โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 85
“เร็วๆนี้ตระกูลสุละเพิ่งได้ครองเหมืองเหล็กไป, ยิ่งไปกว่านั้นเหล็กพวกนั้นยังมีจำนวนมากอีกด้วย. ท่านทราบหรือป่าวครับ?”
เย่เทียนนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วจิบไวน์ขณะถามออเรเลียอย่างช้าๆ.
“อืม, ข้าได้ยินมาอยู่, ตระกูลสุละโชคดีจริงๆ. ข้าได้ยินมาว่าเหล็กนั้นไม่เพียงแค่จำนวนเยอะเท่านั้นแต่ยังคุณภาพสูงมากอีกด้วย! ถ้าพวกเขาเริ่มทำเหมืองนั่นแล้วล่ะก็ คงจะมั่งคั่งขึ้นแน่ๆ!”
ออเรเลียค่อยๆตอบ.
“หากท่านคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเงินทองและความมั่งคั่งแล้วล่ะก็ ท่านก็คิดผิดแล้วล่ะครับ! เหล็กพวกนั้นคือทรัพยากรหลักทางทหารเลยนะ! โรมนั้นทำศึกสงครามบ่อยมากในช่วงหลายปีนี้, การใช้งานเหล็กและทองแดงนั้นเยอะมาก! การที่ค้นพบแร่เหล็กมากมายขนาดนี้ นอกจากอำนาจทางทหารของสุละจะเพิ่มขึ้นแล้วมันยังหมายถึงสิทธิ์และเสียงของตระกูลสุละในสภาก็จะมากขึ้นเช่นกัน! นั่นแปลว่างานเลือกกงศุลรอบหน้า ตาแก่สุละจะต้องทำสำเร็จและกาอิอุส มาเรียสในฝ่ายท่านจะพ่ายแพ้ไปแน่. เมื่อถึงตอนนั้นตระกูลจูเลียส, กาอิอุส มาเรียส, ฉินน่าและแม้แต่ตระกูลออเรเลียส คอตต้าของท่านเองก็จะถูกจำกัดอำนาจนะครับ!”
เย่เทียนส่ายหัวแล้วพูดด้วยเสียงจริงจัง. เขาวิเคราะห์อนาคตได้ดีเช่นนี้ทำให้ตัวออเรเลียสั่นผวาเล็กน้อยและสีหน้าของเธอก็เริ่มจริงจังทันที.
ที่เย่เทียนพูดนั้นเธอไม่เคยคิดไปไกลถึงขนาดนั้นเลย.
สิ่งที่เธอคิดนั้นมีเพียงแค่เหมืองที่ตระกูลสุละได้มา เป็นแหล่งทำเงินชั้นดีแค่นั้นเอง.
เธอไม่คิดเลยว่าจะมีวิกฤตที่ใหญ่กว่านั้นจากเรื่องนี้.
ใช่มันคือวิกฤตจริงๆ!
ความบาดหมางระหว่างชนชั้นสูงนั้นรุนแรงมาก, โดยเฉพาะระหว่างตระกูลใหญ่ๆ. ไม่กี่ปีมานี้ อาจจะพูดได้เลยว่าสาหัสมาก.
แล้วตอนนี้ความบาดหมางก็ยิ่งร้ายแรงขึ้นเพราะการคัดเลือกกงศุลระหว่างตาแก่สุละและกาอิอุส มาเรียส.
ทุกคนต่างรู้ดีว่าถ้าพวกเขาคนใดคนหนึ่งมีอำนาจขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องเจ็บสาหัสแน่.
“เท่าที่ข้ารู้มา, ชื่อเสียงทางการทหารของกาอิอุส มาเรียสนั้นไม่เหมือนเก่าอีกต่อไปเพราะเขาเริ่มชราลง. ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ใช่แม่ทัพใหญ่ด้วยในเวลานี้ ดังนั้นเขาก็จะไม่มีเส้นสายด้านการทหารมากมายนักต่อให้สงครามพันธมิตรสิ้นสุดแล้วก็ตาม. ข้าคิดว่าถ้าเขาตั้งใจใช้เส้นสายด้านการทหารเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของตัวเองแล้วล่ะก็ เขาจะล้มเหลวแน่นอน! ดังนั้นถ้าตระกูลสุละได้เหมืองนี้ไปทุกอย่างก็จะจบเห่ ข้าเลยคิดว่าเราควรเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าครับ!”
เย่เทียนพูดต่อ สีหน้าของออเรเลียก็ยิ่งจริงจังมากขึ้นไปอีก.
“ท่านซาตาน, ถ้าท่านมาเพื่อจะหารือกับข้าเรื่องนี้แสดงว่าท่านต้องมีแผนคุมเกมแล้วใช่มั้ย?”
วินาทีต่อมาออเรเลียก็รู้สึกใจเย็นลงแล้วถามเย่เทียนด้วยรอยยิ้ม.
แต่พอคิดแบบนี้ขึ้นมา หัวใจเธอก็เต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก. เย่เทียนสมควรจะเป็นชายที่เธอจะฝากฝังเอาไว้ด้วย เขายังหนุ่มยังแน่นแต่ก็มองทุกอย่างออก.
“แน่นอนครับ! ดูนี่สิครับ, นี่แหละคือแผนโต้กลับของท่าน! ข้าลงเรือลำเดียวกับท่านแล้ว, มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน!”
เย่เทียนยิ้มแล้วส่งใบสัญญาให้ออเรเลีย.
เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลสุละจะเก็บความลับได้ดีแถมชนชั้นสูงผู้อื่นก็ไม่เคยรู้ว่าใบสัญญานั้นตกไปอยู่ในมือของนายทาสหน้าใหญ่อย่างฟิลิปเลย.
“นี่มันอะไรกัน??”
ออเรเลียเปิดมันออกแล้วอ่าน “ใบสัญญาหนิ!! พระเจ้าช่วย, นี่มันใบโฉนดสัญญาของเหมืองนั่นจริงๆ! มันตกมาอยู่ในมือของท่านได้อย่างไร? ใครคือฟิลิป? พระเจ้าท่านนี่เยี่ยมยอดจริงๆ, ท่านซาตานท่านคือผู้ช่วยชีวิตเราไว้จริงๆ….”
ออเรเลียรู้สึกตื่นเต้นมากๆ. เธอเผลอจุ๊บปากเย่เทียนเข้าจากนั้นก็รู้สึกตัวว่าซีซาร์ยังนั่งอยู่ข้างๆเธอจากนั้นหน้าเธอก็แดงขึ้น.
“ซาตาน เจ้าคือลูกชายที่เก่งกาจของข้าจริงๆ. เคช่ามีสามีที่ยอดเยี่ยมเช่นเจ้า นางช่างเป็นคนที่โชคดีนัก!”
ออเรเลียรีบอธิบาย, จริงๆแล้วจงใจหันไปทางซีซาร์ด้วย. จากนั้นเธอก็ยื่นมือไปแตะไหล่เย่เทียนเบาๆ แต่หัวใจเธอก็เต้นรัวแรงมาก.
“ฟิลิปเป็นพ่อค้าทาสน่ะครับ เป็นสหายที่ดีคนหนึ่งของข้า! พูดตรงๆว่าครั้งนี้เราต้องขอบคุณเขา! ดังนั้นข้าเลยสัญญากับเขาไปว่าจะให้ส่วนแบ่งจากเหมืองนี่15%!”
เย่เทียนอธิบายอย่างสุภาพแต่หัวใจเขาก็ค่อนข้างจะมีความสุขเพราะออเรเลียเกือบจะจุ๊บเขาด้วยความตั้งใจของนางจริงๆเมื่อตะกี้.
“15%เหรอ? ไม่มากไปหรอก! แต่ข้าสงสัยว่าทำไมโฉนดสัญญาถึงมาอยู่ในมือท่านได้? ทำไมฟิลิปถึงครองมันไว้? เขาเป็นแค่พ่อค้าทาสธรรมดาหนิ”
ออเรเลียถามด้วยความสงสัย.
“ฮะฮะ…เขาบอกว่าเขาซื้อมาจากหนุ่มขี้เล่นที่เพิ่งจะย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่มาน่ะครับ. ตอนแรกเขาว่ามันไม่มีค่าอะไรแต่ต่อมาก็, ฮะฮะ…”
เย่เทียนยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วอธิบายกับออเรเลียด้วยเสียงที่ดูเหมือนจะเยาะเย้ย.
ตอนนั้นมาโคเนียต้องการจะโกงฟิลิปแต่เขาไม่คิดเลยว่าเขาเผลอขายขุมทองให้ฟิลิปด้วยราคาถูกๆไปแล้ว.
บางทีเหตุผลที่ตาแก่สุละสามารถเอาชนะกาอิอุส มาเรียสในประวัติศาสตร์ได้ก็คงเพราะเหมืองนี่แหละ.
ดังนั้นการปรากฏตัวของเย่เทียนอาจจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ก็ได้.
“ส่วนฟิลิปนั้นเขาเป็นแค่พ่อค้าทาสธรรมดา, ข้าว่าไม่เกี่ยวกันหรอกครับ! บางทีข้าก็คิดว่าการได้รู้จักชาวเมืองธรรมดาๆพวกนี้ก็สามารถนำโชคมาได้เหมือนกัน!”
เย่เทียนพยายามเบิกทัศนะคติของเขา.
“แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อ?”
ออเรเลียพยักหน้าแล้วถามเย่เทียน.
“เราจะหุบเหมืองนี้ไว้แต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้. เพราะถึงยังไงตระกูลสุละก็เป็นตระกูลใหญ่และมีพันธมิตรอยู่มาก! ดังนั้นข้าจึงวางแผนว่าให้ตระกูลจูเลียส, ฉินน่า, กาอิอุส มาเรียสและตระกูลออเรเลียส ค้อตต้าของท่าน. 4ตระกูลใหญ่ออกหน้าสนับสนุนฟิลิปซะ, ตระกูลสุละเองจะต้องยอมแพ้แน่ไม่ว่าพวกเขาจะหน้าด้านแค่ไหนก็ตาม!”
เย่เทียนอธิบายแผน.
“จริงอยู่ว่าตระกูลใหญ่4ตระกูลออกหน้าพร้อมๆกัน ตาแก่สุละคงทำได้แค่ยอมแน่ แต่เพราะ4ตระกูลนี่แหละ ผลประโยชน์ของเราจะลดลงมากแน่…”
ออเรเลียพูดด้วยความเสียดาย.
“อย่าได้มองแค่ผลประโยชน์เล็กน้อยตรงหน้าท่านสิครับ, เท่าที่ข้ารู้มา, ความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านนั้นมีอยู่ได้เพียงเพราะการแต่งงานเท่านั้น! มันใช้ไม่ได้มากนัก. ตอนนี้เรามีสิ่งที่จะยึดเหนี่ยวผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราก็จะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น! เมื่อเวลามาถึงพวกเขาจะต้องอยากทำข้อตกลงลับๆกับเราเพื่อที่จะฝ่าฟันไปด้วยกันแน่ ถ้าพวกเขาอยากจะแบ่งปันเหมืองกับเราล่ะนะ!”
ตาของเย่เทียนลุกโชนสว่างขึ้น, เขาถือไพ่เหนือกว่าในมือแล้ว. ดังนั้นเขาเองก็สามารถเข้าร่วมในแผนนี้ได้ด้วยแล้วให้ตระกูลทั้ง4เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งให้เขา.
ปลาตัวใหญ่แบบนี้เย่เทียนไม่คิดว่าพวกเขาอยากจะพลาดมันแน่!