆ แต่เธอก็เชื่องช้าพอตัว.
ขนาดยักษ์สาวยังแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ยักษ์ชายเองก็คงจะมีพละกำลังและความแข็งแกร่งที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์แน่ๆ.
“…..”
พอเห็นเย่เทียนเปิดกรงเหล็กออก, ยักษ์สาวก็อึ้งไปพักหนึ่ง. แต่พอเธอเห็นสายตาของเย่เทียนที่ลุกโชน, ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาทันทีแล้วเธอก็เดือดดาลขึ้นมา. นางคิดว่าเย่เทียนอยากจะทำอะไรเลวร้ายกับเธอ.
“นี่นางเข้าใจเราผิดเหรอ?”
เย่เทียนไม่รู้ว่าตัวเองจะขำหรือจะร้องไห้ดี.
“เคล้ง!”
ยักษ์สาวโกรธมากถึงขนาดเธอสะบัดแขนอย่างรุนแรง พละกำลังมหาศาลของเธอทำให้โซ่ที่คล้องมือแตกออกมา.
“บ้าเอ๊ย แม็กซ์! ทำไมเจ้าต้องล่ามนางด้วยโซ่บางๆด้วยเนี่ย! หมอนั่นไม่กลัวนางโซ่หลุดแล้วมาฆ่ารึไง!”
พอเขาเห็นยักษ์สาวพังโซ่อย่างง่ายดาย เย่เทียนก็มองไปที่โซ่บางๆนั่นแล้วบ่น.
“เก๊ง!”
ยักษ์สาวถีบขาอีกครั้งแล้วพังโซ่ที่ล่ามขาเธออยู่, แต่ก็แลกมาด้วยที่ขาเธอเลือดไหลซิบ.
“!$#$^&*#$%……”
พอถูกปลดพันธนาการจากโซ่หมดแล้ว ยักษ์สาวก็มองมาทางเย่เทียนอย่างโมโห. เธอพูดบางอย่างออกมาจากปาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่านางพูดอะไร.
“มาเลย!!!”
เย่เทียนมั่นหน้ามากว่าจะสามารถเอาชนะและฝึกยักษ์สาวให้เชื่องได้. แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ชุดของเขาขาดในระหว่างสู้ เขาเลยถอดแล้วโยนมันทิ้งไป หุ่นที่เพอร์เฟ็คของเขาก็โผล่ออกมา…..
“!%$@ %@…”
ยักษ์สาวไม่รู้ว่าเย่เทียนพูดอะไร แต่ที่เย่เทียนถอดชุดออกมันทำให้เธอเข้าใจเขาผิดอีกครั้ง. เธอเดือดดาลขึ้นกว่าเดิมและด่าท่อเย่เทียนไปเรื่อยๆ ขณะเดินออกมาจากกรง.
“ฟุ่บ!”
แต่ทว่าเมื่อเย่เทียนตั้งท่าพร้อมจะไฝว้ ยักษ์สาวก็หันหลังเผ่นไป.
“ไปไหนวะ?”
เย่เทียนรู้สึกงงขึ้นมาทันที. ตอนแรกเขาคิดว่าพละกำลังแข็งแกร่งแบบนั้นจะมาไฝว้กับเขาแต่เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะหันหลังหนีแบบนี้.
พวกยักษ์ขี้ขลาดแบบนี้หมดไหมเนี่ย?
เย่เทียนพูดไม่ออกจริงๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมพวกเขาหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์. มีความกล้าแค่นี้แต่ยังกล้าไปล่าสัตว์ใหญ่ๆนี่นะ?
ไม่แปลกใจว่าทำไมแม็กซ์สามารถไล่ต้อนกลุ่มพวกยักษ์ด้วยจำนวนนักล่าน้อยๆได้ พวกนี้เป็นพวกขี้ขลาดทั้งนั้น.
“กลับมานะ!”
เย่เทียนตะโกนแล้วพุ่งตามไป. ความเร็วของเขาขึ้นไปถึงขั้นสุดยอดมาก เร็วราวกับชีตาร์. ไม่กี่นาทีเขาก็มายืนต่อหน้ายักษ์สาวแล้วหยุดเธอไว้ได้.
“!$!@%@#! @%…….”
ยักษ์สาวเห็นเย่เทียนพุ่งมาอยู่ต่อหน้าเธอในพริบตา. เธอจึงรู้สึกกลัวขึ้นมาทันทีแล้วรีบปิดอกเธอไว้ด้วยมือ.
“ข้า….”
เย่เทียนตกใจกับการกระทำของเธอมาก แล้วเขาก็รู้สึกหมดไฟจะสู้ไปเลย. ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่รู้จะสื่อสารกับเธอยังไง.
“ไดอาน่า, เอาผ้าผืนใหญ่มาให้ข้าเร็ว!”
เย่เทียนตะโกนไปในห้องแล้วยกมือขึ้นให้ยักษ์สาวเห็นว่าเขาไม่ได้จะทำร้ายเธอ.
“เจ้านายคะ, นี่ค่ะผ้า…..”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ไดอาน่าก็เดินเข้ามาข้างๆเย่เทียน. แต่เธอก็รู้สึกกลัวเพราะร่างกายที่ใหญ่โตของยักษ์สาว.
“ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่นี่. เจ้าแค่ยื่นผ้าให้เธอก็พอ…..”
เย่เทียนปลอบไดอาน่า. ถ้าหากยักษ์สาวจะทำร้ายนางล่ะก็, เขาสามารถฆ่าเธอทิ้งได้ก่อนที่จะแตะตัวไดอาน่าซะอีก.